ข่าว
ฝรั่งติดใจ'ลาบดิบ'เชียงใหม่ ชิมแล้วชมอร่อยจนยกนิ้วให้

ฝรั่ง ฮือฮา งานมหกรรมลาบพื้นเมือง ติดใจ"ลาบดิบ"รุมชิม พร้อมเอ่ยปากอร่อย กองเชียร์ไทยถึงกับ งง ที่ไม่กล้ากินของดิบ ในงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับอนุรักษ์อาหารพื้นเมือง...

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 ก.พ.57 ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองบวกหาด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางเชียงใหม่ ได้มีการจัดประกวดการแข่งขันลาบพื้นเมือง อาหารที่สุดนิยมของชาวภาคเหนือขึ้น ในงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อเป็นการอนุรักษ์อาหารเหนือ โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จำนวนมาก โดยผู้ชนะจะได้ถ้วยรางวัลของ นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.เชียงใหม่ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่มาร่วมในงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับและเข้าร่วมชมการแข่งขันลาบ ทั้งลาบปรุงสุก และลาบดิบ จำนวนมาก

หลังจากคณะกรรมการจัดงาน ได้ตัดสินผลชนะแล้ว ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชิมลาบที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ ปรากฎว่านักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ทั้งชายและหญิงต่างพากันเข้าชิมลาบดิบ และเมื่อได้ลิ้มรสแล้ว ต่างบอกว่าอร่อย โดยเฉพาะลาบดิบ และผักเคียงที่ใช้กินกับลาบ ชาวต่างชาติให้ความสนใจถึงกลับล้อมวงกิน และต่างก็บอกว่า เป็นอาหารที่อร่อยมาก ส่วนลาบคั่ว หรือลาบสุก ไม่ถูกปากชาวต่างชาติที่ไม่แตะต้อง อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติที่นิยมรับประทานลาบดิบ สร้างความประหลาดใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาร่วมงาน เพราะต่างไม่กล้าจะชิม เนื่องจากเห็นว่าเห็นเป็นเนื้อดิบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ"ลาบ"เป็นอาหารที่คู่กับชาวล้านนาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นทุกเทศกาลจะมีการกินลาบ เพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิต จึงเป็นอาหารยอดนิยม ซึ่งลาบทำมาจากเนื้อดิบๆทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู โดยส่วนมากชายชาวล้านนาจะนิยมกินลาบดิบๆที่ใส่สมุนไพรนานาชนิดลงไป ส่วนฝ่ายหญิงจะนิยมนำมาคั่วให้สุกก่อน เทศกาลที่นิยมทำกินกันมากใกล้เทศกาลสงกรานต์และวันขึ้นปีใหม่.

นักร้องสาว “ลานนา คัมมินส์” ถูกรุมตบหน้าฉุนขึ้นเวทีกปปส.

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ร.ต.อ.มาโนช เยี่ยมเจริญ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทกันหน้าผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านตลาดสมเพชร อ.เมืองเชียงใหม่ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบอดีตนักร้องสาวชื่อดัง “ลานนา คัมมินส์” อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 ถนนวังสิงห์คำ ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ยืนรอให้ปากคำอยู่ สภาพหน้าบวม เล็บมือหัก นักร้องสาวให้การว่า ตนเองได้มาเที่ยวพักผ่อนหาความสำราญที่ผับดังกล่าว และเมื่อผับเลิกแล้ว จึงได้เดินออกมาหน้าร้านพร้อมแฟนหนุ่มซึ่งเป็นชาวต่างชาติ จะไปที่จอดรถยนต์เพื่อกลับบ้าน ได้มีหญิงสาวไทยนิรนามคนหนึ่งซึ่งมากับเพื่อนสาวและฝรั่งอีก 3 คน ได้ร้องเพลง “ไว้ใจได้กา” ล้อเลียน ซึ่งเป็นผลงานเพลงของลานนาเอง

นักร้องสาวให้การอีกว่า ตนไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่สาวนิรนามคนดังกล่าวก็ยังไม่ยอมหยุดร้อง “ปากแดงแดง จะไว้ใจได้กา” ซ้ำๆ จนแฟนหนุ่มของลานนาไม่พอใจ เดินเข้าไปหาจนเป็นเหตุชกต่อยชุลมุนกัน แล้วทันใดนั้นตัวเองถูกสาวนิรนามชกที่หน้าและเล็บหักบาดเจ็บ จากนั้นหญิงสาวนิรนามก็หลบหนีไป จึงได้แจ้งตำรวจดังกล่าว

เมื่อถามว่ามีเรื่องหรือไม่พอใจกันในผับมาก่อนจะมีเรื่องชกต่อยกันหรือไม่ อดีตนักร้องดังตอบว่าไม่ทราบ และไม่ได้สนใจ

น.ส.ลานนา ให้การเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุมาเที่ยวสถานบันเทิงต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่ และปิดท้ายที่ผับแห่งนี้ ขณะนั่งดื่มสุราอยู่ในร้านกับเพื่อนชายต่างประเทศ ก็มีกลุ่มคน 5 คนเป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน ซึ่งนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ได้มาแซวเรื่องการขึ้นเวทีกับกลุ่มกปปส. แล้วก็ร้องเพลงล้อเลียนว่า “ปากแดงๆจะไว้ใจ๋ได้กา” แบบกวนอารมณ์ แต่ตนก็พยายามอดกลั้น

กระทั่งร้านเลิกตนกับเพื่อนชายก็เดินไปที่รถ แต่กลุ่มคนกลุ่มนี้ก็ยังตามมาอีก แล้วก็ร้องเพลงก่อกวนอีก ทำให้เพื่อนชายไม่พอใจเดินเข้าไปถามกลุ่มคนเหล่านั้น จึงกรูเข้ามาพากันรุมตบ จนเจ้าหน้าที่ร้านได้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นหลบหนีไป รวมทั้งกระชากกระเป๋าถือแบรนด์เนมของตนไปด้วย ข้างในมีบัตรประชาชน เอทีเอ็ม และเงินสดอีก 2,500 บาท เชื่อว่าถูกขโมยไปด้วยแน่ๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักร้องสาวได้เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวัน

สำหรับอดีตนักร้องชาวเหนือชื่อดัง ลานนา คัมมินส์ ล่าสุด ขึ้นเวทีปราศรัย กปปส. ที่ราชประสงค์เมื่อคืนวันที่ 18 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ทำให้คนเชียงใหม่และคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ส่วนมากต่างไม่พอใจ

ด้าน พ.ต.ท.ไกรศรี จุฬพรรค์ สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้ส่งชุดสืบสวนไปประสานของภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าร้านมาตรวจสอบ และสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริง ทราบมาว่า นักร้องสาวมักมีปัญหาเวลาไปเที่ยวสถานบันเทิง ส่วนหญิงคนร้าย ทางตำรวจจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีกันต่อไป

หมอนิ่ม-แม่ขึ้นศาล ปฏิเสธจ้างฆ่าเอ็กซ์

หมอนิ่มพาแม่ขึ้นศาลมีนบุรี รับทราบข้อหาร่วมจ้างวานฆ่า"เอ็กซ์"จักรกฤษณ์ หลังอัยการส่งฟ้อง 4 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย หมอนิ่ม มารดา มือปืน และทนายอี๊ด คนรับงานฆ่า สอบปากคำจำเลยนัดแรก ทั้งแม่หมอนิ่มและมือปืนกลับคำให้การ เป็นให้การปฏิเสธในชั้นศาล พร้อมตั้งทนายเตรียมสู้คดี ก่อนศาลมีคำสั่งนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง 24 มี.ค. หมอนิ่มวอนขอสังคมเห็นใจ ต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ บอกลูกหากคิดถึงพ่อ ก็ให้หอมแก้มแม่แทน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ก.พ. ความคืบหน้าคดีสังหาร "เอ็กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ว่า พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม พร้อมด้วย น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 72 ปี มารดา และนายสันติ ทองเสม หรือทนายอี๊ด อายุ 28 ปี ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมีนบุรี โดยศาลนัดสอบคำให้การจำเลย ตามที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.383/2557 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริม ให้ฆ่า มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ โดยจำเลยที่ 1 นายจิรศักดิ์หรือ จี กลิ่นคล้าย อายุ 33 ปี มือปืนที่ยิงนายจักรกฤษณ์ได้ถูกคุมตัวมาจากเรือนจำ เพื่อมาสอบปากคำด้วย

ในวันนี้หมอนิ่มและมารดา เดินทางมาด้วยรถตู้โตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีดำ ทะเบียนป้ายแดง น-6111 กรุงเทพฯ โดยหมอนิ่มกล่าวว่า ในวันนี้ตนพร้อมคุณแม่ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และให้ปากคำเพิ่มเติมตามหมายนัดจากศาล ซึ่งวันนี้ตนจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาส่วนคุณแม่นั้นยังไม่ตอบในตอนนี้ จะไปให้การในชั้นศาลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และในเรื่องพยานหลักฐานก็ไม่ได้เตรียมอะไรมาเป็นพิเศษ

"ตอน นี้ต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน อยากให้สังคมเห็นใจ เพราะต้องดูทั้งลูกและคุณแม่ โดยฉันได้สอนลูกๆ ว่า ถ้าลูกคิดถึงพ่อก็ให้มาหอมแก้มแม่แทน ทางด้านคุณแม่ของพี่เอ็กซ์ ก็ยังคงมาหาหลานๆ ที่บ้านตามปกติ ส่วนคุณพ่อตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ก็ไม่ได้มาที่บ้านอีกเลย และคดีมรดกขณะนี้อยู่ระหว่างการไกล่เกลี่ย" หมอนิ่มกล่าว

สำหรับคดีดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 56 ที่ผ่านมา นายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเจ้าเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกคนร้ายประกบยิงเสียชีวิต ขณะขับรถสปอร์ตหรูปอร์เช่ เพื่อไปหาภรรยา ที่ปากซอยรามคำแหง 166 หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจนทราบตัวมือปืนที่ก่อเหตุ คือ นายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย โดยมือปืนสารภาพว่า น.ส.วรพรรณภูรี มนตรีอารีกูล หรือเจ๊แหม่ม เป็นคนจ้างให้ลงมือ เจ้าหน้าที่จึงไปควบคุมตัวมาสอบสวน ในที่สุดเจ๊แหม่มก็รับสารภาพว่าได้รับการไหว้วานจากมารดาของหมอนิ่มให้ช่วย หามือปืนให้ จึงได้ปรึกษากับนายสันติ หรือทนายอี๊ด ซึ่งนายสันติ รับปากว่าจะดำเนินการให้ โดยเรียกเงิน 2 แสนบาท

หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการออกหมายจับทั้งตัวหมอนิ่ม มารดา และทนายอี๊ด ก่อนที่ทั้งหมดจะเข้ามอบตัว โดยทางมารดาหมอนิ่มให้การในชั้นพนักงานสอบสวนว่าเป็นคนจ้างทนายอี๊ดให้หามือ ปืนมาสังหารเอ็กซ์จริง เพราะสงสารลูกสาวที่ถูกทำร้ายจนถึงกับแท้งลูก ส่วนหมอนิ่มและทนายอี๊ดให้การปฏิเสธ

บรรยากาศ ในห้องพิจารณาคดี ศาลได้อ่านคำฟ้องระบุว่า คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2556 สรุปว่าเมื่อระหว่างเดือนส.ค.-19 ต.ค.2556 จำเลยที่ 2-4 ได้ร่วมกันจ้างวานใช้จำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ระหว่างหลบหนี ให้ฆ่านายจักรกฤษณ์จนเสียชีวิต โดยจำเลยที่ 1 กับพวกได้ใช้อาวุธปืนออโตเมติกยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตกาเรฟ ขนาด 7.62 ม.ม. ยิงนายจักรกฤษณ์หลายนัด ถูกที่หน้าอก หัวใจ และปอดจนถึงแก่ความตายก่อนหลบหนี ต่อมาตำรวจสืบสวนจับกุมจำเลยทั้งหมดไว้ได้ จำเลยให้การปฏิเสธ เหตุเกิดที่แขวง-เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

โดยหลังศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้อง ให้จำเลยทั้ง 4 ได้ฟังแล้ว ได้สอบถามจำเลยว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และแถลงว่าได้จัดเตรียมทนายความไว้ต่อสู้คดีแล้ว ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น. และให้คู่ความจัดทำบัญชีพยาน เสนอต่อศาลด้วย

ส่วนทางด้าน ทนายอี๊ด ซึ่งเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และให้ปากคำเพิ่มเติมต่อศาล เช่นเดียวกัน ได้เดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวออกทางด้านหลังของศาล ก่อนขึ้นรถกระบะสีดำ (ไม่ทราบรุ่นและทะเบียน) ขับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด