กรณี นางสาวดวงใจ จันทร์เสือน้อย หรือน้องปอนด์ สาวแพร่ ที่โชว์เปลือยอกระบายสี ในรายการไทยแลนด์ก๊อตทาเลนต์ จนเกิดเสียงโจมตีในการกระทำดังกล่าว ว่าไม่เหมาะสมและเสื่อมเสียภาพลักษณ์ จังหวัดแพร่นั้น ล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 มิถุนายน ที่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 13 ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เป็นบ้านของนางสาวดวงใจ จันทร์เสือน้อย ผู้สื่อข่าวพบนายจันทร์ จันสระน้อย อายุ 70 ปี บิดาของนางสาวดวงใจ ป่วยเป็นอัมพาตมาได้ 11 ปี นอนอยู่บนเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยมีนางไฮ จันทร์สระน้อย มารดา และลูกของนางสาวดวงใจวัย 6 เดือน ที่นางไฮต้องเลี้ยงดู ทั้งสามีพิการ และ หลานสาววัย 6 เดือน
ขณะที่นางไฮ ยกมือกราบขอโทษต่อสังคมพร้อมกับร่ำไห้ และกล่าวว่า หลังทราบข่าวของลูกสาวแล้วก็ไม่สบายใจที่ไปทำให้เสียชื่อเสียง แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากจะวอนประชาชนเห็นใจลูกสาว เพราะว่าลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ที่เหลือเพียง คนเดียวที่ส่งเงินมาทางบ้านเป็นค่าใช้จ่ายทุกอย่าง หลังมีสามี และคลอดลูกเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ก็เอาลูกมาให้เลี้ยง และกลับไปทำงานส่งเงินมาให้ทุกเดือน ๆ ละ 5,000 บาท และหากไม่พอก็ส่งมาให้มากกว่านั้น ทางบ้านไม่มีใครทำงานหาเงินได้ เพราะตนเองก็ต้องดูแลสามี คอยอาบน้ำ ป้อนข้าว ทุกวัน ตลอดระยะเวลา 11-12 ปีที่ผ่านมา
และด้วยพระกรุณาเมื่อทราบข่าว เจ้าหน้าที่มูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัว นางสาวดวงใจต่อไป
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ปราศรัยบนเวทีพรรคประชาธิปัตย์ระบุพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งคนกลางมาเจรจาให้เข้าร่วมรัฐบาล กล่าวว่า การต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ต้องการล้มล้างรัฐบาล เพราะหากเราจะเป็นรัฐบาลก็เป็นได้อยู่แล้ว เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เชิญพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลด้วย ตนขอยืนยันด้วยเกียรติยศในสิ่งที่ได้พูดไป ซึ่งกระบวนการติดต่อมีการส่งคนมาเจรจา แต่ไม่ใช่คนในพรรคเพื่อไทย โดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.พ.55 หลังเหตุการณ์น้ำท่วม มีการส่งสุภาพสตรีชั้นสูงเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงในสังคม 2 ท่านมาเจรจากับตนต่างกรรมต่างวาระ โดยขอให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ขอให้ร่วมมือกับพ.ต.ท.ทักษิณ เชิญให้ตนไปหาพ.ต.ท.ทักษิณที่ดูไบ แต่ตนไม่ไป และได้อธิบายให้สุภาพสตรีแต่ละท่านเข้าใจว่า ท่านไม่เข้าใจ และบริสุทธิ์ใจเกินไป เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีเจตนาดีอย่างที่คิด วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯแล้ว พวกตนก็ไม่ได้ทำอย่างกลุ่มนายจตุพร พรหมพันธุ์นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่ได้ออกไปทุบรถ ก่อจราจลเผาบ้านเผาเมือง จึงไม่ต้องมาตื้ออีก แต่ก็ยังมีการมาบอกว่าถ้าตนไปต่างประเทศเมื่อไหร่ ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบด้วย ตนก็บอกว่าตนไม่มีอะไรจะคุย เพราะตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคหรือเลขาธิการพรรค แต่ก็ยังมาตื้ออีกว่า ให้ฟังเงื่อนไขเขาหน่อย
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ส่วนคนที่ 3 เป็นสุภาพบุรุษ ตนได้ไปพบที่บ้านของบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ตนเคยคบค้าสมาคม ทำหน้าที่วิ่งไปวิ่งมาระหว่างตนกับพ.ต.ท.ทักษิณ หลายครั้ง ส่วนจะเป็นอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ขออย่ามาตั้ง 20 คำถามให้ตนตอบเลย เพราะคนเสื้อแดงจะนำไปด่าบนเวที จนกระทั่งมีการเจรจาครั้งสุดท้ายวันที่ 3 มิ.ย.เวลา 17.45 น. ส่วนจะเป็นใครมาเจรจาตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าเขาจะถูกคนเสื้อแดงคุกคาม จึงไม่ต้องมาท้าทาย แต่ตนได้แนะนำไปว่า ถ้ามีเจตนาเห็นบ้านเมืองสงบ ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหยุดพฤติกรรมที่ได้ทำมา ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายลบล้างความผิด และหันไปสนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยอย่าไปครอบงำเขา พรรคประชาธิปัตย์ยินดีที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่มีเหตุผล ปฏิบัติในกรอบกฎเกณฑ์ กติกา หากพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่หยุดเรื่องนี้ตนพร้อมจะต่อสู้ทั้งในและนอกสภา
วันที่ 20 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเสียงข้างมากสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายการุณ โหสกุล ส.ส.เขต 12 กทม. พรรคเพื่อไทย และสั่งเลือกตั้งใหม่ พร้อมให้เรียกค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งใหม่ จากกรณีที่นายการุณปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันหลายครั้ง โดยครั้งแรกวันที่ 3 มิ.ย. 54 ที่ตลาดนัดบุญอนันต์ และครั้งที่ 2 วันที่ 12 มิ.ย. 54 ที่ตลาดนัดโกสุมรวมใจ ซึ่งในครั้งหลังนี้ได้กล่าวร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ว่า “ พรรคการเมืองเก่าแก่ นักการเมืองรุ่นใหม่ ถือแปรงมาทาสี ปราศรัยทุกครั้ง ชุมนุมทุกครั้งเอาเงินมาแจก” ซึ่งมติดังกล่าวองค์ประชุมของกกต.มีทั้งหมด 4 คน โดยหลังจากนี้กกต.ก็จะให้สำนักวินิจฉัยและคดียกร่างคำวินิจฉัยและเสนอศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งให้พิจารณาพิพากษา หากศาลฯมีคำสั่งรับคำฟ้องนายการุณจะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
เมื่อค่ำวันอังคารที่ 19 มิ.ย. “น้องหนู” ธราวุธ นพจินดา ผู้สื่อข่าวสายกีฬาวัย 56 ปี เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการเป็นพิธีกรการแข่งขันกอล์ฟ ณ สนามเพรสซิเดนต์ สุวินทวงศ์ โดยระหว่างเดินทางกลับ เกิดอาการแน่นหน้าอก ไม่สามารถขับรถได้ จึงมีผู้นำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเสรีรักษ์ มีนบุรี เมื่ออาการเบื้องต้นดีขึ้นเล็กน้อย จึงขอย้ายไปยังโรงพยาบาลวิภาวดี เนื่องจากมีแพทย์ประจำอยู่ที่นั่น
แต่ขณะเดินทางด้วยรถพยาบาล นายธราวุธเกิดแน่นหน้าอกอย่างหนักขึ้นอีก จนหมดสติแน่นิ่งไป เมื่อถึงโรงพยาบาลพบว่าสัญญาณชีพจรหยุด ทีมแพทย์จึงพยายามช่วยชีวิตแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายนายธราวุธจากไปอย่างสงบ
สำหรับธราวุธ นพจินดา เป็นน้องชาย เอกชัย นพจินดา เจ้าของนามปากกา ย.โย่ง นักพากษ์กีฬาชื่อดัง ซึ่งเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันในวัยเพียง 44 ปี ขณะกำลังตีเทนนิส เมื่อมีนาคม ปี 2540 คล้ายกันการนายธราวุธ ที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเหมือนกัน
ทางญาติจะนำศพเคลื่อนย้ายไปที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน ศาลา 9 เพื่อทำการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012