19 ก.ค.56 พ.ต.ท.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการปปง. ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมครั้งที่ 12/2556 ซึ่งมีคดีสำคัญและได้รับความสนใจจากประชาชน จำนวน 3 คดี ว่า ทั้ง 3 คดีเป็นความผิดตาม พรบ.ปปง.2542 คณะกรรมการธุรการได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานเกิดขึ้นจริงและเชื่อว่าบุคคลที่ถูกตรวจสอบอาจได้ไปซึ่งทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำผิด รวมทั้งเป็นกรณีที่มีเหตุผลอันควรเชื่อว่าอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว ดังนั้นคณะกรรมการจึงมีมติให้ยึดทรัพย์
1.กรณีอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำกับพวก ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวน 60 รายการ มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ 23 คัน และที่ดินในจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 10 แปลง รวมกว่า 30 ไร่ และบัญชีเงินฝากในธนาคารอีก 27 บัญชี นับแต่มีมติคณะกรรมการธุรการ 2.กรณีอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด กับพวก ให้อายัดทรัพย์สิน ซึ่งเป็นที่ดินในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ประมาณ 1,016 ไร่ มูลค่ากว่า 46 ล้านบาท 3.กรณีอดีตผู้บริการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กับพวกให้อายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม ซึ่งเป็นที่ดินในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและกรุงเทพฯจำนวน 64 แปลง เนื้อที่ประมาณ 320 ไร่ มูลค่ากว่า 42 ล้านบาท จากเดิมที่เคยมีมติอายัดไว้แล้ว จำนวน 336 รายการ ซึ่งเป็นที่ดินจำนวน 319 แปลง รถยนต์ 8 คัน และเงินในบัญชี 9 บัญชี รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท
เมื่อถามว่าทรัพย์ที่อายัดเป็นของอดีตพระเณรคำกับพวกทั้งหมดและมีการโอนไปต่างประเทศหรือไม่ พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า ทรัพย์สินที่อายัด พิจารณาจากบุคคลใกล้ชิดจำนวน 3-4 คน และที่เป็นของอดีตพระเณรคำจริงๆ ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเงินไปต่างประเทศนั้น เริ่มทยอยออกตั้งแต่เริ่มมีข่าว โดยย้ายไปอยู่ที่ไหน เรากำลังติดตามอยู่ แต่ทรัพย์สินไม่ถึง 1,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นทรัพย์มีจำนวนมากทำไมจึงยึดได้เท่านี้ พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า เรากำลังติดตามและเราต้องการความชัดเจน เพื่อความเป็นธรรม ที่จริงมีมากกว่านี้ กำลังหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้ขอรายละเอียดไปยังธนาคารซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะเรามีการตรวจสอบจริงกว่า 150 บัญชี ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่กองปราบอายัดไว้แล้ว 100-200 ล้าน และส่วนที่ปปง.อายัด มีเงินเหลือในบัญชี ประมาณ 320,000 บาท จาก 27 บัญชี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบัญชีปิด เงินออกหมดแล้ว
"ส่วนกรณีทองคำนั้น เรายังไม่ได้ข้อมูลเข้ามา แต่หากมีความชัดเจนเราก็จะดำเนินการต่อไป เพราะหากทรัพย์ที่ได้มาจากกระทำความผิด เราก็จะดำเนินดคีในการฟอกเงิน ทั้งนี้ยืนยันว่า เราพยายามทำงานไม่ให้ซ้ำซ้อนกับดีเอสไอ" พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว
โฉ่ข้ามโลก! CNN เปรียบ "สมีคำ" ใช้ชีวิตเยี่ยงดาราฮอลลีวูด มากกว่าจะเป็นพระ ด้าน ฟูจิทีวี ของประเทศญี่ปุ่น สับ ไร้คุณสมบัติที่จะห่มผ้าเหลือง...
สำนักข่าว "ซีเอ็นเอ็น" รายงานเมื่อวันที่ 18 ก.ค. เผยถึงกระแสข่าวของ "สมีคำ" หรืออดีต "หลวงปู่เณรคำ" ที่กำลังตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ดังอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ จากพฤติกรรมที่ใช้ชีวิตหรูหรา ดังภาพวิดีโอที่ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ยูทูบ ขณะนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว, ใส่แว่นตาทรงเอวิเอเตอร์สีทอง, ใช้หูฟังไร้สายสุดทันสมัย, มีกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง เปรียบเหมือนเป็นดาราฮอลลีวูด มากกว่าที่จะเป็นพระในศาสนาพุทธโดยทั่วไป
โดยซีเอ็นเอ็นยังอ้างรายงานจาก "ดีเอสไอ" ว่า สมีคำ วัย 34 ปี หรือมีชื่อจริงว่า นายวิรพล สุขผล มีฐานะทางการเงินสุดมั่งคั่ง อาทิ การครอบครองรถกว่า 83 คัน, บ้านหลายหลัง, ที่ดิน, คอนโดมิเนียม รวมถึงเชื่อด้วยว่ายังมีสินทรัพย์อีกหลายอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผยด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สมีคำ ได้ถูกตั้งข้อหาใหม่ในฐานะการทำอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ด้วยการโพสต์ข้อมูลชวนเชื่อ, รวมถึงมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์ รวมถึงข่มขืน จากการอ้างของเหยื่อที่เผยว่า สมีคำมีเพศสัมพันธ์กับเธอตอนอายุเพียง 14 ปี รวมถึงได้มีร้องให้ตรวจดีเอ็นเอลูกชายวัย 11 ขวบของเธอด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบัน สมีคำ ถูกเชื่อว่ายังคงเก็บตัวอยู่ในสหรัฐฯ รัฐแคลิฟอร์เนีย จากที่เป็นเจ้าของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ห่างจากนครลอสแองเจลิสไปทางใต้ราว 75 กิโลเมตร ขณะที่ซีเอ็นเอ็นได้เดินทางไปพยายามสัมภาษณ์ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พระที่อาศัยที่อยู่ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวปฏิเสธว่า สมีคำ ไม่ได้มายังสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลากว่า 3 เดือน ขณะที่พระอีกรูปเผยว่า สมีคำ ไม่ได้มาที่แห่งนี้มาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว
ขณะที่สถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวี ของประเทศญี่ปุ่น ก็ได้มีการตีแผ่ข่าวฉาวโฉ่ของ สมีคำ เช่นเดียวกัน โดยมีการจัดทำชาร์ตประกอบรูปการ์ตูน อธิบายเส้นทางชีวิตและทรัพย์สินของสมีคำ พร้อมสรุปในท้ายที่สุดว่าไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะห่มผ้าเหลือง
พร้อมกันนี้ ดีเอสไอ ยังได้เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็น ว่า พวกเขาได้ร้องขอให้สถาบันการเงิน 114 แห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้อายัดทรัพย์สินทั้งหมดของสมีคำ รวมถึงล่าสุดกำลังประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ให้ถอนวีซ่าของสมีคำ และดำเนินการจับกุมเจ้าตัว ก่อนส่งตัวกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทย.
ศิลปินจากแอล.เอ. ยกขบวนกลับไทยไปโชว์คอนเสิร์ตอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จในการโชว์ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว แฟนเพลงเรียกร้องให้กลับไปแสดงอีกครั้ง คราวนี้วงดนตรีชื่อดังก้องโลก “The Platters” ไปร่วมด้วย
ลอสแอนเจลิส...วันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ที่ไทยแลนด์พลาซ่า เพ็ญพิมพ์ จิตรธร จัดแถลงข่าวการนำศิลปินนักร้องจากลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ไปแสดงคอนเสิร์ต “ย้อนกาลเวลา” ที่ประเทศไทย โดยมีศิลปินนักร้องไทยและศิลปินนักร้องชาวอเมริกันวงดนตรีชื่อดังก้องโลก “The Platters” ไปแสดงด้วยที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2556 รอบบ่าย 2 โมง
โดยได้รับการสนับสนุนจาก “สิงห์” คอเปอเรชั่น และ บริษัท ทิพยประกันภัย โดยท่านสมใจนึก เองตระกูล ให้เกียรติเป็นประธานในการจัดงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อีกส่วนหนึ่งมอบให้ มูลนิธิ ดำรง พุฒตาล และหน่วยพยาบาลเวชธานี
คณะ The Platters ร่วมเดินทาง 10 คน นำโดยผู้จัดการวง Eheka Abubakari และวันแถลงข่าวนักร้องนำ Kevin Carroll ได้โชว์เพลงดัง “Only You” ให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วย
ส่วนศิลปินนักร้องไทยนำโดย ผุสดี เอื้อเฟื้อ ยุวดี แก้วเกษ ศวรรณี (รุจิลาภา) พัฑฒนะ ไฉไล ไชยทา ปนัดดา ฉายพากย์ พราวตา ดาราเรือง นิตยา นนทบุตร ศิรินันท์ ปลอดเปลี่ยว ปาร์ค จอมพล ตัณฑวุฑโฒ ไชยา สุริโย
และ 2 ศิลปินแห่งชาติ ชรินทร์ นันทนาคร สวลี ผกาพันธุ์ ให้เกียรติร่วมแสดง
ร่วมด้วย นักร้องสมทบจากเมืองไทย กวี ทองปรีชา เศวตชัย วิทูรย์เทพ มนตรี สีหเทพ มนู ตอยยีบี สตีฟ อลังการ์
การแสดงก็จะแบ่งเป็นช่วงแรก คณะ The Platters แสดงประมาณ 30 นาที และจะเซอร์ไพร้สผู้ชมด้วยการบรรเลงดนตรีให้ศิลปินแห่งชาติ ชรินทร์ นันทนาคร เป็นผู้ขับร้อง
ช่วงที่ 2 ก็จะเป็นการแสดงของศิลปินนักร้องไทย เป็นชุดเพลงร้อง “หน้าม่าน” เพื่อรอการเปลี่ยนฉากเป็นฉากไนท์คลับ
เพลงหน้าม่านก็จะเป็นการนำเพลงผลงานการประพันธ์ของคนไทยในแอล.เอ. ไปเผยแพร่ อาทิ เพลง “ไทยต่างถิ่น” คำร้องโดย น.พ. อภิชาติ วัชรพุกก์ ทำนองโดย น.พ.อรรถกวี สวัสดิเสวี เพลง “แม่มูล” โดย มาโนชญ์ คงทอง อดีต บก. น.ส.พ. เสรีชัย และ เพลง “เขาและคุณ” ของเมาลียาสุวรรณสุขุม หนุ่มฟรีเวย์ของ ธีรวัฒน์ กาจจำรูญ
ในช่วงยุคไนท์คลับก็จะมีนักร้องจากไนท์คลับจากถนนราชดำเนินมาสลับเปลี่ยนกันร้องกับไนท์คลับอื่นๆ ตั้งแต่ โลลิต้า สีดา มูแลงรูธ โรฟีโน่ ซูซี่วอง นอกจากนี้ก็ยังช่วงของ “วันแม่”
วงดนตรี กาญจนะผลินจะเป็นผู้บรรเลงให้ในเพลง “ค่าน้ำนม” ซึ่งศิลปินแห่งชาติ ชรินทร์ นันทนาคร เป็นผู้ร้องร่วมกับคณะนักร้อง The Platters คนละท่อน
มีช่วงเพลงของ “เอลวิส” นำโดย กวี ทองปรีชา และโชว์ของ ฮอทเปปเปอร์ ผุสดี เอื้อเฟื้อ พร้อมนักร้องดาวเต้น ปนัดดา ไฉไล นิตยา ศวรรณี ในเพลงสนุกๆ
จะปิดท้ายด้วยวง The Platters เขาจะจบด้วยเพลง “ล้นเกล้าเผ่าไทย” ผลัดกันร้องคนละท่อนจนจบเพลง
ศิลปินทั้งหมดนี้จะออกเดินทางไปประเทศไทยในวันที่ 13 สิงหาคม 2556 นี้ ท่านที่สนใจจะไปชมการแสดง จองบัตรได้ที่
Thai Ticket Center 02-262-3456 หรือที่คุณแนนซี่ 085-991-9119
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012