ข่าว
สื่อดังเผย “รัสเซียเซ่นศึกยูเครน” ทะลุ 70,000 ศพ-สูงสุดเป็นอาสากว่า 13,000 ราย...

สื่อดังเผย “รัสเซียเซ่นศึกยูเครน” – บีบีซี รายงานวันที่ 20 ก.ย. จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า มีชาวรัสเซียเสียชีวิตจากการสู้รบในประเทศยูเครนมากกว่า 70,000 ราย แต่เชื่อว่าจำนวนที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก

และยังเป็นครั้งแรกที่พลเรือนซึ่งเข้าร่วมกองทัพรัสเซียกลายเป็นผู้เสียชีวิตในกลุ่มอาสาสมัครมากที่สุดนับตั้งแต่ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดฉากปฏิบัติการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบเมื่อเดือนก.พ.2565...

บีบีซีรัสเซียและเว็บไซต์อิสระมีเดียโซนารวบรวมรายชื่อของผู้เสียชีวิตจากการสู้รบผ่านแหล่งข่าวต่างๆ รวมถึงรายงานอย่างเป็นทางการของรัสเซีย พบว่ามีชาวรัสเซียเสียชีวิตในยูเครนอย่างน้อย 70,112 ราย ในจำนวนนี้เป็นอาสาสมัคร 13,781 ราย หรือราวร้อยละ 20

ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตในกลุ่มอาสาสมัครกลายเป็นตัวเลขที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ ซึ่งก่อนหน้านี้อดีตนักโทษที่เข้าร่วมสงครามเพื่อแลกกับการอภัยโทษมียอดเสียชีวิตจากการสู้รบสูงสุด แต่ปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 19 ของผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันทั้งหมด ส่วนทหารระดมพลหรือพลเรือนที่ถูกเรียกตัวให้เข้าร่วมการต่อสู้คิดเป็นร้อยละ 13...

เตือน 9 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำท่วม-ดินโคลนถล่ม สุดสัปดาห์นี้

20 ก.ย. 2567: เตือน 9 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำท่วม-ดินโคลนถล่ม สุดสัปดาห์นี้ 20-22 ก.ย. สั่งเตรียมแผนการอพยพเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบาง ไปอยู่ในที่ปลอดภัย

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมทางไกลเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณี อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ครั้งที่ 4/2567

ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. – 20 ก.ย. 2567 สถานการณ์ลดลงเหลือ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก พิจิตร พระนครศรีอยุธยา นครนายก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม อุดรธานี ภูเก็ต สตูล และตรัง มีประชาชนได้รับผลกระทบ 63 อำเภอ รวม 9,949 ครัวเรือน เสียชีวิตสะสม 47 ราย บาดเจ็บ 816 ราย

นอกจากนี้ จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า 9 จังหวัด เสี่ยงฝนสะสมสูงและดินโคลนถล่มวันที่ 20-22 ก.ย. ได้แก่ อุบลราชธานี พิษณุโลก ตราด สุรินทร์ เลย นครราชสีมา ศรีสะเกษ สกลนคร และอุตรดิตถ์

โดยได้กำชับให้ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ประเมินความเสี่ยงของสถานบริการ เตรียมแผนการอพยพเคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย สำรวจและติดตามปริมาณยาและเวชภัณฑ์ต่อเนื่อง ซึ่งภาพรวมยังเพียงพอ มีการสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบภัยแล้ว 134,861 ชุด

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีการติดตามสถานการณ์ใน จ.อุบลราชธานี พบว่ามีอำเภอเสี่ยงจากแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง 5 อำเภอ 40 หมู่บ้าน คือ เขมราฐ นาตาล โพธิ์ไทร ศรีเมืองใหม่ และ โขงเจียม ซึ่งได้วางระบบและมาตรการรองรับแล้ว โดยจัดระบบส่งต่อผู้ป่วยทั้งทางบกและทางอากาศ พร้อมช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่อยู่ติดริมน้ำโขงจำนวน 2,393 ราย...

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 14 พายุซูลิก เตือน 51 จังหวัดรับมือ หยุด 2 วันนี้หนักแน่...

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 14 พายุซูลิก เตือน 51 จังหวัดรับมือ หยุด 2 วันนี้หนักแน่ เผยพายุดีเปรสชัน “ซูลิก” อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ก.ย.67 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง พายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 14 (206/2567) ระบุว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (20 ก.ย. 67) พายุดีเปรสชัน “ซูลิก” อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว และปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 21–23 ก.ย. 67 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “ซูลิก” เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้...

วันที่ 20 กันยายน 2567

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และนครราชสีมา

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 21 กันยายน 2567

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม และนครราชสีมา

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

ช่วงวันที่ 22-23 กันยายน 2567

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัยกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีพระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง และพังงา

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ขณะที่อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182


'อิสราเอล-เลบานอน'โต้เดือด หลังเหตุอุปกรณ์สื่อสารระเบิดครั้งใหญ่

กองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนโจมตีทางอากาศใส่กันชุดใหญ่ หลังเกิดเหตุวิทยุสื่อสารและเครื่องเพจเจอร์ระเบิดในเลบานอน จนผู้นำฮิซบอลเลาะห์ออกมาประณามอิสราเอล ว่าเป็นการกระทำที่ข้ามเส้น

กลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์โจมตีภาคเหนือของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธและโดรนเมื่อวานนี้ เพื่อตอบการโจมตีแบบเหนือความคาดหมายต่ออุปกรณ์สื่อสารของฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนติดต่อกัน 2 วัน มีผู้เสียชีวิต 37 ราย และบาดเจ็บกว่า 3,000 ราย มีกลุ่มควันลอยขึ้นจากด้านหลังบ้านเรือนใกล้พรมแดนระหว่างอิสราเอลและเลบานอน และผู้บาดเจ็บชาวอิสราเอลหลายคนจากการโจมตีด้วยจรวดและขีปนาวุธต่อต้านรถถังที่ยิงจากเลบานอน แต่ไม่ได้มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการ ขณะที่ก่อนหน้านั้น เครื่องบินรบของกองทัพได้โจมตีเป้าหมายของฮิซบอลเลาะห์กว่า 30 จุด ในพื้นที่ภาคใต้ของเลบานอน รวมถึงยังบินด้วยความเร็วเหนือเสียงจนดังทั่วท้องฟ้าเหนือกรุงเบรุต เมืองหลวงเลบานอนด้วย

ด้านฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ประณามการโจมตีของอิสราเอล ที่ระเบิดวิทยุสื่อสารและเครื่องเพจเจอร์ทั่วเลบานอนว่า ล้ำ เส้นแดงและขอบเขตกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ต่างจากการประกาศสงคราม และว่าถึงแม้การโจมตีดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ไม่ได้กระทบต่อฮิซบอลเลาะห์ ยืนยันโครงสร้างของกลุ่มไม่ได้สั่นคลอน

ระอุ บินรบอิสราเอลโจมตีเลบานอน ขณะผู้นำฮิซบอลเลาะห์แถลงประณาม

เครื่องบินรบของอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเข้าใส่ภาคใต้ของเลบานอนแล้ว ตามหลังเหตุอุปกรณ์สื่อสารระเบิด 2 ระลอก และเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่ผู้นำฮิซบอลเลาะห์กำลังแถลงประณามอิสราเอล

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ย. 2567 ว่าพวกเขากำลังโจมตีเป้าหมายหลายจุดในเลบานอน เพื่อลดขีดความสามารถในการก่อการร้ายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และทำลายโครงสร้างพื้นฐาน

IDF ระบุผ่านโพสต์บน X ว่า “หลายทศวรรษแล้ว ที่ฮิซบอลเลาะห์ทำให้บ้านเรือนพลเมืองกลายเป็นอาวุธ, ขุดอุโมงค์ใต้บ้านเหล่านั้น และใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ และกำลังเปลี่ยนภาคใต้ของเลบานอนให้กลายเป็นเขตสงคราม”

“IDF กำลังปฏิบัติการเพื่อนำความมั่นคงมาสู่ภาคเหนือของอิสราเอล เพื่อให้สามารถนำประชาชนกลับคืนสู่บ้านของพวกเขา และบรรลุเป้าหมายของสงคราม” แถลงการณ์ของ IDF ระบุ

การโจมตีของอิสราเอลเกิดขึ้นหลังจาก IDF ประกาศว่า พลโท เฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บัญชาการของพวกเขาอนุมัติแผนการเพื่อสร้าง “สมรภูมิแดนเหนือ” (northern arena) โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดว่า มันคืออะไร แต่นายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ระบุก่อนหน้านี้ว่า “ยุคใหม่ของสงคราม” กำลังเริ่มขึ้นในภาคเหนือของประเทศ

การโจมตีของ IDF ยังเกิดขึ้นในขณะเดียวกันกับที่ นาย ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ เพื่อประณามเหตุอุปกรณ์สื่อสารระเบิด 2 ระลอกในวันอังคารและวันพุธ ซึ่งพวกเขากล่าวโทษอิสราเอล ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

ผู้สื่อข่าวของ บีบีซี ในเลบานอนระบุว่า พวกเขาได้ยินเสียงเครื่องบินเจ็ทของอิสราเอลบนผ่านกรุงเบรุตในระดับต่ำ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ท่ามกลางเสียงสัญญาณไซเรนที่ดังขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของอิสราเอล ซึ่งติดต่อกับตอนใต้ของเลบานอน

ทั้งนี้ เพจเจอร์ที่สมาชิกกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ในเลบานอนใช้งาน เกิดระเบิดขึ้นพร้อมกันทั่วเลบานอน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 ก.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,800 ราย ต่อมาในวันพุธ อุปกรณ์สื่อสารมือถือ รวมถึงวอล์กกี้ทอล์กกี้ ก็เกิดระเบิดตามเป็นระลอกที่ 2 จนมีผู้เสียชีวิตถึง 25 ศพ บาดเจ็บอีก 608 ราย

อิสราเอลไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว ฮิซบอลเลาะห์, เลบานอน รวมถึงนักวิเคราะห์ต่างมองว่า อิสราเอลเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีทั้ง 2 ระลอก

เตรียมต้อนรับ! ดวงจันทร์บริวารดวงที่ 2 ของโลก แบบชั่วคราว “ดาวเคราะห์น้อย 2024 PT5”

20 ก.ย. 2567:นักวิทยาศาสตร์จาก Universidad Complutense de Madrid ได้เผยข้อมูลว่า ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2024 นี้ โลกของเราจะมีดวงจันทร์บริวารเพิ่มขึ้นหนึ่งดวง โดยเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีชื่อว่า “2024 PT5” ซึ่งจะกลายเป็นดวงจันทร์บริวารของโลกในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 2 เดือน

“ดาวเคราะห์น้อย 2024 PT5” ได้รับการติดตามจากนักวิทยาศาสตร์ด้วยระบบ Asteroid Terrestrial-impact Last Alert System ซึ่งเป็นระบบติดตามดาวเคราะห์น้อยที่ได้รับทุนจาก NASA โดยใช้อุปกรณ์ที่เมืองซัทเทอร์แลนด์ ประเทศแอฟริกาใต้

Carlos Marcos ศาสตราจารย์จาก Universidad Complutense de Madrid และหัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า ……

“วัตถุที่จะมาเยือนโลกในครั้งนี้ คือดาวเคราะห์น้อยจากแถบดาวเคราะห์น้อยอาจูน่า (Arjuna) ซึ่งเป็นแถบดาวเคราะห์น้อยที่ประกอบด้วยหิน และมีวงโคจรคล้ายกับโลก โดยวัตถุในแถบดาวเคราะห์น้อยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มวัตถุที่อยู่ใกล้โลก เช่น ดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง”

สำหรับ ดาวเคราะห์น้อย 2024 PT5 มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 11 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3,474 กิโลเมตร และมีเส้นทางการโคจรใกล้โลกมากพอจนโดนแรงโน้มถ่วงโลกจับไว้ ในช่วง 29 กันยายน - 25 พฤศจิกายน 2024 ในช่วงระยะเวลานี้ จะทำให้ 2024 PT5 กลายเป็นดวงจันทร์บริวารของโลกชั่วคราว ในระยะเวลาประมาณ 56 วัน โดยมีลักษณะวิถีโคจรคล้ายเกือกม้า ก่อนที่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะหลุดพ้นจากอิทธิผลแรงดึงดูดของโลก และกลับไปโคจรรอบดวงอาทิตย์ตามเส้นทางเดิมอีกครั้ง

“ดวงจันทร์บริวาร” ตามนิยามดาราศาสตร์สากลคือ “วัตถุดาราศาสตร์ที่เป็นของแข็งที่โคจรรอบดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย”

การที่มีดวงจันทร์บริวารชั่วคราวของโลกในครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการบันทึกไว้ โลกเคยดึงดูดดาวเคราะห์น้อยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ดวง เช่น ดาวเคราะห์น้อย 2006 RH120 ที่มีขนาดเล็กประมาณ 2-3 เมตร โคจรรอบโลกห่างถึง 1.74 ล้านกม. ระหว่างเดือน ก.ค. 2006 – ก.ค. 2007

แม้หลายคนจะเฝ้ารอชมดวงจันทร์บริวารดวงใหม่ แต่ด้วยขนาดที่เล็ก ดาวเคราะห์น้อยจึงมีค่าความสว่างเพียงระดับ 27.6 เท่านั้น การจะดูต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาด 8 เมตร เปิดรับแสงทั้งคืน ทำให้ผู้ที่อยากชมไม่สามารถมองเห็นได้โดยง่ายด้วยอุปกรณ์ของตนเอง