ข่าว
แอสตราเซเนกา เล็งศึกษาวัคซีนโควิดเพิ่ม หลังพบข้อสงสัยเรื่องประสิทธิภาพ

แอสตราเซเนกา เตรียมศึกษาวัคซีนต้านโควิด-19 ของตัวเองเพิ่มเติม หลังจากพบว่า การใช้วัคซีนครึ่งโดส อาจได้ผลดีกว่าเต็มโดส

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า แอสตราเซเนกา บริษัทผู้ผลิตยาชั้นนำของอังกฤษ เปิดเผยในวันอังคารที่ 26 พ.ย. 2563 ว่าพวกเขาจำเป็นต้องทำการวิจัยวัคซีนต้านโควิด-19 ของพวกเขาเพิ่มเติม หลังจากนักวิทยาศาสตร์ออกมาตั้งคำถามเรื่องประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ แต่ยังยืนยันว่า การทดสอบเพิ่มเติมไม่น่ากระทบการอนุมัติใช้ในยุโรป

แอสตราเซเนกา กับหุ้นส่วนอย่างมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประกาศในวันจันทร์ที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า พวกเขากำลังเตรียมการเพื่อขออนุมัติใช้งานวัคซีน หลังจากผลการทดสอบเฟส 3 ของพวกเขาพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพเฉลี่ยที่ 70%

อย่างไรก็ตาม แอสตราเซเนการะบุด้วยว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 90% ในอาสาสมัครกลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับวัคซีนครึ่งโดสตามด้วย 1 โดสเต็ม เพราะความผิดพลาด แต่เรื่องนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายคนออกมาตั้งข้อสงสัยเรื่องความน่าเชื่อถือ

เพื่อยืนยันเรื่องนี้ นาย ปาสคาล โซริโย ซีอีโอ เปิดเผยว่า พวกเขาอาจทำการศึกษาชุดใหม่เพื่อประเมินว่า การให้วัคซีนในโดสที่ต่ำกว่า จะมีประสิทธิภาพดีกว่าให้เต็มโดสหรือไม่ “ตอนนี้เราพบสิ่งที่ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพดีกว่า เราตรวจสอบความถูกต้องของเรื่องนี้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม”

นายโซริโยคาดอีกว่า อาจจะมีการทดสอบระหว่างประเทศรอบใหม่ แต่คราวนี้น่าจะเสร็จสิ้นเร็วกว่าเดิม เพราะตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูง จึงต้องการอาสาสมัครจำนวนน้อยลง และเชื่อว่าการทดสอบเพิ่มเติมจะไม่ทำให้การอนุมัติใช้วัคซีนในอังกฤษกับยุโรปล่าช้าด้วย

จีนส่งฉางเอ๋อ-5 เก็บหินดวงจันทร์ สานต่อความฝัน ‘Space Dream’

จีนส่งยานอวกาศเก็บหินดวงจันทร์ครั้งแรกรอบ 4 ทศวรรษ

เมื่อช่วงเช้าตรู่วันอังคารที่ 24 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ประเทศจีนประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวด ‘ลอง มาร์ช-5’ (Long March-5) บรรทุกยานอวกาศไร้คนขับ ‘ฉางเอ๋อ-5’ (Chang’e-5) ขึ้นสู่อวกาศ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจ เก็บตัวอย่างหินและดินจากดวงจันทร์ โดยยานฉางเอ๋อ 5 จะไปลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ในวันที่ 27 พ.ย. และคาดว่าจะกลับถึงโลกประมาณวันที่ 16-17 ธ.ค. นี้

เมื่อเดินทางถึงดวงจันทร์ ฉางเอ๋อ-5 จะส่งยานและหุ่นยนต์ลงไปในจุดที่ไม่มีใครเคยแตะต้องมาก่อน ซึ่งถูกเรียกว่า ‘Oceanus Procellarum’ หรือ ‘มหาสมุทรพายุ’ แล้วใช้สว่านขุดพื้นผิวลึกประมาณ 2 เมตร เพื่อเก็บตัวอย่างดินและหินของดวงจันทร์น้ำหนักอย่างน้อย 2 กิโลกรัมกลับสู่โลก

หากภารกิจประสบความสำเร็จ จีนจะขึ้นแท่นเป็นประเทศที่ 3 ของโลกต่อจากสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต ที่เก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับโลกได้สำเร็จ โดยภารกิจ ‘อพอลโล’ ของสหรัฐฯ เคยส่งนักบินอวกาศไปยังดวงจันทร์ทั้งหมด 12 คน และเก็บหินและดินบนดวงจันทร์กลับมาได้รวม 382 กิโลกรัม ส่วนภารกิจ ‘ลูน่า’ ของโซเวียต เคยนำตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับมาราว 170.1 กรัม เมื่อปี 2519

ภารกิจฉางเอ๋อ-5 พิเศษอย่างไร?

ภารกิจฉางเอ๋อ-5 มีความพิเศษกว่าภารกิจก่อนๆ ของจีน โดยหากภารกิจประสบความสำเร็จมันจะสร้างประวัติศาสตร์ถึง 4 อย่างให้กับโครงการอวกาศของจีน ได้แก่ ส่งยานกลับขึ้นจากพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก, ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติเก็บตัวอย่างจากพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรก, ส่งยานไปถึงและเชื่อมต่อยานบนวงโคจรของดวงจันทร์ได้เป็นครั้งแรก และเก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์กลับโลกด้วยความเร็วหลุดพ้นเป็นครั้งแรก

ภารกิจฉางเอ๋อ-5 ประกอบด้วยฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างคือ ยานใหม่, จรวดส่งยานอวกาศ ลอง มาร์ช 5 รุ่นใหม่ และสถานที่ปล่อยจรวดใหม่ โดยภารกิจก่อนหน้านี้ทั้งหมดของจีน ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศจาก ศูนย์ปล่อยดาวเทียม ‘สีฉาง’ ในมณฑลเสฉวน ส่วนฉางเอ๋อ-5 ถูกปล่อยที่ ฐานปล่อยยานอวกาศ ‘เหวินฉาง’ ในมณฑลไห่หนาน หรือ ไหหลำ ทางใต้ของประเทศ

ยานสำรวจดวงจันทร์ลำนี้ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ ยานพุ่งขึ้น (ascender), ยานลงจอด (lander), ยานโคจร (orbiter) และ ยานส่งกลับ (returner) โดยหลังจากที่ยานอวกาศสัมผัสกับแรงดึงดูดของดวงจันทร์ได้แล้ว มันจะเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ ซึ่งสูงจากพื้นผิวราว 200 กม.

จากนั้น ภารกิจจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ยานโคจรกับยานส่งกลับจะอยู่บนวงโคจรของดวงจันทร์ ส่วนยานพุ่งขึ้นและยานลงจอดจะมุ่งหน้าสู่พื้นผิวเพื่อเก็บตัวอย่าง จากนั้นยานพุ่งขึ้นจะยิงตัวเองออกจากยานลงจอด กลับไปเชื่อมต่อกับยานโคจรและยานส่งกลับที่รออยู่บนวงโคจร ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ท้าทายมาก

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน หินและดินจากดวงจันทร์จะถูกส่งจากยานพุ่งขึ้นไปยังยานส่งกลับ ซึ่งจะนำตัวอย่างเดินทางกลับโลกด้วย ‘ความเร็วหลุดพ้น’ (escape velocity) หรือ 11.2 กิโลเมตรต่อวินาที ก่อนจะเผชิญกับความท้าทายสุดท้ายคือการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก ทำให้ภารกิจฉางเอ๋อ-5 เป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของเทคโนโลยีอวกาศของจีน

ไขความลับดวงจันทร์

หินและดินจากดวงจันทร์น้ำหนัก 2 กิโลกรัม อาจฟังดูน้อยมาก แต่มันเป็นแหล่งข้อมูลล้ำค่าที่รัฐบาลจีนทุ่ม เทงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อไปเก็บมันกลับมา อย่างแรกเลยคือ มันอาจช่วยให้มนุษย์เข้าใจอายุที่แท้จริงของดาวบริวารดวงนี้และดาวเคราะห์ดาวอื่นๆ ได้มากขึ้น

ในอดีตที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีการนับจำนวนและขนาดของหลุมอุกกาบาตบนพื้นผิวของดวงจันทร์ เพื่อคำนวณอายุคร่าวๆ แต่วิธีนี้ไม่อาจบอกอายุที่ชัดเจนได้ แต่การเก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์ จะทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถตามรอยอายุได้ด้วยเทคนิคหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี และใช้ผลที่ได้เป็นมาตรวัดอายุจากผลการคำนวณที่ได้จากการนับหลุมอุกกาบาต

แต่ตัวอย่างดินและหินที่ภารกิจลูน่ากับอพอลโลเก็บมา ล้วนมาจากพื้นที่ที่มีอายุมากกว่า 3 พันล้านปีเท่านั้น ทำให้นักวิทยาศาสตร์ไม่มีเกณฑ์มาตรฐานของพื้นผิวส่วนที่อายุน้อยกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ภารกิจฉางเอ๋อ-5 อาจเติมเต็มในส่วนนี้ได้ เนื่องจากคาดกันว่าพื้นที่ ‘มหาสมุทรพายุ’ ซึ่งเป็นทุ่งหินลาวากว้างใหญ่ จะมีอายุเพียง 1 พันล้านปีเท่านั้น

นอกจากนี้ ตัวอย่างจากดวงจันทร์ยังอาจทำให้เราเข้าใจกิจกรรมภูเขาไฟบนดวงจันทร์ได้มากขึ้นด้วย รวมทั้งอาจกุมความลับของดวงอาทิตย์เอาไว้ เพราะดวงจันทร์ต่างจากโลก มันไม่ได้ถูกปกป้องด้วยสนามแม่เหล็ก ทำให้ดวงจันทร์ต้องรับพลังงานจาก ‘ลมสุริยะ’ เต็มๆ ดังนั้น อนุภาคที่ดวงอาทิตย์ปล่อยออกมาในช่วงเวลาต่างๆ จะถูกฝังอยู่ในชั้นหินใต้พื้นผิวของดวงจันทร์ ซึ่งมันอาจมอบโอกาสให้มนุษย์ได้เรียนรู้เรื่องความเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นก็เป็นได้

และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ตัวอย่างจากดวงจันทร์ที่เก็บมาได้ อาจกลายเป็นรากฐานในแผนการสร้างฐานบนดวงจันทร์ของจีนในอนาคตอีกด้วย

สานต่อความฝัน ‘Space Dream’

ความฝันของจีนที่จะเป็นมหาอำนาจอวกาศ เริ่มขึ้นนับตั้งแต่สหภาพโซเวียตปล่อยยาน ‘สปุตนิก’ ในปี 2500 โดยในครั้งนั้น ประธาน เหมา เจ๋อตง ประกาศว่า “เราจะสร้างดาวเทียมด้วยเช่นกัน” แม้ว่าจะต้องใช้เวลานับทศวรรษ คำพูดของเหมาก็กลายเป็นจริงในปี 2513 จีนปล่อยดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ ด้วยจรวด ลอง มาร์ช-1

แต่การส่งมนุษย์ไปอวกาศใช้เวลานานกว่านั้นมาก โดยนาย หยาง หลีเว่ย กลายเป็นนักบินอวกาศจีนคนแรกที่ได้ขึ้นสู่อวกาศในปี 2546 โดยเดินทางไปพร้อมกับยาน ‘เจิ้นโจว-5’ เขาโคจรรอบโลก 14 ครั้ง ภายในระยะเวลา 21 ชั่วโมงก่อนกลับสู่พื้นโลก จากนั้น จีนก็ส่งมนุษย์สู่อวกาศบ่อยขึ้นเรื่อยๆ

ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง สี จิ้นผิง วางแผนเพื่อให้ประเทศจีนไขว่คว้าสิ่งที่เขาเรียกว่า ‘ความฝันอวกาศ’ (Space Dream) เพื่อเปลี่ยนให้จีนกลายเป็นหนึ่งในมหาอำนาจอวกาศภายใน 2 ทศวรรษข้างหน้า โดยความทะเยอทะยานแรกคือการสร้างสถานีอวกาศของตัวเอง หลังจากถูกทิ้งไม่มีส่วนร่วมในการสร้างสถานีอวกาศนานาชาติ ISS

อีกส่วนคือการสำรวจดวงจันทร์ โดยจีนวางแผนไว้ 4 เฟส เฟสแรกทำสำเร็จไปแล้ว คือการไปโคจรรอบดวงจันทร์ กับยาน ‘ฉางเอ๋อ-1’ เมื่อปี 2550 และครั้งที่ 2 กับยาน ‘ฉางเอ๋อ-2’ เมื่อปี 2553 ขณะที่เฟส 2 ก็สำเร็จเรียบร้อยแล้วนั่นคือการส่งยาน ‘ฉางเอ๋อ-3’ ไปลงจอดและสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์เมื่อปี 2556 แต่ต้องลุ้นระทึก เพราะยานขาดการติดต่อไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะฟื้นกลับมาและปฏิบัติภารกิจสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ได้นานถึง 31 เดือน เกินกว่าอายุการใช้งานของมัน

ต่อมาในเดือนมกราคม 2562 จีนสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการส่งยาน ‘ฉางเอ๋อ 4’ ไปลงจอดด้านไกลของดวงจันทร์สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก ส่วนเฟสที่ 3 คือภารกิจเก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์ โดยใช้ ‘ฉางเอ๋อ-5’ และเฟสที่ 4 คือ การสร้างสถานีวิจัยซึ่งบริหารด้วยหุ่นยนต์บริเวณใกล้ขั้วใต้ของดวงจันทร์ ในช่วงปี 2566 ถึง 2570

จีนยังวางแผนส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในปีทศวรรษที่ 2030 และอาจจะส่งยานอวกาศไปเก็บตัวอย่างจากดาวอังคารก่อนปี 2573 ด้วย

ผู้เขียน: H2O

ที่มา: CGTN, phys.org


ศาลกัมพูชาเริ่มคดีฝ่ายค้านเป็นกบฏ ยุยงให้ก่ออาชญากรรม

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ศาลกัมพูชาในกรุงพนมเปญ ได้เริ่มการพิจารณาคดีที่ฝ่ายตรงข้ามและนักวิจารณ์รัฐบาลเกือบ 130 คน โดยเกือบทั้งหมดถูกตั้งข้อหาสมคบคิดกบฏ และยุยงให้ก่ออาชญากรรม ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี เนื่องจากมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

ผู้ที่ถูกพิจารณาคดีส่วนใหญ่เป็นอดีตสมาชิกหรือผู้สนับสนุนพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา พรรคฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวในรัฐสภา ช่วงปลายปี 2560 ฮุนเซนปราบปรามฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรง สื่อสำคัญถูกกดดันให้งดการรายงานข่าวของพรรค และต่อมาถูกยุบพรรค เชื่อว่าเพื่อปูทางให้พรรคของฮุนเซนชนะโดยกวาดที่นั่งทั้งหมด

นายสม โสกง หนึ่งในทนายความฝ่ายจำเลยกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า มีความกังวลว่าจำเลยจะไม่ได้รับการตัดสินที่ยุติธรรม ขณะที่เธียรี เส็ง ทนายความชาวกัมพูชา-อเมริกันหนึ่งในจำเลยเป็นผู้วิจารณ์ฮุนเซนและรัฐบาลอย่างเปิดเผยชี้ว่า คดีนี้เป็นวิธีปิดกั้นมุมมองของประชาคมระหว่างประเทศเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปราบปรามทางการเมือง

ฮุนเซนครองอำนาจมา 35 ปี มักถูกกล่าวหาว่านำประเทศสู่ระบอบเผด็จการ ชาติตะวันตกหลายประเทศได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตร หลังจากสรุปว่าการเลือกตั้งปี 2018 ไม่เสรีหรือยุติธรรม สถานทูตสหรัฐฯประจำกัมพูชาได้เรียกร้องให้รัฐบาลเคารพเสรีภาพของประชาชนอย่างเต็มที่ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


ไบเดนวอนร่วมมือต่อสู้โควิด-19 จริงจัง – ทรัมป์อภัยโทษคดีฉาว

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เรียกร้องชาวอเมริกันร่วมใจกันในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทิ้งความแตกแยกทาง การเมืองไว้เบื้องหลัง ไบเดนให้คำมั่นว่า การต่อสู้กับโควิด-19 จะเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาลเมื่อขึ้นดำรงตำแหน่ง แต่เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ชาวอเมริกันต้องร่วมมือร่วมใจลุกขึ้นสู้เพื่อความปลอดภัยของตนเองและของเพื่อนร่วมชาติ แม้จะรู้ว่าชาวอเมริกันเริ่มเบื่อหน่ายกับการต่อสู้ แต่ขอให้จำไว้ว่าเราทำสงครามกับไวรัสไม่ได้ต่อสู้กันเอง

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งแทบจะไม่ได้กล่าวถึงโควิด-19 เลยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาแม้ว่าจะมียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยังคงยึดติดกับความพยายามที่จะพลิกผลการเลือกตั้งอย่างไม่ลดละ ได้ส่งรูดี จูเลียนี ทนายความส่วนตัวและสมาชิกในทีมกฎหมายไปพบกับวุฒิสมาชิกรัฐเพนซิลเวเนียที่เป็นรีพับลิกันในเกตตีสเบิร์ก เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตในการเลือกตั้งอีกครั้ง ทั้งที่ถูกศาลยกคำร้องโดยกล่าวว่าไม่มีมูลความจริง

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ออกมาเปิดเผยถึงการให้อภัยต่อนายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติที่รับสารภาพว่าให้การเท็จต่อเอฟบีไอใน ประเด็นความเกี่ยวข้องกับรัสเซีย การอภัยโทษดังกล่าวทำให้คดีอาญาของฟลินน์เป็นโมฆะ เช่นเดียวกับที่ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางกำลังตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้กระทรวงยุติธรรมร้องขอให้ยกเลิกการดำเนินคดีหรือไม่แม้ว่าฟลินน์จะสารภาพผิดก็ตาม

ทั้งนี้ ไบเดนที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการถ่ายโอนอำนาจ เช่นการเข้าถึงพื้นที่สำนักงานและข้อมูลสำคัญต่างๆ รวมถึงงบประมาณ ให้คำมั่นว่าจะทำการทดสอบไวรัสเพิ่มขึ้น จัดหาอุปกรณ์ป้องกันและคำแนะนำที่ชัดเจนสำหรับธุรกิจและโรงเรียนในการเปิดเรียนอีกครั้งเมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

และย้ำว่าหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคม และการจำกัดขนาดของการชุมนุม เป็นเครื่องมือที่ มีประสิทธิภาพที่สุดในการต่อสู้กับไวรัสจนกว่าจะมีการแจกจ่ายวัคซีน ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทวีความรุนแรงทั่วประเทศ อัตราการเสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ประชาชนอยู่ในระหว่างเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนว่าการพบปะกันในครอบครัวขนาดใหญ่จะทำให้การระบาดขยายอย่างกว้างขวางและรุนแรงขึ้น ไบเดนเองได้หลีกเลี่ยงการรวมตัวกันของครอบครัวขนาดใหญ่แบบดั้งเดิม โดยใช้เวลาช่วงวันหยุดกับภรรยาลูกสาวและลูกเขย ที่เรโฮบอธ บีช เมืองชายหาดเล็กๆ ในเดลาแวร์ สำหรับวันขอบคุณพระเจ้าก่อนกลับไปวิลมิงตัน เพื่อทำงานต่อไป

สวนสนุกสุดเศร้า ! ดิสนีย์เตรียมปลดพนักงาน 32,000 คน หลังวิกฤตโควิดทำพิษ

ดิสนีย์เตรียมปลดพนักงาน ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า เนื่องจากต้องใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้ต้องจำกัดจำนวนลูกค้าในสวนสนุก

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 สำนักข่าว อัลจาซีรา รายงานว่า บริษัท Walt Disney Co กล่าวว่า บริษัทมีแผนการจะเลิกจ้างพนักงานจำนวน 32,000 คน โดยก่อนหน้านี้ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ดิสนีย์ได้ประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงานจำนวน 28,000 คน เนื่องจากบริษัทพบกับสภาวะยากลำบาก และถูกจำกัดการรับลูกค้าที่จะเข้ามาเที่ยวสวนสนุก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

บริษัทได้กล่าวหลังจากทำการฟ้องร้องที่ล่าช้ากับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่พุธที่ผ่านมา ว่าการปลดพนักงานจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2564 อย่างไรก็ตาม ดิสนีย์ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การปลดพนักงาน 28,000 คน ครั้งที่ประกาศก่อนหน้านี้รวมอยู่ในตัวเลขล่าสุดหรือไม่ แต่โฆษกของบริษัท ยืนยันกับนิตยสาร “Variety” แล้วว่าตัวเลขดังกล่าวนั้น รวมถึงจำนวนที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ดิสนีย์กล่าวว่ามีการขนส่งพนักงานไปเพิ่มที่ดิสนีย์ในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่ารัฐจะอนุญาตให้เปิดสวนสนุกได้ ขณะที่สวนสนุกดิสนีย์ในฟลอริดา และนอกสหรัฐอเมริกา ได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งก่อนหน้านี้แล้วในปีนี้ โดยมีมาตรการที่เคร่งครัดในการเว้นระยะห่างทางสังคม การตรวจโควิด-19 และการสวมหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ไม่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อระบาดจากการไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์

ดิสนีย์แลนด์ในปารีส ถูกบังคับให้ปิดทำการอีกครั้งในปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากฝรั่งเศสประกาศล็อกดาวน์ประเทศอีกครั้ง เพื่อรับมือกับการระบาดระลอก 2 ของโควิด-19 ขณะที่ ดิสนีย์ใน เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ยังคงเปิดทำการอยู่

จากจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นคำร้องเพื่อขอรับสวัสดิการว่างงานเป็นครั้งแรกเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ และ ข้อจำกัดทางธุรกิจ กำลังกระตุ้นการปลดพนักงานและทำลายการฟื้นตัวของตลาดแรงงานทั้งประเทศ กรมแรงงานกล่าวว่า การเรียกร้องรับผลประโยชน์การว่างงานจากรัฐเพิ่มขึ้นจาก 30,000 กรณี เป็น 778,000 กรณี โดยปรับฤดูกาลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดในวันที่ 21 พฤศจิกายน ถือเป็นการเรียกร้องที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันถึงสองสัปดาห์ ซึ่งเกินความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์อย่างมาก สำหรับการยื่นคำร้องมากถึง 730,000 กรณี