นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างร่วมคณะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการว่า การเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ รัฐบาลจีนให้เกียรติแก่นายกรัฐมนตรีไทยและคณะเป็นอย่างมาก โดยได้จัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ สมเกียรติ ทั้งนี้ นายกฯ จะได้พบทั้ง นายหูจิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน นายเหวินเจียเป่า นายกรัฐมนตรี นายอู๋-ปังกัว ประธานสภาประชาชนจีน รวมทั้งผู้นำอันดับที่ 6 นายสี จิ้นผิง ว่าที่ประธานาธิบดีของจีน ที่เพิ่งมาเยือนไทยเมื่อไม่นานมานี้
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการเดินทางเยือนจีน ของนายกฯ ในครั้งนี้ก็คือ การลงนามความตกลง ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 8 ฉบับ โดยเฉพาะหนึ่งในเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลไทย คือบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วม กล่าวต่อว่า เฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงของรัฐบาลไทย ที่จะร่วมทุนกับรัฐบาลจีน มีทั้งหมด 5 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทาง กรุงเทพฯ-ระยอง, กรุงเทพฯ-หนองคาย ,กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งนายกฯ และคณะ จะเดินทางไปดูงานรถไฟความเร็วสูงถึงสองประเทศ และเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการสถานีรถไฟกรุงปักกิ่ง (หนานจ้าน) สถานีรถไฟเมืองอู่ซิง ของจีน และเข้าเยี่ยมชม รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับรถไฟชินกันเซ็น ที่สถานีรถไฟฮากาตะ เมืองฟุกุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงบันทึกความเข้าใจว่า ด้วยความร่วมมือด้านการจัดการน้ำที่ทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมระดับ รัฐมนตรี เพื่อประสานงานให้เกิดความร่วมมือ โดยฝ่ายจีนจะมีการจัดทำรายงานด้านต่างๆ อาทิ ความร่วมมือด้านระบบการจัดการน้ำแบบบูรณาการ ระบบการบัญชาการเดี่ยวโครงสร้างพื้นฐานของการป้องกันอุทกภัย
วันที่ 18 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ให้สัมภาษณ์ อาร์ไอเอ โนวอสติ สื่อรัสเซีย ในโอกาสเดินทางมาทำบุญเนื่องจากตรงกับเทศกาลสงกรานต์ ที่ประเทศลาว และกัมพูชา ในช่วงวันที่ 11-16 เม.ย.เกี่ยวกับอนาคตที่จะกลับไปยังแผ่นดินเกิด โดยยืนยันว่าจะกลับไทยก็ต่อเมื่อบ้านเมืองสงบแล้ว และไม่ขอกลับไปเป็นนายกรัฐมนตรีอีก
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงอนาคตว่า "จะเห็นได้ว่าเรื่องราวต่าง ๆกำลังดำเนินไปเรื่อย ๆ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อ ประเทศไทยมีความสามัคคีกันแล้ว ผมไม่ต้องการที่จะกลับไปในขณะที่การเมืองยังคุกรุ่น มีความขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งเรื่องการกลับบ้านนั้น อาจจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ แต่ผมก็จะไม่เรียกร้องขอเป็นผู้นำประเทศอีกแน่ ขอย้ำไว้เลยว่า ผมจะไม่ขอเป็นนายกรัฐมนตรี อีกเด็ดขาด ส่วนทรัพย์สมบัติที่ถูกยึดไว้นั้น ผมคงไม่เรียกร้องเอากลับคืน"
ต่อข้อซักถามที่ว่า โครงการต่างๆ ที่เคยทำแต่ยังไม่สำเร็จจะทำต่อหรือไม่ หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ได้เป็นผู้นำประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า "ผมยังต้องการทำหลายอย่าง แต่รัฐบาลชุดนี้ สามารถสานต่องานต่าง ๆ ที่ผมเคยวางไว้ได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องพึ่งผม ในแนวทางเหล่านั้น เราได้มีโครงการไว้ว่า จะมีการร่วมมือกับทางรัสเซีย รวมถึง เรามีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางในเรื่องของ พลังงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
วันที่ 18 เม.ย. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายมาตรา 291/1 ระหว่างที่นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กำลังอภิปรายอยู่ ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในห้องประชุม สร้างความตื่นตกใจให้กับบรรดาสมาชิกรัฐสภาทุกคนเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้ปรากฎภาพนิ่งของหญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งกางเกงชั้นในซีทรูลักษณะท่อนล่างเกือบเปลือยทั้งหมด นั่งชันเข่าซ้ายบนเก้าอี้ อ้าขาโชว์อวัยวะเพศ ขึ้นโชว์บนจอมอนิเตอร์บริเวณด้านซ้ายมือ ตรงข้ามบัลลังก์ของประธานในที่ประชุม โดยมีการปล่อยภาพโป๊ดังกล่าวออกมาเป็นช่วงๆ ช่วงละ 5 วินาที 3 ครั้ง สลับกับภาพภายในห้องประชุม ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นภาพดังกล่าวก็ได้แก้ปัญหาด้วยการปิดจอมอนิเตอร์ทั้ง 2 จอทันที
ภายหลังจากที่นายพีระพันธ์อภิปรายเสร็จสิ้น นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นทักท้วงกลางที่ประชุมว่า ในระหว่างที่นายพีระพันธ์อภิปรายอยู่นั้นได้ปรากฎภาพที่ไม่เหมาะสมขึ้นในจอมอนิเตอร์ในห้องประชุม ซึ่งตนเกรงว่าหากภาพหลุดออกไปจะเสื่อมเสียต่อสภา จึงอยากให้ประธานสภาช่วยตรวจสอบด้วย ขณะที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ชี้แจงว่า อาจจะเป็นการแทรกมาจากวงจรภายนอก ซึ่งสภายังไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์ จากนั้นนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โต้แย้งว่า ขอให้ประธานได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบก่อน อย่าเพิ่งด่วนสรุป ซึ่งประธานก็ได้รับปากว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมอบหมายให้เลขาธิการ สภาฯ ไปดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ขณะที่รองเลขาธิการ สภาฯ ระบุว่า เบื้องต้นคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ไม่หวังดีแฮกเกอร์เข้ามาในระบบ นำภาพไม่เหมาะสมเข้ามาเพื่อต้องการสร้างความวุ่นวาย อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
วันที่ 18 เม.ย. เวลา 16.00 น. ที่ศาลา 11 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ได้มีพิธีอาบน้ำศพนางอำไพ ยอดบุตร อายุ 88 ปี มารดาอดีตพระเอกชื่อดัง อโนเชาว์ หรือเปี๊ยก ยอดบุตร ที่ประสบอุบัติเหตุนอนป่วยเป็นเจ้าชายนิทรามากว่า 28 ปี โดยนางอำไพเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เม.ย. เวลา 23.45 น. ที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวจากเซลล์มะเร็งที่ปอด มีกำหนดสวดพระอภิธรรม วันที่ 18-22 เม.ย. และมีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 23 เม.ย. เวลา 17.00 น.
น.อ.(หญิง) เอื้อมพร ยอดบุตร พี่สาวคนที่ 3 ของอโนเชาว์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ทุกคนในบ้านยังเสียใจ และบอกกับอโนเชาว์ว่า แม่ไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรับรู้ได้หรือไม่ บอกเขาว่าจะดูแลน้องอย่างดี จะไม่ทิ้งน้อง และแม่ป่วยป่วยเป็นโรคหัวใจมานับ 10 ปี ส่วนโรคมะเร็งเพิ่งมาพบช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาและเป็นระยะสุดท้ายแล้ว
“สำหรับการดูแลอโนเชาว์นั้นคิดว่าไม่ได้หนัก เพราะก่อนหน้านี้ต้องดูแลคนป่วยในบ้าน ถึง 3 คน คือ พ่อ ป่วยหลายโรคและเป็นอัลไซเมอร์ แม่เป็นโรคหัวใจและมะเร็ง และอโนเชาว์ นอนป่วยอยู่ในบ้าน ทำให้ช่วงนั้นจำเป็นต้องเออร์ลี่รีไทร์ เพื่อมาดูแลคนป่วยทั้ง 3 คน โชคดีที่มีน้องคนหนึ่งมาช่วยดูแลด้วย ตอนนี้การดูแลอโนเชาว์คงต้องแบ่งหน้าที่กันกับพี่น้องทุก ๆ คน ใครว่างก็มาช่วยกัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการดูแลเดือนละกว่า 4 หมื่นบาทมาจากเงินบำนาญ และเงินของพี่น้องส่งมาช่วยกัน รวมทั้งมีเงินจากคนบันเทิงคอยช่วยเหลือจัดสรรนำมาใช้อย่างประหยัด” พี่สาวอโนเชาว์ กล่าว
น.อ.(หญิง) เอื้อมพร กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่แม่เสียมีคนในวงการบันเทิงโทรศัพท์มาหาจำนวนมาก ทำให้ซึ้งใจและขอบคุณทุกคนมาก โดยเฉพาะคุณท็อป-บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และพี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา อยากบอกแม่ว่ายังรักแม่ แม่เป็นแม่ที่ประเสริฐทำทุกอย่างเพื่อลูก แม่ต่อสู้ทุกอย่าง เพื่อลูกทุกคนให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ตอนนี้แม่ประสบความสำเร็จ เพราะลูกหลานทุกคนมีหน้าที่การงานที่ดี เป็นคนดีของสังคมตามที่แม่ต้องการ
สำหรับบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีพวงหรีดจากคนในวงการมาส่งมาร่วมไว้อาลัยการจากไปของคุณแม่อำไพ อาทิ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์, ณเดชน์ คูกิมิยะ, คลื่นกรีนเวฟ 106.5 และมูลนิธินักแสดงอาวุโส.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012