ข่าว
อาจารย์จุฬาฯ ยัน
กทม.เสี่ยงน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร

วันที่ 3 ต.ค. ในการเสวนา "ไขปริศนาสถานการณ์น้ำปี 2555 กับแนวโน้มน้ำท่วมกทม." นายสุจริต คูณธนกุลวงศ์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ต้องเฝ้าจับตาปริมาณฝนในช่วงเดือนนี้และเดือนหน้า เนื่องจากปริมาณน้ำฝนมีมากขึ้นขณะที่ในพื้นที่กทม. เป็นจุดหนึ่งที่จะถูกพายุพัดเข้าโดยตรง ทำให้กทม. เสี่ยงถูกน้ำท่วมขัง เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำออกได้ทัน โดยเฉพาะบริเวณคลองสองวา และคลองสามวา หรือฝั่งตะวันออกของกทม. คือ ลาดกระบัง สุวรรณภูมิ

ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันตก ได้แก่ บริเวณบางแค และถนนเพชรเกษม เพราะเป็นจุดรับน้ำฝนและเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะเดียวกัน ยังมีน้ำจากอ.บางเลน จ.นครปฐม เข้ามาสมทบ ส่งผลให้ระดับน้ำอาจท่วมขังสูง 30 เซนติเมตร เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ไม่ท่วมปริมาณมากเท่ากับปี 2554 ทั้งนี้ กทม.อาจต้องเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำจากบริเวณด้านเหนือ และคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ดันน้ำลงสู่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตเพียงทางเดียว เนื่องจากใกล้แม่น้ำบางปะกง และเป็นช่องทางลงอ่าวไทย ส่วนด้านตะวันตกนั้นต้องเร่งระบายน้ำลงคลองภาษีเจริญ เพื่อให้สามารถระบายน้ำได้เร็วที่สุด ไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่หนาแน่นทั้ง 2 เขต

ค่าเหนื่อย"ปาเกียว"ต่อย"บัวขาว"90ล้าน ช่อง5สด177ปท.

ความคืบหน้ากรณีมีข่าวว่า "แบล๊กโกลด์" บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข แชมป์มวย "เค-วัน เวิลด์แม็กซ์" 2 สมัย และแชมป์มวย "ไทยไฟต์ 2011" เตรียมขึ้นชกไฟต์พิเศษกับ "แพคแมน" แมนนี่ ปาเกียว ยอดมวยชื่อก้องโลกเจ้าของเข็มขัดแชมป์ 8 รุ่นวัย 33 ปี ชาวฟิลิปปินส์ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า วันที่ 21 ธันวาคม

www.sportspecial.org ชี้แจงรายละเอียดการจัดงาน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ปาเกียวจะเดินทางมาชกที่เมืองไทยแน่นอน ราคาค่าตัว 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 90 ล้านบาท และจะขอมาฉลองวันเกิดวันที่ 17 ธันวาคม ที่เมืองไทย และกำหนดชกนัดพิเศษ วันที่ 21 ธันวาคม ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยระบุว่า ปาเกียว ต้องการมาประเทศไทยเพราะชื่นชอบวัฒนธรรมไทย และที่สำคัญที่สุดเขาบอกว่าจะมาร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร

การชกรายการนี้ใช้ชื่อว่า "ศึกมวยสะท้านโลกมหาราช เฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร" ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ และประสานงานช่อง 5 เป็นแม่ข่ายถ่ายทอดสดไปอีก 177 ประเทศ


กมธ. เร่งทำความเข้าใจ แก้วาระกำนันผู้ใหญ่บ้าน 5 ปี ไม่มีผลย้อนหลัง

นายปวีณ แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทยร่วมกันเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ 2457 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งกำนันโดยตรงจากประชาชน แทนการเลือกโดยผู้ใหญ่บ้าน และกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านคราวละ 5 ปี แทนการ ทำหน้าที่ถึงอายุ 60 ปี ว่า จากการรับฟังความคิดเห็นทั่วไปของ ส.ส. ในวันรับหลักการ ส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะกำหนดวาระละ 5 ปีรวมทั้งให้กำนันมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้ามาทำงาน

นายปวีณยังเปิดเผยอีกว่าหลังจากการหารือของกรรมาธิการฯ ฝ่ายพรรคเพื่อไทยมองว่าควรจะปลดล็อคให้ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่ที่มีการออกมาประท้วงขณะนี้เพราะว่ามีการปล่อยข่าวว่าจะยกเลิกตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านแล้วให้เลือกตั้งใหม่ทันที แต่ความเป็นจริงแล้วกฎหมายจะไม่มีผลย้อนหลัง ดังนั้นผู้ที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบันสามารถอยู่ได้จนอายุ 60 ปี และสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีก จึงต้องทำความเข้าใจกับพวกที่ออกมาต่อต้าน ให้เข้าใจว่าอยู่จนครบวาระได้

บุญทรง ฟุ้งจำนำข้าวข้อดีเพียบ ใช้งบน้อย-สร้างรายได้

วันที่ 3 ต.ค. รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์อินไซด์ไทยกอฟ (www.insidethaigov.com) ถึงนโยบายรับจำนำสินค้าเกษตร ในหัวข้อ “บุญทรง เตริยาภิรมย์ จำนำข้าว ยกระดับ ชาวนา” โดยมีสาระสำคัญว่า นโยบายรับจำนำข้าวมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งการยกระดับราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น ชาวนาได้ประโยชน์เต็มที่ เพราะเม็ดเงินถึงมือ แม้จะไม่เอาข้าวมาจำนำในโครงการของรัฐบาล แต่ราคาข้าวในตลาดในประเทศนั้นข้าวเปลือกก็มีราคาขยับสูงขึ้นกว่าเดิมที่มีอยู่ในอดีต ขณะที่รัฐบาลยังมีข้าวอยู่ในสต็อก ที่สามารถเอาไปบริหารได้

นายบุญทรงกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับโครงการประกันรายได้เกษตรของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เห็นได้ว่าเม็ดเงินที่ใช้ในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท อีกทั้ง รัฐบาลไม่มีข้าวอยู่ในมือ โดยหลายคนพยายามโต้แย้งว่าโครงการประกันราคาพืชผลดีกว่าโครงการรับจำนำ แต่รัฐบาลนี้เห็นว่าเรื่องการรับจำนำดีกว่า เพราะท้ายที่สุดเงินที่เข้าสู่มือเกษตรกรได้มากกว่า

ส่วนกรณีที่นักวิชาการบางส่วนเป็นห่วงโครงการนี้จะสิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาลนั้น นายบุญทรงกล่าวแสดงความมั่นใจว่า รัฐบาลใช้เม็ดเงินงบประมาณแต่ละปี ไม่สูงไปกว่าโครงการประกันรายได้ของรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยโครงการจำนำข้าวที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ใช้เงินไป 3 แสนล้านบาท และเมื่อระบายข้าวได้จะส่งเงินคืนให้กระทรวงการคลัง 8.5 หมื่นล้านบาท ภายในปี 55 และคาดว่าปลายปี 56 จะคืนเงินให้กระทรวงการคลังได้มากถึง 2.4-2.5 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแนวทางในการช่วยเหลือชาวนาเพิ่มเติมอีก โดยล่าสุดเริ่มปรึกษาหารือกับ เวียดนาม กัมพูชา ลาวและพม่า เพื่อร่วมกันตั้งสมาพันธ์ประเทศผู้ผลิตข้าว ล่าสุด อยู่ในระหว่างเร่งดำเนินการ เพื่อให้ผู้นำทั้ง 5 ประเทศทำความตกลงกันให้ได้ภายในเดือนพ.ย.นี้