“เทียนฉาย” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ปธ.สปช.แล้ว ระบุร่างข้อบังคับการประชุม หากสมาชิกเห็นชอบ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันที 4 พ.ย. นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า เมื่อวันที่ 3พ.ย. บริเวณ ห้องโถง ชั้นล่าง อาคารรัฐสภา 1 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากจะมีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายเทียนฉาย กีระนันทน์ เป็นประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คนที่ 1 น.ส.ทัศนา บุญทอง เป็นรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ คนที่ 2 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
โดยในเวลา 07.45 น. นายเทียนฉาย นายบวรศักดิ์ น.ส.ทัศนา พร้อมด้วยสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) และข้าราชการระดับของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรปฎิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาปฎิรูปแห่งชาติพร้อมในพิธีโดยในเวลา 08.00 น. นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสนช. เป็นผู้อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ไปวางไว้บนพานโต๊ะหมู่ในห้องพิธี
และในเวลา 08.04 น. ประธานสปช.และรองประธานสปช.ทั้ง 2 คน ได้ทำพิธีรับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ อย่างไรก็ตาม หลังจากเสร็จสิ้นพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้วทางประธาน และรองประธาน สปช. ได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 พระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง และพระภูมิเจ้าที่ ประจำรัฐสภาตามลำดับ
ทั้งนี้นายเทียนฉาย กล่าวกลับผู้สื่อข่าวถึงการประชุม สปช. เวลา10.00 น. จะมีวาระการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาปฎิรูปแห่งชาติ พ.ศ...ที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯพิจารณาเสร็จแล้ว ว่า ถ้าหากที่ประชุมเห็นชอบ ก็จะสามารถมีผลบังคับใช้ได้เลยในวันที่ 4 พ.ย.นี้ ทั้งนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายบกันอย่างเต็มที่.
“โทนี่ แบลร์” พบ “บิ๊กตู่” พร้อมบอกต้องการเห็นการเลือกตั้งโดยเร็วในปี 2015 ระบุเข้าใจปัญหาของไทยที่ไม่เหมือนประเทศอื่น “นายกฯ” แจง ปฏิรูป เน้นความสงบ และไม่มีการใช้อาวุธสงคราม
เมื่อเวลา16.00 น. วันที่ 3 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้เข้าเยี่ยมคาราวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยใช้เวลาหารือประมาณ1ชั่วโมง จากนั้น ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้อธิบายสถานการณ์ของประเทศไทยว่า ปัญหาในขณะนี้ คือเรื่องของการปฏิรูปและการสร้างความปรองดอง พร้อมทั้งชื่นชมนายโทนี่ แบลร์ ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในไอร์แลนด์เหนือโดยใช้แนวทางสร้างสรรค์ รวมทั้งได้เคยให้ข้อคิดกับประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาด้วย ทั้งยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมส่งเสริมประชาธิปไตยที่ยั่งยืน แต่ขณะนี้เราต้องแก้ปัญหาที่ทำให้ประเทศติดขัด คสช.และรัฐบาลจึงจำเป็นต้องเข้ามา ขณะนี้ระบบบริหารราชการแผ่นดินก็เป็นไปตามปกติ สามารถผลักดันกลไกราชการ และผลักดันการใช้จ่ายงบประมาณได้ รวมถึงได้ชี้แจงการพบปะนักธุรกิจประเทศต่าง ๆ ด้วย สำหรับแนวทางการปฏิรูป11ด้าน รัฐบาลได้เร่งดำเนินการโดยเน้นเรื่องของการรักษาความสงบไม่ให้มีการใช้อาวุธสงครามระหว่างมวลชนสองฝ่าย เน้นในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน และการปฏิรูป
รอ.นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ด้านนายโทนี่ แบลร์ ระบุว่าเข้าใจปัญหาของประเทศไทยที่ไม่เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่มีความแตกแยกภายในประเทศ ประชาคมโลกเองก็ต้องการให้ประเทศไทยเดินหน้าในเรื่องของการเลือกตั้งในปี2015รวมทั้งอยากจะให้ประเทศไทยแก้ไขในสิ่งที่เป็นอุปสรรคทางด้านเศรษฐกิจเพื่อให้ประเทศเดินหน้า พยายามคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตยโดยเร็วและอยากให้รัฐบาลไทยอธิบายให้ประเทศอื่นๆได้เข้าใจ และมองปัญหาของประเทศไทยออกเป็นสองด้าน คือ ปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่ควรเร่งผลักดันเดินหน้า เพราะมีศักยภาพ ทั้งเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องธุรกิจ การศึกษา และกระบวนการทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่อยากให้รัฐบาลไทยชี้แจงกับนานาประเทศถึงขั้นตอนในการดำเนินการที่กำลังเดินหน้าอยู่
ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อว่า ในช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับนายโทนี่แบลร์ว่า ต้องการที่จะมีช่องทางในการประสานติดต่อกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่างนายโทนี่แบลร์ โดยผ่านพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ซึ่งอาจจะมีคำแนะนำต่าง ๆ เพิ่มเติม จากประสบการณ์
แท็กซี่ขึ้นป้ายแขวนที่เบาะ วอนผู้โดยสารเกรงใจกันบ้าง ห้ามกินขนม แต่งหน้า ปิดเสียงโทรศัพท์ เมื่ออยู่บนรถ..
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” รายงานว่า พบรถแท็กซี่รายหนึ่ง ขึ้นป้ายขอความร่วมมือจากผู้โดยสาร ให้เกรงใจกันบ้าง ห้ามกินขนม แต่งหน้า และปิดเสียงโทรศัพท์ ถ้าทำไม่ได้ ให้ขึ้นรถเมล์แทน ย้ำชัด แท็กซี่ Don't care สื่อ!
“ห้ามกินหมากฝรั่ง ท็อฟฟี่ ลูกอม อาหาร โดยเด็ดขาด ห้ามใช้แป้งฝุ่น น้ำหอม สารเคมี กรุณาไปใช้ที่อื่น เล่นเกมส์ วอทแอฟ ไลน์ปิดเสียง หรือใช้เสียงเบาๆ เกรงใจบ้าง โตเป็นมนุษย์แล้วนะครับ “ท่าน ว. :อย่าคิดว่าใครจะมาเกรงใจ ถ้าเราไม่เริ่มก่อน” กทม.มีรถเมล์บริการนะ Taxi Don't care สื่อเอาจริง!”
ภายหลังภาพดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกไป มีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่เห็นด้วยกับข้อความนี้ เพราะลูกค้าบางรายมักคายหมากฝรั่งใว้ที่เบาะรถ รับประทานอาหารที่มีกลิ่นฉุนในรถ ลูกค้าบางคนฉีดน้ำหอมกลิ่นแรงบนรถ รวมถึงการเล่นไลน์ และโทรศัพท์ก็ควรปิดเสียง เพื่อสร้างระเบียบวินัย และปรับปรุงตนเอง เคารพสังคม ขณะที่บางกลุ่มวิจารณ์ว่า เป็นการริดรอนสิทธิของผู้โดยสารมากเกินไป..
ไขปม "เสก โลโซ" ไม่เข็ด ประกาศจะจัดคอนเสิร์ต 40 ปี อีก 2 รอบที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี หลังเมื่อวานคนดูโหรงเหรง เพราะประเมินคนดูเบื้องต้นคร่าวๆ แล้วเทียบเท่ากันที่ระดับ "หมื่นคน"
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ศิลปินร็อคระดับตำนาน 'เสกโลโซ' หรือ 'เสกสรรค์ ศุขพิมาย' ได้จัดคอนเสิร์ต '40 ปีเสก โลโซ 40 แต่รู้สึกเหมือน14' ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมีศิลปินรับเชิญเข้าร่วมคอนเสิร์ตคับคั่ง อาทิ 'ติ๊ก ชีโร่' 'หนุ่ย อำพล ลำพูน' 'แอ๊ด คาราบาว' เป็นต้น แต่ปรากฏว่า มีผู้เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตบางตา ไม่เต็มความจุของสนามฯ อีกทั้งในช่วงท้ายของการแสดงคอนเสิร์ต "เสก" ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมที่ซื้อบัตรในราคา 200 บาทเข้ามาร่วมแจมกับผู้ซื้อบัตรหน้าเวทีในราคา 5,000 บาท จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์อย่างมาก ถึงขนาดมีการตั้งกระทู้เหน็บแนมว่า จะไปเรียกเงินคืน 4,800 บาทจากผู้จัดคืน
ล่าสุดในวันนี้ เฟซบุ๊กส่วนตัวของเสก 'SEK LOSO' ได้ลงข้อความขอบคุณแฟนคลับและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้คอนเสิร์ตจบลงด้วยดี รวมถึงได้โพสต์ภาพตอบโต้กระแสข่าวที่บอกว่า คอนเสิร์ตมีผู้ชมบางตา โดยบรรยายว่า “เส้นทางลูกผู้ชายมันส์สะใจโคตรๆ เมื่อคืนนี้” และ “เต็มสนาม(ข้างล่าง)” อีกทั้งยังโพสต์ข้อความว่าจะมีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นอีกครั้งว่า “ผมจะจัดคอนเสิร์ต 40 ปีฯนี้อีก 2 รอบที่อิมแพ็คเมืองทองธานีและอีก 10 รอบที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศไทยเร็วๆ นี้จัดเต็มเหมือนเดิม!!”
นอกจากนี้ "เสก" ยังโพสต์ข้อความตอบโต้ผู้วิจารณ์เรื่องการหอมแก้มสาวๆบนเวทีว่า..."I'ma happy man *เฮียลงทุนไป 1,800 ล้าน เฉพาะนางแบบนี้บินตรงมาจากทั่วทุกมุมโลก คิดเป็นเงินเบ็ดเสร็จก็ 300 กว่าล้าน {เหมาเครื่องบินมา 7 ลำ} ได้หอมแก้มกับกอดเล็กน้อย**ได้สปอนเซอร์กับค่าบัตรมารวมกันเป็นเงิน 2,000 ล้านกับอีก 20 บาทได้กำไรนิดหน่อย ฮาๆๆ"
ในเรื่องนี้ เพจ "เตชะ ทับทอง หนึ่งร้อยตัวแทนทำดีเพื่อพ่อ" ได้ออกมาแสดงความเห็นแย้งทันทีว่า..."ในฐานะคนทำ Event ผมขอแปลกใจกับการออกมาโพสต์ข้อความอะไรแบบนี้หน่อยนะครับ คอนเสิร์ตพี่แพงกว่าคอนเสิร์ตระดับโลกมากมายครับ 1,800 ล้าน มีผู้สนับสนุน 2,000 ล้าน ...... โห !!!! ทีม Sup ที่พี่ใช้ ผมรู้จักกันเกือบหมดละครับ อะไรที่มันเกินความเป็นคำว่า "พอดี" เกินไป มันก็ไม่ไหวจะอายจะเคลียร์นะครับพี่ .... ทำคอนเสิร์ตนะครับพี่ ไม่ใช่รัฐบาลสร้างโครงการน้ำ ผมเข้าใจว่าพี่ "ล้อเล่น" แต่ระวังจะมีคนมากมายเข้าใจไปอย่างนั้นนะครับ สงสารเค้า"
ล่าสุดผู้สื่อข่าว "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้สอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของสนามราชมังคลากีฬาสถาน พบว่า จากการประเมินผู้เข้าชมคอนเสิร์ต "เสก โลโซ" เมื่อค่ำวานนี้อยู่ที่ประมาณ 10,000 คนเศษ ทั้งที่ความจุของสนามในกรณีการจัดคอนเสิร์ต จะรับผู้ชมได้ที่ 48,000 คน ซึ่งจำนวนคนดูเมื่อวานนี้ ไปสอดรับกับข้อมูลที่ "เสก" ประกาศเตรียมจะจัดคอนเสิร์ตอีกครั้งที่ "อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี" ซึ่งเจ้าหน้าที่ของอิมแพ็คให้ข้อมูลเช่นกันว่า หากจัดคอนเสิร์ตทั่วไปสามารถจุคนดูได้ประมาณ 12,000 คน ส่วนคอนเสิร์ตทั่วประเทศอีก 10 รอบยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่า "เสก" จะไปจัดที่จังหวัดใดบ้าง..
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้กำชับในที่ประชุมให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องติดตามความเคลื่อนไหวทุกกลุ่มทุกฝ่าย พร้อมสั่งหน่วยมั่นคง จับตากลุ่มเคลื่อนไหวการเมือง ขู่งัด ม.44 จัดการ ให้อำนาจเต็มที่ แถมติง "สื่อ" ใช้คำบั่นทอนกำลังใจเจ้าหน้าที่
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ได้กำชับในที่ประชุมให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องติดตามความเคลื่อนไหวทุกกลุ่มทุกฝ่าย รวมถึงกลุ่มการเมืองที่เริ่มออกมาเคลื่อนไหวโดยเริ่มจากการทำความเข้าใจก่อนเพราะรัฐบาลพยายามทำให้เกิดความเรียบร้อย หลังจากนั้นจะเริ่มบังคับใช้กฎหมาย โดยเริ่มจากเบาไปหาหนัก คือกฎหมายปกติจนไปถึงกฎอัยการศึก หรือหากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว เราก็ต้องทำ เพื่อดูแลสถานการณ์ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนการทำงานของพลเรือน ตำรวจ และทหาร ที่มีผลกระทบต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการบังคับใช้กฎหมาย การจัดระเบียบต่าง ๆ ก็ขอให้ทำด้วยความเข้มแข็ง โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับหัวหน้าหน่วยงานที่จะลงไปปฏิบัติพบปะกับประชาชน ขอให้เลือกหัวหน้างานที่มีความเป็นผู้ใหญ่ มีวิจารณญาณสุภาพเรียบร้อย เพื่อสร้างความเข้าใจมากกว่าการบังคับใช้กฎหมาย
“นายกฯ ยังให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชน โดยเฉพาะสื่อหนังสือพิมพ์ว่าสิ่งใดกระทบต่อความมั่นคง ความเข้าใจต่อประชาชนหรือไม่ โดยให้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อสื่อและประชาชนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะมีสื่อบางส่วนเสนอข้อมูลเดิม โดยไม่สนใจข้อมูลที่ผู้เกี่ยวข้องพยายามชี้แจง ขอให้สื่อทำให้องค์กรเข้มแข็ง ได้รับความน่าเชื่อถือจากแต่ละส่วน แต่ละฝ่าย และคำบางคำเป็นเชิงลบ อาทิ โว ฟุ้ง ปัด ทำให้คนในสังคมฟังแล้วไม่เกิดความเชื่อถือ และเป็นการลดทอนกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน หวังว่าสื่อจะเสนอแนวความคิดนี้ไปยังสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ด้วย”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 44 บัญญัติไว้ว่าในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เห็นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ ในการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอำนาจสั่งการระงับยับยั้ง หรือกระทำการใด ๆ ได้ ไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการกระทำ หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สุด ทั้งนี้ เมื่อได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว.
"สมยศ" ลงตรวจจราจรเปิดเทอมวันแรกห้าแยกลาดพร้าว สั่งเข้มอำนวยสะดวกผู้ใช้รถใช้ถนนชั่วโมงเร่งด่วน แถมกำชับเตรียมรถยก รถลาก หากเกิดรถเสียขวางถนน ขณะเดียวกัน ผบ.ตร.ได้ช่วยชีวิตลูกแมวรอดพ้นจากการถูกรถทับ
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 3 พ.ย.ที่บริเวณป้อมตำรวจจราจร ห้าแยกลาดพร้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงตรวจการจราจรและดูการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณดังกล่าว ในขณะที่นั่งรถเข้าที่ทำงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เนื่องจากเป็นวันเปิดภาคเรียนการศึกษาเป็นวันแรก พร้อมได้สอบถามการเคลื่อนตัวของรถในช่วงนี้ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งได้สั่งการให้ตำรวจจราจรตรงจุดนี้ อำนวยความสะดวกการสัญจรเดินทางในช่วงเปิดเทอม และเวลาเร่งด่วน พร้อมทั้งให้เตรียมรถยก รถลาก ให้พร้อม หากเกิดรถเสียกีดขวางเส้นทาง โดยวันนี้ในเวลาดังกล่าวพบว่า สภาพการจราจรสามารถเคลื่อนตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ผบ.ตร.ตรวจสภาพการจราจรอยู่นั้น ได้เกิดเหตุมีลูกแมวตัวหนึ่งได้วิ่งเข้าไปใต้ท้องรถเก๋ง ในขณะกำลังขับผ่าน ผบ.ตร.จึงรีบทำการส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด และสั่งให้ตำรวจติดตาม และตำรวจจราจรที่อยู่บริเวณดังกล่าว นำแมวที่เข้าไปใต้ท้องรถออกมาได้ทัน ก่อนที่จะถูกรถคันดังกล่าวทับตาย และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเลี้ยงดูลูกแมวตัวนั้น ทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาย่านนั้นที่เห็นเหตุการณ์ ต่างพากันชื่นชมกับกรณีดังกล่าว..
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012