ข่าว
จำคุกแฝดทำร้าย "วรเจตน์" พี่ 10 เดือน น้อง 3 เดือน

เวลา 10.00 น. วันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ที่สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ รองผกก.สส.สน.ชนะสงคราม นัดนายสุพจน์ ศิลารัตน์ และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ สองผู้ต้องหา คดีร่วมกันทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำนักวิชาการนิติราษฎร์ โดยทางเจ้าหน้าที่นำตัวทั้ง 2 คน ขึ้นรถกระบะของสน.ชนะสงคราม ไปที่ศาลแขวงดุสิต เพื่อให้ศาลพิจารณาคดี

ส่วนกรณีมีข่าวว่า ทั้ง 2 มีใบอนุญาตครอบครอง อาวุธปืน รวม 3 กระบอก หรือ ใบ "ป4" นั้น โดยทั้งคู่กล่าวอ้างว่า เป็น อาสาสมัคร ทหารพราน และมีบัตร อ.ส. ทพ.26 จ.บุรีรัมย์ และนำบัตรมายื่นขอครอบครองอาวุธปืน ที่อ.ธัญบุรี อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกับผบ.ทหารพราน 26 พบว่า ทั้ง 2ไม่มีชื่ออยู่ใน สารบบของ อส.ทพ.26 เสมือนเป็นการแจ้งเท็จกับเจ้าหน้าพนักงานนั้น ล่าสุด พ.ต.อ.จักรภพ สุคณธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าว สน.ชนะสงคราม คงไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีที่ทั้ง 2ฝาแฝดในเรื่องการปลอมเอกสารในการขอใบ ป4 เนื่องจากผู้เสียหาย คือ ทางอ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ ทาง 2 ฝาแฝด มายื่นเอกสาร เพื่อขอใบ ป 4 คงเป็นหน้าที่ของ ทางอ.ธัญบุรี เป็นผู้เข้าแจ้งความ ที่ สภ.อ.ที่เกิดเหตุ จุดที่ไปยื่นเรื่อง ขอใบ ป 4

ต่อมาที่ศาลแขวงดุสิต หลังจากนั้นพนักงานอัยการได้นำทั้งสองไปยื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1-2 ต่อศาลแขวงดุสิตในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย อัยการระบุในคำฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ.55 เวลากลางคืน จำเลยทั้งสองไปดักรอและรุมชกทำร้ายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ที่เรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 บริเวณโหนกแก้มขวา และหน้าผากได้รับบาดเจ็บก่อนหลบหนีไป ซึ่งเหตุเกิดบริเวณลานจอดรถหน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทั้งนี้ อัยการโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 และให้นับโทษต่อนายสุพจน์ จำเลยที่ 1 ในคดีแดง 1336/53 ของศาลอาญา ในคดีกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่ศาลรอการลงโทษไว้จำนวน 7 เดือนด้วย จำเลยรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้องจริง พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 6 เดือน คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยไว้คนละ 3 เดือนโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งในส่วนของนายสุพจน์ จำเลยที่ 1 ให้บวกโทษคดีกระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน คดีแดง 1336/53 ของศาลอาญาที่รอการลงโทษไว้ 7 เดือน รวมจำคุกนายสุพจน์ไว้ 10 เดือน

ต่อมาญาติของทั้งสองได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 50,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล

ในหลวงมีพระราชดำรัส ให้ผู้พิพากษาเสียสละเพื่อปชช.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส แก่ผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรมที่เข้าถวายสัตย์ ในการยึดมั่นคำปฏิญาณ และเสียสละในหน้าที่ เพื่อให้ประชาชน และประเทศชาติสงบสุข...

เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 9 มี.ค.2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัส แก่ผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรม โดยทรงเน้นย้ำให้ผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรม รักษาและยึดมั่นในคำปฏิญาณอย่างเคร่งครัดทั้งในศาล และนอกศาล ซึ่งจะช่วยประเทศชาติ และประชาชนประสบแต่ความสงบสุข

“ผู้ที่เข้าปฏิบัติงานในศาลยุติธรรม มีความสำคัญมากสำหรับประเทศชาติ เพราะว่า ประชาชน จะหวังในความยุติธรรมของผู้พิพากษานั่นเอง ในประเทศก็ต้องมีปัญหาอยู่เสมอ ก็ต้องมีคนที่มีความยุติธรรมปฏิบัติอยู่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอยู่เสมอ ถ้าประชาชนสามารถที่จะมีความหวัง มีความไว้ใจใน ผู้พิพากษาได้ ประเทศชาติก็จะมีความสงบสุขมากขึ้น ฉะนั้น ท่านก็มีหน้าที่ที่สำคัญ จะต้องเสียสละในหน้าที่อย่างยิ่ง ถ้าท่าน ปฏิบัติตามที่ปฏิญาณก็จะสามารถที่จะช่วยประเทศให้มีความสงบสุขได้อย่างดี ฉะนั้นท่านก็จะต้องรักษาคำปฏิญาณนี้อย่างเคร่งครัดตลอดชีวิต เพราะว่า เป็นบุคคลสำคัญในประเทศ ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณอย่างเคร่งครัด เท่ากับได้ช่วยให้ประเทศมีความสงบสุข มีความยุติธรรมโดยแท้ ตลอดไป ขอให้ท่านปฏิบัติงานด้วยความเคร่งครัด เป็นเวลาตลอดชีวิต เพื่อที่จะรักษาความยุติธรรม ในประเทศ ทั้งในหน้าที่การงาน ในศาล ทั้งในตลอดเวลา ทั้งในศาล ทั้งนอกศาล ก็นับว่าท่านได้ช่วยประเทศให้อยู่เย็นเป็นสุข”

ศิลปินดังแดนผู้ดีสวมเสื้อยืดด่า "เราเกลียดเจ้าชายวิลเลี่ยม-เคท"

"มอริสเซย์" นักร้อง-นักแต่งเพลงรุ่นเดอะชื่อดังของอังกฤษ แสดงจุดยืนสวมเสื้อยืดมีข้อความว่า "เราเกลียด (เจ้าชาย) วิลเลี่ยม และเคท" ต่อหน้าแฟน ๆ ระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตที่อาร์เจนติน่า ที่มีแฟน ๆ มาร่วมฟังกว่า 15,000 คน โดยเจ้าตัวประกาศยืนกรานว่า เขาเชื่อมั่นว่า เกาะฟอล์คแลนด์ซึ่งเป็นเกาะพิพาทระหว่างอังกฤษและอาร์เจนติน่า เป็นของอาร์เจนติน่า ไม่ใช่ของอังกฤษ และว่า กรณีพิพาทนี้ ชาวอาร์เจนติน่าไม่ควรโทษหรือโจมตีชาวอังกฤษ เพราะเรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลเมืองผู้ดี ซึ่งไม่เคยฟังเสียงประชาชน และความเจ็บปวดของผู้คน

มอริสเซย์กลายเป็นศิลปินรายล่าสุดที่แสดงจุดยืนต่อต้านการอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะฟอล์คแลนด์ของอังกฤษ โดยก่อนหน้านี้ โรเจอร์ วอเตอร์ส แห่งวงร็อคระดับตำนาน "พิงค์ ฟลอยด์" ได้เรียกร้องให้อังกฤษถอนการประจำการทหารบนเกาะฟอล์คแลนด์ด้วย นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว ฌอน เพนน์ ดารานักกิจกรรมสังคมชื่อดังฮอลลีวูด ยังโจมตีท่าทีของอังกฤษต่อเกาะฟอล์คแลนด์อย่างรุนแรงว่า เป็นสิ่งที่แสดงความเป็นประเทศล่าอาณานิคม อันน่าเย้ยหยัน และล้าหลังตกยุคไปแล้ว

ทั้งนี้ ความขัดแย้งเหนือหมู่เกาะดังกล่าวได้ระอุขึ้นรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่สงครามเกาะฟอล์คแลนด์ โดยเจ้าชายวิลเลี่ยมได้เสร็จเยือนเกาะแห่งนี้ สร้างกระแสไม่พอใจให้แก่ทางการอาร์เจนติน่าอย่างหนัก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางการอังกฤษได้โจมตีอาร์เจนติน่าว่าใช้นโยบายเผชิญหน้า และเรียกทูตฯ มาตำหนิ หลังจากอาร์เจนติน่าได้ขู่ที่จะห้ามนำเข้าสินค้าจากอังกฤษ