โอ๊ค-พานทองแท้ ท้า อภิสิทธิ์ ลั่นวาจาไม่ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หากล้มเลือกตั้งไม่สำเร็จเหน็บอย่าอ้างรอมติพรรค
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวตั้งคำถามไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. ล้มการเลือกตั้งไม่สำเร็จ นายอภิสิทธิ์ จะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่ เมื่อไม่เคารพสิทธิ์เลือกตั้งของผู้อื่น ไม่ให้พรรคอื่นได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ต้องการให้คนไทยทั้งประเทศออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่หากทำไม่สำเร็จแล้วออกไปเลือกตั้ง แสดงว่ายินดีทำลายสิทธิของคนอื่น แต่กลับรักษาสิทธิของตัวเองไว้ ถ้าเป็นเช่นนั้นตนจะถือว่าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด
นายพานทองแท้ กล่าวต่อว่า การปฏิเสธไม่รับตำแหน่งใด ๆ ใน ครม.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้แสดงถึงสปิริต แต่เป็นปาหี่หลอกคนดูมากกว่า เพราะคงไม่มีแกนนำของพรรคการเมืองใด ที่นำคนมาป่วนเมือง สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาตินับแสนล้าน จะใจกล้าหน้าด้านเข้ามารับตำแหน่ง ที่เป็นผลพวงของการป่วนเมืองของตนเองได้ นายอภิสิทธิ์ จะต้องแสดงสปิริต โดยออกมายืนยันด้วยการลั่นวาจา ต่อสาธารณชน ว่าจะไม่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งหน้า และจะมาอ้างว่าต้องรอมติพรรค เพื่อดึงเวลารอดูสถานการณ์ แบบที่ชอบอ้างไม่ได้อีกแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องของความจริงใจ และอุดมการณ์เฉพาะตัว.
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กลุ่มประชาชนที่นัดรวมตัวกันผ่านเฟซบุ๊ก แฟนเพจ "พอกันที! หยุดการชุมนุมที่สร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง" เครือข่ายสังคมออนไลน์หลายพันคน มีทั้งนักเรียน นักศึกษา พนักงานออฟฟิต แม่ชี คนงานก่อสร้าง พร้อมใจกันใส่เสื้อสีขาว เข้าร่วมกิจกรรม “จุดเทียน เขียนสันติภาพ” “พอกันที! หยุดความรุนแรง เปิดใจ ไปเลือกตั้ง” ภายในงานมีซุ้มกิจกรรมต่างๆอาทิ คนไร้สี มีใบหน้า ,เข้าคูหา กาตามใจ ,การปราศรัย 5 นาที ,การอ่านกวี ดนตรี ลำนำ ,กำแพง Post-it และอื่นๆอีกมากมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมจนทะลักไปบันไดบีทีเอสและทางเดินสกายวอร์ก รวมทั้งหน้าศูนย์การค้ามาบุญครอง และบนถนนพระราม 1 และขณะที่ร่วมกิจกรรมประชาชนต่างพร้อมใจกันตะโกนคำว่า "เลือกตั้ง" "2 กุมภา ไปเลือกตั้ง "พอกันที" ด้วยเสียงดังกึกก้องอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังนำป้ายสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ป้ายคัดค้านการสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่การใช้ความรุนแรง และป้าย Respect My Vote
ด้านนายกิตติชัย งามชัยพิสิฐ ผู้ประสานงานจัดกิจกรรม กล่าวว่า ตกใจ และดีใจที่มีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเราต้องการรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และเสมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าพวกเราไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นทุกรูปแบบ และพร้อมที่จะออกไปต่อต้านการทำรัฐประหาร และหลังจากนี้หากจะมีการจัดกิจกรรมขึ้นอีกก็จะนัดรวมตัวกันผ่านเฟซบุ๊ก
จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันจุดเทียนเพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านความรุนแรง และเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ทั้งยังยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และร่วมตั้งเทียนเป็นรูปสัญลักษณ์ Peace และร่วมตะโกนคำว่า "เลือกตั้ง"เป็นเวลา 3 นาที ก่อนแยกย้ายกันกลับ
วันเดียวกัน ที่ลานพระรูป 2 รัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชาวจุฬาฯ (เสียงส่วนน้อย) ที่รักสันติ-สนับสนุนการเลือกตั้ง หรือ กลุ่มขั้วที่ 3 นำโดย ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นิสิต พนักงานมหาวิทยาลัย ศิษย์เก่าจุฬาฯ และประชาชน จำนวนมาก ที่ส่วนมากสวมเสื้อสีขาว และสีชมพูของจุฬาฯ ออกมารวมตัวแสดงพลังของกลุ่มคนขั้วที่ 3 เพื่อร่วมกันจุดเทียน ให้แสงสว่างขับไล่ความมืดบอดในสังคมไทย
ผศ.ดร.เจษฎา กล่าวว่า เรามาแสดงออกในฐานะกลุ่มคนขั้วที่ 3 ที่มีความคิดคล้ายๆกัน เพื่อต้องการพื้นที่ที่แสดงให้เห็นว่า มีกลุ่มคนที่ไม่ต้องการความรุนแรง และไม่ได้เป็นฝักฝ่ายที่สุดโต่งในทางการเมือง แต่ต้องการให้เกิดความสงบขึ้นสังคม แม้ไม่ชอบรัฐบาลแต่ก็ต้องใช้วิธีการที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการสูญเสีย และเกิดการนองเลือด จึงชักชวนกันมาจุดเทียนให้เกิดแสงสว่างขึ้นในสังคมไทย
จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รวมตัวกันชู3 นิ้ว เพื่อสะท้อนพลังว่าเป็นกลุ่มคนขั้วที่ 3 และร่วมกันจุดเทียน ตะเกียง ไฟฉาย ก่อนร่วมกันร้องเพลงชาติและสลายตัวไป
''จตุพร'' ปราศรัย เมืองสุรินทร์ นัดคนเสื้อแดงทั่วประเทศ 13 ม.ค.เดินรณรงค์หนุนเลือกตั้งพร้อมกัน พร้อมปรับตัวต้านปฏิวัติทันทีหากมีทหารคิดทำ...
บรรยากาศหาเสียงสุรินทร์ยังคงเงียบเหงา เมื่อวันที่ 9 ม.ค. เวลา 16.30 น. ที่สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ขึ้น โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรคเดินทางขึ้นเวทีปราศรัย เช่น นายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์, นางธิดา ถาวรเศรษฐ, นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ, นายโสภณ เพชรสว่าง, และพันเอก ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
โดยมีกลุ่ม นปช.จังหวัดสุรินทร์นับหมื่นคนมาฟังการปราศรัยและต้อนรับ พร้อมกับมีการแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของจังหวัดสุรินทร์ทั้ง 8 คน 8 เขตเลือกตั้งในขณะที่มีการปราศรัย รวมถึงมีการปราศรัยกล่าวโจมตีกลุ่ม กปปส.อย่างหนัก โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯ กปปส. ที่ประกาศนำมวลชนปิดกรุงเทพมหานครและคัดค้านการเลือกตั้ง หากเลือกตั้งไม่ได้หรือเกิดการปฏิวัติ กลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช.จะรวมตัวกันออกมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ยอมส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง ท่ามกลางเสียงโห่ร้องและเสียงเชียร์จากกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาฟังดังสนั่นสนาม
จากนั้นกลุ่มแกนนำ ซึ่งนำโดยนายจุตพร พรหมพันธุ์ ได้ลงมาทักทายกับกลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช. ก่อนที่จะเดินทางไปปราศรัยต่อยังจังหวัดศรีสะเกษต่อไป โดยนายจตุพร กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 13 มกราคม 2556นี้ นปช.ได้มีการนัดหมาย พี่น้องคนเสื้อแดงหรือพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยไม่ว่าจะเสื้อสีใด หรือจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ตาม ร่วมในการเดินรณรงค์ปกป้องประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ โดยนัดรวมตัวเดินรณรงค์ในตัวเมืองของทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมปริมณฑล ยกเว้นกรุงเทพฯ ส่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเริ่มก่อน ในพื้นที่กว่า 60 จังหวัด จะเดินรณรงค์ไปพร้อมๆ กัน และในช่วงเย็นจะมีเวทีปราศรัยใหญ่ 4 จุด คือ สนามกีฬาจังหวัดอยุธยา เชียงใหม่ ขอนแก่น และ จ.อุบลราชธานี
กิจกรรมทุกจังหวัดจะเป็นเวลาเดียวกันหมด มีการถ่ายทอดสดผ่านทีวีของคนเสื้อแดงทุกช่อง การเดินรณรงค์หนุนเลือกตั้งในวันที่ 13 ม.ค.57 เป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อที่จะเตือนทุกฝ่ายว่า หนทางในการแก้ปัญหาประเทศไทย ต้องใช้วิถีทางประชาธิปไตยเท่านั้น เพราะฉะนั้นหากมีการออกมากระทำการปฏิวัติรัฐประหาร คนเสื้อแดงทั่วประเทศและประชาชนที่ร่วมเดินรณรงค์หนุนเลือกตั้งก็จะปรับสภาพ มาเป็นการต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหารโดยทันที เพราะฉะนั้นจึงเป็นการสื่อสารว่า ปัญหาเกิดจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ต้องแก้ปัญหาที่ตัวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ใช่แก้ไขกับคนไทยทั้งประเทศ
จึงขอเชิญชวนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ เวลา 09.00 น. วันจันทร์ที่ 13 ม.ค. 57 ออกมาพร้อมกันทุกเขตเมืองทั่วประเทศกว่า 60 จังหวัด ยกเว้นไม่กี่จังหวัดในภาคใต้ ออกมาเดินปกป้องประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหาร
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012