ข่าว
"เภสัชกรหญิงไทย"ในเยอรมนีโวยต่อ! บริษัทสุขภัณฑ์ฝรั่งเศส-รีสอร์ตหรูทำ"ฝาชักโครก"เป็นรูปพระพุทธรูป

เภสัชกรหญิง ดร.นันทรัตน์ เพียรชอบ เฮอร์ลิง รองผู้อำนวยการฝ่าย Clinical Supply Operations Management บริษัท Daiichi Sankyo Europe Gmbh ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนกรณีมีบริษัทฝรั่งเศส ชื่อ OLFA ผลิตฝาชักโครกรูปพระพุทธรูป ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ถึงความคืบหน้าในการออกมาร้องเรียนและรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันลงชื่อต่อต้านการผลิตสินค้าสุขภัณฑ์ที่ดูหมิ่นศาสนาพุทธ ว่า ขณะนี้ยอดประชาชนที่ร่วมลงชื่อรณรงค์เพื่อยุติสายการผลิตฝาชักโครกที่หมิ่นศาสนาพุทธ ผ่านทาง www.change.org เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนตัวหวังว่าจะมีชาวไทยและผู้นับถือศาสนาพุทธในประเทศต่างๆ ได้รับรู้รับทราบข้อมูลเรื่องนี้แล้ว และจะมาร่วมการแสดงพลังเพื่อการเปลี่ยนแปลงด้วย

"หลังจากการประสานพูดคุยกันในกลุ่มคนรู้จักในเยอรมนี และเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งรับปากจะช่วยดำเนินการพูดคุยกับบริษัท OLFA และทำหนังสือเป็นภาษาฝรั่งเศสถึงบริษัทดังกล่าวด้วย ขณะนี้ที่ทำได้ก็คงต้องรอว่าบริษัทผู้ผลิตจะมีปฏิกิริยาอย่างไร จะตอบรับหรือเพิกเฉยกับข้อห่วงใยที่พุทธศาสนิกชนนำเสนอไปหรือไม่ เพราะถ้าจะบอกว่าเป็นมุมมองด้านงานศิลปะ จนไม่สนใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการดูหมิ่นดูแคลนศาสนาอื่นหรือไม่อย่างไรนั้นคงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ดิฉันคาดหวังและอยากเห็นปฏิกิริยาตอบรับในเชิงบวกเหมือนที่บริษัทผู้ขายสุขภัณฑ์ในประเทศเยอรมนี ที่นำเข้าฝาชักโครกนี้ที่ยุติการจำหน่ายทันทีที่ดิฉันทักท้วงไป" เภสัชกรหญิงรายเดิมกล่าว

ดร.นันทรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่่องรีสอร์ตหรูชื่อ Moulin de Broaille (มูแลง เดอ บรัวเอเยอ) www.moulindebroaille.eu/NL/indexNL.html ที่อยู่ในแคว้น Bourgogne ประเทศฝรั่งเศส ที่มีการตกแต่งห้องพักหลากหลายสไตล์ และหนึ่งในจำนวนห้องพักมีชื่อว่าห้อง Little Buddha ซึ่งทางรีสอร์ตนำฝาชักโครกรูปเศียรพระไปติดตั้งด้วย นอกจากนี้ วัสดุตกแต่งห้องก็ล้วนแต่เป็นรูปเศียรพระหลายจุด ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้า และสะเทือนใจชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง

"ดิฉันไม่เคยไปเข้าพักรีสอร์ตแห่งนี้ แต่เจอะเจอโดยบังเอิญระหว่างหาข้อมูลเรื่องฝาชักโครกหมิ่นศาสนานี้ โดยพบข้อมูลระหว่างการค้นข้อมูลในกูเกิล ซึ่งทางรีสอร์ตเชิญชวนให้คนไปท่องเที่ยวเอาไว้ ดิฉันได้โทรศัพท์ไปที่รีสอร์ต แต่ที่นั่นเขาพูดแต่ภาษาฝรั่งเศสอย่างเดียว ต้องรอให้รุ่นพี่ที่รู้ภาษาฝรั่งเศสช่วยกันแปลเรื่องความห่วงใยของชาวพุทธ และการนำเสอข่าวของหนังสือพิมพ์มติชนก่อนหน้านี้ด้วย" เภสัชกรหญิง ดร.นันทรัตน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการดำเนินการร้องเรียนหรือเรียกร้องไปยังหน่วยงานราชการของไทยอย่างไรบ้าง เภสัชกรหญิง ดร.นันทรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในเยอรมนี ซึ่งหลังจากนั้นก็ทราบว่ามีการส่งเรื่องไปยังสถานเอกอัคราชทูตไทยในประเทศฝรั่งเศสด้วย ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบความคืบหน้าของการดำเนินการว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว โดยในส่วนตัวก็จะรณรงค์เรื่องนี้ต่อไป และอยากเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนร่วมมาแสดงพลังลงชื่อคัดค้านด้วย

ดร.นันทรัตน์กล่าวต่อว่า ล่าสุด วันที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 09.35 น. ตามเวลาในประเทศไทย ขณะนี้มีผู้ลงชื่อ 229 ราย และขณะนี้มีการส่งจดหมายเป็นภาษาฝรั่งเศสไปยังบริษัทผลิตสุขภัณฑ์ OLFA แล้ว 2 ฉบับ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากบริษัทฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ระหว่างการรณรงค์ได้รับทราบว่ากลุ่ม Knowing Buddha Organization ในประเทศไทยก็ได้รณรงค์เรื่องนี้เช่นกัน โดยมุ่งไปที่รีสอร์ตในประเทศฝรั่ง ที่นำผลิตภัณฑ์นี้ไปตกแต่งห้องพัก โดยขึ้นป้ายว่า Stop disrespecting Lord Buddha หยุดลบหลู่ย่ำยีสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา ซึ่งวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ได้ร่วมสนับสนุนด้วย โดยจะนำรายชื่อที่มีการลงชื่อของพุทธศาสนิกชนใน http://www.change.org/th มารวมกันเพื่อให้เกิดพลังในการเปลี่ยนแปลงต่อไป

ไต้หวันสุดเจ๋ง พัฒนา"มือถือโปร่งใส"คาดได้ใช้เร็ว ๆ นี้ "ราคาถูกกว่าไอโฟน5"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยงาน"โพลีทรอน เทคโนโลยี"ของไต้หวัน ได้พัฒนาโทรศัพท์มือถือโปร่งมือ ที่จะสามารถทำงานได้เหมือนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และจะเข้าสู่กระบวนการผลิตภายในปีนี้ หลังมีการพัฒนามากว่า 6 ปี โดยโทรศัพท์ดังกล่าวทำจากกระจกสื่อพลังงาน มีน้ำหนักเบา และโปร่งใส และทำงานได้เหมือนเทียบเท่ามือถือสมาร์ทโฟน ขณะที่อุปกรณ์ประกอบจะบรรจุแบ็ตเตอรี่ที่ไม่โปร่งใส และมีขนาดหน้าจอบางเท่ากับ 0.3 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ไอโฟน และความสว่างมากกว่า 25 เปอร์เซนต์

รายงานระบุว่า นวัตกรรมนี้มีขึ้นหลังก่อนหน้านี้ บริษัทเกาหลีใต้ได้เปิดเผยโทรศัพท์ที่แป้นพิมพ์โปร่งใสโดยใช้เทคโนโลยีโพลีทรอนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายละเอียดของเกี่ยวกับราคาของโทรศัพท์โปร่งใส และผู้ผลิตบอกว่า มันจะมีราคาถูกกว่าไอโฟน 5


นักวิทย์รัสเซียวิเคราะห์เศษชิ้นส่วนอุกกาบาต หลังค้นพบกว่า 50 ชิ้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ว่า นักวิทยาศาสตร์รัสเซียได้ค้นพบเศษชิ้นส่วนอุกกาบาตจำนวน 53 ชิ้น ที่ตกในทะเลสาปเชบาร์กูล ในพื้นที่ภูเขาอูราล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ทำการศึกษาวิจัยการก่อตัวของอุกกาบาตดังกล่าว โดยอุกกาบาตแต่ละชิ้นที่พบมีขนาดไม่ถึง 2 เซนติเมตร ประกอบด้วยแร่เหล็ก แร่คายโซไลต์ และซัลไฟท์ ด้านสมาชิกแห่งสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซียยืนยันว่า ชิ้นส่วนอุกกาบาตเหล่านี้ถูกพบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และเป็นชิ้นส่วนอุกกาบาตที่ตกในทะเลสาปเชบาร์กูลจริง

ขณะเดียวกัน เกิดกระแสแห่ขายเศษชิ้นส่วนอุกกาบาตที่ผุู้คนพบ โดย นักล่าอุกกาบาตรัสเซียโพสต์โฆษณาบนเว็บไซต์เสนอซื้อชิ้นส่วนอุกกาบาตของแท้ที่ตกใส่โลกล่าสุดที่ราคา 30,000 รูเบิล (10,000 ดอลลาร์) นอกจากนั้น เริ่มมีประกาศขายชิ้นส่วนอุกกาบาตปรากฎอยู่บนเว็บไซต์ avito.ru โดยผู้ขายส่วนใหญ่อ้างว่าเก็บได้แถบเมืองเชลยาบินสก์ ผู้ขายรายหนึ่งตั้งราคาอุกกาบาต 1 ชิ้นเล็กๆไว้สูงถึง 6,500 ปอนด์ ขณะที่อีกรายเสนอขายเศษอุกกาบาตรวม 18 ชิ้น ในราคาชิ้นละ 11 ปอนด์ (ราว 510 บาท)

ขณะที่ทางการเชลยาบินสก์ได้สั่งห้ามประชาชน ตลอดจนถึงสื่อมวลชนและนักวิจัยอิสระเข้าไปบริเวณทะเลสาบดังกล่าว โดยเฉพาะแผ่นน้ำแข็งที่เป็นหลุมกว้างประมาณ 6 เมตร เพื่อรอให้นักวิทยาศาสตร์จากกรุงมอสโกเข้าไปเก็บตัวอย่างหินไปตรวจสอบเสียก่อน โดยการค้นหาซากอุกกาบาตอาจต้องรอไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิซึ่งน้ำแข็งและหิมะเริ่มละลาย

นักร้องสาวเพลงคันทรี่ชื่อดังของสหรัฐเสียชีวิต

วันที่ 18 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เมลินด้า “มินดี้” แมคครีดี นักร้องเพลงแนวคันทรี่ระดับแผ่นเสียงทองคำของสหรัฐ เสียชีวิตแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ด้วยวัยเพียง 37 ปี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเป็นการฆ่าตัวตายด้วยอาวุธปืน

รายงานของสำนักงานนายอำเภอเคลเบิร์น รัฐอาร์คันซอ ระบุเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีเสียงปืนดังขึ้นภายในบ้านหลังหนึ่งในย่านเฮเบอร์ สปริงส์ จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบร่างของแมคครีดีนอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟา ข้างศพมีปืนวางอยู่หนึ่งกระบอก ผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน หรือความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ จึงสันนิษฐานว่า แมคครีดีเป็นผู้ปลิดชีพตัวเองด้วยอาวุธปืน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะแถลงผลการชันสูตรศพให้ทราบโดยละเอียดอีกครั้งในเร็ววันนี้

มินดี้ แมคครีดี เกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2518 ที่เมืองฟอร์ท ไมเยอร์ส ในรัฐฟลอริดา เข้าสู่วงการเพลงคันทรี่ตั้งแต่อายุได้ 18 ปี ออกอัลบั้มมาแล้ว 5 ชุด ได้รับแผ่นเสียงทองคำ 1 แผ่น และรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาวอีก 2 แผ่น โดยเพลงที่มีชื่อเสียงของเธอ คือ “กายส์ ดู อิท ออล เดอะ ไทม์” เมื่อปี 2539 ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ชาร์ตเพลงคันทรี่ทั้งในสหรัฐและแคนาดา

หลังจากนั้นเธอไม่ค่อยได้ออกอัลบั้ม หรือปรากฏตัวตามสื่อบ่อยนัก เนื่องจากปัญหาด้านชีวิตส่วนตัว ปัจจุบันแมคครีดีมีบุตรชาย 2 คน โดยบุตรคนเล็กอายุเพียง 10 เดือน ส่วนสามีของเธอ คือ เดวิด วิลสัน เป็นโปรดิวเซอร์ เสียชีวิตก่อนหน้าเธอเพียง 1 เดือนจากการฆ่าตัวตายเช่นกัน