ข่าว
สะพานยักษ์ข้ามทางหลวงถล่ม ทับรถผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมาก!

เมื่อ 16 มี.ค. เอพีรายงานอุบัติเหตุใหญ่ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา สะพานคนเดินข้ามทางหลวงของมหาวิทยาลัยนานาชาติฟลอริดาถล่มลงมาทับรถยนต์และ ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในรถอย่างน้อย 5 คัน

หน่วยกู้ภัยไมอามี-เดด ทวีตข้อความว่า “เราช็อกและเสียใจกับเหตุโศกสลดนี้ที่ สะพานคนเดิน ฟลอริดา อินเตอร์เนชันแนล ยูนิเวอร์ซิตี- สวีตวอเทอร์ที่ถล่มลงมา เวลานี้เราเร่งกู้ภัยและรวบรวมข้อมูลอยู่”

สะพานคนเดินดังกล่าวมีมูลค่าก่อสร้าง 14.2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 440 ล้านบาท น้ำหนักรวม 950 ตัน ข้ามทางหลวงที่มีการจราจรคับคั่ง 7 เลนที่แยกพื้นที่ของ มหาวิทยา ลัยออกจากเมืองสวีตวอเทอร์ ออกแบบและก่อสร้างโดยบริษัท FIGG Bridge Engineers ผู้ได้รับงานก่อสร้างสะพานทั่วสหรัฐ และเป็นบริษัทที่ได้รับรางวัล ด้านการออกแบบ ก่อสร้างมาก่อน

เมื่อวันเสาร์ที่ 10 มี.ค. เพิ่งมีพิธีฉลองการก่อสร้างสะพาน ซึ่งนายมาร์ก บี. โรเซนเบิร์ก อธิการบดีมหาวิทยาลัยกล่าวว่า โครงการก่อสร้างนี้มุ่งให้เกิดความปลอดภัยแก่นักศึกษา และบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างดี

เชือดผู้การเมืองกาญจน์ ขาดทักษะ ยุ่งพยานหวย

ความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้าน ที่กาญจนบุรี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 มี.ค. 61 นางปณัญชยา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว ได้เปิดแผงขายลอตเตอรี่ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) ต.บ้านใต้ เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี มีลูกค้ามาซื้อลอตเตอรี่จำนวนมาก โดย เจ๊เกียว เปิดเผยกรณีที่ นายแผน จะไปร้องเรียนต่อกระทรวงยุติธรรม ให้ดีเอสไอ รับคดีหวย 30 ล้านบาท เป็นคดีพิเศษ ว่า ทราบเรื่องนี้แล้ว และยังจะมีการเดินหน้าร้องเรียนหน่วยงานอื่นอีก แต่ไม่บอกว่าจะไปที่ไหน จะมีเซอร์ไพรส์แน่นอน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้พยาน

เจ๊เกียว ยังบอกอีกว่าในเมื่อพยานจะกลายเป็นผู้ต้องหา เดือดร้อนกันหมด ก็พร้อมเปิดหน้าชนเต็มที่ ไม่กังวล หรือเกรงกลัวอิทธิพลใดๆ หากจะต้องมีการเริ่มนับ 1 ใหม่ก็ดี แต่ในมุมมองเจ๊เกียวก็คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะมันอยู่ที่ศาลทั้งหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่จะทำอย่างไรก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ไม่อยากยุ่งตรงนี้ ยังเคารพการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกส่วน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ๊เกียวอยู่เบื้องหลัง นายแผน คนเดียวจริงๆ หรือ เพราะการเดินหน้าต่อสู้ครั้งนี้ มีแต่ไปร้องเรียนหน่วยงานใหญ่ๆทั้งนั้น เจ๊เกียวได้ยอมรับว่า มีคนช่วยหลายคน เพราะมีหมู่ มีพวก แต่มาจากเจ๊เกียวติดต่อเองทั้งหมด ที่อยากเห็นความยุติธรรม อยากให้ความจริงมันประจักษ์ ซึ่งมีหลายระดับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีหมดที่ให้คำแนะนำ ก็ทำตามทั้งหมด

สุดท้าย เจ๊เกียว บอกว่าวันนี้จะเดินทางไปพูดคุยกับ ครูปรีชา ใคร่ครวญ โดยต้องคุยกันอย่างเป็นทางการแล้ว จากเดิมที่พูดคุยทางโทรศัพท์ จะขอไปเจอตัวต่อตัว เพื่อถามความคืบหน้าของแต่ละคน การสอบสวน สำนวนเป็นอย่างไร จำเป็นต้องมาคุยร่วมกันแล้ว เพราะอยู่ในคดีเดียวกันแล้ว


บอร์ดอิตาเลียนไทยลาออก ชี้แจงชัดเพราะปัญหาทุ่งใหญ่นเรศวร

(16 มี.ค.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/3/2561 เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการยังรับทราบการลาออก ของ ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ เนื่องจากกรณีปัญหาทุ่งใหญ่นเรศวร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2561 เป็นต้นไป ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทจะแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อมาดำรงตำแหน่งที่ว่างลงต่อไป

กรณีปัญหาทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นเหตุการณ์ที่สังคมให้ความสนใจและติดตามอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารของอิตาเลียนไทยฯ และพวกอีก 3 คน ถูกจับกลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวรพร้อมซากสัตว์ป่ารวมทั้งเสือดำ และพนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิ ได้แจ้งข้อหาแล้ว 12 ข้อหา

สำหรับ ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ปัจจุบันเป็นประธานมูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ เป็นนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับ โดยเอกสารในหอประวัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (หอศิลป์ปิ่นมาลา) ระบุว่า ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ จบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ และปริญญาเอกปรัชญา (เศรษฐศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย

มีผลงานวิชาการ และงานวิจัยด้านทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เช่น การวางแผนสิ่งแวดล้อม และจัดความสำคัญด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทย และสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีมติแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

นอกจากนี้อิตาเลียนไทย ยังแจ้งมติเรื่องการงดจ่ายปันผล คือให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน ประจำปี 2560 โดยปี 2560 กำไรสุทธิ 100,966,000 บาท แต่บริษัทมีผลกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรจำนวนเพียง 16,958,000 บาท คณะกรรมการบริษัทจึงเห็นสมควรกันเงินสดจำนวนดังกล่าวไว้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ.


‘อัจฉริยะ’ เปิดโปงขบวนการดิสเครดิต เกมใกล้โอเวอร์! คนมีสีทุ่มหมดหน้าตัก

วันที่ 16 มี.ค. 61 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กถึงคดีหวย 30 ล้าน หลังวานนี้โพสต์ข้อความว่าจะเปิดโปงคนอยู่เบื้องหลังการฟ้อง ผบช.ก. และ ผบก.ป.

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ที่น่าแปลกของคดีนี้คือมีคนขับรถคนหนึ่งที่เป็นพยาน กล้าออกมาร้องหลายหน่วยงาน โดยมี ผกก.สาวสวย คอยควมคุมติดตามอย่างใกล้ชิด กลัวไม่เป็นไปตามแผน คอยกำกับการแสดงพยานคนนี้ และอยากถามพยานว่ารู้ได้อย่างไรว่า ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ถือลอตเตอรี่ที่อยู่ในซองมี 5 ใบ ซึ่งการให้ปากคำกับภาค 7 และกองปราบปราม ต่างกันจึงเป็นข้อพิรุธในคดี

“ผู้ที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่เป็นคนมีสี ที่วันนี้กำลังทุ่มหมดหน้าตัก แต่ให้ทุ่มอีก 1-2 ล้านก็ไม่ชนะคดี ไม่สามารถพ้นผิดได้ การไปจ้างนักกฎหมายคนหนึ่งมาเป็นกุนซือให้คนขับรถคนนี้ แถมยังมีภาพหลุด ผกก.หญิง กับนักกฎหมายคนนี้นั่งกอดกันด้วย ซึ่งพฤติการณ์ที่พยานเดินสายร้องเรียนนั่นเป็นตัวตนของนักกฎหมายคนนี้ มีคนร้องเข้ามาที่ผมมากมาย มีประวัติฉาวโฉ่เรื่องคาวๆ เรื่องผู้หญิงก็โด่งดังไม่แพ้กัน”

นอกจากนี้ ยังมีคนรู้คนส่งเอกสารคำฟ้องมาให้จึงรู้ว่านักกฎหมายคนนี้เป็นคนอยู่เบื้องหลัง เป็นกุนซือให้คนขับรถและ ผกก.หญิง โดยรับงานมาจากผู้หญิงคนหนึ่งในตลาดเรดซิตี้และคนมีสี และคนขับรถคนนี้ยังเคยเป็นอาสาตำรวจที่ จ.กาญจนบุรี มีความสนิทกับคนมีสีระดับบิ๊กของจังหวัด จึงอยากฝากว่าพยานคนนี้กำลังเป็นเบี้ยให้คนพวกนี้ พาไปลงนรก หรืออาจเรียกว่า “นักกฎหมายสายโจร” ละครฉากใหม่นี้ผู้สนับสนุนคือคนมีสี รายที่ 2 คือเจ๊ใหญ่แห่งเรดซิตี้ และ ผกก.หญิงกำกับการแสดง โดยนักกฎหมายรายนี้ดิสเครดิต ผบช.ก.-ผบก.ป.

“สิ่งสำคัญคือคุณกำลังเป็นเบี้ยให้คนพวกนี้ สุดท้ายเดี๋ยวเขาก็ทิ้งคุณหมด เพราะคำฟ้องที่คุณเขียนมาตำรวจทำตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีใครบังคับให้คุณกลับคำ เวลาที่คุณโดนก็ต้องรับกรรมคนเดียว วันนี้คุณเดินเข้าสู่เกมนรกแล้ว ไม่มีทางรอด ยื้ออีกได้ไม่นานเพราะเกมใกล้โอเวอร์แล้ว”

ส่วนเรื่อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ อยากฝากว่าให้อดทนอดกลั้น เพื่อให้ความจริงปรากฏ เพราะทำดีเพื่อสังคม และพร้อมจะจับมือเอาคนทำผิดผมาลงโทษให้ได้ ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ยังเตรียมคลิป 50 คลิปดำเนินคดี ดร. ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วยหากยังไม่หยุดซ่า โดยจะดำเนินคดีสัปดาห์ละ 1-2 คลิป ซึ่งคลิปเหล่านี้ได้ส่ง ปอท. และกองปราบปรามตรวจสอบแล้วว่าไม่ได้ตัดต่อ.


"สภาทนายความ" ปัดตูดหนี! อ้างไม่เคยเอาผิด "ทนายตั้ม"

จากกรณีที่นายฐนุกร เหลืองใหม่ หรือแผน พยานฝ่ายนายปรีชา ใคร่ครวญ ผู้ต้องหาคดีแจ้งความเท็จ ให้การเท็จ และกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา จากคดีหวย 30 ล้านบาท ระหว่างนายปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ ได้ไปร้องเรียนต่อสภาทนายความ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมและตรวจสอบพฤติกรรมกรรมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ โดยมีนายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกสภาทนายความฝ่ายกิจการพิเศษรับเรื่องไว้

โดยนายพัฒนา เปิดเผยขณะที่รอนายแผนมาพบว่า นายษิทรามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายเรื่อง ตนเคยได้รับการแจ้งจากศาลเกี่ยวการแต่งกายที่ไม่สุภาพ เช่น สวมเสื้อยืดคอกลม กางเกงยีนส์บริเวณศาลของนายษิทธา รวมถึงตนได้เห็นจากจอทีวีเกี่ยวกับการพาลูกความออกสื่อ รวมถึงข่มขู่คู่กรณีอีกฝ่ายว่าไม่เหมาะสม และต้องถูกสอบสวนชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยหากพบว่าผิดก็จะถูกดำเนินการตามมรรยาททนายความ พร้อมระบุว่า การออกสื่อบ่อยๆ เป็นการสร้างราคาให้ตัวเองเพื่อให้มีงาน มีเงินมากกว่าเพื่อนทนายความคนอื่น ทำให้ทนายความท่านอื่นที่ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่โอ้อวด ได้รับผลกระทบ

ล่าสุด วันนี้ (16 มี.ค.) สภาทนายความได้มีการร่อนเอกสารข่าว ระบุว่า นายนิพนธ์ จันทเวช รองโฆษกสภาทนายความ แถลงว่า ได้รับมอบหมายจากว่าที่ร้อยตรีถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความคนปัจจุบัน ให้แถลงว่า กรณีนายพัฒนากล่าาหานายษิทรา ไม่ใช่ความเห็น และหรือไม่ใช่มติกรรมการสภาทนายความ เกี่ยวกับการยื่นคำกล่าวหาให้ยื่นต่อประธานกรรมการมรรยาททนายความ ในการนี้อาจยื่นคำกล่าวหาโดยส่งทางไปรษณีย์ก็ได้

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 19 มี.ค. นี้ เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปสภาทนายความ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. เพื่อชี้แจงข้อร้องเรียน สร้างความเสื่อมเสียแก่สภาทนายความในวงกว้างออกจากตำแหน่งฝ่ายบริหารของสภาทนายความ

‘ษิทรา’ เชื่อกลั่นแกล้ง-ประจาน! ร้องปลดฝ่ายบริหารสภาทนายฯ

วันที่ 16 มี.ค. 61 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความคนดังในคดีหวย 30 ล้าน ให้สัมภาษณ์ในรายการต่างคนต่างคิด ช่องอมรินทร์ทีวี หลังถูกร้องสอบมรรยาททนายความ ว่า เวลาไปศาลก็แต่งสูทอยู่แล้ว การแต่งตัวไม่ได้เปลี่ยนตัวตน ที่ใส่เสื้อยืดเพราะอยากให้ดูเข้าถึงประชาชน ส่วนการไปหน่วยงานราชการบางครั้งไปในฐานะเลขาธิการมูลนิธิฯ แต่ถ้าไปทำหน้าที่ทนายความก็แต่งตัวเรียบร้อยอยู่แล้ว ซึ่งหากผู้ใหญ่เตือนด้วยความหวังดีก็พร้อมเปลี่ยนแปลงและน้อมรับ ส่วนการที่ นายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกสภาทนายความฯ ออกมากล่าวเช่นนั้น เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เหมือนเป็นการประจาน

“วันที่ 19 มี.ค. ผมจะไปร้องยื่นปลดฝ่ายบริหารคนหนึ่งที่ทำตัวไม่เหมาะสม ร้องกับนายกสภาทนายความฯ เพราะให้สัมภาษณ์ว่าให้ผมออกจากทนาย ผมคิดว่าไม่เป็นธรรม”

ทางด้าน นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล ประธานกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า ในสายตามองว่าการสวมเสื้อยืดไปในสถานที่ราชการและออกสื่อนั้นไม่เหมาะสม เพราะทนายความมีเกียรติและศักดิ์ศรีในตัวเอง แต่ถ้าใส่แจ็กเก็ตก็เรียบร้อยขึ้น ส่วนข้อร้องเรียนที่ นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ นายแผน นำมายื่นนั้นได้อ่านแล้วแต่ยังไม่ละเอียด อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับข้อกล่าวหาหรือไม่ หากมีเหตุสมควรให้รับ ขั้นตอนต่อไปคือตั้งคณะกรรมการสอบสวน 3 คน ก่อนส่งเรื่องมายังประธานกรรมการมรรยาททนายความ แล้วต่อด้วยคณะกรรมการมรรยาทที่ทรงคุณวุฒิ 14-15 คน ช่วยกันพิจารณา ซึ่งส่วนใหญ่เสียงจะไม่แตก ยืนยันว่าไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวกแน่นอน

“เรื่องนี้เป็นมุมมอง ชี้ผิดถูกไม่ได้ ตอบไม่ได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ส่วนการพาลูกความไปออกสื่อ เป็นสิทธิ์ที่ทนายความจะทำได้ พร้อมแนะนำว่า การเป็นทนายนั้น ความซื่อสัตย์สุจริต ไม่เอารัดเอาเปรียบ จะเป็นเกราะป้องกันเราดีที่สุด ขอให้ตั้งใจทำดี”