เมื่อ 31 พ.ค. ที่ชั้น 2 สำนักงานหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เชิงสะพานพระราม8 นายชัชวาลย์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน อดีต สว.กทม. และคอลัมนิสต์อาวุโสหนังสือพิมพ์สยามรัฐ แถลงข่าวกรณีมีผู้โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่กลุ่มชายฉกรรจ์เข้ารุมทำร้ายนักเที่ยว ในผับย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา
นายชัชวาล กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า ลูกชายตนพร้อมกลุ่มเพื่อนได้เข้าไปเที่ยวที่ผับดังกล่าวย่านเลียบทางด่วนรามอินทราจริง เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยลูกชายเล่าให้ฟังว่า ขณะที่นั่งดื่มกินกันตามปกติภายในร้าน ได้มีกลุ่มชายคู่กรณี ตามที่พบเห็นในคลิป ใช้มือชี้มาที่โต๊ะพร้อมพูดขึ้นว่า "แมน เตาปูน" ก่อนเพื่อนในกลุ่มอีกคนตะโกนตามมา ว่า "เฮ้ย! แมน เตาปูน แล้วงัย" โดยพูดอย่างเสียงดัง 2-3 ครั้ง ก่อนจะมีผู้ใหญ่ที่อยู่ในผับเข้ามาพูดกลับกลุ่มชายที่ตะโกนว่า "พวกคุณเที่ยวกันให้มีมารยาทหน่อย" พร้อมกับมีการเชิญให้ออกไปจากร้าน
แต่กลุ่มชายดังกล่าวไม่ยอมออกไป แม้จะถูกผลักหรือดันอย่างไร ซึ่งจังหวะนั้นลูกชายตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงเดินทางออกจากร้านไปก่อนหน้า จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนกันขึ้น ภายในร้าน ซึ่งได้มีการชกต่อยกัน บานปลายมาถึงบริเวณหน้าร้าน เพราะกลุ่มคู่กรณีไม่ยอม ตามออกมาตะโกนด่าว่า "มึงแน่มาจากไหนว่ะ ไอ้..." ก่อนจะมีกลุ่มผู้ใหญ่เข้ามาเคลียร์และพยายามแยกกลุ่มคู่กรณีออกไป โดยตนยืนยันว่าภาพคลิปวีดีโอทั้ง 2 เหตุการณ์นั้นไม่มีภาพลูกชายตนปรากฎอยู่เลย แต่หลังจากนั้นได้มีผู้ใหญ่ชื่อ "เฮียเพ้ง" ติดต่อมาหาลูกชายตน ว่ากลุ่มคู่กรณีอยากเข้ามาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ลูกชายตนบอกว่าไม่เป็นไร เรื่องแค่นิดเดียว
นายชัชวาลย์ กล่าวต่อว่า จากการสังเกตคิดว่าคนที่นำคลิปมาโพสต์ลงยูทูปนั้น มีเจตนาไม่ดีกับทางครอบครัวตน โดยใช้คำว่า "อันธพาลครองเมือง" ปรากฏมาในคลิป ตนอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่สบายใจและไม่ยุติธรรมเลยสำหรับครอบครัวตน ซึ่งก็มีผู้เข้ามาคอมเม้นท์ต่อว่าลูกชายตนต่างๆ นานา จนลามไปถึงข้อความที่โพสต์ลงว่า "ขนาดลูกเฉลิมกูยังกระทืบมาแล้ว" วันนี้จึงต้องออกมาชี้แจงให้ทราบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวคู่กรณีทั้ง2 ฝ่ายและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ไปพูดคุย ถ้าใครผิดก็ว่ากันไปตามนั้น ส่วนเรื่องที่มีการพูดว่า ลูกเฉลิมกูยังกระทืบมาแล้วนั้น ลูกชายตนยืนยันไม่เคยพูดและกระทำเรื่องแบบนั้น ตามที่มีคนโพสต์แต่อย่างใด เชื่อว่าคนพยายามโยงให้เข้าไปเกี่ยวกับเรื่องการเมือง จากนี้กำลังพิจารณาจะฟ้องร้องเว็บไซต์ที่มีการโพสต์ข้อความที่รุนแรง และไม่เป็นความจริง
สภาฯ รับหลักการร่างพรบ.งบฯ 57 แล้ว 292 : 155 เสียง 'สส.ปชป.' ท้วง 'คนพท.' เสนอชื่อ 'สส.ภูมิใจไทย-รักษ์สันติ' ร่วมเป็นกมธ.
31 พ.ค. 56 สภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการ แห่งร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ด้วยคะแนนเสียง 292 เสียง ต่อ 155 เสียง และมีผู้งดออกเสียง 27 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 คะแนน หลังจากที่ใช้เวลาพิจารณารวม 30 ชั่วโมง จากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา จำนว 63 คน และกำหนดวันแปรญัตติ 30 วัน โดยคณะกรรมาธิการจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 3 มิ.ย.นี้
หลังจากที่ตัวแทนของพรรคต่างๆ ลุกเสนอชื่อบุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่ง กรรมาธิการฯ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกเสนอชื่อ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมาธิการฯ ทำให้ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ทักท้วงว่ากรณีที่ สส.ของพรรคอื่น เสนอชื่อ สส.ต่างพรรคให้เข้าดำรงตำแหน่งกรรมาธิการฯ มีความเหมาะสมหรือไม่ เช่น พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นางนันทนา สงฆ์ประชา สส.ชัยนาท พรรคภูมิใจไทย ให้อยู่ในโควต้าของพรรคเพื่อไทย จะทำได้แน่หรือไม่ แต่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ฐานะประธานในที่ประชุม ระบุว่า การตั้งกรรมาธิการดังกล่าวได้มีการหารือและตกลงกันไว้ล่วงหน้ามาแล้ว
ทั้งนี้ ก่อนการลงมติ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิ์ชี้แจงต่อที่ประชุมฯ ว่า ร่าง พรบ.งบฯ 57 ประเด็นที่มีผู้อภิปรายว่าการจัดงบประมาณให้กับหน่วยงานบางหน่วยงานที่มีความสำคัญลดลงจากปีงบประมาณที่ผ่านมา ตนขอชี้แจงว่าเป็นเพราะบางหน่วยงานได้ทำภารกิจในปีที่ผ่านมาแล้วเสร็จ จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ที่ปี 2556 จัดงบเพื่อช่วยเหลือเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยน้ำท่วม แต่ในปี 2557 ไม่มีปัญหาเรื่องดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องจัดงบประมาณอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าหน่วยงานใดลดงบประมาณลง ควรพิจารณาในรายละเอียดมากกว่าตัวเลขเพียงอย่างเดียว
ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายปิดการนำเสนอร่าง พรบ.งบฯ 57 แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติราชการที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ว่า การจัดสรรงบประมาณได้ทำสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเน้นการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างความเป็นธรรมทั่วถึง มุ่งให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
สภาฯ รับหลักการร่างพรบ.งบฯ 57 แล้ว 292 : 155 เสียง 'สส.ปชป.' ท้วง 'คนพท.' เสนอชื่อ 'สส.ภูมิใจไทย-รักษ์สันติ' ร่วมเป็นกมธ.
31 พ.ค. 56 สภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการ แห่งร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 ด้วยคะแนนเสียง 292 เสียง ต่อ 155 เสียง และมีผู้งดออกเสียง 27 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 คะแนน หลังจากที่ใช้เวลาพิจารณารวม 30 ชั่วโมง จากนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา จำนว 63 คน และกำหนดวันแปรญัตติ 30 วัน โดยคณะกรรมาธิการจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 3 มิ.ย.นี้
หลังจากที่ตัวแทนของพรรคต่างๆ ลุกเสนอชื่อบุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่ง กรรมาธิการฯ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกเสนอชื่อ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์สันติ ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมาธิการฯ ทำให้ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ทักท้วงว่ากรณีที่ สส.ของพรรคอื่น เสนอชื่อ สส.ต่างพรรคให้เข้าดำรงตำแหน่งกรรมาธิการฯ มีความเหมาะสมหรือไม่ เช่น พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นางนันทนา สงฆ์ประชา สส.ชัยนาท พรรคภูมิใจไทย ให้อยู่ในโควต้าของพรรคเพื่อไทย จะทำได้แน่หรือไม่ แต่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ฐานะประธานในที่ประชุม ระบุว่า การตั้งกรรมาธิการดังกล่าวได้มีการหารือและตกลงกันไว้ล่วงหน้ามาแล้ว
ทั้งนี้ ก่อนการลงมติ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิ์ชี้แจงต่อที่ประชุมฯ ว่า ร่าง พรบ.งบฯ 57 ประเด็นที่มีผู้อภิปรายว่าการจัดงบประมาณให้กับหน่วยงานบางหน่วยงานที่มีความสำคัญลดลงจากปีงบประมาณที่ผ่านมา ตนขอชี้แจงว่าเป็นเพราะบางหน่วยงานได้ทำภารกิจในปีที่ผ่านมาแล้วเสร็จ จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อไป เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ที่ปี 2556 จัดงบเพื่อช่วยเหลือเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยน้ำท่วม แต่ในปี 2557 ไม่มีปัญหาเรื่องดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องจัดงบประมาณอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าหน่วยงานใดลดงบประมาณลง ควรพิจารณาในรายละเอียดมากกว่าตัวเลขเพียงอย่างเดียว
ส่วนนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายปิดการนำเสนอร่าง พรบ.งบฯ 57 แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ปฏิบัติราชการที่สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ว่า การจัดสรรงบประมาณได้ทำสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา โดยเน้นการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างความเป็นธรรมทั่วถึง มุ่งให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012