เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มกราคม เกิดเหตุคนร้ายลอบยิง นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และแกนนำคนเสื้อแดงใน จ.อุดรธานี ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยถูกนำตัวส่ง รพ.เอกอุดร ไปแล้ว แพทย์อยู่ระหว่างให้การช่วยเหลือ โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธสงครามคาดว่าเป็นปืนอาก้า ซุ่มยิงนายขวัญชัยจากบริเวณรั้วหน้าชมรมเข้ามาในบ้าน
เบื้องต้นตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คาดว่าคนร้ายต้องการลอบสังหารนายขวัญชัย หลังลงมือเสร็จรีบหลบหนีไป ตำรวจเร่งระดมแกะรอยไล่ล่า เบื้องต้นพุ่งประเด็นไปที่เรื่องการเมือง ขณะที่กลุ่มชมรมคนรักอุดรได้เดินทางไปเฝ้าดูอาการของนายขวัญชัยที่รพ.เอกอุดร จำนวนมาก
ด้านพล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า กรณีคนร้ายลอบยิงถล่ม นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนเสื้อแดง หรือคนรักอุดร ที่ชมรม จนได้รับบาดเจ็บสาหัสกระสุนถูกที่หัวไหล่และขาขวา กระสุนฝังใน 2 นัด คาดว่าเป็นอาวุธสงครามร้ายแรงที่ใช้ก่อเหตุ คือปืนอาก้า ซึ่งระดมยิงถล่มถึง 39 นัด เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า คนร้ายใช้รถกระบะสีบรอนซ์ มากัน 2 คน และเปิดฉากยิงถล่มดังกล่าว ส่วนนายขวัญชัย อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยตำรวจชั้นผู้ใหญ่ บช.ภ.4 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาตัวคนร้ายต่อไป
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กทม. และปริมณฑลว่า ตนคงไม่กล่าวพูดว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ได้มีการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวไปแล้วซึ่งเป็นข้อสรุปในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)และอำนาจในการประกาศเป็นของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่กฎหมายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เป็นผอ.ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการใช้กำลัง ส่วนทหาร40 กองร้อย ช่วยดูแลทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่ใช่ดูแลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือใครเป็นพิเศษ แต่ไปในฐานะที่ต้องดูแลทรัพย์สินส่วนกลางสถานที่ราชการ และสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งดูแล 3 ส่วน คือประชาชนทั่วไปผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้เกิดความปลอดภัย ดังนั้นภารกิจทหารค่อนข้างหนักเพราะต้องดูแลทั้ง 3 ส่วนในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งมากในปัจจุบัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเคยได้เสนอข้อพิจารณาและข้อห่วงใยไปแล้วและคิดว่าผู้ปฏิบัติก็คงต้องระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมายเพราะมีระดับของกฎหมายที่สูงขึ้น สิ่งที่เป็นห่วงคือเมื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไปแล้วก็ต้องดูว่าเมื่อประกาศใช้แล้วสถานการณ์ลดความรุนแรงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ปลอดภัยหรือไม่ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามดูต่อไป ถ้าพูดในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วตนคิดว่าไม่น่าพูด ต้องมาดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น จะดีขึ้นหรือเลวลงแต่อย่างไรก็ตามคิดว่าวัตถุประสงค์หลักของเจ้าหน้าที่คือจะทำอย่างไรให้ประชาชนทุกส่วนเกิดความปลอดภัยรวมถึงผู้ชุมนุม เพราะบอกแล้วว่าต้องดูทุกส่วน เราไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร
ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า วันนี้ที่น่าเป็นห่วงคือความแตกแยกของคนในสังคมและคนในครอบครัวที่มีมากขึ้นในฐานะที่เป็นทหารของชาติและประชาชนมีความเป็นห่วงว่าจะอยู่อย่างไรต่อไป ถ้าไม่ลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นสังคมครอบครัว หรือในทุกหมู่เหล่า ดังนั้นต้องมีคนออกมาเตือนให้ทุกส่วนลดระดับความรุนแรงและความเกลียดชังลง ตนเป็นห่วงว่าไม่ว่าสถานการณ์จะจบอย่างไรก็ตาม แล้วเราจะอยู่กันอย่างไรถ้าคนในครอบครัวยังขัดแย้งกัน และคนในสังคมยังขัดแย้งกัน ถึงจะบังคับใช้กฎหมายอย่างไรก็ตาม ก็เป็นอันตรายทั้งสิ้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 มกราคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) พร้อมด้วยพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. และชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมคลี่คลายคดีระเบิดที่เกิดขึ้นบนถนนบรรทัดทองและอนุสาวรีย์ชัยฯ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ไปสอบปากคำ เนื่องจากมีกระแสข่าวตกเป็นผู้เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมกปปส.ในหลายครั้งที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รองผบช.น.ซึ่งรับผิดชอบงานด้านสอบสวน เดินทางไปร่วมสอบปากคำ ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1จังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นได้สั่งการให้สอบปากคำอย่างละเอียดว่าในช่วงที่เกิดเหตุนายโกตี๋อยู่ที่ใดบ้าง รวมถึงคดีเก่าๆของนายโกตี๋และเพื่อนฝูงในกลุ่มทั้งหมดว่ามีใครบ้าง เพื่อพิสูจน์ทราบให้เกิดความกระจ่าง ซึ่งนายโกตี๋ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012