ข่าว
ลูกนัทแจ้งโดนหลอก ซื้อสินค้าไม่มีคุณภาพ

อดีตนางเอกชื่อดัง ลูกนัท กฤติยาภรณ์ บุกแจ้งความสภ.ปากเกร็ด อ้างถูกหลอกซื้อสินค้าไม่มีคุณภาพ ทำเงินสูญนับแสน

น.ส.กฤติยาภรณ์ หรือลูกนัท ตรีรัตน์พันธุ์ อายุ 41 ปี อดีตนางเอกชื่อดัง และขวัญใจช่างภาพมิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2534 พร้อม น.ส.ลฎาภา ภควัตทิวัฒ เพื่อนสาว เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไพโรจน์ รัตนมณี พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.นภัทร เที่ยงแท้ อายุ 37 ปี ในข้อหาหลอกลวงผลิตสินค้ารักษาความงามผิวพรรณและผิวหน้าไม่ได้คุณภาพ ทำให้ตนและเพื่อนต้องสูญเงินหลายแสนบาท

น.ส.กฤติยาภรณ์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้สั่งผลิตภัณฑ์สินค้าดังกล่าวจาก น.ส.นภัทร ซึ่งเปิดบริษัทชื่อโอเรียนเอ็น ในเขตปากเกร็ด โดยได้โอนเงินจำนวน 100,000 บาทให้กับ น.ส.นภัทร เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เพื่อเป็นค่าสินค้า หลังได้ของมากลับพบว่าสินค้าทั้งหมดไม่ได้คุณภาพตามที่สัญญา เมื่อนำไปให้บริษัทชั้นนำหลาย ๆ บริษัทตรวจสอบก็ได้รับการแนะนำว่าเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพพอ จึงได้ติดต่อไปที่ น.ส.นภัทร เพื่อขอเงินคืน แต่ได้รับการปฎิเสธและท้าให้ไปแจ้งความ เบื้องต้นทาง พ.ต.ท.ไพโรจน์ ได้สอบปากคำ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแนะนำให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์กับทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ต่อไป

ทรงบรรจุพระสรีรางคาร เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา

สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯ แทนพระองค์เชิญพระอัฐิเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ ตามริ้วขบวนกองเกียรติยศทหารม้ารักษาพระองค์ เชิญพระสรีรางคารบรรจุในถ้ำศิลา สุสานหลวง วัดราชบพิธฯ ประชาชนเฝ้าฯ ส่งเสด็จเนืองแน่น ชาวไทย-ต่างชาติยังแห่ชมพระเมรุ-ราชรถ หลังกรมศิลปากรเปิดให้ชมเป็นวันที่สอง ต่างประทับใจเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมไทยอันวิจิตร พร้อมสนใจจับจองเหรียญและแสตมป์ที่ระลึกงานพระราชพิธีส่งเสด็จเจ้าฟ้าฯ

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. เวลา 10.33 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในการพระราชพิธีเลี้ยงพระ เชิญพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ขึ้นประดิษฐานบนพิมาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ดำเนินตามเสด็จ

เมื่อเสด็จถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระอัฐิ ซึ่งประดิษฐานในบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ประดิษฐานบนพระแท่นมุกราชบัลลังก์นพปฎลมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์แต่วันก่อน ถวายพรพระ

จากนั้นทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระพรหมมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระราชาคณะถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบแล้ว ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ 4 รูปรับอนุโมทนา ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงผ้าไตรถวายพระเทศน์และรับอนุโมทนา พระสงฆ์ 5 รูปสดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา แล้วเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 86 รูป เท่าพระชันษาสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ขึ้นนั่งยังอาสนสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

ต่อมาเวลา 12.40 น. เริ่มตั้งริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยเจ้าพนักงานเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานสำหรับเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไว้ที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ตั้งขบวนพระอิสริยยศ ตำรวจหลวง มหาดเล็ก หลวงเป็นคู่แห่ 4 สาย ข้าราชการ พลเรือนชั้นผู้ใหญ่ ทหารนายพลราชองครักษ์ เป็นคู่เคียงพระที่นั่งราเชนทรยานทรงพระโกศพระอัฐิ พร้อมด้วยเครื่องพระอภิรุมชุมสาย สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ พระแสงหว่างเครื่อง พระกลด บังพระสูรย์ พัดโบก เจ้าพนักงานภูษามาลาประคอง และพระประยูรญาติเชิญเครื่องพระอิสริยยศไว้พร้อม ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ลงจากบุษบกพระแท่นสุวรรณเบญจดล ไปออกพระทวาร พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทมุขตะวันออกไปยังพระเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ตาม

เจ้าพนักงานภูษามาลาประดิษฐานพระโกศพระอัฐิในบุษบกพระที่นั่งราเชนทรยาน ขบวนพระอิสริยยศประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ พร้อมแล้ว ยาตราขบวนอิสริยยศเชิญพระอัฐิ จากพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตาม พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์

เมื่อเทียบพระที่นั่งราเชนทรยานที่อัฒจันทร์ตะวันออกพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทแล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทไปยังพระวิมาน เมื่อประดิษฐานพระโกศพระอัฐิในพระวิมานทองแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจุดธูปเทียนพระสัมพุทธพรรโณภาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระอัฐิ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ

เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์ เชิญพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จากวัดพระศรีรัตนศาสดารามโดยรถยนต์พระที่นั่ง ออกจากพระบรมมหาราชวัง ประตูวิเศษไชยศรีไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ โดยพระราชยานจากพระศรีรัตนเจดีย์ ออกประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เชิญขึ้นประดิษฐานในรถยนต์พระที่นั่ง จากนั้นยาตราขบวนเชิญขบวนพระสรีรางคารออกจากพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี มีขบวนกองเกียรติยศทหารม้ารักษาพระองค์ แห่นำ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนรถยนต์พระที่นั่งตาม กองทหารม้ารักษาพระองค์กองเกียรติยศเชิญพระสรีรางคารไปตามถนนหน้า พระลาน เลี้ยวขวาถนนสนามไชย เลี้ยวซ้ายถนนกัลยาณไมตรี ข้ามสะพานช้างโรงสี เลี้ยวขวาถนนอัษฎางค์ เลี้ยวซ้ายถนนราชบพิธ ขบวนหน้าทหารม้ารักษาพระองค์แห่นำรถยนต์พระที่นั่งเชิญพระสรีรางคารเทียบที่ประตูทางเสด็จวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารเข้าซุ้มประตูวัด

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตามพระสรีรางคาร ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารไปประดิษฐานที่โต๊ะหมู่ทองในพระอุโบสถข้างพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรสประธานพระอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 และพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี

จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์วัดราชบพิธฯ 30 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายดิเรก เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไปยังเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินตาม

ต่อมาเวลา 16.50 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราช ดำเนินไปยังเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงเชิญพระสรีรางคารลงในถ้ำศิลา ทรงปิดฝาถ้ำศิลา และเลื่อนเชิญเข้าสู่ที่บรรจุแล้ว ทรงวางพวงมาลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ชาวพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ กลองชนะ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระปฏิสันถารกับผู้มาส่งเสด็จ ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ

สำหรับบรรยากาศประชาชนเดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จตามเส้นทางจากพระบรมมหาราชวัง และเฝ้าชมริ้วขบวนอัญเชิญพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สู่เสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ต่างทยอยกันเดินทางมาปักหลักตั้งแต่เวลา 13.00 น. โดยเฉพาะในจุดที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน ได้แก่ ถนนหน้าพระลาน ถนนสนามไชย ถนนกัลยาณไมตรี และถนนอัษฎางค์ รวมถึงโดยรอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ประชาชนบางส่วนใช้เส้นทางสัญจรทางเรือข้ามฟากจากท่าวังหลังมายังท่าพระจันทร์ และจากท่าวังหลังมายังท่าช้าง นอกจากนี้ยังมีประชาชนเดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยสารรถประจำทาง รถทัวร์และรถยนต์ส่วนตัว บางส่วนเหมารถโดยสารจากต่างจังหวัดเข้ามาเพื่อชมริ้วขบวนด้วย

เวลา 14.00 น. ที่ด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง จุดเริ่มต้นริ้วขบวนเชิญพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ แม้จะยังเหลือเวลาอีกกว่า 2 ชั่วโมงที่ริ้วขบวนจะเริ่มเคลื่อน แต่ประชาชนจำนวนมากต่างจับจองที่นั่งเพื่อเฝ้าชมริ้วขบวนอย่างใกล้ชิด ขณะที่บริเวณสวนหย่อมบริเวณท้องสนามหลวงด้านฝั่งติดกระทรวงกลาโหมและศาลหลักเมืองมีประชาชนจำนวนมากจับจองที่นั่งเช่นกัน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว ส่วนบริเวณรอบวัดราชบพิธฯ ประดับตกแต่งด้วยแถบผ้าสีชมพูและสีขาวแขวนเรียงรายตรงริมรั้ววัดราชบพิธฯ พร้อมทั้งปูลาดพระบาทรับเสด็จ บริเวณประตูทางเข้าวัดราชบพิธฯ อย่างสวยงาม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยยืนเฝ้าดูความเรียบร้อยอย่างแข็งขัน

เวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่ปิดถนนราชดำเนินใน ถนนหน้าพระลาน ถนนสนามไชย ถนนกัลยาณไมตรี และถนนอัษฎางค์ เพื่อเตรียมใช้เป็นเส้นทางเคลื่อนริ้วขบวน โดยประชาชนเริ่มทยอยมาจับจองพื้นที่ฟุตปาธฝั่งด้านหน้ากระ ทรวงกลาโหม ศาลหลักเมือง และกระทรวงการต่างประเทศ (เก่า) และฝั่งสวนสราญรมย์ โดยส่วนใหญ่เป็นลูกเสือชาวบ้านสวมเสื้อสีชมพูเฝ้ารอส่งเสด็จ กระทั่งก่อนเวลาริ้วขบวนเคลื่อนเพียง 10 นาที เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือประชาชน ห้ามสัญจรบริเวณดังกล่าว ส่วนบริเวณฟุตปาธบริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งตรงข้ามวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีประชาชนมาจับจองพื้นที่มากที่สุด เนื่องจากเป็นจุดที่รับชมริ้วขบวนได้ตลอดแนว

ในเวลา 16.30 น. ขณะที่ขบวนกองทหารม้าเกียรติยศเริ่มเคลื่อนขบวนนำ และตามด้วยรถยนต์พระที่นั่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคลื่อนมาถึงประตูวัดราชบพิธฯ ประชาชนจำนวนมากต่างพนมมือไหว้ บางคนที่อยู่ด้านหลังต่างยืนชะเง้อเพื่อชมพระบารมีจนกระทั่งขบวนเคลื่อนผ่านเข้าในพระอุโบสถ โดยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าริ้วขบวนสวยงามมากเป็นบุญตาจริงๆ

พระเทพฯเสด็จสงกรานต์สถานทูตลาว

ทรงร่วมรำกับเหล่านักแสดงและคณะผู้แทนลาว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มีความแน่นแฟ้น เมื่อเวลา 18.50 น. วันที่ 13 เม.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ไปในพิธีบายศรีและงานราตรี “สบายดีปีใหม่ พ.ศ.2555” เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ณ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทย ด้วยฉลองพระองค์ชุดประจำชาติลาว ผ้าไหมสีน้ำตาลส้ม โดยมีนายทองลุน ศรีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศลาว และภริยา นายหลี บุญค้ำ เอกอัครราชทูตฯ และภริยา พร้อมข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ

ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึงอาคารสถานทูต ทรงสรงน้ำพระพุทธรูป และจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ เสด็จฯ ประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์สวดพระพุทธมงคลคาถา จากนั้นทรงร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ โดยมีนายบุญเติม สีบุญเรือง ผู้ประกอบพิธี เมื่อแล้วเสร็จ เสด็จฯ ยังห้องเสวย นายหลี กราบบังคมทูลรายงานการจัดงาน และนายทองลุน กราบบังคมทูลถวายพระพร จากนั้นทรงร่วมรำ-เซิ้งในงาน

ต่อมาทรงเสวยพระกระยาหารค่ำ และทอดพระเนตรการแสดงจากนักแสดงกองศิลปากร กองทัพประชาชนลาวในชุดรำอวยพรปีใหม่ลาว เซิ้งเสียงแคน รำตังหวาย รำวงสาละวัน รำบัดสะหลบ และร้องเพลงถวาย 2 เพลง คือ เพลงส่งพรปีใหม่ และเพลงไทย “บัวขาว” และการแสดงกายสินแอนอ่อนคู่ รวมทั้งมีการเดินแบบในชุดชนเผ่าและชุดผ้าไหม ในการนี้พระองค์ทรงร่วมรำกับเหล่านักแสดงและคณะผู้แทนลาวด้วย เมื่อจบการแสดงแล้วทรงพระราชทานกระเช้าดอกไม้แก่ผู้แทนศิลปินนักแสดง ก่อนเสด็จกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศภายในงานฉลองเทศกาลวันสงกรานต์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้เป็นการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 62 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศบ้านพี่เมืองน้องให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น