ข่าว
ทองคำผันผวนหนัก ทองลดลง1.8 หมื่น

ทองผันผวนหนัก! สมาคมค้าทองคำประกาศปรับราคาถึง 15 รอบ หลังเปิดตลาดราคาร่วงบาทละ 450 บาท ก่อนปิดลดลงจากเมื่อวาน (27 มิ.ย.) บาทละ 400 บาท...

ราคาทองคำในประเทศผันผวนอย่างหนักระหว่างการซื้อขายในวันนี้ (28 มิ.ย.) หลังจากราคาทองคำตลาด COMEX ปิดตลาด 27 มิ.ย. ร่วงแรง หลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี นับจากเดือน ก.ย. 2553 ปิดตลาดทำสถิติใหม่แตะระดับต่ำสุดที่ 1,197.26 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงเทขายของนักลงทุน เพื่อนำเงินไปลงทุนในรูปแบบอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในรอบสัปดาห์ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำในเช้าวันนี้เมื่อเวลา 09.34 น. โดยราคาทองคำปรับลดลงถึงบาทละ 450 บาท ทองคำแท่ง รับซื้อที่บาทละ 17,700 บาท ขายออก 17,800 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 17,449.16 บาท ขายออก 18,200 บาท และปรับราคาซื้อขายถึง 3 รอบ ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง โดยตลอดทั้งวันปรับราคาขาย 15 รอบ ปิดตลาดราคาทองคำแท่ง รับซื้ออยู่ที่บาทละ 17,750 บาท ขายออก 17,850 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 17,494.64 บาท ขายออก 18,250 บาท หรือลดลงบาทละ 400 บาท จากราคาปิดตลาดเมื่อวาน (27 มิ.ย.)

โดยนายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ยอมรับว่า การประมาณการณ์ราคาทองคำในช่วงนี้ทำได้ยาก เพราะราคาทองคำตลาดโลกเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทยังไม่นิ่ง โดยต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และปรับคาดการณ์ราคาทองในระยะสั้นวันต่อวัน

อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาทองจะร่วงแรงเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นจะดีดกลับขึ้นมาค่อนข้างแรงอีกครั้งก่อนปลายปีนี้ โดยมีความเป็นไปได้ที่ราคาทองจะกลับไปอยู่ที่บาทละ 20,000 บาท แนะนำนักลงทุนในทองคำถือเก็บไว้ก่อน ยังไม่ควรขายออก รอโอกาสดีดกลับจึงค่อยขายทำกำไร.

"สนธิ"แฉแหลกพระนอกลู่ "ไอ้เณรคำ"มีเมีย 8 ลูก 2

"สนธิ" แนะลูกศิษย์"อดีตพระมิตซูโอะ"อย่าโกรธให้ดูถึงคุณงามความดีที่ท่านทำไว้ พร้อมแฉแหลก "ไอ้เณรคำ" มีเมีย 8 ลูก 2 แปลกใจทำไมคนถึงศรัทธามากมายทั้งที่หลอกลวงชัดเจน

วันที่ 28 มิ.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางเอเอสทีวี ถึงกรณีที่

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงเรื่องอดีตพระมิตซูโอะ ว่า เขารักกันแล้วมันก็ช่วยไม่ได้ อย่างน้อยที่สุดท่านมิตซูโอะก็ตัดสินใจสึกออกมา เพื่อไม่ให้เป็นอลัชชี ก็ถือว่าท่านทำคุณกับพุทธศาสนา แต่อีกด้านหนึ่งก็บอกว่า คุณสุภาพสตรีคนนี้ทำไมใจร้าย รู้อยู่แล้วว่าท่านเป็นพระ แล้วก็ไปทำให้ท่านต้องเสียศีล แต่จะว่าสุภาพสตรีคนเดียวก็ไม่ได้ เพราะตบมือข้างเดียวไม่ดัง

แต่มีคำถามคือภาพที่สตรีคนดังกล่าวโพสต์เกิดขึ้นหลังจากลาสิกขาเพียง 20 วัน มันไม่น่าจะเกิดขึ้น ถ้าสมมติมีแค่จิตปฏิพันธ์ สึกแล้วท่านต้องไปอยู่ญี่ปุ่นสักพักนึง ผู้หญิงต้องไปหาสักพักนึง แล้วอีกสัก 1-2 เดือนไปเที่ยวกัน แต่นี่มันทันทีเลย แสดงว่ามีคำถามคือ ท่านเบียดก่อนสึก หรือสึกก่อนเบียด แต่อย่างน้อยบทสรุปก็ยังดีตรงที่ท่านละอายแก่ใจตัวเอง ท่านเลยต้องสึก และเข้าใจว่าคงเบียดก่อนสึกแล้ว ท่านถึงต้องสึกทันที เพราะสึกแบบไม่มีใครรู้เลย และบินกลับญี่ปุ่นทันที

นายสนธิ กล่าวต่อว่า บางคนเอาเรื่องความรัก เรื่องบุพเพสันนิวาสมาพูด ตนไม่เชื่อ เพราะมีความรู้สึกว่าความเห็นแก่ตัวของผู้หญิงคนนี้มีมากเกินไป สตรีคนนี้อายุ 52 มีลูกโตเป็นหนุ่มแล้ว น่าจะรู้จักระงับจิตระงับใจได้ โดยเฉพาะกับพระ ถ้าคิดให้ดีว่า ท่านมิตซูโอะ บวชมา 38 พรรษา มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ ถ้าท่านยังอยู่ในสมณเพศ ธรรมะที่ท่านสอนออกไปนั้นจะให้ประโยชน์กับคนเป็นหมื่นเป็นแสน มันจะทำให้ชีวิตคนดีขึ้น แต่นี่ไปดึงท่านออกมา แล้วเอามาเป็นสมบัติส่วนตัว ท่านมิตซูโอะเป็นพระมา 38 ปี ตนคิดว่าท่านไร้เดียงสาเรื่องทางโลก

สำหรับลูกศิษย์ที่นับถือในตัวท่านมิตซูโอะ ตนคิดว่าอย่าไปตำหนิท่าน ให้มองย้อนถึงการแสดงธรรมของท่าน แล้วถึงพ้นจากสมณเพศไปเป็นคู่ผัวคู่เมีย ท่านยังคงรักษาความดี ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อย่างน้อยท่านก็ไม่โกหกแล้ว ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ได้ไปเอาลูกเมียคนอื่นเขา เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่มีเจ้าของ ท่านไม่ได้เอาทรัพย์สมบัติใคร ไม่ได้เอาเงินมูลนิธิไป ท่านไปตัวเปล่า ฉะนั้นแล้วอย่าไปโกรธท่าน มองในเรื่องดีๆ ที่ท่านเคยทำให้เรา มองในธรรมะที่เคยมอบให้พวกเรา ซึ่งธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้านี้เป็นอมตะ ไม่ว่าใครจะเป็นคนเทศน์ เหมือนกันหมด

นายสนธิ กล่าวอีกว่า ท่านดีมาก ดีจริงๆ ดีกว่าเณรคำ ไม่รู้กี่ล้านเท่า ซึ่งตนไม่ขอเรียกว่าหลวงปู่เณรคำ แต่ขอเรียกว่า ไอ้คำ ทีมงานเอเอสทีวีลงพื้นที่ศรีสะเกษ ไปคุยกับชาวบ้าน จนรู้มาว่าไอ้คำมีเมีย 8 คน ลูก 2 คน แล้วคลิปที่ออกเป็นรูปที่พระนอนกับสีกา ความจริงคนที่ถ่ายรูปคลิปนี้คือเมียคนที่ 2 ของมัน โดยเอามือซ้ายถ่าย เพื่อจะเอารูปถ่ายไปแบล็กเมล์ให้ไอ้คำสึกแล้วมาอยู่ด้วย

มีอยู่ครั้งหนึ่งแต่งชุดฆราวาสขับรถเบนซ์ไปหาเมียคนหนึ่งแล้วโดนตำรวจทางหลวงจับว่าเป็นพระแต่มาขับรถ เผอิญไอ้ตำรวจทางหลวง 2 คนนั้นรู้จักกันเพราะเคยนำขบวนรถไอ้คำ ไอ้คำเลยให้เงินตำรวจทางหลวงไปคนละ 2 ล้านปิดปากเงียบ ไอ้คำได้เงินบริจาคเยอะมาก ถึงขั้นมีเงินเลี้ยงเมีย 8 คน บางคนได้เดือนละ 5 หมื่นบาท บางคนได้เดือนละแสน สร้างบ้านให้ด้วย เมียคนแรกทะเลาะกันจนในที่สุดต้องเอาเงินยัดปากไป 1 ล้าน เลยเลิกกันไป และบ้านที่ไอ้คำสร้างให้หนึ่งในเมีย เรียกว่าเป็นคฤหาสน์ได้เลย (ดูภาพประกอบ)

แล้วประวัติในเว็บไซต์โกหกทั้งเพ บอกว่าตอนเด็กชอบไปนั่งปักกลดอยู่ที่กระท่อมกลางน้ำ นั่งสมาธิจนถึงเช้าทุกวัน ปรากฏว่าทีมงานไปคุยกับเพื่อนเก่า เขาบอกว่าสมัยเรียนโง่ฉิบหาย เรียนแค่ ม.2 แล้วเรียนต่อไม่ไหว สอบตกวิชาสังคม ก็เลยต้องลาออก แล้วมีครูคนหนึ่ง มันเรียกอาจารย์พ่อ ฝากไปทำงานรีสอร์ต มันก็ไปถูส้วม ล้างส้วม ทำหมดทุกอย่างเลย แล้วจู่ๆ หายตัวไป ไปบวชที่ไหนไม่รู้ แล้วกลับมามันกลายเป็นหลวงปู่เณรคำ พูดกับพระอินทร์ได้ เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

เงินไอ้คำเยอะมาก เพราะคนโง่ไปศรัทธาและบริจาคให้จำนวนมาก น่าประหลาดมันหลอกคนได้หมดเลย ตั้งแต่ข้างบนลงมาข้างล่าง ทั้งตำรวจทหาร ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจของกองบัญชาการภูธร รู้สึกจะภาค 3 ไปเป็นลูกศิษย์มันเยอะแยะไปหมด เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไมยังดูไม่ออกว่ามัน 18 มงกุฎ

นายสนธิ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ไอ้คำทำ มันทำร้ายทำลายพระพุทธศาสนา ทำลายไปถึงรากเหง้าความเชื่อมั่นของคน คนที่เคยเชื่อพระก็จะมีความรู้สึกสงสัยในพระ ทำให้ศาสนามัวหมอง แต่จะไปตำหนิไอ้คำคนเดียวไม่ได้ ต้องตำหนิพระผู้ใหญ่ เพราะเห็นแก่ทรัพย์สินที่มันมอบให้เลยช่วยปกป้องมัน ขนาดงานบุญของมันยังเชิญพระขนาดสมเด็จไปได้เลย และขอต่อไปยังเรื่องพระธรรมทูตที่เมืองนอก เราแทบไม่สามารถไหว้ไม่ได้เลย พวกนี้ไปเพื่อทำมาหากิน ไม่ได้ไปปฏิบัติธรรม สอนธรรมะเลย

ส.ว.มะกันผ่านก.ม. ปฏิรูปคนเข้าเมือง

วุฒิสภาสหรัฐฯผ่านกฎหมายปฏิรูปคนเข้าเมือง ซึ่งเคยล้มเหลวมาตลอดหลายปีแล้ว แต่คาดว่าจะเจอทางตันในสภาล่าง ที่ส.ส.รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก...

วันที่ 28 มิ.ย. สมาชิกวุฒิสภาหรือสภาสูงของสหรัฐฯลงคะแนนเสียง 68 ต่อ 32 มีมติผ่านกฎหมายปฏิรูปคนเข้าเมือง ซึ่งรวมถึงการให้สถานะพลเมืองแก่ผู้อพยพราว 11 ล้านคน หลังจากมีการถกเถียงอย่างดุเดือดนานหลายเดือน แต่คาดจะเจออุปสรรคในสภาล่าง

หลังจากเหล่า ส.ว.ผ่านกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (ตามเวลาท้องถิ่น) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกมาระบุว่า สหรัฐฯกำลังเข้าใกล้การแก้ไขระบบตรวจคนเข้าเมืองอันอ่อนแอของเราเข้าไปทุกที วันนี้เป็นหน้าที่ของวุฒิสภา ต่อจากนี้จึงเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะทำอย่างเดียวกัน

อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับนี้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง ที่พรรครีพับลิกันครองเสียข้างมาก โดยนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาล่างยืนยันว่า เขาจะไม่สนับสนุนกฎหมายที่ไม่ได้รับการยอมรับจากลูกพรรคคนอื่นๆ