27 กรกฎาคม 2565 นายประพิศ จันทรมา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) รายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เช้าวันนี้ (27 ก.ค. 65) เวลา 06.00 น. ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,180 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 5.54 เมตร แนวโน้มปริมาณน้ำเหนือยังคงเพิ่มสูงขึ้น ควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C .13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 1,100 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อน ที่อยู่บริเวณนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา , ชุมชนแม่น้ำน้อย (ต.หัวเวียง อ.เสนา) , ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากวันนี้ (27 ก.ค.65)ประมาณ 20 เซนติเมตร ในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (28 ก.ค. 65)
สำหรับปริมาณน้ำ เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา วันที่ 27 ก.ค. 65 (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 10,424 ล้าน ลบ.ม. (ลูกบาศก์เมตร) หรือร้อยละ 42 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯรวมกันประมาณ 95.01 ล้าน ลบ.ม. รับน้ำได้อีกกว่า 14,400 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ หากมีแนวโน้มปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก จะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 ที่ผ่านมา นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานแถลงข่าวจัดงาน “เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอน” ภายใต้แนวคิด “มรดกศิลป์แผ่นดินไทย เทิดไท้องค์พระพันปีหลวง” โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ร่วมกับวัดขนอน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี และ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ระหว่างวันที่ 12 – 13 สิงหาคม 2565 ที่วัดขนอน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ทั้งนี้ เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ผ่านการแสดงศิลปะชั้นสูง คือ “การเชิดหนังใหญ่” ที่มีเอกลักษณ์อันทรงคุณค่า แสดงให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของบรรพบุรุษไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบลายไทยเชิงจิตรกรรม ผสมผสานกับช่างฝีมือแกะสลักที่ประณีต เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เอกองค์อุปถัมภ์มรดกศิลป์ของแผ่นดินไทย ผู้ทรงอุทิศพระองค์ในการอนุรักษ์ สืบสาน และฟื้นฟูมรดกศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
จังหวัดราชบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในฐานะพสกนิกรผู้จงรักภักดี จึงได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อสืบสานศิลปะที่ทรงคุณค่าหลายแขนงไว้ด้วยกัน อาทิ จิตรกรรม ศิลปะ นาฏศิลป์การละคร ดนตรีปี่พาทย์ รวมทั้งท่าทางการเคลื่อนไหวที่ทำให้เกิดความเข้าใจในเรื่องราว และให้อรรถรสทางศิลปะแก่ผู้ชม และนักท่องเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์ การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการยกระดับเทศกาลประเพณี ที่มีศักยภาพของจังหวัด จากระดับท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีวัดขนอน ร่วมกับจังหวัดราชบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานราชบุรี) อำเภอโพธาราม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลสร้อยฟ้า สถานศึกษา เครือข่ายชาติพันธุ์ในพื้นที่และเครือข่ายศิลปินพื้นบ้าน ได้ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนการจัดงานเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและสืบสานศิลปะการแสดงหนังใหญ่ รวมทั้งยังจัดให้มีการอบรม ถ่ายทอดมรดกภูมิปัญญางานช่างตอกหนัง การเชิดหนังให้กับเด็กเยาวชนในพื้นที่ ตลอดจนจัดให้มีกิจกรรมเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์มรดกภูมิปัญญาหนังใหญ่วัดขนอนให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศของความเป็นไทย สะท้อนอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของมรดกภูมิปัญญา ความสนุกสนาน ได้แก่การแสดงหนังใหญ่ ตอน ศึกอินทรชิต ครั้งที่ 1 (ดูดนมแม่) การแสดงหนังใหญ่ติดหัวโขน การแสดงเชิดหนังใหญ่แบบโบราณใช้ไฟกะลาที่มีมานานกว่า 100 ปี
นอกจากนี้ ยังมีการแสดงศิลปวัฒนธรรม 4 ภาค อาทิ การแสดงดิเกร์ฮูลู โนราห์ โปงลาง ละครหุ่นคนส่งเสริมเยาวชนไทย เป็นต้น การสาธิตช่างสิบหมู่ สาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น ตอกหนัง พิมพ์ทอง ต่อเรือจำลอง ฯลฯ อาหารพื้นถิ่น และอาหารกลุ่มชาติพันธุ์ไทย-รามัญ กวนกาละแม ขนมสามไฟ การจำหน่ายสินค้า “ตลาดด่านขนอน” ริมน้ำแม่กลองที่อนุรักษ์คงไว้กลิ่นอายตลาดโบราณ เปิดธนาคารแลกเบี้ย การจำหน่ายอาหารพื้นถิ่น ผลิตภัณฑ์ชุมชน และผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของจังหวัด การเสวนาองค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม โดยวิทยากรบรมครูที่สำคัญของชาติ
อีกทั้งยังเปิดให้ชมพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอนที่เก็บรวบรวมตัวหนังใหญ่ในสภาพสมบูรณ์และศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราชหนังใหญ่วัดขนอน (พิพิธภัณฑ์วัดขนอน) ที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อจังหวัดราชบุรี และพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ระหว่างวันที่ 12 - 13 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 14.00 - 21.30 น.ที่วัดขนอน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี สอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณฐปณี จันทคัด 086 - 3341894 หรือคุณสุริสา อาศุศิริ 092 – 6056445
วันที่ 28 ก.ค.65 นายบดินทร์ เรืองสุขศรีวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมจัดงาน “เทศกาลลูกชิ้นยืนกินชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 5 ” ประจำปี 2565 ในระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไปที่บริเวณโครงการบุรีรัมย์คาสเซิล หลังสนามช้างอารีน่า ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นรายได้ด้านการท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นการกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนในพื้นที่ ภายใต้คอนเซ็ปท์งาน “มันต๊าซมากกก...” ซึ่งผู้เข้าร่วมงานหรือกิจกรรม ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ส่วนรูปแบบการจัดงานในปีนี้ จะพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย กิจกรรมการแสดงเปิด สุด “ต๊าซ”
ต๊าซ กับโชว์แข่งกินสุดโหด ของ คู่แฝด “โป้ง-ปั้น” แชมป์กินประเทศไทยสุดหล่อ จะมารุมกินโต๊ะกับ 1 สาวสวยสุดเซ็กซี่ดีกรีแชมป์กิน “น้องเบนซ์” พร้อมแท๊กทีมกับ 4 นักกินระดับพระเทพ ใครจะแรงใครจะแซง ต้องมาลุ้นกัน
ต๊าซ กับ D U O Pretty Sexy ลูกชิ้นยืนกิน Contest กับสาวสวยสุดเซ็กซี่ จาก 8 ทีม 16 คน แบ่งเป็นทีมละ 2 คน เพศหญิง อายุ 16-35 ปี บุคลิกหน้าตาดี การแต่งกายสวยงาม เซ็กซี่ ที่จะมาขับเคี่ยวความอร่อยกับการแข่งขันกินลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ภายใน 5 นาที ชิงเงินรางวัลกว่า 15,000 บาท
ต๊าซ ที่พลาดไม่ได้ กับการหา “แชมป์โลกลูกชิ้นยืนกินคนใหม่” ชิงเงินและรางวัล มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท ทั้งรุ่นแชมป์โลก ไม่จำกัดเพศ และอายุ , รุ่นแชมป์โลกหญิง เพศหญิง ไม่จำกัดอายุ และ รุ่นแชมป์โลกทีม ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ ทีมละ 3 คน ใครจะเป็นแชมป์ ให้มาลุ้นกัน
ต๊าซต่อมา กับการค้นหา “ร้านลูกชิ้นและร้านน้ำจิ้มลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ยอดเยี่ยมประจำปี” แชมป์เก่าจะคงอยู่หรือแชมป์ใหม่จะเข้ามา ต้องมาวัดกัน
ต๊าซ กับความอร่อยจากร้านลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์จากทั่วทุกสารทิศ และร้านค้าจากชุมชนท่องเที่ยวพร้อมผู้สนับสนับสนุน กว่า 40 ร้านค้า ที่จะมาเสิร์ฟความอร่อยและความสุขให้ทุกคนได้เลือกชิมลิ้มรสชาด และเลือกซื้อกันได้ถึงที่
ต๊าซสุดท้าย สุดพิเศษ 1 ปี มีครั้ง กับโปรโมชั่นจากร้านลูกชิ้นยืนกิน นาทีทองฉลองความอร่อย กับลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ราคาสุดต๊าซ พลาดแล้วจะเสียใจ
จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวบุรีรัมย์ รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มาเที่ยวชมงาน "เทศกาลลูกชิ้นยืนกินชิงแชมป์โลกครั้งที่ 5 ประจำปี 2565" ระหว่างวันที่ 30-31 กรกฎาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ที่บริเวณโครงการบุรีรัมย์คาสเซิล หลังสนามช้างอารีน่า ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 เฟซบุ๊กแฟนเพจ “สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย” ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความรู้ด้านการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย เผยแพร่บทความ “โดรนพ่นยาฆ่าหญ้า..ถูกกฎหมายหรือยัง” เนื้อหาดังนี้
ปัจจุบัน โดรนพ่นยาฆ่าหญ้ากำลังได้รับความนิยมจากเกษตรกร ส่วนมากใช้พ่นในนาข้าว ข้าวโพด และอ้อย และสารกำจัดวัชพืชยอดนิยม คือ 2,4-ดี เนื่องจากเป็นสารกำจัดวัชพืชที่มีคุณสมบัติเลือกทำลายเฉพาะพืชใบกว้าง แต่ปลอดภัยกับพืชใบแคบทั้งข้าว ข้าวโพด และอ้อย
2,4-D เป็นสารที่มีกลไกออกฤทธิ์อยู่ในกลุ่ม O ที่มีการทำงานคล้ายฮอร์โมนออกซิน ดังนั้น อาการที่ปรากฏเริ่มแรก พืชจะแสดงอาการก้านใบและยอดม้วน ขอบใบม้วน ตามมาด้วยอาการใบไหม้เป็นสีน้ำตาลและร่วงหลุดจากต้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ พืชปลูกใบกว้างในแปลงข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็น มันสําปะหลัง ถั่วชนิดต่างๆ ผักบุ้งแก้วกะเพรา มะลิ มะขาม และกัญขา จะแสดงอาการเป็นพิษเกิดการฟ้องร้องกันมากมายในปัจจุบัน
คำถาม คือ
1.การพ่นยาฆ่าหญ้าด้วยโดรนถูกต้องตามกฎหมายและข้อบังคับของกรมการบินพลเรือน หรือไม่
2.หลักเกณฑ์ที่ผู้ใช้โดรนพ่นต้องทราบและปฏิบัติตาม..มีอะไรบ้าง หากยังไม่มี..เมื่อไหร่จะมี?...หน่วยงานไหนตอบได้ช่วยตอบที
3.หากยังไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย คนนำโดรนไปใช้พ่นสารกำจัดศัตรูพืช มีความผิดและต้องได้รับโทษตามกฎหมายอะไรบ้าง
4.หากการพ่นด้วยโดรนไม่มีประสิทธิภาพ.เกษตรกรสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่
5.ความเป็นพิษที่เกิดกับพืชปลูกข้างเคียงใครเป็นคนรับผิดชอบเกษตรกรเจ้าของแปลง หรือ คนรับจ้างพ่นโดน
6. สารกำจัดศัตรูพืชที่เกิดอันตรายได้จากการสูดดมหรือการซึมเข้าทางผิวหนัง.. สามารถพ่นด้วยโดรนหรือไม่
7.หากละอองที่ปลิวไปขณะพ่นด้วยโดรน. ทำให้เกิดการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม..ใครเป็นผู้รับผิดชอบ
ในอนาคตก็คงหลีกเลี่ยงการใช้โดรนพ่นสารเคมีทางการเกษตรไม่ได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น.. หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงทั้ง #กรมวิชาการเกษตร และ #กรมการบินพลเรือน ควรรีบออกมาตรควบคุมและอบรมวิธีการใช้โดรนทางการเกษตรที่ถูกต้องและปลอดภัยโดยเร็ว..ก่อนจะสายเกินไป
#โดรนพ่นยา ไม่ใช่ของวิเศษ แต่เป็นเพียงเครื่องพ่นที่บินได้เท่านั้น‼
26 ก.ค.65 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายซอ มิน ตัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา เผยวันนี้ว่า คำสั่งประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง 4 คนไม่ได้เกิดขึ้นจากเรื่องส่วนตัว แต่เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และนักเคลื่อนไหวทั้งสี่คนก็ได้รับโอกาสให้ต่อสู้คดี ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาทราบอยู่ก่อนแล้วว่า คำสั่งประหารชีวิตดังกล่าว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีของเมียนมา จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ในขณะเดียวกัน นายไซฟุดดิน อับดุลเลาะห์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของมาเลเซีย ได้ออกมาตำหนิรัฐบาลทหารเมียนมาในวันนี้ว่า คำสั่งประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวการเมือง 4 คนเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เมียนมาไม่สมควรได้รับอนุญาตให้ส่งตัวแทนทางการเมืองเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีในเวทีนานาชาติ ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาตั้งใจเย้ยหยันแผนสันติภาพตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนด้วยการประกาศคำสั่งประหารดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ กัมพูชา ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ ได้ตำหนิคำสั่งประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวการเมือง 4 คนเช่นกัน โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง และทำลายความพยายามระดับภูมิภาคเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตในเมียนมา ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมาได้ประกาศประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวการเมือง 4 คน ซึ่งรวมถึงนายจ่อ มิน ยู วัย 53 ปี นักเรียกร้องประชาธิปไตยคนสำคัญที่เป็นที่รู้จักกันในชื่อ จิมมี และนายพโย จียา วัย 41 ปี นักดนตรีแนวฮิปฮอปและอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นพันธมิตรกับนางออง ซาน ซู จี
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012