8 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ ได้ออกมาอ้างการเปิดเผยจากแหล่งข่าวในรัฐบาลและนักการทูต 4 คน ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ร้องขอเป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชา ระหว่างที่นายทรัมป์ร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในช่วงปลายเดือนนี้
ชาติอาเซียนหวังจะใช้การประชุมสุดยอดซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม เพื่อเจรจาขอให้นายทรัมป์ผ่อนปรนมาตรการภาษีที่เข้มงวด ซึ่งสหรัฐฯ บังคับใช้กับประเทศคู่ค้าทั่วโลก ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา ในขณะที่นายทรัมป์ก็กำลังเดินหน้าแคมเปญการเป็น ผู้สร้างสันติภาพ เพื่อหวังจะได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
การปะทะตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชานาน 5 วันเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 ศพ ก่อนที่ทั้งสองประเทศจะตกลงที่จะเริ่มการเจรจาสันติภาพ หลังจากที่นายทรัมป์ขู่ว่าจะยกเลิกการเจรจาเรื่องภาษี หากไม่มีการหยุดยิง จนนำไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงในที่สุด แต่สถานการณ์ก็เริ่มกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวจากในรัฐบาลมาเลเซียและนักการทูตจำนวน 4 คนยืนยันว่า ทรัมป์ต้องการจัดพิธีพิเศษนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เพื่อตอกย้ำความเป็นเจ้าของการริเริ่มกระบวนการสันติภาพนี้ ซึ่งรวมถึงการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเมื่อ 7 ตุลาคม ซึ่งมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานอาเซียนเป็นตัวกลางเจรจา "ใช่แล้ว นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขามาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์" แหล่งข่าวรายหนึ่งผู้ไม่ขอเปิดเผยนาม กล่าวถึงการมาเยือนของทรัมป์
ทั้งนี้ ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามเดินหน้าแคมเปญเพื่อคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ โดยเขาอ้างว่าช่วยยุติสงครามและความขัดแย้งถึง 7 จุดทั่วโลกนับตั้งแต่กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม
ด้านเว็บไซต์ข่าวโพลิติโก ของสหรัฐฯ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวหลายคนเปิดเผยว่า การจัดพิธีลงนามคือหนึ่งในเงื่อนไขที่นายทรัมป์ตั้งไว้เพื่อแลกกับการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน นอกจากนั้น ผู้จัดการประชุมยังได้รับคำขอให้ตัดเจ้าหน้าที่จีนออกจากการประชุมด้วย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่า จะมีพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยกับกัมพูชาในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ โดยแหล่งข่าวคนหนึ่งยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่พิธีจะเกิดขึ้น แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในขั้นสุดท้าย นอกจากนั้น ยังต้องขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายไทยจะเห็นด้วยหรือไม่
นอกจากนายทรัมป์แล้ว คาดว่าจะมีบุคคลระดับสูงอีกหลายคนมาเข้าร่วมการประชุมอาเซียนในปีนี้ รวมถึง นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน, นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย, นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ประธานาธิบดีบราซิล และนายไซริล รามาฟอซา ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้
วันที่ 9 ต.ค.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ถนนสามเสนทรุด เขตดุสิต ในช่วงเช้าโดยกล่าวว่า วันนี้เคยเป็นวันที่มีกำหนดการเปิดใช้ถนนสามเสน แต่คาดว่าน่าจะขยายเวลาไปอีกนาน เพราะตอนนี้ รฟม. และผู้รับจ้าง มีการปรับเปลี่ยนแผน โดยต้องทำให้ดินเสถียรก่อน ตอนนี้กิจกรรมหลักคือการเจาะดินเพื่อดูชั้นดินด้านล่าง และมีการ Grout คือการเอาซีเมนต์เสริมลงไปเพื่อให้ดินแข็งแรง เมื่อมั่นคงมั่นใจแล้วจึงค่อยถมดินลงไปเพื่อไม่ให้มีการยุบตัวอีก พร้อมขั้นตอนทางเทคนิคอื่น ๆ ที่ทาง รฟม. และผู้รับจ้างดำเนินการอยู่
วันนี้พยากรณ์อากาศมีฝน 70% ของพื้นที่ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยกังวลเรื่องฝนมากนัก เนื่องจากคิดว่าดินมีความเสถียรมากขึ้น
ส่วนอาคาร สน.สามเสน ยังคงมีการทรุดตัวต่อเนื่องบริเวณเสาที่ 4 ต้องคอยมอนิเตอร์ และนำน้ำหนักด้านบนของตึกออก ดินทางด้านซ้ายก็มีการเคลื่อนตัวบ้าง สุดท้ายแล้วต้องทุบอาคาร แต่ต้องค่อย ๆ ทำเพื่อไม่ให้กระทบด้านล่าง
เรื่องการจราจร โรงพยาบาลวชิรพยาบาล มีการประสานงานกับตำรวจและผู้รับจ้าง ให้จัด Shuttle Bus วิ่งเพิ่ม เพื่อรับส่งผู้มาใช้บริการโรงพยาบาล และโรงเรียนยังไม่เปิด ทำให้การจราจรบริเวณนี้ยังไม่มีปัญหานัก
“เหตุการณ์ถนนทรุดตัว งานยากกว่าที่คาดไว้ตอนแรกเพราะสถานการณ์หน้างานเปลี่ยนไป สิ่งที่เราคาดการณ์ไว้อาจไม่ถูกต้อง แต่อย่างที่เรียนว่าคงไม่เร่งทำให้เสร็จเพื่อเปิดถนน แต่ต้องดูความมั่นคงปลอดภัยในระยะยาวทำด้วยความรอบคอบ และไม่ต้องกลับมารื้อแก้ไขอีก“ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุการณ์ เมื่อคืนวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้มีคนหลายรอบวางระเบิด จำนวน 3 จุด ภายในเขตเทศบาลนครยะลา บริเวณข้างศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ ชุด EOD พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง จุดแรกที่บริเวณประตูข้างศูนย์เยาวชน จุดที่ 2 ข้างกำแพงที่ทำการประปาเทศบาลนครยะลา จุดที่ 3 ที่บริเวณถังขยะหน้าศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา
จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เป็นระเบิดชนิดไปป์บอม โดยคนร้ายนำมาวางไว้ก่อนจุดชนวนระเบิด ที่ละลูกแต่ละลูกห่างกัน 10-15 นาที โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นบริเวณ ใกล้จุดเกิดเหตุก่อนเนื่องจากบริเวณใกล้เคียงภายในศูนย์เยาวชน โดยวันนี้จะมีการจัดงานชักพระ กลุ่มคนร้ายหวังสถานการณ์เพื่อให้ประชาชนเกรงกลัว ไม่กล้าออกมาเที่ยวงานในคืนนี้ แต่เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดและตรวจตรารถยนต์ จักรยานยนต์ที่เข้าออกตัวเมืองยะลาอย่างเข้มงวด
ด้าน พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)กล่าวถึงกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายก่อกวนสร้างสถานการณ์ในหลายพื้นที่จ.ยะลา จ.ปัตตานี และจ.นราธิวาส มีการลอบวางระเบิดเผาทำลายกล้องวงจรปิดและลอบวางเพลิงรถตู้โดยสารว่า หลัง
เกิดเหตุ พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผอ.รมน.ภ.4 สน.ได้สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจและทหาร เข้าดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เร่งเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดีเพียงบางกลุ่มที่พยายามสร้างความแตกแยกในสังคมและทำลายระบบเศรษฐกิจ ตลอดจนสังคมพหุวัฒนธรรมอันสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการจัดกิจกรรม ประเพณีชักพระ ซึ่งเป็นงานสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชน ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความสามัคคีในสังคม
“กอ.รมน.ขอประณามการกระทำ อันไร้มนุษยธรรม ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมกันสอดส่องดูแล หากพบเห็นบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลผ่าน สายด่วน กอ.รมน. โทร. 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” โฆษกกอ.รมน.กล่าว
กอ.รมน.ขอเตือนถึงผู้ให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง จัดหาเสบียง หรือช่วยเหลือในทางใดทางหนึ่ง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ กอ.รมน. ขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและความมุ่งมั่น เพื่อสร้างความปลอดภัยและความ เชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มขีดความสามารถ
8 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีไต้หวันไล่ ชิงเต๋อ (Lai Ching-te) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของสหรัฐฯ แนวอนุรักษ์นิยม The Clay Travis and Buck Sexton Show ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยอ้างถึงคำกล่าวของทรัมป์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ระบุว่า 'สี จิ้นผิง' บอกกับเขาว่า จะไม่รุกรานไต้หวันในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเขาหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์อย่างต่อเนื่อง หากประธานาธิบดีทรัมป์สามารถโน้มน้าวให้ 'สี จิ้นผิง' ยุติการรุกรานทางทหารต่อไต้หวันโดยถาวรได้ เขาย่อมสมควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพโดยไม่ต้องสงสัย
'โดนัลด์ ทรัมป์' เคยกล่าวว่า เขาควรได้รับรางวัลโนเบลเหมือนกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ อีก 4 คน โดยรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปีนี้จะประกาศในวันที่ 10 ตุลาคม นี้
โดย สหรัฐฯ ถือเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญที่สุดของไต้หวัน แม้จะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 เมื่อต้นปีนี้ เขาก็ยังไม่ได้ประกาศการขายอาวุธใหม่ให้ไต้หวันเลย และเนื่องจากไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูต ประธานาธิบดีไต้หวันจึงไม่สามารถพบหรือพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าหากได้พบ'โดนัลด์ ทรัมป์'จะพูดอะไร 'ไล่ ชิงเต๋อ'กล่าวว่า เขาจะแนะนำให้ทรัมป์จับตาดูการกระทำของ'สี จิ้นผิง' อย่างใกล้ชิด
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีการเผยแพร่บทสัมภาษณ์ กระทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานว่า พบการเคลื่อนไหวทางทหารของจีนเพิ่มขึ้นอีก โดยมีเครื่องบินรบและโดรน 23 ลำ ลาดตระเวนรบร่วมกับเรือรบของจีนรอบเกาะ
ประธานาธิบดีไต้หวันไล่ ชิงเต๋อ ระบุว่า จีนขยายกิจกรรมทางทหารออกไปไกลจากน่านน้ำของตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อไต้หวันเท่านั้น ไต้หวันพยายามตอบสนองต่อข้อกังวลของสหรัฐฯ ที่ว่าไต้หวันยังจัดสรรงบด้านกลาโหมไม่มากพอ โดยไล่ได้ตั้งเป้าเพิ่มงบกลาโหมเป็น 5% ของจีดีพีภายในปี 2030
สหรัฐฯ มีพันธกรณีตามกฎหมายที่จะต้องจัดหาเครื่องมือในการป้องกันตนเองให้กับไต้หวัน ยังคงยึดนโยบาย "ความกำกวมเชิงยุทธศาสตร์" โดยไม่ระบุชัดว่าจะใช้กำลังตอบโต้หากจีนโจมตีหรือไม่ ที่ผ่านมา 'ไล่ ชิงเต๋อ 'ปฏิเสธคำกล่าวอ้างอธิปไตยของจีน โดยระบุว่า มีเพียงชาวไต้หวันเท่านั้นที่มีสิทธิ์กำหนดอนาคตของตนเอง ขณะที่จีนเรียก'ไล่ ชิงเต๋อ 'ว่าเป็น พวกแบ่งแยกดินแดนและปฏิเสธข้อเสนอเจรจาของเขาอย่างต่อเนื่อง
9 ตุลาคม 2568 พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส. และชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ร่วมกับ พ.ต.ท.ศุภวัฒน์ ลัทธปรีชา รอง ผกก.ป. , พ.ต.ท.ปกรณ์ หมื่นสีเขียว สวป. , ร.ต.ท.ธงธวัช พลละคร รอง สว.(สส.) พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามพิเศษ หรือชุด ป.พิเศษ สภ.บางละมุง ร่วมกันจับกุม นายเทวราช หรือ “เต้ย ศรีราชา” อายุ 23 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ (จยย.) ในเขตท้องที่ สภ.เมืองพัทยา , บางละมุง , หนองปรือ , นาจอมเทียน และศรีราชา
สืบเนื่องมาจากช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อดัง และกำลังเป็นที่ยอดนิยมของกลุ่มชาวบ้าน คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ราคารถใหม่จะอยู่ราคาคันละ 82,500 บาท ถูกโจรอาละวาดขโมยไปกว่า 10 คันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ตำรวจชลบุรีจึงมีการบูรณาการร่วมกัน สืบสวนสอบสวนแกะรอยคนร้าย โดยมีการลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด ก่อนจะมีการวิเคราะห์ว่าคนร้ายรายนี้ น่าจะเป็นคน คนเดียวกัน เพราะจากพฤติกรรม และ เส้นทางที่ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ มุ่งหน้าไปยังเขตพื้นที่อำเภอศรีราชา
ต่อมาตำรวจมีการลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน จนรู้คนร้ายรายนี้ ก็คือ นายเทวราช หรือเต้ย อายุ 23 ปี ก่อนจะสามารถตามไปจับกุม ได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะเตรียมจะก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ จึงควบคุมตัวมาทำการสอบสวน ก่อนจะยอมรับว่าเป็นบุคคลรายเดียวกันที่เคยตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ เกือบ 10 คัน ในหลายพื้นที่
นายเทวราช ยอมรับว่าเป็นโจรก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด โดยจะเลือกก่อเหตุเฉพาะรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ จากนั้นจะนำไปขายให้กับกลุ่มที่รับซื้อ ในราคาคัน 20,000 บาท บางส่วนจะนำไปใช้สอยในชีวิตประจำวัน บางส่วนไปให้แม่ในการซื้ออาหารหมา เพราะแม่เลี้ยงหมาจรจัดไว้ 300 ตัว ในเขตพื้นที่ศรีราชา ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ดังกล่าว
ขณะที่ตำรวจออกโรงเตือน ประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ให้หาวิธีป้องกันการถูกขโมยอย่างจริงจัง หลังพบว่าผู้ต้องหารายนี้ ใช้วิธีการก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ รูปแบบใหม่ โดย “เต้ย ศรีราชา” ได้สาธิตการโจรกรรมรถ ด้วยการล้วงมือเข้าไปที่บริเวณด้านข้างตัวรถ จากนั้นมีการตัดสัญญาณระบบกล่องรีโมท แล้วแกะกล่องรีโมทไปทำกุญแจใหม่ ก่อนจะกลับมาขโมยรถไปได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ซึ่งวิธีดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งจากการสอบสวน ผู้ต้องหารายนี้ยังยอมรับ ซื้อรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ มาศึกษาอย่างละเอียด จนรู้กลไกของระบบรถทั้งหมด จนเป็นที่มาของการก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ในครั้งนี้ เบื้องต้นตำรวจสามารถตามรถกลับมาคืนผู้เสียหายได้ 1 คัน ส่วนคันอื่นๆอยู่ระหว่างการติดตามว่านำไปขายให้กับผู้ใด และจะเร่งติดตามรถกลับมาคืนผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012