ข่าว
'สถานทูตไทย'ส่งสารแสดงความเสียใจ หลังเกิดเหตุไฟไหม้วัดไทยในนิวยอร์ก พระ-คนไทยดับ

14 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Thanat Inthisan” โพสต์แจ้งข่าวน่าเศร้าว่า “เกิดเหตุเพลิงไหม้วัดอุษาพฤฒยาราม วัดไทยในมหานครนิวยอร์กเมื่อเช้ามืดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 (ตามเวลาท้องถิ่น)” พร้อมกันนั้นยังได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ไฟไหม้ ซึ่งในคลิปจะเก็นได้ว่าเพลิงมีลักษณะโหมลุกไหม้ตัวอาคารของวัดอุษาพฤฒยารามอย่างรุนแรง ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นและมีหิมะตกโดยรอบ

ขณะที่เฟซบุ๊ก “วัดอุษาพุฒยาราม” โพสต์ข้อความแจ้งว่า เบื้องต้น พระปฏิบัติศาสนกิจ ประจำวัด พระธรรมทูตปฏิบัติศาสนากิจ 4 รูป ปลอดภัย

1. พระยุทธ จกฺกวโร (พะวงษ์) (พธบ.24 ) ปลอดภัย

2. พระมานพ ศรีสวัสดิ์ (พธบ.30 ) สูดควันเข้าไปเยอะ นำส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว

3. พระจิตรจา คุณกโร (ปะนะจิตต์ ) ปลอดภัย

4. Wade Bhuripanyo. (อาคันตุกะ) ชาวอเมริกา ปลอดภัย

5.พระมหาดิเรก ชมภูนิด (เสียชีวิต )

6. นายพัด ยังไม่ทราบ ชื่อ - จริง นามสกุล กำลังสืบค้น ชื่อ - สกุลจริง (เสียชีวิต)

ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เขตบรองซ์ นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ส่งผลให้พระมหาดิเรก ชมภูนิตย์ มรณภาพ นายธนภัทร ชนะรัตน์ เสียชีวิต และภิกษุอีก ๑ รูป ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทรัพย์สินของวัดฯ ได้รับความเสียหาย นั้น

เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทีมประเทศไทย ประจำกรุงวอชิงตัน รู้สึกเศร้าสลดใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของพระมหาดิเรกฯ และของนายธนภัทรฯ มา ณ ที่นี้ ขณะเดียวกัน ขอส่งกำลังใจไปยังคณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ของวัดฯ ทุกรูปและทุกคน ให้มีกำลังกายและใจในการฟื้นฟูวัดฯ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอขอบคุณสถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ตลอดจนคณะสงฆ์วัดวชิรธรรมปทีป เขต Mount Vernon นครนิวยอร์ก และสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งชุมชนชาวไทย ณ นครนิวยอร์ก และพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างรอบด้านเป็นการเร่งด่วน

แอปสโตร์แอปเปิล-กูเกิล เปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ดาวน์โหลด TikTok ได้อีกครั้ง

TikTok กลับมาให้ดาวน์โหลดในแอปสโตร์ ของแอปเปิล และกูเกิล อีกครั้งในสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เลื่อนการแบนแอปโซเชียลมีเดียของจีนออกไป และให้คำมั่นกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีนว่าจะไม่โดนปรับเงินจากการที่ยังไม่ถอนแอปฯ ออกจากสมาร์ทโฟน

TikTok กลับมาให้ดาวน์โหลดในแอปสโตร์ ของแอปเปิล และกูเกิล อีกครั้งในสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เลื่อนการแบนแอปโซเชียลมีเดียของจีนออกไป และให้คำมั่นกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีนว่าจะไม่โดนปรับเงินจากการที่ยังไม่ถอนแอปฯ ออกจากสมาร์ทโฟน

แอปวิดีโอสั้นยอดนิยมซึ่งชาวอเมริกันเกือบครึ่งหนึ่งใช้ ปิดตัวลงชั่วคราวเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม ซึ่งกำหนดให้ ไบต์แดนซ์ บรษัทเจ้าของจากจีนต้องขายแอปด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ มิฉะนั้นจะถูกแบน

วันรุ่งขึ้น ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเลื่อนการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวออกไป 75 วัน โดยอนุญาตให้ TikTok ดำเนินการในสหรัฐฯ ต่อไปได้ชั่วคราว แม้ว่า TikTok จะกลับมาให้บริการอีกครั้งหลังจากคำมั่นของทรัมป์ แต่กูเกิลและแอปเปิลยังคงลบแอปดังกล่าวออกจาก App Store ของตนในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ผู้ใช้รายใหม่ สามารถดาวน์โหลด TikTok ซึ่งเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดเป็นอันดับสองในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว จากแอปสโตร์ของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความล่าช้าดังกล่าวอาจเป็นเพราะกูเกิลและแอปเปิลกำลังรอคำรับรองว่าจะไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาไม่ถอนหรือเผยแพร่แอปดังกล่าวจากสมาร์ทโฟน

คำสั่งของทรัมป์ระบุว่าบริษัทต่างๆ ซึ่งบริหารร้านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือหรือตลาดดิจิทัล ที่ผู้ใช้สามารถเรียกดู ดาวน์โหลด และอัปเดตแอป จะไม่ต้องเผชิญกับบทลงโทษหากปล่อยให้แอป TikTok ทำงานได้

ตามข้อมูลของบริษัท Sensor Tower ซึ่งเป็นบริษัทด้านข่าวกรองตลาด ระบุว่า TikTok มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 52 ล้านครั้งในปี 2024 โดย 52% ของยอดดาวน์โหลดทั้งหมดมาจากแอปสโตร์ของแอปเปิล ในขณะที่ 48% มาจากกูเกิล เพลย์ ในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว

กฎหมายที่กำหนดให้ไบต์แดนซ์ต้องขายทรัพย์สินของ TikTok ในสหรัฐฯ มิฉะนั้นจะถูกแบนในที่สุด ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อเดือนเดือนเมษายน 2024 ซึ่งเกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติและความกลัวว่าจีนอาจใช้แอปแชร์วิดีโอเพื่อสอดส่องผู้ใช้ในสหรัฐฯ

สหรัฐฯ ไม่เคยแบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักๆ และกฎหมายที่ผ่านเมื่อปีที่แล้วให้อำนาจรัฐบาลทรัมป์ในการแบนหรือขอให้ขายแอปอื่นๆ ที่เป็นของจีน ทรัมป์กล่าวเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่ากำหนดเวลา 75 วันของเขาใน TikTok อาจขยายออกไปได้ แต่เขากล่าวว่าไม่คิดว่าจะจำเป็น.

ที่มา Reuters


โป๊ปฟรานซิสเสด็จฯประทับโรงพยาบาล เพื่อรักษาหลอดพระวาโยอักเสบ...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวาติกันซิตี นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ว่าสันตะสำนักออกแถลงการณ์ ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก พระชันษา 88 ปี เสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม เพื่อให้คณะแพทย์ถวายการรักษาพระอาการประชวรจากโรคหลอดพระวาโยอักเสบ...

ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเคยเข้ารับการผ่าตัดเมื่อครั้งยังทรงเป็นวัยรุ่น ซึ่งเป็นการที่แพทย์เฉือนเนื้อปอดบางส่วนออก

ขณะที่การเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาล ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เกิดขึ้นหลังพระองค์ทรงมีปัญหากับการหายพระทัย มานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว และพระองค์ทรงเคยประทับที่โรงพยาบาล เพื่อให้คณะแพทย์ถวายการรักษาพระอาการประชวรจากโรคหลอดพระวาโยอักเสบมาแล้ว เมื่อเดือน มี.ค. 2566....

เครดิตภาพ : AFP...


เซเลนสกี “เมินดีล” ถ้าไม่ได้ร่วมโต๊ะเจรจา ทรัมป์ชวนรัสเซีย-ยูเครน “ถกหย่าศึก”

เซเลนสกี “เมินดีล” – บีบีซี รายงานวันที่ 14 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่ายูเครนจะไม่เห็นชอบกับข้อตกลงสันติภาพใดๆ ที่สหรัฐอเมริกาและรัสเซียเสนอ หากยูเครนไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยว่าโทรศัพท์หารือประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่าจะเริ่มการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนซึ่งนายทรัมป์ระบุว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะยุติความขัดแย้งดังกล่าว

พร้อมเสริมว่าผู้แทนรัฐบาลรัสเซียจะพบปะกับคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐที่การประชุมความมั่นคงมิวนิก ประเทศเยอรมนี ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น “รัสเซียจะไปที่นั่นพร้อมกับคนของเรา” นายทรัมป์กล่าวและว่ายูเครนได้รับเชิญด้วย “ผมอยากให้พวกเขา (รัสเซีย) กลับมา ผมคิดว่าการโยนพวกเขาออกไปเป็นความผิดพลาด นี่ไม่ใช่คำถามว่าชอบรัสเซียหรือไม่”

ต่อมานายทรัมป์กล่าวว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐ รัสเซีย และยูเครนจะพบกันในการประชุมความมั่นคงมิวนิกเพื่อหารือถึงแนวทางการยุติสงคราม

ด้าน นายดมิโทร ลิตวิน ที่ปรึกษาของนายเซเลนสกี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าไม่น่าจะมีการเจรจากับรัสเซียในการประชุมที่นครมิวนิก แต่นายเซเลนสกีเดินทางไปเยอรมนีเพื่อหารือกับ นายเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ

ก่อนหน้านี้นายเซเลนสกีซึ่งโทรศัพท์พูดคุยกับนายทรัมป์เป็นการส่วนตัวเมื่อวันพุธที่ 12 ก.พ. กล่าวว่ายูเครนจะไม่ยอมรับข้อตกลงใดๆ ที่ทำโดยไม่มียูเครน

และย้ำด้วยว่าชาติยุโรปจำเป็นต้องเข้าร่วมโต๊ะเจรจาเช่นกัน ลำดับ ความสำคัญในมุมมองของตนคือการรับประกันความปลอดภัยซึ่งไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ

นายเซเลนสกียังกล่าวอีกว่าการเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ของยูเครนจะเป็นทางเลือกที่ “คุ้มทุนที่สุด” สำหรับชาติพันธมิตร “ผมขอเตือนบรรดาผู้นำโลกไม่ให้ไว้วางใจคำกล่าวอ้างของนายปูตินที่ว่าพร้อมที่จะยุติสงคราม” นายเซเลนสกีย้ำ

ขณะเดียวกันหลายประเทศพันธมิตรในยุโรปของยูเครนยังปฏิเสธการเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะนำไปสู่ข้อตกลงหย่าศึกในยูเครน นายจอห์น ฮีลีย์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ กล่าวว่าไม่สามารถเจรจาเกี่ยวกับยูเครนได้หากไม่มียูเครนและเสียงของยูเครนต้องเป็นหัวใจของการเจรจาใดๆ ก็ตาม

ส่วนนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ผู้นำเยอรมนี ปฏิเสธสันติภาพจากการบงการ และนางคาจา คัลลาส หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวหาว่าสหรัฐประนีประนอมกับรัสเซีย “เราไม่ควรละทิ้งก่อนที่การเจรจาจะเริ่มต้นด้วยซ้ำเพราะนั่นเป็นการเล่นตามกติกาของรัสเซียและเป็นสิ่งที่รัสเซียต้องการ

ระทึก! ชายชาวอัฟกันขับรถพุ่งชนคนในมิวนิค เจ็บระนาว28รายหนึ่งในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย

14 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุรถมินิ คูเปอร์ พุ่งชนฝูงชนที่กำลังชุมนุมประท้วงในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 20 ราย บางรายอาการสาหัสในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นบนถนนในย่านสตราสเซอ ในนครมิวนิก ผู้ต้องสงสัยขับรถยนต์มินิสีขาวพุ่งชนผู้คนจำนวนมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 28 คน ในจำนวนนี้มีเด็กๆ รวมอยู่ด้วยและหลายคนอาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล

ส่วนรถยนต์คันที่พุ่งชนผู้คนได้รับความเสียหาย ผู้ขับขี่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเอาไว้ได้แล้ว โดยมีการยิงปืนเข้าใส่รถยนต์คันนี้ 1 นัด เพื่อหยุดรถหลังจากผู้ต้องสงสัยเร่งเครื่องรถยนต์พุ่งชนกลุ่มสมาชิกสหภาพแรงงานด้านการขนส่ง ที่กำลังรวมตัวชุมนุมประท้วงในพื้นที่ดังกล่าว

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ ฟาร์ฮัด วัย 24 ปี เป็นชาวอัฟกันที่เดินทางเข้ามาเยอรมนีตั้งแต่ปี 2016 เคยยื่นเรื่องขออพยพเข้าประเทศอย่างถูกกฎหมายแต่ถูกปฏิเสธ ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการถูกผลักดันออกนอกประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนด้านต่อต้านการก่อการร้ายกำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ หลังจากพบเบาะแสผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ต้องสงสัย ว่าอาจมีแนวคิดสนับสนุนการก่อการร้าย

นครมิวนิกเตรียมจัดการประชุมด้านความมั่นคงครั้งสำคัญในวันนี้ ซึ่งรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐรวมถึงผู้นำยูเครนจะเข้าร่วมประชุม เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหน้าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จะเดินทางถึงมิวนิกไม่ถึง 1 ชั่วโมง อีกทั้งที่เกิดเหตุ ยังอยู่ห่างจากสถานที่จัดประชุมเพียง 1.5 กิโลเมตร แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เหตุการณ์นี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกับการประชุมดังกล่าว ขณะที่ทั่วเยอรมนีมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในช่วงนี้ เนื่องจากกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมนีในอีก 10 วันข้างหน้า

ด้าน นายดีเตอร์ รีเตอร์ นายกเทศมนตรี เมืองมิวนิค บอกกับสำนักข่าว BILD สื่อเยอรมนีว่า "หัวหน้าตำรวจเพิ่งแจ้งให้ผมทราบว่ามีรถคันหนึ่งขับพุ่งชนกลุ่มคน และผู้คนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเด็กๆ ด้วย ผมตกใจมาก ผมนั้นคิดถึงอยู่กับผู้บาดเจ็บ”