วันที่ 3 เมษายน 2567 เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เปิดเผยการจัดอันดับมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในโลกประจำปี 2567 พบว่าปีนี้ 10 อันดับมหาเศรษฐีของไทย อันดับ 1 ยังคงเป็น "เจ้าสัวธนินทร์" หรือนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 12,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.58 แสนล้านบาท) ซึ่งคำนวณมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจากราคาหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 8 มี.ค. 2567
สำหรับ 10 อันดับมหาเศรษฐีไทยที่มั่งคั่งที่สุดในปีนี้ มีเพียงนายสมโภชน์ อาหุนัย จากบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือEA ที่หลุดออกจากโผ และมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่เข้ามา 2 คนแทนในอันดับ 10 ร่วม คือนาย "ฮาราลด์ ลิงค์" จากบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ และนาย "ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งฟอร์บส์ระบุถึงประเภทธุรกิจเอาไว้ว่าอยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินและการลงทุน โดยทั้งคู่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,100 ล้านดอลลาร์ (ราว 7.7 หมื่นล้านบาท)
สำหรับ 10 อันดับมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2567 มีดังนี้
อันดับ 1 - นายธนินท์ เจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 12,500 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 2 - นายเจริญ สิริวัฒนภักดี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 11,300 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ 3 - นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 10,700 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: พลังงาน
อันดับ 4 - นายสุเมธ เจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5,500 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 5 - นายจรัญ เจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 5,400 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 6 - นายวานิช ไชยวรรณ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3,800 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: การเงินและการลงทุน
อันดับ 7 - นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3,700 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: เฮลท์แคร์
อันดับ 8 - นางสมอุไร จารุพนิช มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3,100 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 9 - นายประยุทธ มหากิจศิริ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2,200 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: อาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ 10 (ร่วม) - นายฮาราลด์ ลิงค์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2,100 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: หลากหลาย
อันดับ 10 (ร่วม) - นายทักษิณ ชินวัตร มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2,100 ล้านดอลลาร์ ประเภทธุรกิจ: การเงินและการลงทุน
3 เม.ย.2567 เมื่อเวลา 16.15 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ตามที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะจำนวน 98 คน เป็นผู้เสนอ
โดยนายสรรเพชญ บุญญมณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ภารกิจนโยบายหาเสียงของรัฐบาล เป็นสิ่งที่ล้มเหลวเชิงประจักษ์ หากจะให้ตัดเกรดรัฐบาลในช่วง1-2 เดือนแรก ผมให้รัฐบาลคะแนนเต็ม 10 เพราะช่วงแรกเห็น รัฐบาลที่ไม่ลังเลจะแก้ไขปัญหาค่าครองชีพเรื่องปากท้องให้ประชาชน แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปเข้าเดือนที่ 6-7 คะแนนของรัฐบาลติดลบ เพราะเราไม่อยากเห็นมาตรการเฉพาะหน้าแบบที่ทำอยู่แค่พัก และหยุดปัญหาไว้ชั่วคราว แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหา
นายสรรเพชญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยังล้มเหลว เป็นเพียงความหวังลมๆแล้งๆของประชาชน ขณะที่เรื่องวิกฤติเศรษฐกิจในวันนั้น ต้องถามรัฐบาลว่าสมเหตุสมผลหรือเป็นเพียงวาทกรรมอุปโลกน์ หากวันนั้นเศรษฐกิจวิกฤติจริง แสดงว่ารัฐบาลปล่อยเกียร์ว่างมา 6 เดือนเต็มแล้ว ท่านรออะไรอยู่ หรือรอให้เกิดวิกฤตก่อนถึงจะแก้ไขหรือไม่
“ท่านดีหมด แต่นานนานไปกลับไม่เห็นกึ๋น ผลงานที่โดดเด่นเดินสายโรดโชว์ของนายกฯท่านบอกว่า ท่านประเมินจากการเดินสายจะทำให้เกิดเม็ดเงินการลงทุนจากต่างชาติคาดการณ์ 558,000 ล้านบาท แต่ความผิดพลาดของนายกฯ คือนายกฯเชิญชวนให้นักลงทุนมาลงทุนที่ไทย โดยนำเสนอโครงการแลนด์บริดจ์ แต่โครงการแลนด์บริดจ์ในวันนี้ผมขอถามว่ามันยุติหรือยัง รัฐบาลควรเชิญนักลงทุนมาลงทุนอีอีซีระเบียงเศรษฐกิจทั้ง 4 ภาค รวมถึงเขตพัฒนาพื้นที่ชายแดน อุตสาหกรรมเป้าหมายที่อีอีซียังต้องการเงินทุน นายกฯควรให้ความสำคัญกับเป้าหมายเดิมของเราเสียก่อน วันนี้อยากเห็นนายกฯที่เป็นเซลล์แมนแต่ต้องเป็นเซลล์แมนที่สามารถปิดการขายได้ด้วย” นายสรรเพชร กล่าว
นายสรรเพชญ กล่าวต่อว่า หลายภาคส่วนซุบซิบกันว่านายกเป็นเซลล์แมนขายฝัน ดิจิทัลวอลเล็ตขายคนไทย โครงการแลนด์บริดจ์ขายต่างชาติ ตนไม่ได้ต่อต้านโครงการขนาดใหญ่ ตรงกันข้ามพวกตนสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการลงทุนเมกะโปรเจคในพื้นที่ภาคใต้ หากจะตรวจการบ้านรัฐบาล ตนเห็นว่าการดำเนินงานของรัฐบาล6 เดือนที่ผ่านมาเป็นลักษณะ สุขเอาเผากิน เป็นรัฐบาลที่ยังไม่เข้าใจโจทย์เศรษฐกิจไม่เข้าใจโจทย์ในการพัฒนาประเทศ ไม่มีมาตรการระยะยาว ไม่เห็นนายกฯ พูดเรื่องความยั่งยืน
นายสรรเพชญ กล่าวอีกว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ตนไม่อยากเห็นโครงการดังกล่าว กลายเป็นเครื่องมือฟอกเงินของรัฐบาล เพื่อให้ไปอยู่ในมือของเจ้าสัว อาจจะเพิ่มจีดีพีขึ้นได้เล็กน้อย แต่จริงๆแล้วประชาชนล้วงเงินในกระเป๋าเอาออกมาเห็นแต่ลมเหมือนเดิม ยังไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ว่า แหล่งเงินที่มา ที่ไป ของโครงการเป็นเงินสด เป็นเงินบาท คนรับจ่ายเป็นเงินบาท ทำไมรัฐบาลต้องจ่ายเป็นเงินดิจิทัล ทำไมรัฐบาลไม่จ่ายเป็นเงินบาท หรือทำไมทไม่ใช้แอพฯที่มีอยู่เช่น แอพเป๋าตัง หรือว่ารัฐบาลไม่มีเงินจริงๆ เงินยังอยู่ในอากาศ หรือเพราะอาจมีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทคนกลาง ที่เข้ามารับดำเนินการโครงการนี้หรือไม่
หลังจากที่ "จั๊กกะบุ๋ม" ออกมายืนยันแล้วว่า จะขออโหสิกรรม จากทุกๆท่านเพื่อเข้าอุปสมบท ส่วนเรื่องปัญหาหนี้สินที่ติดค้าง "แม่ปูนา" จะพยายามหาช่องทางมาเคลียร์ให้ได้ก่อนบวชและหลังจากบวชแล้วจะเคลียร์ปัญหาหนี้สินให้จบนั้น
ขณะที่ล่าสุด แพรรี่ ไพรวัลย์ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้โดยการโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า " ติดหนี้ต้องเคลียร์ตัวเองก่อนนะคะ จะหนีไปบวชไม่ได้ มันบวชไม่ขึ้น เพราะเวลาพระกรรมวาจาจารย์สวดถามว่า อนโณสิ๊ (เธอไม่มีหนี้ใช่ไหม) จะตอบยังไงคะ....มีวิธีที่ทำได้ คือไปแจ้งเจ้าหนี้ แล้วให้เจ้าหนี้ยกหนี้ให้ค่ะ....ถ้าเป็นหนี้สินที่ทำสัญญาไว้ มีคนในครอบครัวรับผิดชอบดูแลชำระแทนในระหว่างที่บวชอยู่ ทำได้นะคะ แต่ถ้าเป็นหนี้สินที่ไม่มีใครชำระแทน และผู้ที่จะบวชจงใจใช้ผ้าเหลืองเพื่อหลบเลี่ยงในการชำระหนี้ หรือสร้างความลำบากใจให้กับเจ้าหนี้ในการทวงเงิน แบบนี้ไม่ได้ค่ะ"
เป็นประเด็นที่น่าเห็นใจมากๆ จากกรณีดราม่า "แม่ปูนา" เจ้าหนี้ขึ้นป้ายทวงหนี้ตลกชื่อดัง "จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม" ขอให้เมตตาคืนเงิน 284,400 บาท ขณะที่จั๊กกะบุ๋มได้เดินทางไป สน.เพื่อลงบันทึกประจำวัน ยืนยันไม่หนี แต่ไม่รู้ยอดหนี้จำนวนเท่านี้จริงหรือไม่ กระทั่งเจอทัวร์ลงหลังไปออกรายการโหนกระแสนั้น
ล่าสุด พระเอกหนุ่มเจ้าของฉายา "คุณชายหมูกรอบ" หรือ "อาร์ต พศุตม์" นักแสดงได้ยื่นมือช่วยแม่ปูนาอีกแรง โดยขอแบ่งพื้นที่ในบูธให้มาขายสินค้า รวมถึงรายได้ทั้งหมดยกให้ป้าไปเลย
โดย อาร์ต พศุตม์ เปิดเผยผ่านรายการ "ตกมันส์บันเทิง" ว่า " ตอนนี้ผม ติดต่อป้าได้แล้ว ป้าบอกพรุ่งนี้จะมาที่บูธของผมเวลาราวๆประมาณ 4 โมงเย็น ปกติเวลาไปออกบูธขายของด้วยความที่เขาไม่ได้มีชื่อเสียง คนอาจจะสนใจเขาน้อย แต่ผมมีชื่อเสียงและมาขายของที่บูธทุกวัน ผมจะแบ่งพื้นที่ในบูธของผมให้ป้าส่วนหนึ่ง ให้ป้าขายข้างๆกันผมก็จะช่วยยืนขายอยู่ข้างๆ แล้วเอารายได้ให้ป้าทั้งหมดครับ.."
พร้อมทั้งโพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่า " เข้าใจหัวอก พ่อค้าแม่ค้า คับ อยากสนับสนุน คุณป้าปูนา คับ น่าจะอร่อย (ผมชอบกินอ่องปูอยู่แล้วด้วย ) โทรไปหาป้าแล้ว คงกำลังยุ่งกับออเดอร์แน่ๆ "
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 เวลา 16.30 น.ที่บริเวณ ชายหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง ระยอง พระครูโสภิตปัญญากร เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง และเจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ พระอารามหลวง ได้นำสามเณรบวชภาคฤดูร้อน ที่บวชตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67 จำนวน 38 รูป จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ต่อเนื่องปีที่ 47 และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี 69 พรรษา
สำหรับการบำเพ็ญประโยชน์ครั้งนี้ มีสามเณรทั้งหมด พระทุกรูปในวัดป่าประดู่ ญาติโยม และจิตอาสาได้ร่วมกันเก็บขยะเศษไม้ ต่างๆที่ชายหาดแม่รำพึง ใส่ถุงดำนำไปกำจัดได้ทั้งสิ้นจำนวน 100 กิโลกรัม หลังจากนั้นพระครูโสภิตปัญญากร เจ้าคณะอำเภอเมืองและเจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ ได้นำสามเณร พระและญาติโยม เดินธรรมยาตรา ระยะทาง 1 กม.เจริญพรญาติโยมตลอดทางที่เดินเรียบชายหาดแม่รำพึงเดินมาที่สวนป่าปฏิบัติธรรมบุราณรัตน์ วัดป่าประดู่ เพื่อให้สามเณรทุกรูปรับการสอนธรรมวินัยเรียนรู้ธรรม จนกระทั่งถึงวันที่ 13 เมษายน สามเณรจะกลับไปร่วมงานสงกรานต์ที่วัดป่าประดู่ จนกระทั่งวันที่ 15 เมษายน กลับมาที่สวนป่าปฏิบัติธรรมต่อจนถึงวันที่ 19 เมษายน จึงเข้าพิธีลาสิกขา พร้อมกันเวลา 19.00 น.เพื่อกลับไปเรียนหนังสือต่อไป
3 เม.ย. 2567 เพจเฟซบุ๊ก “การห้ามเล่นสงกรานต์เลียบคลองทวีวัฒนา” ของกลุ่มประชาชนที่เป็นแกนนำการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในบริเวณถนนเลียบคลองทวีวัฒนา โพสต์ภาพที่อ้างว่าเป็นไลน์กลุ่มผู้จัดการกับตัวแทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ท้วงติงเรื่องการพ่นสีทางเท้าเพื่อจับจองพื้นที่ของบรรดาพ่อค้า-แม่ค้า ซึ่งทางเพจได้นำมาแจ้งกับผู้ติดตามพร้อมข้อความระบุว่า
“เป็นไงล่ะการกระทำของพวกคุณที่เหมือนพวกเด็กเห่อหม_ย....มันส่งผลกระทบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่และเป็นภาพลบของพ่อค้าแม่ค้าที่เขาไม่รู้อินโนอิเหน่จากการกระทำของคุณ...แสดงความเป็นคนออกมาจัดการลบด้วย คนพี่โดนเจ้าหน้าที่ต่อว่าไม่ใช่กลุ่ม admin หรอกหรอแล้วอย่างนี้จะมาร่วมงาน...มันจะราบรื่นเรียบร้อยไปได้ยังไง”
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา มีการประชุมหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานสงกรานต์บริเวณถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ณ สน.ศาลาแดง ซึ่งทีมงานของเพจดังกล่าวได้เข้าร่วมประชุมด้วย และภายหลังการประชุม ทางเพจได้กำชับในส่วนของการขายของริมถนน ห้ามเด็ดขาดกับการใช้สีสเปรย์พ่นลงบนถนนหรือทางเท้าเพื่อจองพื้นที่ เพราะเป็นการสร้างภาระให้กับเจ้าหน้าที่ที่จะต้องมาทำความสะอาด ซึ่งเมื่อช่วงสงกรานต์ปี 2566 ก็เคยตำหนิและประจานผ่านเพจไปแล้ว แต่ปีนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอีก
3 เม.ย.67 ความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 25 ปีของไต้หวันที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ ล่าสุดประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน กล่าวว่า รัฐบาลของเธอกำลังประสานงานเพื่อรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี เธอกล่าวในระหว่างการประชุมที่ศูนย์ปฎิบัติการเหตุฉุกเฉินกลางว่า กองทัพจะให้การสนับสนุน รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจะร่วมมือกันในการลดผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้ให้น้อยที่สุด
นายไล่ ชิงเต่อ ที่จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันในเดือนหน้าได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุและกล่าวกับสื่อหน้าอาคารพังเสียหายหลังหนึ่งในเทศมณฑลฮวาเหลียน ทางตะวันออกของไต้หวันว่า สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการช่วยประชาชน เขาคาดว่าเส้นทางรถไฟเชื่อมมายังพื้นที่เกิดเหตุจะเปิดใช้งานได้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ( 4 เม.ย.)
ขณะที่ทางการไต้หวันแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 9 คน ได้รับบาดเจ็บ 821 คน ขณะที่นักดับเพลิงแจ้งว่า กำลังทยอยอพยพผู้ติดอยู่ตามอุโมงค์ต่าง ๆ ใกล้เมืองฮวาเหลียน ในจำนวนนี้เป็นชาวเยอรมัน 2 คน แต่ยังไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มนักเดินทาง 50 คน ที่โดยสารรถมินิบัส 4 คันไปยังโรงแรมในอุทยานแห่งชาติทาโรโกะ
ทางด้านกองทัพอากาศไต้หวันแจ้งว่า เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 จำนวน 6 ลำที่ฐานทัพใหญ่ในเมืองฮวาเหลียนได้รับความเสียหายเล็กน้อย เป็นฐานทัพที่เครื่องบินไต้หวันใช้ทะยานขึ้นไปสกัดเครื่องบินจีนที่รุกล้ำ ด้านครัวเรือนส่วนใหญ่มีไฟฟ้าใช้ตามปกติแล้ว และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 2 แห่งไม่ได้รับผลกระทบ
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012