ข่าว
เพื่อไทย ปัดเบี้ยวดีเบต ม.ศรีปทุม

วันที่ 21 ก.พ. ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตามที่องค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยและติดตามนโยบายภาครัฐ มหาวิทยาลัยศรีปุทม ได้จัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และได้วางตุ๊กตาเฟอร์บี้ไว้แทนตำแหน่งที่นั่งของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าที่ทำเช่นนั้นเพราะผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมเดินทางมาร่วมเวทีดีเบต ทั้ง ๆ ที่ เคยตอบตกลงไว้ก่อนแล้วนั้น

พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริงและไม่เป็นธรรมกับผู้สมัครของพรรค ทั้งนี้นาย ภูมิธรรม เวชยชัย ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ได้เคยตอบปฏิเสธคณะผู้จัดงานไปแล้วหลายครั้ง ว่าผู้สมัครของพรรคไม่สะดวกที่จะไปร่วมประชันวิสัยทัศน์ในวันและเวลาดังกล่าวได้ เนื่องจากในวันดังกล่าว พล.ต.อ.พงศพัศ มีคิวที่จะต้องไปพบกับคณะครู กทม.กว่า 1,000 คน ที่หอประชุมคุรุสภา ตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนถึง 14.00 น. จึงเกรงว่าจะไปร่วมงานไม่ทัน ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็รู้สึกเสียดาย เพราะเท่ากับว่า ผู้สมัครของพรรคก็จะเสียโอกาสในการนำเสนอนโยบายกับพี่น้องประชาชนไปอีก 1 เวที แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ผู้สมัครมีเวลาที่จำกัด คงไม่สามารถตอบรับคำเชิญของทุกฝ่ายที่แจ้งความต้องการเข้ามาที่พรรคได้

"ขอยืนยันว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ไม่ได้ผิดนัดกับคณะผู้จัดงานดีเบตอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย รู้สึกไม่สบายใจที่องค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ใช้ตัวการ์ตูนเฟอร์บี้มาทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นข่าว เพราะอาจทำให้สังคมเบื่อหน่ายการเลือกตั้ง ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง และอาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตยในเรื่องความเป็นกลาง เนื่องจาก ขณะนี้ เริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ องค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตยในทางที่เสียหาย โดยสงสัยว่า ที่สร้างประเด็นข่าวเช่นนี้ เพื่อหวังให้กระทบคะแนนของผู้สมัครเบอร์ใดเบอร์หนึ่งใช่หรือไม่ รวมทั้ง กระแสข่าว เรื่องที่ผู้จัดงานมีแนวคิดที่จะถ่ายทอดการดีเบตผ่านทางสถานีบลูสกายชาแนล ทั้ง ๆ ที่ อาจทำให้ผู้สมัครบางคนได้เปรียบ เป็นต้น ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยอยากเห็นบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และอยากเห็นทุกฝ่าย ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเหมาะสม" รองโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าว

'จูดี้'ชูนโยบายแก้หนี้ใน-นอกระบบ

วันที่ 21 ก.พ.56 เมื่อเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์และนโยบาย การประชุมโครงการ "ปฎิรูประบบการจัดสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร" ร่วมกับผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.อีกกว่า 10 คน โดยมีตัวแทนครูและบุคลากรครูภายใต้สังกัดกทม.สพฐ.กศน.ทั้ง 50 เขตร่วมรับฟังจำนวนมาก

ซึ่งตัวแทนครู เสนอให้มีการสร้างโรงพยาบาลในการดูแลครู การพิจารณาวิทยฐานะต่างๆของครูให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด โดยพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ตนมารับฟังปัญหาของครูและบุคลากรทางการศึกษา เพราะได้รับการร้องเรียนจากครูเรื่องปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบ จึงเห็นว่าเรื่องหนี้ครูเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข โดยมีแนวคิดปรับหลักเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะของครูและบุคลากร ประมาณ1,000 คน ให้ตรงกับหลักเกณฑ์และหลักสูตรในการสอนเพื่อปรับเงินวิทยฐานะให้ถึงขั้นสูงสุด ซึ่งขณะนี้มีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะเห็นว่าเงินเพิ่ม 3,000-9,000 บาทนั้น ที่จะเพิ่มขึ้นตามวิทยฐานะนั้นแม้จะไม่มากแต่จะช่วยแบ่งเบาภาระให้ครูได้ นอกจากนั้นยังมีแนวคิดจัดให้มีรถโรงเรียนรับ-ส่งครูเพื่อให้ความสะดวกสบายมากขึ้น รวมทั้งกองทุนครูเป็นทุนสำรองเพื่อให้ครูใช้จ่ายใกล้เกษียณและเรื่อจัดการหนี้ทั้งในและนอกระบบของครูอีกด้วย


ม.รามฯออกกฎเหล็ก ห้ามนำ"ดอกไม้-ของที่ระลึก"ร่วมยินดีบัณฑิตในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร

ตามที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง จะมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2554-2555 (รุ่นที่ 38) ระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม 2556 ที่อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราชนั้น

มหาวิทยาลัยขอแจ้งแนวปฏิบัติให้บัณฑิตทราบว่า ห้ามบัณฑิตติดดอกไม้หรือเครื่องประดับอื่นใดบนเสื้อครุยในวันพิธี รวมทั้งไม่อนุญาตให้นำดอกไม้ หรือช่อดอกไม้ ของขวัญหรือ ของที่ระลึกต่างๆ มาแสดงความยินดีกับบัณฑิตภายในบริเวณมหาวิทยาลัยในวันพิธีด้วย หากญาติบัณฑิตจะนำสิ่งของมาแสดงความยินดีกับบัณฑิต ให้นำมาในวันฝึกซ้อมเท่านั้น

“บิ๊กบัง” แนะดึงผู้นำศาสนาช่วยดับไฟใต้

วันที่ 21 ก.พ. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้พิจารณาถึงบประมาณในส่วนของการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณพ.ศ.2556 ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ได้ชี้แจงถึงรายละเอียดของงบประมาณที่ได้รับเพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างปี 55-57 มีวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 13,186.8363 ล้านบาท จำแนกใน7หน่วยงาน พร้อมระบุว่า สถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ยังมีความรุนแรงเป็นระยะๆ แต่พื้นที่การใช้ความรุนแรงมีขอบเขตที่แคบลง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในตัวเมือง สถานที่สาธารณะ และเส้นทางคมนาคม ส่วนเป้าหมายการก่อการร้ายมุ่งไปที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ที่ทำงานให้กับรัฐ ทั้งนี้ สถานการณ์ความไม่สงบยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเป็นช่องว่างในการสร้างผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ประชาชนในพื้นที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในทุกระดับต่างสนับสนุนและต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพูดคุยเพื่อนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ทั้งนี้ แม้ว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมาจะยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ทาง ศอ.บต. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ผลักดันงานพัฒนาให้เดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง

ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าไม่สามารถคุมคนได้ ก็ไม่มีทางชนะซึ่งเป็นหลักสูตรที่เหมาเจ๋อตุงเขียนไว้ ดังนั้นจึงต้องคุมคนให้ได้ โดยวิธีการคือทำอย่างไรให้ตัวเลขของคน 2 สัญชาติที่ไม่ทราบถึงการเคลื่อนไหวของบุคคลเหล่านี้เลยว่าเดินทางไปประเทศที่ 3 โดยผ่านประเทศมาเลเซียได้อย่างไรให้กลับมาอยู่ที่เจ้าหน้าที่ให้ได้ ซึ่งควรมอบหมายภารกิจให้กับผู้นำศาสนาต่างๆ ก็อยู่ในมือศอ.บต.ทั้งหมดอยู่แล้ว โดย ศอ.บต.ต้องคุมคนให้อยู่ ด้วยมาตรการทางการปกครองทุกทาง โดยใช้โครงสร้างการปกครองที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองท้องที่ ท้องถิ่น อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนา ซึ่งถ้าสามารถคุมคนได้จะทำให้การเคลื่อนไหวของเยาวชนชะงักลง ถือเป็นทฤษฎีทางการทหารที่เป็นการเมือง โดยใช้การเมืองให้มากแต่ขอให้มีเทคนิคและเทคติค จะทำให้ชนะได้โดยไม่ต้องรบ

พล.อ.สนธิกล่าวต่อว่า เรื่องที่เป็นอุปสรรค จะเห็นว่าเยาวชนมุ่งไปที่ศาสนาเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นความเชื่อ เนื่องจากศาสนาอิสลามความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ศาสนาเป็นภาระของพ่อแม่ ดังนั้นควรจัดระบบความคิดให้กลับมาคุยกันในโลกของความเป็นจริง และที่สำคัญควรใช้โครงการของผู้หญิงในการนำและมาทำงานแก้ปัญหาให้มากขึ้น เพราะผู้หญิงจะเป็นคนจัดระเบียบภายใน ครอบครัวทั้งหมดมากกว่าผู้ชาย นอกจากนี้ปัจจุบันค่านิยมเรื่องวุฒิปริญญาตรีมีมาก เพราะฉะนั้นจะต้องผลักดันให้การเรียนสายวิชาชีพให้ได้วุฒิการศึกษาปริญญาตรี เพื่อเพิ่มศักดิ์ศรี โดยศอ.บต.ต้องเข้าไปผลักดันในเรื่องนี้ และสุดท้าย ให้มหาวิทยาลัยมีทุนเรียนฟรีและหาเยาวชนจากในพื้นที่เข้าไปเรียนในระดับ ปริญญาตรี โดยดึงออกไปจากนอกพื้นที่เพื่อไปแลกเปลี่ยนทัศนคติ แนวการเชื่อ และการมองเห็นภาพของสังคม เมื่อเปลี่ยนทัศนคติแล้วเมื่อกลับไปในพื้นที่