ข่าว
บริษัทสิ่งทอญี่ปุ่นเจ๋ง ผลิตกกน.ดับกลิ่นตด

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 13 พ.ย. ว่า บริษัทสิ่งทอสัญชาติญี่ปุ่น “ไซเรน” พัฒนากางเกงชั้นในระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาทิ กลิ่นที่เกิดจากการผายลมระบายท้อง เป็นต้น จนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่นักธุรกิจ และบุคคลทั่วไป หลังช่วงแรกมุ่งเจาะตลาดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และโรงพยาบาลมาก่อน

ทั้งนี้ กระแสความฮิตของกางเกงชั้นในดับกลิ่น ส่งผลให้มีการผลิตสินค้าอื่นๆ ตามมาอีกอย่างน้อย 22 รายการ รวมทั้งถุงเท้า ป้องกันกลิ่นอับเหม็น และเสื้อยืดดับกลิ่นใต้วงแขน โดยผู้สวมใส่ไม่ต้องกังวลถึงกลิ่นโชยที่อาจสร้างความอับอายอีกต่อไป

ด้านนามิ โยชิดะ โฆษกหญิงของบริษัทดังกล่าว เปิดเผยว่า บริษัทใช้เวลาหลายปีในการออกแบบกางเกงชั้นในดับกลิ่น ที่ลูกค้าสามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันอย่างสะดวกสะบาย และให้ผลชะงักในการระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งเส้นใยที่นำมาทอนั้นเคลือบกลิ่นหอมอ่อนไว้ด้วย ส่วนการริเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีกางเกงชั้นในสุดพิเศษนี้ เกิดขึ้นหลังจากทราบว่ากลุ่มแพทย์ต้องการขจัดปัญหาเกี่ยวกับการทนกลิ่นเหม็นจากการผายลมของผู้ป่วยโรคลำไส้

หนุ่มหื่นข่มขืนสาวบนรถบัสในลอสแองเจลีส

เจ้าหน้าที่รวบตัวผู้ต้องสงสัย ในคดีข่มขืนหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งป่วยทางจิต บนรถเมโทรบัส ที่เดินทางจากลอสแองเจลีสไปยังเมืองคัลเวอร์ซิตี ด้วยภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายมีประวัติก่ออาชญากรรมมาอย่างโชกโชน รวมถึงข้อหาทำร้ายทางเพศ

เคอร์รี ทรอตเตอร์ วัย 20 ปี จากเซาท์ ลอสแองเจลีส ถูกจับกุมในเช้าวันศุกร์ (9) หลังแผนกบังคับคดีลอสแองเจลีสเคาน์ตีประกาศว่า นักสืบกำลังตามหาชายคนหนึ่ง ซึ่งขึ้นรถบัส และข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาว วัย 18 ปีเป็นเวลา 10 นาที ซึ่งเขาถูกควบคุมตัวโดยมีวงเงินประกัน 1 ล้านดอลลาร์

เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า คนขับรถบัสคันดังกล่าวปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสมหรือไม่ เมื่อมีเหตุข่มขืนเกิดขึ้นบนรถของเขา ขณะที่พยานเพียงคนเดียวพยายามดึงความสนใจของเขา ในระหว่างที่การทำร้ายทางเพศนั้นเกิดขึ้นอยู่

เมื่อปฏิบัติกามกิจเสร็จ คนร้ายก็ลงจากรถบัส ณ ป้ายรถระหว่างถนนเซพัลเวดา บูเลอวาร์ด และสลอสัน อเวนิว อันเป็นป้ายสุดท้ายของเส้นทาง ขณะที่เหยื่อ ผู้ซึ่งมีสภาพจิตเท่ากับเด็กวัยเพียง 10 ปีเท่านั้น แจ้งคนขับรถว่า เธอถูกทำข่มขืน

"เธอไม่แม้แต่จะกรีดร้อง หรือตะโกน" สิบตำรวจแดน สก็อต ของหน่วยบังคับคดีกล่าว และว่า "เธอกลัวเกินกว่าที่จะทำเช่นนั้น"

เจ้าหน้าที่สอบสวนเผยว่า พวกเขาได้แจ้งข้อมูลจากบุคคลนิรนาม ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวทรอตเตอร์ หลังภาพผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิดบนรถบัสนั้นถูกเผยแพร่ออกไป

"นี่เป็นเหตุการณ์เลวร้าย ที่น่าเศร้าสลด" มาร์ก ลิตแมน โฆษกสำนักงานขนส่งลอสแองเจลีสเคาน์ตีกล่าว "แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการเห็น หรือไม่เห็นนั้น เรายังไม่รู้จนกว่าเราจะได้เห็นจากวิดีโอ"

ส่วน ริกกี จอร์จ คนขับรถบัสคันที่เกิดเหตุ ถูกสั่งพักงานเพื่อการสอบสวนรายละเอียด และพฤติกรรมของเขา ที่เกี่ยวข้องกับคดีข่มขืนนี้ ลิตแมนระบุ โดยเสริมว่า ในปี 2012 มีรายงานเหตุทำร้ายทางเพศบนรถขนส่งมวลชนของลอสแองเจลีสเคาน์ตี 2 ครั้ง และอีก 1 ครั้งเกิดขึ้นที่สถานียูเนียน สเตชัน


แม่อ้างลูกเป็น “บุตรซาตาน” หายใจเป็นไฟ-หายตัวได้

นาง อานา เฟเรีย ซานโตส คุณแม่วัย 28 ปี ชาวโคลอมบีย อ้าง บุตรชายวัย 2 เดือนของเธอเป็น “บุตรซาตาน” ระบุ เด็กน้อยมีความสามารถพิเศษหายใจออกมาเป็นไฟเผาที่นอนและสิ่งของต่างๆในบ้านจนมอดไหม้ ทั้งยังสามารถหายตัวได้ นางซานโตสและเพื่อนบ้านของเธอในเมือง “นวยบา เอสเตรญา” ริมชายฝั่งทะเลแคริบเบียน ทางตอนเหนือของโคลอมเบียซึ่งยังคงเป็นสังคมที่เชื่อถือในเรื่องเวทมนตร์คาถาและภูติผี กำลังตกอยู่ในความหวาดกลัว หลังจากผู้เป็นแม่ออกมายืนยันว่า ลูกน้อยเพศชายวัย 2 เดือนของเธอ สามารถหายใจออกมาเป็นเปลวไฟเผาผลาญเสื้อผ้าและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน และในบางครั้งยังสามารถเปล่งเสียงดังแหลมออกมาราวกับเสียงปีศาจ นอกจากนั้น ผู้เป็นแม่ยังอ้างว่า เด็กน้อย วัย 2 เดือนสามารถหายตัวออกจากกระท่อมของครอบครัว แล้วไปปรากฏตัวยังสถานที่แปลกๆ เช่น ในชาม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไม่เว้นแม้แต่ในกระเป๋าที่แขวนอยู่บนกำแพง อย่างไรก็ดี นางซานโตสซึ่งมีลูกทั้งหมด 5 คนยังคงยืนยันจะเลี้ยงดูบุตรชายรายนี้ต่อไปให้ดีที่สุด แม้เธอจะรู้สึกหวาดกลัวต่อ “สิ่งชั่วร้าย” ที่เชื่อว่าอยู่ในตัวลูกของเธอก็ตา “นี่คือสิ่งที่ชั่วร้าย ดิฉันไม่เคยพบเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิตดิฉันได้ร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ แต่พวกเขากลับหัวเราะเยาะ ดิฉันจึงต้องร้องขอให้พระเจ้าช่วยเหลือ เพื่อรับมือกับเรื่องนี้” นางซานโตสกล่าว ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นับตั้งแต่กระแสข่าวเรื่องหนูน้อยบุตรแห่งซาตานแพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านในชุมชนต่างเริ่มหวาดกลัวและต่อต้านครอบครัวของนางซานโตสด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ขว้างก้อนหินใส่ที่พัก รวมถึง รวมตัวกันเรียกร้องให้มีการทำพิธีขับไล่วิญญาณที่ชั่วร้ายออกจากหมู่บ้าน อย่างไรก็ดี มีเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่เชื่อว่านางซานโตสกุเรื่องอิทธิฤทธิ์ของบุตรชายขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์บางอย่างแอบแฝง

'นักการเมืองเอเชีย' หลากหลายศาสนา ผงาดรัฐสภาสหรัฐฯ

การเลือกตั้งสหรัฐฯครั้งล่าสุด สภาคองเกรส ได้สมาชิกนักการเมืองอเมริกันเชื้อสายเอเชีย มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งยังนับถือศาสนาหลากหลายทั้งพุทธ และฮินดู เป็นต้น...

ความคืบหน้าของกระบวนการเลือกตั้ง เมื่อวันอังคาร 6 พ.ย. ที่ผ่านมา พบว่าสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้สมาชิกนักการเมืองอเมริกันเชื้อสายเอเชีย เข้ามามีบทบาทมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีสมาชิกนักการเมืองหญิงนับถือศาสนาพุทธและฮินดูครั้งแรก เริ่มตั้งแต่นางเมซี ฮิโรโนะ วัย 65 ปี นักการเมืองเชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน เกิดที่ญี่ปุ่น คว้าเก้าอี้วุฒิสมาชิกรัฐฮาวาย สังกัดพรรคเดโมแครต โดยเธอนับถือศาสนาพุทธ

ตามด้วยนายอามี เบรา แพทย์เชื้อสายอินเดีย-อเมริกัน วัย 47 ปี คว้าเก้าอี้ส.ส.รัฐแคลิฟอร์เนีย สังกัดพรรคเดโมแครต นับถือศาสนาฮินดู ถือเป็นนักการเมืองนับถือศานาฮินดูคนแรก แต่เป็นนักการเมืองส.ส.สหรัฐฯเชื้อสายอินเดียคนที่ 3 ขณะที่นักการเมืองนับถือศาสนาซิกข์เคยมีแล้ว สังกัดพรรคเดโมแครตเมื่อปี 2500

นอกจากนั้น ยังมีนางเกรซ เหม็ง ทนายความเชื้อสายจีน วัย 37 ปี คว้าเก้าอี้ส.ส.รัฐนิวยอร์ก สังกัดพรรคเดโมแครต เติบโตจากย่านไชนาทาวน์ และพ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี ดัคเวิร์ธ วัย 44 ปี ทหารผ่านศึกสงครามอิรัก เกิดที่กรุงเทพฯ คว้าเก้าอี้ส.ส.รัฐอิลลินอยส์ สังกัดพรรคเดโมแครต ถือเป็นส.ส.สหรัฐฯเชื้อสายไทยคนแรก