ข่าว
‘ยิ่งลักษณ์’ ท้า‘มาร์ค’แบหลักฐาน เลิกโยงเขาพระวิหารเอี่ยวการเมือง

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ขส.ทบ.หลังเดินทางกลับจากการปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.การต่างประเทศ ออกมาชี้แจงถึงแถลงการณ์ของสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ว่า นายสุรพงษ์คงต้องการออกมาชี้แจง แต่ทั้งหมดรัฐบาลเองไม่ต้องการให้มีการตอบโต้กันไปมาเพราะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อยากให้คำนึงถึงจุดนี้ด้วย ไม่ต้องการให้ลุกลามจนกลายเป็นเกมการเมืองระหว่างประเทศ แต่อยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายมากกว่าว่าในการพูดคุยต่างๆ นั้นควรมีหลักฐานที่ชัดเจน ไม่ใช่เป็นแค่การพูดลอยๆ เพราะประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

เมื่อถามว่าแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังแสดงความเห็นออกมาอย่างต่อเนื่อง นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่เคยพูดไว้ว่าถ้านายอภิสิทธิ์มีหลักฐานก็ขอให้นำออกมา เพราะวันนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไรเลย เป็นแค่เพียงการกล่าวหาเท่านั้น ต้องขอความเห็นใจ เพราะวันนี้เรามีกรณีปัญหาเรื่องเขาพระวิหารที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่ในการปกป้องอธิปไตย ซึ่งเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ไม่ต้องการให้นำเอาประเด็นอื่นเข้ามาทำให้เกิดเป็นประเด็นการเมือง เพราะเรื่องการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การต่อสู้ในทางกฎหมายเพื่อรักษาอธิปไตยของเราก็ต้องทำ นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องทำหน้าที่รักษาความสงบตามแนวชายแดนและปัญหาการเมืองต่างๆ อีก จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลพูดเสมอว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างไทยและกัมพูชา จะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยหรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราก็ต้องทำหน้าที่ของเรา ความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันก็เป็นประโยชน์ในเรื่องการเจรจาต่างๆ ทางการค้า ขณะเดียวกันเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ กรณีข้อพิพาท เราก็ต้องบเดินหน้าปกป้องอธิปไตยของเราเต็มที่ เราต้องแยกออกจากกัน การต่อสู้คดีเราก็ต้องต่อสู้คดีไป รัฐบาลไม่ลดละอยู่แล้ว การต่อสู้คดีเราต้องทำเต็มที่ ถือเป็นหน้าที่และภารกิจหลัก และขอยืนยันว่าคงไม่มีใครจะเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาทำให้ผลประโยชน์ของประเทศชาติเสียไปแน่นอน

นายกณฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ คงต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนด้วยในการตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในวันที่ 25 ม.ค. ที่จะประชุมคณะทำงานเกี่ยวกับเขาพระวิหาร เนื่องจากรัฐบาลเห็นว่าช่วงนี้ต้องติดตามสถานการณ์ อีกทั้งได้มอบหมายให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ และรมว.ศึกษาธิการ ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ได้ประสานงานและร่วมหารือกับคณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายว่าจุดยืนในการต่อสู้จะทำอย่างไร และพร้อมรับฟังเสียงและข้อแนะนำต่างๆ มาพิจารณา ทั้งนี้ ต้องขอให้ทางที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายได้ให้คำแนะนำ เพราะเราคงไม่สามารถตัดสินใจได้เร็ว

“ส่วนการอธิบายและชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ รัฐบาลมีคณะทำงานซึ่งเป็นโฆษกฯ จากทางฝ่ายกฎหมาย และกระทรวงการต่างประเทศก็จะมอบหมายให้มีการชี้แจงเป็นระยะๆ อยากขอร้องว่าประเด็นต่างๆ เหล่านี้อยากให้ฟังจากข้อเท็จจริงเพราะถือเป็นวาระแห่งชาติที่เราต้องร่วมกันแก้ไข” นายกรัฐมนตรีกล่าว

'เสรีพิศุทธ์'ลงเรือท่าน้ำผ่านฟ้า พบ”พงศพัศ”ในคลองแสนแสบ

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 25 ม.ค.56 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 11 ในนามกลุ่มพลังกรุงเทพ พร้อมทีมงานลงพื้นที่หาเสียง บริเวณท่าเรือสะพานผ่านฟ่าลีลาศ ถนนราชดำเนินนอก

โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และทีมงาน ได้ทำการลงพื้นที่หาเสียงบริเวณท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งเป็นที่สนใจของประชาชาในพื้นที่จำนวนมาก และหลังจากนั้นได้ขึ้นเรือโดยสารไปยังท่าเรือสะพานชิดลมต่อ โดยระหว่างการเดินทางบนเรือได้บังเอิญเจอ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เบอร์ 9 จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้จอดเทียบเรือกัน และได้มีการจับมือทักทาย พร้อมแลกแผ่นพับหาเสียงกัน หลังจากนั้นได้เดินหาเสียงจากท่าเรือสะพานชิดลมไปยังเซ็นทรัลชิดลมต่อ โดยระหว่างการเดินหาเสียงบริเวณ บีทีเอสชิดลมนั้น ได้มีประชาชนจำนวนมากมาขอถ่ายรูปด้วย พร้อมจับมือทักทาย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่ลงพื้นที่บริเวณท่าเรือเพราะ มาดูระบบทางน้ำ ในการเดินทางสัญจรทางน้ำ โดยยังได้เสนอนโยบายการจัดการ ด้วยการจัดให้มีการขายของเป็นบริเวณ ซึ่งจะทำให้คนที่อาศัยในพื้นที่มีรายได้ด้วย โดยคนที่เดินสัญจรทางเรือก็ได้ประโยชน์ในการเดินทางที่สะดวกขึ้น และยังจะมีนโยบายการจัดการน้ำเสีย ด้วยการขุดลอกคลอง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีโพลล์สำรวจความคิดเห็นของคนกทม.ต่อผู้ว่าฯกทม.ที่มีคะแนนมาอับดับที่ 3 ว่า ไม่ได้มีปัญหา เดินหน้าเสนอนโยบายกันต่อไป ซึ่งความคิดเห็นในโพลล์ที่สำรวจมาส่วนมากก็เป็นพวกหัวคะแนน โดยยังมีประชาชนอีก 50% ที่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็น

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ลงพื้นที่หาเสียงบนเรือแล้วบังเอิญเจอพล.ต.อ.พงศพัศ หาเสียงบนเรือเช่นกัน ซึ่งเรือได้สวนทางกันและจอดทักทายกันว่า มีการจับมือ พูดคุยทักทายตามปกติ ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร เพราะรู้จักกันมาก่อน ตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง