ข่าว
ทูตสหรัฐฯ โพสต์ภาพคู่ ‘ไบเดน-เศรษฐา’ เนื่องในวันยิ้มโลก ย้ำมิตรภาพแน่นแฟ้น 2 ประเทศ

ฮามาสเผยตัวประกันตาย 13 มีต่างชาติด้วย – วันที่ 13 ต.ค. เอพีรายงานความคืบหน้าการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มนักรบฮามาสที่ฉนวนกาซา ล่าสุด นักรบฮามาสเปิดเผยว่า ตัวประกันที่นักรบฮามาสจับตัวไปนั้นเสียชีวิตแล้ว 13 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ มีชาวต่างชาติด้วย

แถลงการณ์นักรบฮามาส ระบุว่า มีตัวประกันอย่างน้อย 13 ราย ที่สูญเสียชีวิตจากปฏิบัติการถล่มทางอากาศของกองทัพอิสราเอลใน 5 พื้นที่ ทั่วภาคเหนือของฉนวนกาซา โดยในจำนวนนี้ มีตัวประกันชาวต่างชาติด้วย แต่ฮามาสไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นบุคคลสัญชาติใด

การเปิดเผยดังกล่าวเกิดขึ้นหลังนักรบฮามาสปฏิเสธที่จะเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ทางภาคเหนือของฉนวนกาซา หลังกองทัพอิสราเอลเผยแพร่แถลงการณ์ให้พลเรือนทั้งหมดกว่า 1.1 ล้านคน อพยพเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง

ด้านหน่วยงานของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เร่งอพยพเจ้าหน้าที่และพลเรือนปาเลสไตน์ทางภาคเหนือของฉนวนกาซ่าออกจากพื้นที่แล้ว หลังได้รับแจ้งจากกองทัพอิสราเอล

/

ส่วนยูเอ็นมองว่าเป็นคำสั่งที่เป็นไปไม่ได้โดยปราศจากวิกฤตด้านมนุษยธรรม และเรียกร้องให้อิสราเอลทบทวนคำสั่งดังกล่าว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า เป็นสัญญาณที่กองทัพอิสราเอลเตรียมเปิดปฏิบัติภาคพื้นดินขนาดใหญ่เข้าไปภายในพื้นที่ทางเหนือของกาซา

/

นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น กล่าวว่า ยูเอ็นพิจารณาแล้วพบว่าการอพยพในลักษณะข้างต้นไม่สามารถเป็นไปได้โดยปราศจากการสร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรง และว่ายูเอ็นขอเรียกร้องให้ทางการอิสราเอลทบทวนคำสั่งเพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่จะซ้ำเติมสถานการณ์์ระดับโศกนาฏกรรมให้วิกฤตหนักขึ้นไปอีก

ความเคลื่อนไหวของยูเอ็นเกิดขึ้นหลังกองทัพอิสราเอลเผยแพร่แถลงการณ์ว่า ให้ผู้อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือของกาซาเคลื่อนย้ายลงไปอยู่ทางใต้ภายใน 24 ชม. เพื่อความปลอดภัย และยืนยันว่ากองทัพอิสราเอลจะดำเนินภารกิจทั้งหมดในกาซาต่อไปและจะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อชีวิตของพลเรือน

สถานการณ์การสู้รบที่ยังคงทวีความรุนแรงต่อเนื่องระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มนักรบฮามาสภายในฉนวนกาซาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2,600 ราย บาดเจ็บกว่า 9,000 คน ขณะที่ตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปไว้ในกาซากว่า 150 คนนั้นยังไม่ทราบชะตากรรม

ด้านนายกิลาด เออร์เดน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น กล่าวประณามท่าทีของยูเอ็นที่ออกมาหลังคำสั่งอพยพพลเรือนของกองทัพอิสราเอล ว่าน่าละอายเนื่องจากยูเอ็นเพิกเฉยต่อการติดอาวุธและใช้กาซาเป็นฐานที่มั่นโจมตีอิสราเอลเสมอมา แทนที่จะยืนอยู่ข้างอิสราเอลกลับสั่งสอนอิสราเอลว่าควรทำเช่นไร

คิม-ปูติน แลกจดหมายชื่นมื่น

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ได้ทำการแลกเปลี่ยน จดหมายกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เนื่องในโอกาส 75 ปี ฉลองความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเกาหลีเหนือ-รัสเซีย ทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนจดหมายกันหลังนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เดินทางเยือนภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ได้กล่าวในจดหมาย ว่ามีความพึงพอใจอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนือและรัสเซียได้หารือกันอย่างตรงไปตรงมาและครอบคลุมระหว่างการเยือนเจรจาครั้งนั้น รัฐบาลเกาหลีเหนือขอให้คำมั่นว่าจะยกระดับความสัมพันธ์กับรัสเซียไปสู่จุดสูงสุดจุดใหม่ พร้อมขออวยพรให้นายปูตินโชคดีและประสบความสำเร็จในการต่อต้านแรงกดดันของชาติตะวันตกในเรื่องยูเครน

ส่วนนายปูตินได้ส่งจดหมายถึงนายคิม จอง อึนว่า เชื่อมั่นว่าการดำเนินตามข้อตกลงของเราจะช่วยขยายความร่วมมือทวิภาคีแบบครอบคลุม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรทั้งสองประเทศ และความมั่นคง-เสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลี


สหรัฐฯ เตรียมอพยพชาวอเมริกันในอิสราเอล หลังยอดตายเพิ่มเป็น 27 ศพ

สหรัฐฯ แถลงยอดชาวอเมริกันที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเพิ่มเป็น 27 ศพแล้ว ขณะที่ยอดผู้สูญหายตอนนี้อยู่ที่ 14 ราย โดยสหรัฐฯ กำลังเร่งดำเนินการส่งเครื่องบินเพื่อรับชาวอเมริกันกลับบ้านในวันศุกร์นี้

นายจอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวระบุว่า ยอดชาวอเมริกันที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเพิ่มเป็น 27 ศพ ขณะที่ยอดผู้สูญหายตอนนี้อยู่ที่ 14 ราย

โดยขณะนี้สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าทำงานร่วมกับทางการอิสราเอล เพื่อหาพิกัดของผู้ที่สูญหาย โดยเชื่อว่าผู้สูญหายบางส่วนอาจจะถูกจับไปเป็นตัวประกันด้วย ซึ่งอเมริกากำลังทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อช่วยชาวอเมริกันทั้งหมดให้ปลอดภัย

ส่วนการอพยพชาวอเมริกันกลับจากอิสราเอล กำลังจะเริ่มในวันศุกร์นี้ โดยจัดเที่ยวบินเช่าเหมาลำอย่างน้อย 4 ลำต่อวัน เพื่อลำเลียงชาวอเมริกันออกจากอิสราเอล นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางอื่นๆ ในการช่วยเหลือชาวอเมริกันด้วย โดยอาจจะเป็นการอพยพทางภาคพื้นดิน รวมทั้งทางทะเล ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

โดยในเวลานี้ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางไปยังกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อพบหารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนอิสราเอล และพลเมืองชาวอิสราเอล นอกจากนี้นายบลิงเคนยังเดินทางไปยังศูนย์รับบริจาคในกรุงเทลอาวีฟโดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้า เพื่อพูดคุยกับกลุ่มผู้รอดชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสที่งานเทศกาลดนตรีด้วย โดยหลังจากนี้นายบลิงเคนจะเดินทางต่อไปยังซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอียิปต์

ที่มา : เอพี


หวย ‘พาวเวอร์บอล’ แจ็กพอตแตก คนดวงดีถูกคนเดียว 6.4 หมื่นล้านบาท

แจ็กพอตหวย พาวเวอร์บอล ของสหรัฐฯ มูลค่าสูงสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ แตกแล้ว โดยมีผู้ถูกรางวัลเพียงคนเดียวเท่านั้น อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 12 ต.ค. 2566 ว่า แจ็กพอตหวย ‘พาวเวอร์บอล’ ซึ่งเงินรางวัลสะสมมาจนถึง 1.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.4 หมื่นล้านบาท) สูงที่สุดเป็นอันดัน 2 ในประวัติศาสตร์ มีผู้ถูกรางวัลแล้ว โดยลอตเตอรี่ใบที่ถูกรางวัลถูกขายไปในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีผู้โชคดีเพียง 1 คนเท่านั้นแต่ไม่มีการเปิดเผยว่า เขาหรือเธอคนนี้เป็นใคร

อย่างไรก็ตาม ผู้โชคดีมีสิทธิ์เลือกว่าจะรับเงินรางวัลแบ่งเป็นงวดตลอดระยะเวลา 30 ปี หรือ รับแบบก้อนเดียว ซึ่งเงินทั้งหมดที่จะได้รับหลังหากภาษีต่างๆ จะอยู่ที่ราว 774.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.8 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ รางวัลแจ็กพอตใหญ่สุดของหวย พาวเวอร์บอล คือ 2.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผู้ถูกรางวัลในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา และลอตเตอรี่ใบนี้ก็ถูกขายไปในรัฐแคลิฟอร์เนียเช่นกัน

การถูกแจ็กพอตมูลค่ามหาศาลของหวยพาวเวอร์บอล ซึ่งมีขายทั่วสหรัฐฯ, เปอร์โตริโก และหมู่เกาะเวอร์จิน เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากมีการขึ้นราคาเป็นใบละ 2 ดอลลาร์ รวมถึงปรับเปลี่ยนวิธีการเลือกตัวเลขให้ถูกรางวัลยากขึ้น จากเดิมที่ให้เลือกเลข 5 ตัวจากระหว่าง 1-59 ก็ถูกเพิ่มเป็น 1-69

ขณะที่เลขแจ็กพอตพาวเวอร์บอล ซึ่งเป็นตัวเลขที่ 6 เดิมต้องเลือกระหว่าง 1-35 ถูกลดลงมากเหลือ 1-26 ทำให้อัตราการถูกรางวัลใหญ่ลดลงจาก 1 ใน 175.2 ล้าน เป็น 1 ใน 292.2 ล้าน เทียบกับโอกาสที่คน 1 คนจะถูก 1 ครั้งในช่วงระยะเวลา 1 ปี มีเพียง 1 ใน 1.22 ล้านเท่านั้น

ที่มา : bbc


อิสราเอลเตรียมจัดหนัก แจ้งพลเรือนอพยพจากตอนเหนือของกาซาภายใน 24 ชั่วโมง

กองทัพอิสราเอลแจ้งเตือนไปยังยูเอ็น และพลเรือนในกาซาซิตี้ให้เร่งอพยพออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซาภายใน 24 ชั่วโมง ก่อนที่กองทัพจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารอย่างหนักหน่วงเพื่อปราบกลุ่มฮามาสให้ราบคาบ

กองทัพอิสราเอลเตรียมเปิดปฏิบัติการทางทหารครั้งสำคัญในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมีการแจ้งเตือนไปยังองค์การสหประชาชาติรวมทั้งพลเรือนในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซาให้เร่งอพยพออกจากพื้นที่ ลงไปทางตอนใต้เพื่อความปลอดภัย โดยประชาชนจะกลับมายังบ้านเรือนของตัวเองได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อมีการประกาศอนุญาตจากกองทัพอิสราเอลเท่านั้น นอกจากนี้ประชาชนในฉนวนกาซายังได้รับคำสั่งไม่ให้เข้าใกล้บริเวณแนวพรมแดนที่ติดกับอิสราเอลด้วย

ด้านสำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ ระบุว่าทางหน่วยงานได้เคลื่อนย้ายศูนย์ปฏิบัติการและเจ้าหน้าที่นานาชาติไปยังพื้นที่ทางตอนใต้ของกาซาแล้ว หลังจากที่ได้รับการประสานมาจากกองทัพอิสราเอล ให้เร่งอพยพพลเรือนชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซาภายใน 24 ชั่วโมง โดยเบื้องต้นมีประชากรอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวราว 1.1 ล้านคน

โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ จะเร่งดำเนินการอพยพและดูแลความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่ลี้ภัยมาอาศัยอยู่ตามที่พักพิงชั่วคราวของยูเอ็น โดยพื้นที่ของยูเอ็นทั้งหมดจะต้องได้รับการปกป้องและไม่ถูกโจมตีไม่ว่าฝ่ายใด ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

ที่มา :อัลจาซีรา


ซ่อนตัวอยู่ใต้ศพ ! สาวเผยนาทีเฉียดตาย กลุ่มฮามาสบุกกราดยิงในเทศกาลดนตรี

หญิงสาวชาวอเมริกันเข้าร่วมเทศกาลดนตรีใกล้เขตฉนวนกาซาโดยไม่รู้เลยว่าจะกลายเป็นประสบการณ์สุดสะเทือนขวัญที่เธอต้องหนีเอาตัวรอดโดยการซ่อนตัวอยู่ใต้ศพของเพื่อนและญาติสนิท

ลี ซาซี หญิงชาวอเมริกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังอยู่ในพื้นที่จัดงานเทศกาลดนตรีกลางแจ้ง ‘ซูเปอร์โนวา’ ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนเขตฉนวนกาซา เมื่อกลุ่มหัวรุนแรงฮามาสบุกเข้าโจมตีผู้คนในงานด้วยกระสุนปืนและระเบิดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน

ซาซี ให้สัมภาษณ์นักข่าวสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยเล่าถึงวิธีการที่เธอเอาตัวรอดจากการบุกกราดยิงของกลุ่มฮามาสมาได้ โดยการซ่อนตัวอยู่ข้างใต้ศพของลุงของเธอและเพื่อน

ซาซี เล่าว่าตอนแรกพวกเขากำลังสนุกกับงานปาร์ตี้และการถ่ายรูป เมื่อมองเห็นจรวดที่ยิงออกมาเหนือท้องฟ้า พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมันดูเหมือนดอกไม้ไฟ

แต่หลังจากที่รู้ว่านี่คือการบุกโจมตีจากกองกำลังติดอาวุธ พวกเขาก็รีบออกจากงาน มุ่งตรงไปยังสถานที่หลบระเบิดที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็เจอทหารฮามาสพร้อมอาวุธปืน เพื่อนของเธอที่ออกมายืนกันอยู่ตรงทางเข้าห้องหลบภัยหลายคนโดนยิง จากนั้นทหารกลุ่มฮามาสก็โยนระเบิดมือเข้ามา แรงระเบิดทำให้ลุงของ ซาซี เสียชีวิต เพราะเขาเอาตัวกันเธอไว้

นอกจากนี้ยังมีลูกพี่ลูกน้องของเธออีกคนหนึ่งซึ่งกำลังตั้งครรภ์และหายตัวไป คาดว่าน่าจะโดนลักพาตัวไปโดยกลุ่มฮามาส

ซาซี เล่าว่าทหารของกลุ่มฮามาสหัวเราะชอบใจในระหว่างที่พวกเขาไล่ยิงคนที่มาดูคอนเสิร์ต เสียงของพวกเขาฟังเหมือนกำลังตื่นเต้นและสนุกสนาน เหมือนกับว่ารอมานานที่จะได้ฆ่าคน

ซาซี ซ่อนตัวอยู่นานหลายชั่วโมงใต้ศพที่กองทับถมกัน จนกระทั่งเธอได้รับการช่วยเหลือ เธอมีอาการหูดับไปข้างหนึ่งเนื่องจากเสียงปืนและระเบิดในบริเวณนั้นดังมาก

ลี ซาซี ผู้รอดชีวิตจากการบุกโจมตีของกองกำลังฮามาสด้วยการซ่อนตัวอยู่ใต้กองศพ

หญิงสาวเล่าว่าเธอตัดสินใจที่จะซ่อนตัวอยู่ใต้ศพที่กองรวมกันอยู่ในห้องหลบภัย ก็เพื่อป้องกันตัวเองจากการโดนระเบิดมือที่กลุ่มฮามาสขว้างใส่ไปทั่ว

“ทุกคนกำลังตายไปต่อหน้าต่อตาของฉัน” เธอเล่าและบรรยายว่าเธอกำลังนั่งอยู่บนกองศพ แต่แล้วกลุ่มฮามาสก็เริ่มโยนระเบิดมือออกมาหลายลูก เธอจึงรีบมุดเข้าไปอยู่ใต้ศพเหล่านั้น เพื่อปกป้องตัวเอง พร้อมกับภาวนาให้คนมาช่วยตามสัญญาณขอความช่วยเหลือที่เธอส่งออกไปจากโทรศัพท์มือถือ

ซาซี ต้องอดทนซ่อนตัวอยู่ใต้กองศพไม่ต่ำกว่า 7 ชม. ท่ามกลางเสียงปืนและระเบิดที่ดังตลอดเวลา กว่าทีมช่วยเหลือจะตามหาเธอจนเจอและช่วยเหลือออกมา

ซาซี กล่าวว่าเธอหวังว่าโลกจะได้รับรู้เรื่องราวการรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ของเธอและหวังว่ามันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

มีการประเมินว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานเทศกาลดนตรีซูเปอร์โนวาอยู่ที่ 3,500 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตจากการไล่ล่าสังหารของกองกำลังฮามาสราว 260 คนเป็นอย่างน้อย

ด้านคณะบริหารของประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า มีชาวอเมริกันไม่ต่ำกว่า 20 คนที่ยังคงเป็นบุคคลสูญหายในอิสราเอล

ที่มา : thehill.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES... 6/

19 แรงงานจาก ‘อิสราเอล’ ลอต 2 กลับถึงไทย เล่านาทีหนีตายนอนหลับไม่ลง

19 แรงงานจาก “อิสราเอล” ลอตที่ 2 กลับไทยถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้ เวลา 17.15 น. เผยเหตุการณ์สุดสะพรึง เอาตัวรอดหนีตาย ถูกยิง โดนสะเก็ดระเบิด กินไม่ได้นอนไม่หลับ

เมื่อเวลา 17.15 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ แรงงานไทยซึ่งเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์สงครามและหลบหนีมาจากพื้นที่อันตราย ในประเทศอิสราเอล ชุดที่ 2 จำนวน 19 คน ด้วยเที่ยวบินของสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY085 โดยออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ เวลา 04.30 น. ของ วันที่ 13 ตุลาคม 2566 และ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 17.15 น. ของวันเดียวกัน ก่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดรถส่งคนไทยทั้งหมดกลับสู่ภูมิลำเนา

รายชื่อผู้ที่เดินทางกลับไทย 1.นายวีระพนธ์ หลับจันทร์ / 2.นายดุสิต วิบูลวิโรจน์กุล / 3.นายบุญมา ตาฮอง / 4.นายเกรียงศักดิ์ พันธุ์สุรี / 5.นายศราวุธ ทับทิม / 6.นายไพฑูรย์ รักมณี / 7.นายสุริยันต์ กันตา / 8.นายวิชัย ทิวพงษ์งาม / 9.นายคมสัน คำทอง / 10.นายวิสุทธิ์ แซ่เล้า / 11.นายเจิมศักดิ์ แซ่เล้า / 12.นายผดุง บุตโม / 13.นายชาตรี ชาศรี / 14.นายปฐมพงษ์ หวันลา / 15.นายสุชาติ จันทร์บาง / 16.นายอานนท์ โพธิ์ศรี / 17.นายรชานนท์ ศรีใส / 18.นายนิสัน คล้ายคลึง / 19.นายจิรพันธ์ ธงอาสา

ข้อมูลเพิ่มเติมการอพยพ ครั้งที่ 3 จำนวน 100 คน ออกเดินทางจากอิสราเอลในวันที่ 14 ตุลาคม 2666 เวลา 11.00 น. เปลี่ยนเครื่องที่ นครดูไบ เพื่อโดยสารต่อโดยเที่ยวบิน FZ1837 ออกจาก นครดูไบ เวลา 20.00 น. และถึงประเทศไทย ในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 เวลา 07.25 น. เมื่อถึง สนามบินอู่ตะเภา แล้วจะมีรถบัสรับจากอู่ตะเภา ไปยัง รร. SC Park เพื่อให้ญาติพี่น้องรับกลับภูมิลำเนา โดยญาติพี่น้องของคนไทย 100 คน สามารถมาพบญาติที่เดินทางกลับไทยโดยเที่ยวบินดังกล่าว ที่ รร. SC Park ประมาณ 10.00 น เป็นต้นไป (ข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศ)

นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า ในกรณีพื้นที่จุดเสี่ยงในการสู้รบ หรือ จุดเสี่ยงภัย จากการพูดคุยกับทางท่านทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ทราบว่าตอนนี้คนไทยได้ออกมาเกือบหมดแล้ว ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์แล้ว พอออกมาจากจุดเสี่ยงแล้วก็ต้องมาอยู่ตามศูนย์อพยพต่างๆ รอบๆ เมือง ส่วนสถานการณ์ยังมีการยิงปืนกันอยู่ ส่วนจรวดได้หยุดยิงไปประมาณ 10 ชั่วโมงแล้ว และ สถานการณ์นั้นไม่แน่นอนสูงมาก อาจจะมีการยิงกันได้ตลอดเวลา โดยการอพยพคนออกจะต้องมีการขอจากหน่วยงานราชการที่นั้น โดยการช่วยเหลือนั้น เจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือคนที่หลบอยู่ตามจุดต่างๆ ก่อนที่จะนำออกมาที่ปลอดภัย ก่อนที่จะพิจารณากลับประเทศ

โดยที่วันนี้มีแรงงานเดินทางกลับประเทศทั้งหมด 57 คน โดยที่สถานทูตส่งมา 19 คน ส่วนแรงงานที่ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเอง ทางรัฐบาลยืนยันช่วยเหลือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง โดยท่านนายกรัฐมนตรี

ย้ำว่า แรงงานที่กลับมาจากอิสราเอล ทางรัฐบาลไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่าง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่เดิน ทางกลับมา ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ตรวจเช็คร่างกายก่อนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา

โดยหลังจากเมื่อช่วงเช้า ได้มีการประชุมกับสายการบินหลายสาย โดยสรุปทางเราได้ส่งเครื่องบินเข้าไปในอิสราเอลรับคนไทยกลับมาได้หลายร้อยคน แต่เข้าใจว่ายังไม่พอ โดยยังหาช่องทางอื่นๆ เพื่อนำคนไทยออกมา จากวันนี้ถึงสิ้นเดือน คาดว่าจะมีคนไทยกลับบ้านได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 คน

นางบุญโฮม บุตโม อายุ 50 ปี แม่ของนายผดุง เล่าว่า ลูกโทรมาบอกว่าแม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหลบอยู่ และในช่วงประมาณ 4 ทุ่ม ลูกชายก็แชทมาบอกว่า ผมรักแม่นะ หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย และหลังจากที่ติดต่อกันได้นั้น ลูกชายบอกว่าตลอด 4-5 วันที่ผ่านมาลูกชายถูกทหารช่วยไว้ ส่วนเพื่อนในแคมป์นั้นบางส่วนก็มีถูกจับเป็นตัวประกัน 2 คน เป็นชายหญิง โดยลูกชายตนเองก็ได้รับบาดเจ็บถูกยิงโดยที่บริเวณก้น โดยวันนี้ ตื่นเต้น และ ดีใจที่ลูกชายเดินทางกลับมาและได้เจอหน้ากัน ส่วนอนาคตนั้นจะกลับไปทำงานอีกไหม ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของเขา แต่เขาคงไม่กลับไปแล้วเพราะกลัว

แม่ยายของนายผดุง เล่าว่า แคมป์พักคนงานอยู่ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 20 กม. ส่วนลูกแม่ไปทำงานได้ประมาณ 6 เดือน โดยตัวลูกชายนั้นก็รู้ว่าในพื้นที่นั้นมีความไม่สงบ แต่ไม่หนักเหมือนครั้งนี้ โดยหลังจากกินข้าวเสร็จลูกชายก็ออกมาเดินอยู่หลังบ้านก็ถูกยิง 1 นัด โดนสะเก็ดระเบิด 3 ที่ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเพื่อนก็ถูกไฟคลอก เนื่องจากมีคนบุกเข้ามายิง โดยลูกชายไปทำงานเกี่ยวกับการเกษตร วันนี้ดีใจที่ลูกชายได้กลับมาเมืองไทย

นายเชา คนไทย เล่าว่า ทางครอบครัวเป็นห่วงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้และขอให้กลับมาก่อน และมีคนไทยรอกลับประเทศไทยอีกเยอะ และซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเองก็เยอะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงกว่าทุกครั้ง

นายบุญชัย แซ่ย่าง อายุ 35 ปี เล่าว่า ตนเองอยู่ห่างจากแคมป์ที่เขายิงกันประมาณ 7 กม. และ 1 ในนั้นที่โดยยิงเป็นคู่เขยตน เสียใจมากที่เขาไม่ได้กลับมาด้วย ตนเองไปทำงานการเกษตร พึ่งไปได้ประมาณ 1 ปี กับ 10 เดือน โดยสถานการณ์ตอนนั้น ทำให้นอนไม่หลับ เงินก็ยังเก็บไม่ได้ แต่ต้องกลับมาก่อน เอาชีวิตรอดก่อน