ข่าว
สหรัฐหวั่น ฆ่าไก่งวงเกือบ 4 หมื่นตัว หลังพบแพร่ระบาดเชื้อไข้หวัดนก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม องค์การสุขภาพสัตว์โลก (โอไออี) เปิดเผยว่า ทางการสหรัฐอเมริกาได้ทำลายไก่งวง 39,000 ตัวในรัฐมิสซูรี เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกชนิดไม่รุนแรง

กรมเกษตรกรรมมิสซูรีกล่าว ทางการยังเริ่มใช้มาตรการตรวจสอบฟาร์มในเขตแจสเปอร์เคาน์ตีที่มีการแพร่ระบาดเชื้อเอช 5 เอ็น 1 และฝูงสัตว์ทั้งหมดที่เตรียมไว้เพื่อออกจำหน่ายในภายรัศมี 10 กิโลเมตรของฟาร์มถูกตรวจสอบแล้วไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด

ทางการมองว่า การแพร่ระบาดเชื้อไข้หวัดนกที่เพิ่งตรวจจับได้เมื่อเมษายนที่ผ่านมา เป็นชนิดที่มีโอกาสเกิดโรคต่ำ ไม่มีความร้ายแรงหรือติดต่อได้ง่ายเช่นสายพันธ์อื่นๆ ของเชื้อ

อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อนี้ยังสร้างความกังวลให้ฝ่ายเกษตรกรรมและสาธารณสุขเนื่องจากเชื้ออาจกลายพันธ์จนมีความรุนแรงขึ้นและกลายเป็นไวรัสที่มีโอกาสเกิดโรคสูงได้

ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา ไก่และไก่งวงเกือบ 50 ล้านตัวในสหรัฐตายเนื่องจากติดเชื้อไข้หวัดนกที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โต้มติ คตง.ชี้มูลอุโมงค์ไฟ39ล.แค่เริ่มต้น-ยังไม่มีใครผิด ขู่ฟ้องกลับ

เมื่อเวลา 11.10 น. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวตอนหนึ่งในการแถลงข่าวกรณีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ชี้มูลตรวจสอบโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ของสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กทม. วงเงิน 39.5 ล้านบาท เข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) นั้น ว่า นโยบายการสร้างมหานครแห่งความสุขเป็นนโยบายที่ถูกต้อง และที่สำคัญในช่วงเวลาก่อนปีใหม่ปีก่อนได้เกิดปัญหาหลายๆ ด้าน รวมทั้งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ผมมองว่าสิ่งสำคัญต้องส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ระดับรากหญ้า แต่จะทำอย่างไรเมื่อกระบวนงบฯจะเสร็จสิ้นแล้ว ในปี 2558 งบประมาณการท่องเที่ยวถูกตัด เสนอไป 200 กว่าล้านบาท ได้มา 50 ล้านบาท คำถามในฐานะผู้บริหารคือจะทำอย่างไรในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ นี่จึงเป็นที่มาของโครงการ ไม่ใช่เพิ่งคิด อยากทำมาหลายปีแล้ว เนื่องจากงบฯไม่เพียงพอก็ใช้อำนาจตน

ถามว่านโยบายนี้สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ต้องไปถามคนอื่น แต่ขอบอกว่ามีคนเข้าชมงาน 1.6 ล้านกว่าคน และการใช้จ่าย 10 ล้านกว่าบาท อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อมั่นว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่มีการสรุปมานานแล้ว กทม.ผิด เป็นเรื่องที่ประหลาดมาก ผมไม่ทราบว่ามีวิธีปฏิบัติที่จะมาใช้กับ กทม. ผมไม่มีอะไรปิดบัง

“มติ คตง.เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการที่จะต้องดำเนินการต่อไป ยังไม่มีใครผิดใครถูก ใครเขียนแบบนี้ต้องระวังเรื่องกฎหมาย ใครบอกว่าผมผิด ผมฟ้อง กำลังปรึกษานักกฎหมายว่าจะทำอย่างไร ไม่ใช่ให้ความคุ้มครอง ผมมาอยู่ตรงนี้อัตราความเสี่ยงเป็นอย่างไร ผมเป็นห่วงลูกน้อง ลูกน้องจะต้องได้รับความเป็นธรรม ใครเขียนว่าลูกน้องผมจะให้ฟ้องทันที ขอความเป็นธรรมเถอะครับ และขอให้องค์กรตรวจสอบทุกองค์กร ให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องผมด้วย เราพร้อมจะตรวจสอบ ที่ กทม.ก็มีตัวแทน สตง.นั่งอยู่แต่ไม่มีคำแนะนำว่าไม่ถูกต้อง”

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากที่สุดแล้วผลชี้มูลว่าผิดจริง จะพิจารณาลาออกหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ให้ถึงเวลานั้นก่อน


อึ้ง!!สุ่มพบไส้กรอก3ยี่ห้อ สารกันบูด-เกินมาตรฐาน

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) น.ส.มลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ ได้เก็บตัวอย่างไส้กรอก 15 ยี่ห้อที่วางขายตามท้องตลาด มาตรวจหาสารไนเตรท และสารไนไตรท์ หรือสารกันบูดในอาหาร ซึ่งตามมาตรฐานโคเด็กซ์ กำหนดให้นำมาผสมในอาหารได้ไม่เกิน 80 มิลลิกรัม (มก.) ต่อกิโลกรัม (กก.) ทั้งนี้ผลการทำสอบพบว่ามี 11 ตัวอย่างที่มีการผสมสารทั้ง 2 ชนิดอยู่ในระดับที่ไม่เกินมาตรฐานกำหนด มี 3 ตัวอย่างที่เกินมาตรฐาน โดยมีการผสมสารทั้ง 2 ชนิดในระดับ 148.61 มก./กก.,132.33 มก./กก. และ 91.27 มก./กก. และมีเพียง 1 ยี่ห้อที่ไม่ได้มีการผสมสารทั้ง 2 ชนิดแต่อย่างใด โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของ มพบ. ได้ที่ www.chaladsue.com อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเพิ่มเติมไม่พบว่ามีการผสมสีลงไปแต่อย่างใด

“เราพบว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีการแสดงข้อมูลการใช้สารกันบูดทั้ง 2 ชนิดไว้ในฉลากโภชนาการเพียง 6 ชนิดเท่านั้น แต่ปัญหาคือ พบว่าฉลากข้อมูลโภชนาการระบุรายงานส่วนผสมสารไนเตรท และไนไตรท์เป็นรหัสตัวเลข ทำให้ประชาชนไม่สามารถทราบได้ว่าแท้จริงแล้วเป็นอะไร จึงอยากให้มีการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อไส้กรอกมารับประทาน ซึ่งจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าไส้กรอกหลายยี่ห้อมีเจ้าของหรือผู้ผลิตเดียวกัน” น.ส.มลฤดี กล่าว

ด้าน น.ส.สารี อ๋อง สมหวัง เลขาธิการ มพบ. กล่าวว่า การรับประทานในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลเสียต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ท้องเสียรุนแรง ยิ่งผู้ที่มีอาการแพ้อาจส่งผลต่อระบบหายใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็ว หมดสติ หรือเสียชีวิตได้ และที่ผ่านมาองค์การอนามัยโลกได้ออกมาเตือนว่าการรับประทานอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ เช่น เบคอน ไส้กรอก แฮม ในปริมาณมากเกินไปอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนเลือกรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ และตรวจสอบข้อมูลโภชนาการทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการรับประทานกลุ่มที่มีการผสมสารกันบูดในอัตราที่เกินกำหนด หรือไม่ควรมีการผสมสารดังกล่าวเลย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ มพบ.จะมีการส่งหนังสือไปยังบริษัทที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อแจ้งผลการทดสอบ และขอให้มีการปรับปรุงการใช้สารผสมในอาหารให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงส่งหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้มีการติดตามตรวจสอบ และควบคุมผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้ได้มาตรฐานด้วย.


สารเคมีใน'ผัก-ผลไม้'เพียบ!! พริกแดงส้มฝรั่งตกค้าง100%

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือไทยแพน (Thai-PAN :ThailandPesticide Alert Network) แถลงผลการเฝ้าระวังสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในผักผลไม้ 2559 ว่า ไทย-แพนได้เก็บตัวอย่างผัก 10 ชนิด ผลไม้ 6 ชนิด 138 ตัวอย่าง จากตลาดสดและห้างโมเดิร์นเทรด 7 แห่ง ในกทม. ปริมณฑล จ.เชียงใหม่ และ จ.อุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 16-18 มี.ค. 2559 โดยส่งไปวิเคราะห์หาสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างที่ห้องปฏิบัติการในประเทศอังกฤษ ซึ่งสามารถวิเคราะห์หาสารพิษตกค้างได้กว่า 450 ชนิดพบว่า พริกแดงมีสารเคมีตกค้าง 100% กะเพรา 66.7% ถั่วฝักยาว 66.7% คะน้า 55.6% ผักกาดขาวปลี 33.3% ผักบุ้งจีน 22.2% มะเขือเทศ 11.1% แตงกวา 11.1% มะเขือเปราะ และกะหล่ำปลี 0% ส่วนผลไม้พบว่าส้มสายน้ำผึ้ง ฝรั่ง มีสารเคมีตกค้าง 100% แก้วมังกร 71.4% มะละกอ 66.7% มะม่วงน้ำดอกไม้ 44.4% และแตงโม 0%

“ในภาพรวมมีผักและผลไม้ มีสารพิษตกค้างเกินค่ามาตรฐานสูงถึง 46.4 % ที่สำคัญพบว่าผักและผลไม้ที่ได้รับตรา Q จากสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) มีสารเคมีมากที่สุด และสูงถึง 57.1% ส่วนที่ได้รับการรับรองออร์แกนิค ไทยแลนด์(Organic Thailand) ที่ไม่ควรตรวจพบการตกค้าง ก็พบการตกค้างสูงเกินมาตรฐานถึง 25% หรือ 1 ใน 4 ของจำนวนตัวอย่าง” น.ส.ปรกชล กล่าว และว่า นอกจากนี้ยังพบผัก ผลไม้ที่ขายในห้างโมเดิร์นเทรดไม่ได้มีความปลอดภัยมากกว่าตลาดสด โดยมีจำนวนตัวอย่างตกค้างเกินมาตรฐาน 46% ขณะที่ตลาดสดมีสัดส่วน 48% และพบสารกำจัดศัตรูพืชห้ามใช้อีก 11 ชนิด เช่น คาร์โบฟูราน เมโทมิล หรือสารดีท ในยากันยุงตกค้างในผักคะน้า ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น คาร์โบฟูรานเป็นสารก่อมะเร็งที่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเลิกใช้ ส่วนกะหล่ำปลีและแตงโมที่คนไทยรู้ว่ามีการใช้สารเคมีมาก แต่กลับตรวจไม่พบนั้นมีการสมมติฐานว่าอาจใช้สารเคมีชนิดที่แล็บตรวจไม่ได้ สารเคมีสลายตัวก่อน หรือเพราะการห้ามใช้คาร์โบฟูรานหยอดหลุมก่อนปลูกแตงโม

น.ส.กิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (BIOTHAI) กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นผัก ผลไม้ที่ปลูกในไทย หรือนำเข้า แต่ก็ได้ส่งผลการตรวจสอบทั้งหมดให้กับห้างค้าปลีก สมาคมตลาดสด และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น มกอช. กรมวิชาการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เรียบร้อย โดยจะมีการยกเครื่องการให้ตรารับรอง Q และออร์แกนิคไทยแลนด์ ด้านของผู้ประกอบการจะแจ้งอย่างเป็นทางการมายังไทยแพนภายใน 1 สัปดาห์ว่ามีการดำเนินการอย่างไรในการลดปัญหาสารพิษตกค้าง อย่างไรก็ตามกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) อย. และกรมวิชาการเกษตร ต้องเอาผิดผู้จำหน่ายอาหารไม่ปลอดภัยตามกฎหมายด้วย.


ไอเอสฝ่าแนวรบเคิร์ดบุกสังหารหน่วยซีลสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) แถลงว่า กลุ่มก่อการร้ายไอเอสบุกโจมตีฝ่าแนวกองกำลังเปเมชก้าของชาวเคิร์ด ทางตอนเหนือของเมืองโมซุลในอิรักด้วยระเบิดฆ่าตัวตาย เมื่อช่วงเช้าของวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น และบุกจ่อยิงเจ้าหน้าที่หน่วยซีลของกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐเสียชีวิต 1 นาย ทราบชื่อคือเจ้าหน้าที่ชาร์ลี คีทติง วัย 31 ปี จากฐานทัพในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งร่วมอยู่ในกองกำลังฝ่ายสนับสนุนที่อยู่ห่างจากแนวรบราว 5 กิโลเมตร รายงานยังระบุว่า

เพนตากอนเผยว่า การสังหารดังกล่าวเป็นการโจมตีแบบมีการเตรียมการล่วงหน้า โดยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกลุ่มไอเอสได้บุกโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังชาวเคิร์ดหลายแห่งในภาคเหนือของอิรัก เพื่อหวังเปิดทางไปสู่การยึดคืนเมืองโมซุล นับเป็นทหารสหรัฐนายที่ 3 ที่ถูกสังหารนับแต่กองทัพสหรัฐตัดสินใจเข้าร่วมในปฏิบัติการร่วมต่อต้านไอเอสเมื่อเดือน ส.ค. 2557 โดยนอกจากนี้ยังมีทหารบาดเจ็บอีก 14 นาย การที่เจ้าหน้าที่ซีลซึ่งเป็นกองกำลังพิเศษของหน่วยนาวิกโยธินตกเป็นเป้าถูกโจมตีและสังหาร บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของกองกำลังภาคพื้นดินของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในอิรักราว 5,000 นาย

ขณะเดียวกัน องค์การเพื่อการห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) เผยว่า มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มไอเอสมีการพัฒนาหน่วยอาวุธเคมีเป็นของตนเอง และอาจมีศักยภาพถึงขั้นสามารถผลิตเองได้ โดยนายอาเหม็ด อูซุมชู ประธานโอพีซีดับเบิลยู กล่าวว่า มีหลักฐานบ่งชี้ถึงการใช้อาวุธเคมีในสมรภูมิอิรักและซีเรีย นอกจากนี้ยังยืนยันได้ว่ากลุ่มไอเอสสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี องค์ความรู้ และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาวุธเคมี ใกล้เคียงกับข้อมูลจากนายจอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (ซีไอเอ) ที่เผยเมื่อเดือน ก.พ. ว่า กลุ่มไอเอสสามารถผลิตแก๊สมัสตาร์ดและก๊าซคลอรีนได้ แต่ในปริมาณเพียงเล็กน้อย


รักเมียยิ่งชีพขับรถ 1,400 กม. ซื้อ"เคเอฟซี"ฉลองแต่งงาน!

เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดอะ มิรเรอร์”รายงานจากเมืองเยลโลว์ไนท์ ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ว่า “ไมค์และแองเจลา จอห์นสัน”อาศัยอยู่ในเมืองเยลโลว์ไนท์ของแคนาดา ชื่นชอบการรับประทานเมนูของร้านฟ้าดฟู้ด “เคเอฟซี”มาก ถึงขนาดในวันแต่งงานก็จัดเลี้ยงแขกที่มาด้วยเมนูจากเคเอฟซี และในทุกปีสามีภรรยาคู่นี้ก็จะฉลองการครบรอบวันแต่งงานด้วยการรับประทานไก่จากเคเอฟซีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ร้านเคเอฟซีที่ใกล้ที่สุดกลับปิดตัวลง แต่นั่นไม่ทำให้ไมค์ ผู้เป็นสามี ย่อท้อในการรักษาประเพณีของเขาและภรรยาที่จะรับประทานไก่จากร้านนี้ในวาระครบรอบแต่งงาน ไมค์และหนึ่งในลูกชายของเขาจึงได้ขับรถเป็นระยะทางไป-กลับ 870 ไมล์ (1,400 กิโลเมตร) เพื่อไปซื้อไก่จากร้านเคเอฟซีที่ถัดออกไป จำนวน 15 ถัง เพื่อนำมาฉลอง

เขากล่าวกับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาเสียเงินไป 600 ดอลลาร์สหรัฐ (20,800 บาท)ซื้อไก่และเติมน้ำมัน แต่ก็รู้สึกว่า มันคุ้มค่าแล้วเพราะต้องการรักษาประเพณีที่ภรรยาและเขาทำร่วมกันต่อไป.

นอนมา ทรัมป์ซิวตั๋วผู้แทนรีพับลิกัน หลังเคซิก คู่แข่งรายสุดท้ายประกาศถอนตัว

นายจอห์น เคซิก ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ คู่แข่งคนสุดท้ายในการสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันของนายโดนัล ทรัมป์ มหาเศรษฐีจากรัฐนิวยอร์ก ประกาศถอนตัวจากการลงชิงตำแหน่งแล้ว ส่งผลให้ทรัมป์กลายเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกันในการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐไปโดยปริยาย

ทั้งนี้ นายเคซิกได้รับชัยชนะในรัฐ โอไฮโอซึ่งเป็นบ้านเกิดเพียงรัฐเดียวโดยหวังว่าจะสามารถระดมเสียงสนับสนุนได้ในการประชุมพรรครีพับลิกันในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่จะประกาศถอนตัวจากการแข่งขันในเวลาต่อมาโดยเขาระบุว่าแม้จะยุติการแข่งขันแต่ก็ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะนำทางให้เขาก้าวเดินต่อไป

ขณะที่ทรัมป์ซึ่งแม้จะคว้าตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นที่แน่นอนแล้วก็ยังคงเป็นผู้สมัครที่เรียกกระแสต่อต้านอย่างหนักจากสไตล์การปราศรัยหาเสียงแบบปากไวของเขา

แม้แต่สมาชิกพักรีพับลิกันรุ่นใหญ่หลายคนก็ยังคงระบุว่าจะไม่สนับสนุนทรัมป์ ขณะที่บางคนถึงกับพูดว่าขอเลือกที่จะสนับสนุนนางฮิลลารี คลินตัน ซึ่งคาดว่าจะได้เป็นตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครตแทน