ข่าว
สหรัฐฯ ส่งอาวุธรอบใหม่มูลค่ากว่า 450 ล้านดอลลาร์ให้ยูเครน

24 มิถุนายน 2565 : สหรัฐฯ ส่งความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่ไปยังยูเครน โดยมีมูลค่ากว่า 450 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 16,000 ล้านบาท) ซึ่งรวมถึงระบบจรวดขั้นสูงอีก 4 ระบบเพื่อใช้ตอบโต้กองกำลังของรัสเซีย

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 กล่าวว่า จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ จะจัดส่งความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่ไปยังยูเครน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรับมือและตอบโต้กองกำลังของรัสเซีย โดยความช่วยเหลือในรอบนี้มีมูลค่ากว่า 450 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 16,000 ล้านบาท)

เคอร์บี กล่าวว่า “ความช่วยเหลือทางทหารชุดนี้ประกอบด้วยอาวุธและอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึงระบบยิงจรวดปืนใหญ่แบบเคลื่อนที่ หรือ HIMARS รวมทั้งกระสุนอีกหลายหมื่นนัดสำหรับปืนใหญ่และเรือลาดตระเวน”

ระบบยิงจรวดปืนใหญ่ที่เรียกว่า HIMARS อยู่ในลำดับต้นๆ ของอาวุธที่ยูเครนต้องการ เพราะกองกำลังของยูเครนมักใช้จรวดปืนใหญ่ในการต้านการบุกของรัสเซีย

ระบบจรวด 4 ระบบได้ทำการส่งมอบแล้ว รวมถึงการเริ่มต้นของโครงการฝึกอบรมที่จำเป็นสำหรับทหารยูเครนในการควบคุมอาวุธที่ซับซ้อนและแม่นยำสูง

อาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆ ที่จะส่งมอบ ได้แก่ กระสุนปืนใหญ่ 36,000 นัด, ยานพาหนะ 18 คันที่ใช้ลากปืนใหญ่ ขนาด 155 มม., เครื่องยิงลูกระเบิด 1,200 เครื่อง, ปืนกล 2,000 กระบอก, เรือตรวจการณ์ชายฝั่งและแม่น้ำ 18 ลำ และชิ้นส่วนอะไหล่อื่นๆ

เคอร์บี กล่าวทิ้งท้ายว่า หากนับรวมความช่วยเหลือครั้งล่าสุด สหรัฐฯ ได้สนับสนุนความช่วยเหลือทางทหารแก่กองกำลังของยูเครนไปแล้วด้วยมูลค่ากว่า 6,100 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 200,000 ล้านบาท) นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกเข้าไปในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

ยุโรปมึน พบคนติดโควิดรายใหม่กลับมาพุ่ง เจอโอมิครอน BA.4 BA.5 ระบาดเร็ว

พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในยุโรปกลับมาเพิ่มขึ้นสูงขึ้น จากฤทธิ์เดชของโควิดโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ที่แพร่ติดเชื้อเร็วกว่าโอมิครอนตัวแม่

สถานการณ์ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในทวีปยุโรปกลับมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง จากการขับเคลื่อนโดยเชื้อโควิดโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ที่สามารถแพร่ติดเชื้อได้เร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมราว 10-15% อีกทั้งผลการศึกษาใหม่ยังพบว่าเชื้อโควิดโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนและรวมถึงคนที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มาแล้วได้มากขึ้น

โดยขณะนี้ พบว่าเชื้อโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 กำลังระบาดอย่างรวดเร็วในโปรตุเกส, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, สเปน, กรีซ, เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก

ตามรายงานของเดอะ การ์เดียน ระบุว่า ที่ฝรั่งเศส พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มเป็น 920 ราย หลังจากเคยพบผู้ติดเชื้อในช่วง 1 สัปดาห์ อยู่ที่ 224 ราย จนถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2565

ด้าน Dr. Damien Mascret แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในฝรั่งเศส เผยกับสถานีโทรทัศน์ช่อง France 2 ว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน BA.4 และ BA.5 ทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในประเทศโปรตุเกส พร้อมกับชี้ว่าในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโควิด-19 ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ฝรั่งเศส 27% และต้องเข้าห้องไอซียู 17%

ขณะเดียวกัน บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขยังมีความกังวลที่นานาประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 เกือบทั้งหมด ในขณะที่ตอนนี้กำลังเป็นช่วงฤดูร้อนในยุโรป ที่ผู้คนออกเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน จึงหวั่นเกรงว่าการระบาดของโรคโควิด-19 จะกลับมารุนแรงอีกรอบ

ที่มา : marketwatch


วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่าง ก.ม.คุมอาวุธปืนครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี

บีบีซี: วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติผ่านร่างกฎหมายควบคุมอาวุธปืน ซึ่งนับเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนที่มีความสำคัญอย่างมากในรอบเกือบ 30 ปี โดยที่ประชุมผ่านร่างกฎหมายไปด้วยคะแนน 65 ต่อ 33 โดยมีวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน 15 คน ผ่านร่างกฎหมายร่วมกับวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตด้วย

ความคืบหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังเกิดเหตุกราดยิงถึง 2 ครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก และที่โรงเรียนประถมศึกษาร็อบบ์ ที่เมืองอูวัลเด รัฐเทกซัส ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันถึง 31 ราย

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะลงนามเป็นกฎหมายต่อไป และแม้จะมีความสำคัญอย่างมาก แต่ร่างกฎหมายดังกล่าวยังคงไม่เป็นไปตามที่สมาชิกพรรคเดโมแครต และนักเคลื่อนไหวคาดไว้

เนื้อหาในร่างกฎหมายยังรวมถึงการตรวจสอบภูมิหลังของผู้ซื้ออาวุธปืนที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี อย่างเคร่งครัด และเงินงบประมาณสนับสนุนโครงการด้านสุขภาพจิตและการปรับปรุงความปลอดภัยในโรงเรียนอีกราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนั้น ยังมีการขอเงินงบประมาณสนับสนุนเพื่อกระตุ้นให้รัฐต่างๆ บังคับใช้ “กฎหมายธงแดง”เพื่อสั่งห้ามการครอบครองอาวุธปืนของผู้ที่เชื่อว่าเป็นภัยคุกคาม และเพื่อลดช่องว่างที่เรียกว่า “บอยเฟรนด์ ลูปโฮล” หรือช่องโหว่ระหว่างรัฐและกฎหมายควบคุมอาวุธปืนของบางรัฐที่อนุญาตให้มีการเข้าถึงอาวุธปืนของผู้ที่ถูกพิจารณาแล้วว่ามีความสัมพันธ์โดยใช้ความรุนแรง ในกลุ่มคู่รักที่ไม่ผ่านการสมรส

ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังนับเป็นฉบับแรกในรอบหลายทศวรรษ ที่ข้อเสนอการปฏิรูปได้รับความเห็นชอบในระดับที่น่าพอใจจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน เพราะที่ผ่านมา ความพยายามในการควบคุมอาวุธปืนมักถูกคัดค้านจากพรรครีพับลิกัน

ที่มา: บีบีซี


กลุ่ม BRICS แถลงหนุน รัสเซีย-ยูเครน หันหน้าเจรจา

การประชุมออนไลน์ระยะเวลา 2 วัน ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นตลาดเกิดใหม่และเติบโตอย่างรวดเร็ว ที่ประกอบไปด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ หรือกลุ่ม BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพ สิ้นสุดลงแล้วและมีการเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา แสดงท่าทีว่ากลุ่ม BRICS สนับสนุนการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน

แถลงการณ์ของ 5 ประเทศ ซึ่งรวมไปถึงรัสเซียระบุว่า กลุ่ม BRICS สนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ไม่ได้มีการพูดถึงกรอบแนวทางที่จะนำไปสู่การยุติสงครามได้

นอกจากนี้ ยังระบุว่า กลุ่ม BRICS ได้หารือถึงความห่วงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมทั้งในและโดยรอบยูเครน และแสดงออกถึงการสนับสนุนให้องค์กรระดับนานาชาติส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ประกาศมาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียหลายระลอกนับตั้ง แต่รัสเซียนำกำลังทหารรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จีนและอินเดีย หลีกเลี่ยงที่จะแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซียมาโดยตลอด นอกจากนี้ 3 สมาชิกกลุ่ม BRICS อย่างจีน อินเดีย และแอฟริกาใต้ ยังสงวนสิทธิลงมติในที่ประชุมองค์การสหประชาชาติที่จะประณามรัสเซียด้วย


อัฟกันเจออาฟเตอร์ช็อกขย่มซ้ำ ดับอีก 5 ใกล้จุดเกิดดินไหวใหญ่คร่านับพัน ทาลิบันโอดเวชภัณฑ์ไม่พอ

24 มิถุนายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะที่อัฟกานิสถานยังไม่มียาและเวชภัณฑ์มากเพียงพอที่จะรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งเลวร้ายที่มีความรุนแรง 6.1 แมกนิจูด เขย่าจังหวัดติดชายแดนปากีสถานเมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,000 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 1,500 ราย ล่าสุด ในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) นี้ ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีกที่สำนักธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอส) ระบุวัดได้ 4.3 แมกนิจูด ใกล้กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันพุธ เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 5 ราย

ขณะที่ในวันก่อนหน้า ทาลิบัน ผู้ปกครองอัฟกานิสถานในปัจจุบัน ได้ออกมาระบุว่า ปฏิบัติการค้นหากู้ภัยในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวซึ่งอยู่ห่างไกลเกือบจะเสร็จสิ้นแล้ว โดยโฆษกของผู้บัญชาการทหารระดับสูงของทาลิบัน กล่าวว่า ปฏิบัติการกู้ภัยได้ยุติลงแล้ว ไม่มีใครติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีก

แต่นายโมฮัมหมัด นาสซิม โฆษกกระทรวงกิจการภัยพิบัติ กล่าวว่า ปฏิบัติการกู้ภัยจบสิ้นลงในเขตใหญ่ๆ แต่ยังคงดำเนินต่อไปในบางพื้นที่ที่ห่างออกไป และว่า มีผู้ประสบภัยที่ได้รับบาดเจ็บราว 2,000 คน บ้านเรือนราว 10,000 หลังคาเรือน ที่ได้รับความเสียหายบางส่วนหรือพังทลายลงทั้งหมดจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวเมื่อวันพุธ โดยกระทรวงสาธารณสุขยังไม่มียารักษาเพียงพอ เราต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์และความช่วยเหลือที่จำเป็นด้านอื่นๆ อย่างมาก เพราะนี่เป็นภัยพิบัติเลวร้ายครั้งใหญ่

ข่าวแจ้งว่า ความช่วยเหลือเริ่มมาถึงพื้นที่ประสบภัยที่ห่างไกลของอัฟกานิสถานในวันที่ 23 มิถุนายน อย่างไรก็ดี การติดต่อสื่อสารที่ย่ำแย่และขาดถนนหนทางเข้าถึง เป็นอุปสรรคต่อความพยายามช่วยเหลือบรร เทาทุกข์

หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างเปิดเผยว่ามีแผนจะส่งความช่วยเหลือไปให้กับอัฟกานิสถาน ส่วนอินเดีย ที่มีสัมพันธ์ไม่สู้ดีกับทาลิบัน ระบุว่า ได้ส่งความช่วยเหลือจำนวน 27 ตัน โดย 2 เที่ยวบินไปให้กับองค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติเพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในอัฟกานิสถานต่อไป

ทาลิบันซึ่งเป็นผู้ปกครองประเทศอัฟกานิสถานในปัจจุบันหลังการถอนทหารของสหรัฐได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ หลังต้องรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวที่วัดความรุนแรงได้ 6.1 แมกนิจูดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา

ไฮบาตุลเลาะห์ อัคห์ฮุนด์ดาดา ผู้นำสูงสุดของทาลิบันซึ่งไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็นบ่อยนักต่อสาธารณะ ยังได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากประชาคมระหว่างประเทศรวมถึงองค์กรด้านมนุษยธรรมให้เข้ามาช่วยเหลือประชาชนชาวอัฟกันที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,000 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 1,500 คน ขณะที่ความพยายามที่จะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและลูกเห็บ

เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวถือว่าร้ายแรงที่สุดในรอบ 20 ปีของอัฟกานิสถาน และถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มทาลิบัน ที่กลับเข้ามายึดครองอำนาจในการปกครองประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา หลังรัฐบาลอัฟกานิสถานที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกล่มสลาย

รายงานข่าวระบุว่า ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อันห่างไกลใกล้กับพรมแดนปากีสถานพยายามที่จะค้นหาผู้เสียชีวิตและช่วยเหลือผู้รอดตายด้วยการขุดซากปรักหักพังด้วยมือเปล่า ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าได้มีการส่งอุปกรณ์หนักเพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการกู้ภัยหรือไม่ และไม่มีข้อมูลเช่นกันว่าอุปกรณ์เหล่านั้นสามารถเข้าไปถึงพื้นที่ประสบภัยได้หรือไม่ด้วย

ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติในอัฟกานิสถานระบุว่า มีรายงานเบื้องต้นว่ามีบ้านเรือนอย่างน้อย 2,000 หลังคาเรือนที่ถูกทำลายเนื่องจากแผ่นดินไหว โดยบ้านแต่ละหลังมีประชาชนอาศัยอยู่เฉลี่ย 7-8 คน

ทั้งนี้ คงต้องใช้เวลาสักระยะจึงจะประเมินความเสียหายที่แท้จริงได้ เนื่องจากความยากลำบากในการเดินทางอันเป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซึ่งทำให้ถนนหนทางเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีดินถล่มซึ่งเกิดจากฝนที่ตกหนักในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย

สีจิ้นผิงวอนโลกสมานฉันท์ จวกตะวันตกคว่ำบาตรใช้เศรษฐกิจเป็นอาวุธ

สีจิ้นผิง วอนโลกสมานฉันท์ – วันที่ 23 มิ.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวประณามการใช้เศรษฐกิจโลกเป็นอาวุธของชาติตะวันตกผ่านมาตรการคว่ำบาตร พร้อมเรียกร้อง ให้ประชาคมโลกสามัคคีกันท่ามกลางความท้าทายจากปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง

คำกล่าวของประธานาธิบดีจีนเกิดขึ้นมาจากสุนทรพจน์เปิดการประชุมออนไลน์ของกลุ่มชาติเศรษฐกิจ BRICS ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยผู้นำจีนมองว่าโลกกำลังเดินมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญในช่วงที่อยู่ระหว่างฟื้นตัวจากการระบาดของโรคร้าย ท่ามกลางความท้าทายด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่

ประธานาธิบดีสี กล่าวว่า “โศกนาฏกรรมหลายครั้งจากอดีตสะท้อนแล้วว่าการสร้างขั้วอำนาจเดี่ยว กลุ่มการเมืองและการเผชิญหน้าของกลุ่มชาติต่างๆ ไม่สามารถก่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงได้ มีแต่ก่อให้เกิดสงครามและความขัดแย้ง”

“สงครามยูเครนนั้นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนสำหรับประชาคมโลก เพราะสะท้อนบทเรียนให้เราได้เห็นว่าการมุ่งสร้างความเหนือกว่าและความพยายามสร้างพันธมิตรทางทหารอย่างมืดบอด รวมถึงการยึดเอาความมั่นคงของฝ่ายตัวเองเป็นหลักโดยไม่ไยดีต่อความมั่นคงของผู้อื่นก็จะนำไปสู่ปัญหาด้านความมั่นคงนั้นเสียเอง เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก” สี กล่าว

รายงานระบุว่า คำกล่าวของผู้นำจีนคล้ายเป็นการโจมตีทางการสหรัฐอเมริกาและองค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ซึ่งทางการจีนกล่าวโทษว่าการแผ่ขยายอิทธิพลกลายเป็นต้นเหตุที่ยั่วยุให้รัสเซียต้องรุกรานยูเครน

ผู้นำจีนยังกล่าวถึงการใช้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกด้วยว่าเป็นเสมือนดาบสองคม เพราะเป็นการนำเศรษฐกิจโลกมาใช้เป็นอาวุธซึ่งจะนำอันตรายมาสู่ประชาคมโลกโดยรวม

ประธานาธิบดีสี มองว่า ประชาคมโลกควรหันมาผนึกกำลังกันเพื่อสร้างเอกภาพและความร่วมมือกันมากกว่า พร้อมยกตัวอย่างความร่วมมือ เช่น โครงการสร้างเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน

สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีเผยให้เห็นถึงจุดยืนของทางการจีนในฐานะเจ้าภาพการประชุม BRICS ซึ่งมีประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เข้าร่วมประชุมผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย

ประธานาธิบดีปูติน กล่าวในการประชุมว่า รัสเซียอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้ามามุ่งเน้นภายในกลุ่ม BRICS และกับชาติอื่นๆ ที่รัสเซียสามารถพึ่งพาได้ พร้อมกล่าวตอบโต้มาตรการคว่ำ บาตรของชาติตะวันตกว่ามีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง และเป็นกลไกเพื่อกดดันคู่แข่ง บ่อนทำลายธุรกิจในโลกรวมทั้งสวนทางการกันกับหลักการทั่วไปและหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน

ขณะที่ สำนักข่าวตะวันตกอย่างซีเอ็นเอ็นนั้นมองว่า มาตรการคว่ำบาตรเป็นเครื่องมือของชาติ ตะวันตกและพันธมิตรในการลงโทษรัสเซียที่ตัดสินใจรุกรานยูเครนโดยไม่ได้ถูกยั่วยุก่อน เพื่อกดดันให้รัสเซียยุติสงครามซึ่งสร้างความทุกข์เข็ญแสนสาหัสให้พลเรือนชาวยูเครน

ประเด็นสงครามยูเครนคาดว่าจะถูกหยิบยกขึ้นกล่าวในการประชุมดังกล่าวซึ่งนับเป็นครั้งที่ 14 แล้วตั้งแต่การสถาปนากลุ่ม BRICS เมื่อปี 2552 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเป้าหมายร่วมกันระหว่างชาติเศรษฐกิจใหม่และชาติตลาดใหม่

นอกจากนี้ สงครามยูเครนและวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซียน่าจะทำให้กลุ่ม BRICS ยกระดับการหารือเพื่อสร้างกลไกการค้าแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินกลาง โดยเฉพาะในยามที่รัสเซียถูกลงโทษด้วยการกีดกันออกจากเงินสกุลข้างต้น

ประธานาธิบดีปูติน หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นกล่าวในการประชุมด้วย ว่าชาติ BRICS อยู่ระหว่างการสร้างกลไกการค้าทางเลือกข้ามชาติที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงความเป็นไปได้ในการสร้างกองทุนเงินตราระหว่างประเทศที่เป็นสกุลเงินอื่นที่ใช้เฉพาะในกลุ่ม BRICS

ส่วนท่าทีของการตอบรับของสมาชิก BRICS นั้นยังไม่แน่นอน แม้กลุ่มชาติ BRICS ที่ผ่านมาจะพยายามสงวนท่าทีไม่ประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แต่บางชาติจำเป็นที่จะสงวนท่าทีไม่ให้ใกล้ชิดกับรัสเซียมากเกินไปเช่นกัน เพื่อหลีกเลียงความไม่พอใจจากชาติตะวันตก