ข่าว
"ท่านมุ้ย" ล้มละลาย

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม 129 ตอน 58 ง ได้เผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ลูกหนี้ ศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ล. 14519/2550

หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เป็นพระโอรสในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา รู้จักกันในนามลำลองว่า ท่านมุ้ย ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้เขียนบท ผู้อำนวยการผลิตภาพยนตร์ ผลงานภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงได้แก่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (2550-2554) และอื่นๆ อีกหลายเรื่อง


รับ111จ่อปรับครม.5-7ตำแหน่ง

มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เเจ้งว่า อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่มาพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เเละคณะรัฐมนตรีบางส่วนที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเที่ยงวันที่ 6 มิ.ย.55 นั้น ทราบว่า บุคคลเหล่านี้ เป็นเเกนนำที่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เเละ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ความสำคัญในการทำงานทางการเมือง ของ ครม.ชุดนี้ รวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย

ทั้งนี้ บุคคลเหล่านี้ น่าจะมาสอบถามเนวทางการทำงานของรัฐบาล จากคีย์เเมนใน ครม. เพื่อวางเเนวทางการทำงานของรัฐบาล เเละพรรคเพื่อไทยต่อไป

รายงานระบุด้วยว่า กลุ่มคนที่เข้าร่วมหารือในครั้งนี้ ต่างก็เป็นเเคนดิเดตในการปรับ ครม.รอบหน้า ที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน-ปลายเดือนก.ค.55 โดยน่าจะปรับราว 5-7 ตำเเหน่ง รวมโควตาพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะมีการยื่นขอเสนอปรับด้วย อาทิ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เเละนายสนธยา คุณปลื้ม ที่จะกลับเข้ามาทำหน้าที่ใน ครม.

ส่วนครม.ของพรรคเพื่อไทยนั้น น่าจะโดนปรับออกไป 4-5 คน ตามสัญญาใจที่ให้กันไว้ว่า หากทำงานครบ 1 ปี น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสิทธิปรับออกตามผลงาน เเละคำสัญญา เพื่อเปิดทางให้บุคคลเหล่านี้ เข้ามาเป็นครม. เพื่อเสริมภาพลักษณ์ เเละปรับเเนวทางทำงานของรัฐบาล ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3 ชาติชี้รบ.สอบตกการเมือง

นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPURC) เปิดเผยผลการสำรวจทัศนคติของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทย จำนวน 128 คน เกี่ยวกับผลงานด้านเศรษฐกิจและการเมืองของรัฐบาลตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งจนถึงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยได้ทำการสำรวจในระหว่างวันที่ 20 พ.ค.-1 มิ.ย.55 ได้ผลดังนี้


ด้านเศรษฐกิจ ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 5.5 คะแนน
1.การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ได้ 5.9 คะแนน
2.การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้ 5.8 คะแนน
3.การเสริมสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ได้ 5.7 คะแนน
4.การควบคุมค่าครองชีพของประชาชน ได้ 5.5 คะแนน
5.ช่วยให้ธุรกิจในประเทศมีความพร้อมต่อการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน 5.4 คะแนน
6.ใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ 5.2 คะแนน
7. การควบคุมต้นทุนการผลิต ได้ 5.1 คะแนน

ด้านการเมือง ได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.5 คะแนน
1.ส่งเสริมความยุติธรรมและความเท่าเทียมกัน ได้ 4.9 คะแนน
2.ความโปร่งใสในกระบวนการกำหนดนโยบาย ได้ 4.6 คะแนน
3.รับฟังความคิดเห็นของภาคธุรกิจ ได้ 4.6 คะแนน
4.รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ได้ 4.3 คะแนน
5.สร้างบรรยากาศทางการเมืองที่ดี ได้ 4.2 คะแนน

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงปัญหาเร่งด่วนที่สุด ที่อยากจะให้รัฐบาลแก้ไข 38.6 % ระบุถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท 30.2 % ระบุถึงแผนการป้องกันน้ำท่วมที่ชัดเจนและเป็นระบบ 25.1% ระบุถึงการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และอีก 6.1 % ระบุถึงปัญหาอื่น ๆ เช่น การคอร์รัปชัน การประสานงานกันระหว่างกระทรวงต่างๆ เพื่อให้มีการสื่อสารนโยบายของรัฐบาลไปในทิศทางเดียวกัน เป็นต้น

นายเกียรติอนันต์ กล่าวว่า ความเห็นของนักธุรกิจต่างชาติเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ควรมองข้าม การที่คะแนนด้านเศรษฐกิจอยู่ในระดับแค่พอผ่าน คือสัญญาณเตือนรัฐบาลว่า จะต้องทุ่มเทกับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจให้จริงจังและเป็นระบบมากกว่านี้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา นโยบายของรัฐบาลส่วนใหญ่หากไม่เป็นการตอบสนองความต้องการในระยะสั้นของประชาชน ก็เป็นโครงการระยะยาวที่ยังไม่เห็นผลโดยเร็ววัน ยังไม่มีนโยบายทางเศรษฐกิจที่สามารถจะช่วยนักธุรกิจได้จริงในช่วงเวลาอันใกล้ ทำให้นักธุรกิจต้องเผชิญกับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ผลคะแนนจึงออกมาอย่างที่เห็น

ส่วนในด้านการเมือง ความเห็นที่แตกต่างกันของกลุ่มการเมืองกลุ่มต่างๆ และภาคประชาชน ได้กลายเป็นส่วนผสมอันตราย ที่พร้อมจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ หากรัฐบาลต้องการจะลดอุณภูมิทางการเมือง ก็ต้องแสดงให้เห็นว่า รับฟังเสียงของประชาชน และจัดลำดับความเร่งด่วนของการทำงานเสียใหม่ มุ่งแก้ปัญหาเร่งด่วนของประชาชนก่อน เพราะนั่นคือเหตุผลหลักที่ประชาชนลงคะแนนเลือกให้เข้ามาทำงาน


นายกฯ ประดับเครื่องยศตำรวจชั้นประทวน เลื่อนขั้น ด.ต.เป็น ร.ต.ต.

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมในพิธีประดับเครื่องยศแก่ตำรวจชั้นประทวนยศ ดาบตำรวจ (ด.ต.) อายุ 53 ปี ที่ได้เลื่อนยศเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ร.ต.ต. ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555

เด็กแม้วลอยลำนั่งผอ.กองสลากคนใหม่

วันที่ 6 มิ.ย. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสรรหา ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คนใหม่ แทน นายสมชาติ วงศ์วัฒนศานต์ ว่า ขณะนี้คณะกรรมสรรหา ผอ.กองสลากคนใหม่ ที่มี พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็นประธาน ได้มีมติเลือกพล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร รอง ผบก.ภ.4 อดีตตำรวจติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.กองสลากฯคนใหม่แล้ว โดยกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเรื่องการว่าจ้าง หากเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อใด จะนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป

มีรายงานว่า การก้าวขึ้นทำหน้าที่ ผอ.กองสลาก คนใหม่ ของ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ได้รับการจับตาเป็นอย่างมากว่า จะเข้ามาเพื่อผลักดันโครงการหวยออนไลน์ และดูแลรายได้ของกองสลากฯ สำหรับการนำไปใช้ในโครงการประชานิยมของรัฐบาล เช่นเดียวกับสมัยที่ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ ทำหน้าที่ ผอ.กองสลากฯ ในยุครัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี