'เศรษฐา'ยังไม่พ้นบ่วง!!! ป.ป.ช.เร่งสอบคดีผิดจริยธรรม คัดสำเนาคำวินิจฉัยจากศาลรธน
15 ส.ค.67 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติไม่มีความขื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์จากการเสนอชื่อนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า คดีนี้เป็นคดีที่มีการร้องเรื่องมาตราฐานทางจริยธรรมในชั้นของ ป.ป.ช.ด้วย ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่น เดียวกับกรณี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่เข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ป.ป.ช.ก็จะต้องขอคัดคำวินิจฉัย เพื่อมาประกอบการพิจารณาในชั้นของ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ยังไม่ได้มีการไต่สวนเพราะต้องรอคำวินิจฉัยก่อน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ส่วนจะทำให้ไวขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ตนไม่ขอก้าวล่วง
นายนิวัติไชย กล่าวว่า แม้นายเศรษฐา จะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ไม่เป็นอุปสรรค ยุ่งยากในการตรวจสอบและคิดว่านายเศรษฐา พร้อมชื่อแจ้งอยู่แล้ว เช่นเดียวกับที่ชี้แจงกับศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนระยะเวลาของการไต่สวนขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง บางเรื่องเราสามารถไต่สวนได้ภายใน 1 ปี เพราะ ป.ป.ช.จะต้องพิจารณาคดีจริยธรรม ว่าร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรง ก่อนที่จะส่งศาลฎีกาไปตามกฎหมาย ยืนยันว่า ป.ป.ช.ไม่ได้ล่าช้า มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ตลอดเวลา แต่เนื่องจากมีการร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ การพิจารณาจึงต้องไปทีละขั้นตอน เพราะหาก ป.ป.ช.วินิจฉัยไปก่อนแล้วศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปอีกทาง ผลก็ตะตรงกันข้ามกัน ดังนั้นทุกอย่างจะค้องนำมาประกอบกันก่อนวินิจฉัย เพราะศาลถือเป็นองค์กรสุงสุด
"คดีนี้ ป.ป.ช.จะต้องไปดูมาตราฐานทางจริยธรรมที่กำหนดไว้และต้องตีความ เพราะไม่มีข้อกฎหมายใดที่เขียนไว้ชัดเจน ดังนั้นต้องดูว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข้อใดของประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และต้องดูว่าข้อนั้นเป็นเรื่องจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ อย่ามองว่า เป็นเรื่องเคาะซ้ำกำซัด เพราะอย่างต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง เมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว โอกาสที่จะต้องถูกสาธารณชน หน่อวยงานของรัฐที่มีหน้าที่ตรวจสอบ แสดงว่าทุกคนพร้อมที่จะให้ตรวจสอบเมื่อก้าวเข้ามา” นายนิวัติไชย กล่าว
เมื่อถามถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล อาจจะต้องยุติลงหลังนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่ทราบข่าวว่าจะยุติหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นโครงการอะไรที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการของฝ่ายไหนก็เป็นหน้าที่ของป.ป.ช. ที่จะต้องทำหน้าที่เสนอแนะ ให้คำแนะนำ หรือความเห็นตามกฏหมาย หากพบว่ามีพฤติการณ์ที่ส่อ ว่าจะมีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องและนำไปสู่การทุจริตหรือคอรัปชั่น ซึ่งตรงนี้เราต้องให้ข้อแนะนำเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง
เมื่อถามอีกว่า หากยกเลิกนโยบายดังกล่าวสามารถทำได้หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายนโยบาย ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจหน้าที่จะไปตัดสิน ซึ่งเป็นเรื่องของผู้บริหารและรัฐสภา ซึ่งต้องไปถามท่านในเรื่องของนโยบายการขับเคลื่อน ป.ป.ช.เป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบ ถ้าทำเราก็ตรวจสอบ แค่นั้นเอง แต่หากไม่ทำ ก็ไม่มีอะไรให้ตรวจสอบ
เช็คDNAทักษิณ เปิดประวัติ'อุ๊งอิ๊ง'ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ภายหลังพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมกันแถลงเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ (คนที่ 31) ซึ่งจะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 16 ส.ค.นี้นั้น
สำหรับประวัติของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ “อุ๊งอิ๊ง” เกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2529 เป็นลูกคนเล็กของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร โดยมีพี่ชายคนโต คือ “โอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร และพี่สาวคนรอง คือ “เอม” น.ส.พินทองทา ชินวัตร
จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Msc International Hotel Management จากมหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ (University Of Surrey) เมืองกิลด์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ สมรสกับ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ นักธุรกิจ รองประธานเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุน บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และกรรมการมูลนิธิไทยคม มีลูกด้วยกัน 2 คน
เส้นทางการเมืองของ น.ส.แพทองธาร เริ่มขึ้นในวันที่ 20 มี.ค.2565 เมื่อพรรคเพื่อไทยมีการแต่งตั้งให้เป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” เริ่มปรากฏตัวในสื่อตามงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และชัดเจนขึ้นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) วันที่ 14 พ.ค.2566 เมื่อพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน 3 ตัวแทนของพรรคในการเป็นนายกรัฐมนตรี ร่วมกับอีก 2 คน คือ นายเศรษฐา ทวีสิน และ นายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งในเวลานั้น น.ส.แพทองธาร ขึ้นปราศรัยและลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับผู้สมัครและแกนนำพรรคเพื่อไทย แม้จะกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 2 อยู่ก็ตาม
หลังการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 14 พ.ค.2566 เสร็จสิ้น และพรรคก้าวไกลซึ่งได้ที่นั่ง ส.ส.เป็นอันดับ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยที่มาเป็นอันดับ 2 มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และ นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับเสียงโหวตจากที่ประชุมร่วมของรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2566 รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ได้แต่งตั้งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มี นายเศรษฐา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 13 ก.ย.2566
อนึ่ง ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2567 มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอซึ่งอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งตอนหนึ่งนายทักษิณ ได้กล่าวถึง น.ส.แพทองธาร ลูกสาวคนเล็กอย่างมั่นใจว่า “จะช่วยให้พลิกเกมได้ไม่ยาก” เพราะมี DNA ที่มีส่วนผสมระหว่างความเข้าใจการเมืองและการพบปะผู้คนแบบตน และความเข้มแข็ง อดทน เด็กขาดมาจากคุณหญิงพจมาน
“ในเมื่อผมทำได้ DNA ผมก็ต้องทำได้ แล้วเขามี DNA แม่ด้วย ก็ต้องทำได้ดีกว่าผมด้วย” นายทักษิณ กล่าว
‘เสรีพิศุทธ์’ประกาศรับใช้‘เพื่อไทย’ พร้อมโหวตให้ ลั่นมีศักดิ์ศรี ไม่เคยอ้าปากขอโควตา'รมต.'
15 ส.ค.67 ที่อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมแถลงกับพรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ว่า หากพรรคเพื่อไทยเสนอใครเราพร้อมสนับสนุน ส่วนที่มีชื่อของน.ส.แพทองธาร ชินวัตรหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เหมาะสมหรือไม่นั้น เมื่อเป็นมติของพรรคเพื่อไทยเราต้องสนับสนุน เพราะเราร่วมรัฐบาล
“ผมเกิดมาต้องรับใช้พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วให้ผม 300 ล้านบาท ให้ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี ผมยังไม่เอาเลย ต่อมาบอกว่าเอาเท่าไหร่ก็ได้ ผมก็ไม่เอา ต้องอยู่พรรคเพื่อไทยตลอด เลือกตั้งใหม่ก็สนับสนุนเพื่อไทย แม้เสียงสส.ของพรรค จะลดลงก็ตาม ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นผมต้องสนับสนุน ผมรู้จักกับนายทักษิณชินวัตร มาตั้ง 50 ปี ตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร ยังไม่เกิด และไม่ว่าจะเป็นใครก็สนับสนุนทั้งนั้น“พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ในรอบนี้จะมีการต่อรองโควตารัฐมนตรีอะไรหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ขอ เสรีฯ ไม่เคยอ้าปากขอใคร เรามีศักดิ์ศรี
'แอลเอ2028'โอลิมปิกครั้งหน้า อาจไม่มี'มวยสากลสมัครเล่น'
15 ส.ค. 2567 นสพ.Ceylon Today ของศรีลังกา รายงานข่าว Boxing and Breaking to Be Removed from 2028 Olympics ระบุว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือปี 2571 ที่เมืองลอส แองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา จะเป็นเจ้าภาพ (LA2028) อาจไม่มีการแข่งขันชกมวยสากลสมัครเล่น ทั้งที่มวยถือเป็นกีฬาที่อยู่คู่กับมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่นี้มาช้านาน
โดยรวมแล้ว กีฬา 2 ประเภทจากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งล่าสุด ณ กรุงปารีสของฝรั่งเศส ที่เพิ่งผ่านพ้นไปจะถูกยกเลิก และมีการเพิ่มกีฬาใหม่ 6 ประเภทลงในปฏิทิน ซึ่งเมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว จำนวนกีฬาที่แข่งขันกันในลอส แองเจลิส จะอยู่ที่ 36 ประเภท เพิ่มขึ้นจาก 32 ประเภทในปารีส ในบรรดากีฬา 6 ประเภทที่จะเปิดตัวครั้งแรกคือฟุตบอลธง ซึ่งเป็นกีฬาประเภทหนึ่งของอเมริกันฟุตบอล โดยนักกีฬาจะมีธงติดไว้ที่เข็มขัด ฝ่ายตรงข้ามต้องถอดธงออกแทนที่จะจับฟาดพื้น
ยังมีสควอชซึ่งจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกหลังจากการแข่งขันมาหลายปี รวมถึงเบสบอลและซอฟต์บอล ส่วนกีฬาอีกสองประเภทที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในปี 2571 คือ ลาครอสและคริกเก็ต แต่สำหรับกีฬาที่จะหายไปในโอลิมปิกครั้งหน้า คือการเต้นเบรกแดนซ์ แม้สหรัฐฯ จะเป็นต้นกำเนิดของการเต้นแบบนี้ก็ตาม และอีกชนิดคือมวยสากลสมัครเล่น ทั้งที่อยู่ในกีฬาโอลิมปิกมาตั้งแต่ปี 2447 และมีเพียงครั้งเดียวที่ไม่ได้จัดการแข่งขัน คือปีใน 2455 เนื่องจากกฎหมายของประเทศสวีเดนในขณะนั้นไม่อนุญาตให้จัดการแข่งขันชกมวย
คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี-IOC) กล่าวว่า จะไม่มีการจัดแข่งมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิก จนกว่าจะมีปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาดังกล่าวให้ดีขึ้น ซึ่งในปารีสเกมส์ 2024 ไอโอซีเป็นผู้รับผิดชอบการจัดการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น เนื่องจากห้ามไม่ให้ สหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ (ไอบา-IBA) เข้ามาเกี่ยวข้อง จากข้อกล่าวหาเรื่องเงินทุนและการกำกับดูแล และชี้ว่า ไอบา องค์กรที่มีความสัมพันธ์กับรัสเซีย ไมได้ดำเนินการปฏิรูปใดๆ
ในโอลิมปิกครั้งล่าสุดที่ปารีส ไอโอซีและไอบา มีวิวาทะกันอย่างดุเดือด กรณีนักมวย 2 คน ที่ไม่สามารถระบุเพศสภาพได้ชัดเจน ลงแข่งมวยสากลสมัครเล่นในประเภทหญิง ทั้งนี้ การตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นในปี 2568 ซึ่งหมายความว่ากีฬามวยสากลสมัครเล่นจะต้องแข่งกับเวลาหากต้องการมีส่วนร่วมในโอลิมปิกครั้งต่อไป ขณะที่เมื่อเดือน พ.ค. 2567 ทั้ง 2 องค์กรก็เพิ่งมีปัญหากัน โดยไอโอซีโต้แย้งกับการตัดสินใจของไอบา ที่จะมอบเงินรางวัลให้กับผู้ชนะเหรียญรางวัลในโอลิมปิกที่ปารีส
“เช่นเดียวกับที่ไอบาเสนอมา ไม่ชัดเจนว่าเงินมาจากไหน การขาดความโปร่งใสทางการเงินโดยสิ้นเชิงนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไอโอซีถอนการรับรองไอบา ซึ่งองค์กรดังกล่าวไม่พร้อมที่จะอธิบายแหล่งที่มาของเงินทุนอย่างโปร่งใส หรืออธิบายถึงการพึ่งพาทางการเงินทั้งหมดของตนในขณะนั้นกับบริษัทของรัฐ (รัสเซีย) เพียงแห่งเดียวอย่าง Gazprom” แถลงการณ์ของไอโอซี ระบุ
แถลงการณ์ของไอโอซี ยังกล่าวด้วยว่า หากต้องการให้มวยสากลกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ไอโอซีเรียกร้องให้มีสหพันธ์นานาชาติที่น่าเชื่อถือและมีการปกครองที่ดี ดังนั้นจึงชัดเจนแล้วว่า นักมวยคนใดก็ตามที่มีสหพันธ์ระดับชาติที่ปฏิบัติตามไอบา จะไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ลอส แองเจลิสได้ ซึ่งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติที่เกี่ยวข้องจะต้องตัดสหพันธ์มวยสากลแห่งชาติดังกล่าวออกจากการเป็นสมาชิก
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า บรรดาคอกีฬาต่างแสดงความไม่พอใจผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หลังทราบข่าวว่าโอลิมปิกครั้งหน้าอาจไม่มีการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น อาทิ มีความเห็นว่า “มวยสากลจะไม่มีโอกาสได้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งต่อไปที่แอลเอได้อย่างไร คงจะเป็นเรื่องน่าเสียดายหากต้องสูญเสียกีฬาที่ฉันเชื่อว่าเป็นหนึ่งในกีฬาหลักของการแข่งขันไป” หรืออีกความเห็นหนึ่งที่ว่า “แม้ว่าฉันจะวิจารณ์กรรมการบางคนในการแข่งขันมวยสากลโอลิมปิก แต่ฉันก็รู้สึกตกใจและหวาดกลัวที่ไอโอซีจะเลิกจัดการแข่งขันมวยสากลในโอลิมปิกที่แอลเอ การตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาดอย่างร้ายแรง”
