ข่าว
"รบ.พม่า"จ่อปรับรัฐมนตรี"สายแข็งกร้าว"ออก 3 คน

แหล่งข่าวในรัฐสภาพม่าเผยว่า ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง เตรียมปรับคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งรองประธานาธิบดีคนใหม่ โดยจะปรับผู้ต่อต้านการปฏิรูปจำนวนหนึ่งออกจากคณะรัฐมนตรี และเร่งปฏิรูปประเทศ

รายงานข่าวระบุว่า คาดมีรัฐมนตรีอาวุโสถูกปรับออก 3 คน แล้วแทนที่ด้วยผู้มีแนวคิดสายกลางมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลพม่ารายหนึ่งกล่าวว่า บุคคลทั้งหมดเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นผู้ต่อต้านการปฏิรูป ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง จำเป็นต้องทำให้คณะรัฐมนตรี 37 คนมีประสิทธิภาพและปลดคนที่ไม่ยอมรับการปฏิรูปของเขา การปรับคณะรัฐมนตรีนี้จะมีขึ้นในการประชุมรัฐสภาที่เปิดสมัยประชุมในวันนี้ รัฐมนตรีสายแข็งกร้าวบางคนอาจถูกลดบทบาทหรือได้รับหน้าที่ใหม่

นอกจากนี้ ที่ประชุมร่วมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพม่าจะให้ความเห็นชอบการลาออกของนายติน อ่อง มินท์ อู รองประธานาธิบดีคนแรก และฮลา มินท์ อู ส.ส.พรรคยูเอสดีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล

นายติน อ่อง มินท์ อู วัย 61 ปี ใกล้ชิดกับ พล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย อดีตผู้นำรัฐบาลทหารพม่า และเป็นแกนนำรัฐมนตรีสายแข็งกร้าว เขาหายหน้าไปพักหนึ่งและไปบวชเมื่อเดือนพฤษภาคม จุดกระแสข่าวลือว่าเตรียมลาออก แหล่งข่าวเผยว่า เขาได้ยื่นลาออกตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม แต่ประธานาธิบดีไม่อนุมัติ และให้ลาพักเป็นเวลา 2 เดือนแทน โดยรองประธานาธิบดีคนใหม่จะถูกคัดเลือกโดยบุคคลากรในกองทัพ ที่รั้ง 1 ใน 4 ของที่นั่งในรัฐสภาของพม่า ภายในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ก่อนที่จะได้รับความเห็นชอบอย่างเป็นทางการอีกครั้งโดยคณะรัฐมนตรี

สหรัฐปรับบ.ยา"แกล็กโซสมิทไคลน์"3 พันล้าน"

แกล็กโซสมิทไคลน์(จีเอสเค) บริษัทยาชั้นนำของสหรัฐฯ ถูกศาลสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 93,000 ล้านบาท) ในคดีการฉ้อโกงด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

จีเอสเคยอมรับว่าได้นำยาสองตัวที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติออกทำการตลาด และละเลยการทำรายงานข้อมูลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับยารักษาโรคเบาหวานแก่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) โดยข้อตกลงทั้งหมดจะครอบคลุมค่าปรับและข้อตกลงอื่นๆกับรัฐบาลกลางและหน่วยงานของรัฐ

จีเอสเค หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตยาชั้นนำของโลก ออกมายอมรับว่า ได้ทำการส่งเสริมการขายยาต้านอาการเศร้าซึม ยี่ห้อ "แพ็กซิล" และ "เวลบูทริน" โดยยังไม่ผ่านการอนุญาตให้ใช้ ซึ่งรวมถึงการรักษาในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายที่เรียกว่า การให้ใช้ยานอกเหนือจากที่ได้รับอนุมัติในฉลากยา

นอกจากนั้นบริษัทยังถูกตั้งข้อหาว่าปกปิดข้อมูลและอ้างข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ไม่มีข้อสนับสนุนขอยารักษาโรคเบาหวานยี่ห้อ "อาแวนเดีย" และพบว่ามีความผิดในข้อหาติดสินบนแพทย์

เจ้าหน้าที่อัยการกล่าวว่า การติดสินบนแพทย์เพื่อหวังผลทางการขาย มีตั้งแต่การให้ตั๋วเดินทางพักผ่อนไปยังฮาวาย การให้เงินหลายล้านดอลลาร์เป็นค่าจ้างเพื่อให้ออกเดินทางไปโฆษณาสินค้าตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งรวมถึงการให้ตั๋วคอนเสิร์ตของมาดอนน่า

โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลง จีเอสเค ยินดีที่จะอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างใกล้ชิดจากรัฐบาลเป็นเวลา 5 ปี และกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า จะจ่ายเงินค่าปรับทั้งหมดผ่านแหล่งเงินทุนที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ขณะที่นายพอล วิตตี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอสเค ออกมาขอโทษต่อกรณีดังกล่าว และทราบดีถึงความผิดที่เกิดขึ้น เมื่อถึงเวลา จะมีการปลดพนักงานที่เกี่ยวข้องออกทั้งหมด


ซินเจียงฆ่าไก่นับแสน หลังพบไข้หวัดนก

ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรจีน แถลงว่า ทางการเขตปกครองตนเองซินเจียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ได้ฆ่าไก่ไปแล้วกว่า 150,000 ตัว หลังพบการระบาดของไข้หวัดนก

กระทรวงเกษตรจีนออกแถลงการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า การระบาดของเชื้อไวรัส เอช 5 เอ็น 1 ทำให้ไก่ตายไปแล้ว 1,600 ตัว และล้มป่วยอีก 5,500 ตัว ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาด ทางการเกษตรจึงได้ออกคำสั่งกักกันและฆ่าไก่ 156,439 ตัว รายงานระบุว่า การระบาดเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่เพิ่งมีการยืนยันว่า เป็นเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุว่าการระบาดเกิดขึ้นในพื้นที่ใดของซินเจียง เพียงแต่ระบุว่า เกิดในฟาร์มแห่งหนึ่งของบริษัทผลิตและก่อสร้างซินเจียง ซึ่งสื่อระบุเป็นองค์กรกึ่งทางการ

จีนนับเป็นหนึ่งในบรรดาประเทศที่เสี่ยงต่อการเผชิญการระบาดของไข้หวัดนก เนื่องจากมีประชากรสัตว์ปีกมากที่สุดในโลก และการเลี้ยงในชนบทส่วนใหญ่เลี้ยงใกล้ชิดกับมนุษย์

ส่วนที่ญี่ปุ่น ผู้นิยมรับประทานตับวัวดิบในญี่ปุ่นพากันเสียดายเมื่อกระทรวงสาธารณสุขสั่งห้ามร้านอาหารเสิร์ฟเมนูตับดิบอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากเมื่อปีก่อนมีผู้เสียชีวิต 5 คน และป่วยหนัก 24 คน เพราะรับประทานตับดิบที่ร้านอาหารใหญ่แห่งหนึ่ง ส่งผลให้ลูกค้าหลายคนรีบไปรับประทานตับวัวดิบที่ร้านอาหารคินตัน ในกรุงโตเกียว ก่อนคำสั่งมีผล

"นาซ่า" เปิดภาพ"พลุอวกาศ"ก่อนฉลองวันชาติสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐ หรือนาซา ได้เปิดเผยภาพที่บันทึกได้จากกล้องโทรทัศน์อวกาศ"ฮับเบิล"แสดงให้เห็นภาพการกำเนิดดาวดวงใหม่ในจักรวาล โดยเป็นการก่อตัวของก๊าซหลากสี คล้ายพลุในอวกาศ โดยปรากฎการณ์นี้จะเกิดชึ้นในช่วงเริ่มกำเนิดดวงดาว และปกติแล้วจะใช้เวลากว่า 1 แสนปีกว่าจะหมดลง โดยเจ้าหน้าที่นาซาเปิดเผยว่า แม้ว่ากลุ่มก๊าซดังกล่าวจะดูเหมือนกลุ่มก๊าซบาง ๆ แต่มันมีความหนามากกว่าควันของพลุในวันฉลองวันชาติสหรัฐนับพันล้านเท่า

ทั้งนี้ สำหรับกล้องโทรทัศน์ฮับเบิลได้ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศตั้งแต่ปี 1990 โดยเป็นปฎิบัติการร่วมระหว่างองค์การนาซาและหน่วยงานอวกาศของยุโรป


ชาวรัสเซีย135ชีวิต ร่วมกระโดดหมู่"บันจี้ จัมพ์"หวังสร้างสถิติโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ว่า ชาวรัสเซียจำนวน 135 ราย ได้ร่วมกระโดดหมู่ บันจี้ จัมพ์จากสะพานแห่งหนึ่ง เพื่อพยายามจะทำลายสถิติโลก ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ใด และต้องการลบสถิติใด แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังมีชาวรัสเซียผู้ชอบความตื่นเต้นได้ร่วมกันกระโดดบันจี้ จัมพ์ จากตึกสูง โดยไม่มีเครื่องป้องกันใด ๆ

รายงานระบุว่า ในรัสเซียกำลังเป็นที่นิยมเชือกรัดกระโดดลงสู่พสุธาทำเอง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยกระโดดบันจี้ จัมพ์ ในยุคใหม่ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1979 จากกลุ่มสมาชิกชมรม"กีฬาอันตราย"ของมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด ที่ได้กระโดดจากสะพานแขวนสูง 250 ฟุต ในเมืองบริสตอล ก่อนที่จะถูกตำรวจจับ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสเดินตามรอย โดยมีการกระโดดหมู่บันจี้ จัมพ์ ที่สะพานโกลเด้น เกท และสะพานรอยัล จอร์จ ส่วนสะพานพาณิชย์สูงที่สุดของโลกที่สร้างสำหรับการกระโดดบันจี้ จัมพ์ คือที่สะพาน คลูกราน ในแอฟริกา