สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส จัดงานเลี้ยงรับรองให้กับชุมชนไทย เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม 2566 ระหว่างเวลา 18.00-21.00 น. ณ หอประชุม Friendship Auditorium

โดยท่านต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เป็นประธานเปิดพิธีฯ ภายในงานมีทีมประเทศไทย องค์กร สมาคมฯ ชมรมต่างๆ เข้าร่วมงานออกบูทนำอาหารคาวหวานผลไม้เครื่องดื่มมากมาย และสถาน กงสุลใหญ่ฯ ได้จัดบุฟเฟ่อาหาร เตรียมพร้อมต้อนรับพี่น้องชุมชนไทยที่มาร่วมงานกว่า 300 คน ได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง

โดยครั้งนี้สมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา นำโดย คุณเจริญพร แฮกเกอร์ นายกสมาคมนวดไทยฯ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และคณะกรรมการได้มีส่วนร่วมนำอาหารมาออกบูท (ขนมจีนเงินล้าน สูตรคุณยายวรนุช) ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ฯ แจกให้กับผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ขนมจีนเงินล้านของสมาคมฯ เราขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หมดเกลี้ยงก่อนเวลากำหนดเลยทีเดียว

บรรยากาศภายในงานมีการแสดงมากมายจากลูกหลานไทยได้มาโชว์ความสามารถฟ้อนรำ ดนตรีไทย และโชว์เอกลักษณ์ประเพณีวัฒนธรรมไทยให้ผู้ร่วมงานได้ขื่นชมกัน

สมาคมนวดไทยฯ ขอกราบขอบพระคุณท่านต่อ ศรลัมภ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส คุณสิริกมล ศรลัมภ์ ท่านภริยาฯ กงสุล และ เจ้าหน้าที่สถานกงสุญใหญ่ฯ ทุกๆท่าน ที่ได้จัดงานและให้การต้อนรับเป็นอย่างดีในงานสำคัญวันชาติและวันพ่อแห่งชาติให้กับพี่น้องชุมชนไทยในต่างแดน ทำให้พี่น้องชุมชนไทยได้มาพบปะกระชับความสัมพันธ์ ร่วมรัก ร่วมสามัคคีกัน ได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มา ณ ที่นี้ด้วย ขอบพระคุณ ประชาสัมพันธ์สมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา

Apimon

Cr.ภาพยรรยากาศงานจากพี่ปกรณ์, พี่ดอน

พระอธิการประเสริฐ อิทธิญาโณ หรือ หลวงพ่อประเสริฐ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุบัวหลวงไทย เมือง Tehachapi รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั่วอเมริกา และที่ประเทศไทยได้มรณภาพอย่างสงบที่โรงพยาบาลในจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลาท้องถิ่น 10.45 น.ของเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ด้วยเส้นเลือดหัวใจตีบตัน และติดเชื้อในกระแสเลือด

ทั้งนี้หลวงพ่อประเสริฐ ได้เดินทางกลับไปรักษาสุขภาพที่เมืองไทยและปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดบัวหลวง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลายปี จนกระทั่งได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ด้วยความอาลัยยิ่งของลูกศิษย์ทั้งในอเมริกาและประเทศไทย เนื่องจากท่านเป็นพระนักพัฒนา มีเมตตา ได้ช่วยเหลือรักษาโรคภัยต่างๆ ให้กับชาวไทยในต่างแดน รวมทั้งชาวต่างชาติมาอย่างมากมาย เป็นที่เคารพนับถือของลูกศิษย์ลูกหา และสาธุชนทั่วไป

ในการนี้ ทางวัดพระธาตุบัวหลวงไทย เมือง Tehachapi ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชนทั่วไป ร่วมกันทำบุญเลี้ยงภัตตาหารเพลแด่คณะสงฆ์และร่วมกันฟังสวดพระอภิธรรมอุทิศให้กับ พระอธิการประเสริฐ อิทธิญาโณ อดีตเจ้าอาวาส ในวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม นี้เวลา 13.00 น. ที่วัดพระธาตุบัวหลวงไทย

สำหรับพิธีที่เมืองไทย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณฯ พระราชทานน้ำหลวงสรงศพ ในวันที่ 6 ธันวาคม2566 เวลา 17.00 น. ที่วัดบัวหลวง จ.พิษณุโลก โดยจัดพิธีสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศล 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-12 ธันวาคม 2566 และมีหมายรับสั่งบรรจุพระสรีระสังขาร ในวันที่ 13 ธันวาคม เวลา 13.30 น.

วัดพระธาตุบัวหลวงไทย ก่อตั้งโดย พระอธิการประเสริฐ อิทธิญาโณ พร้อมด้วยศาสนิกชนทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ร่วมกันก่อตั้ง และรวบรวมปัจจัยจัดผ่อนซื้อวัดพระธาตุบัวหลวงไทยขึ้น เมื่อเดือนกันยายน 2547 มีเนื้อที่ ประมาณ 5 เอเคอร์ ได้จดทะเบียนเป็นองค์กร Non-Profit Organization และได้รับการยกเว้นการเสียภาษี อากรถูกต้องตามกฏหมาย ของรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกาในปี 2549

วัดพระธาตุบัวหลวงไทย : Wat Phra-That Bua-Luang Thai Meditation Center ตั้งอยู่ที่ 22936 State Highway 202 Tehachapi, CA 93561 Tel. 661-822-8932

รัฐสภาญี่ปุ่นผ่านร่างกฎหมายรับรองให้ “สารสกัดกัญชาทางการแพทย์” ถูกต้องตามกฎหมาย นับเป็นการแก้ไขครั้งสำคัญในกฎหมายยาที่เข้มงวดของประเทศ แต่ขณะเดียวกัน รัฐบาลโตเกียวได้ยกระดับการห้ามใช้กัญชาเพื่อสันทนาการด้วย

8 ธันวาคม 2566 : สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายควบคุมกัญชาและสารเสพติดของญี่ปุ่น ซึ่งได้รับมติผ่านจากวุฒิสภา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ถือเป็นการเปิดทางสู่การยกเลิกการแบนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่สกัดจากกัญชา

แม้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นชัยชนะสำหรับกลุ่มคนไข้ชาวญี่ปุ่น ซึ่งรณรงค์การเข้าถึงยาที่ผลิตจากสารแคนนาบิไดออล หรือซีบีดี อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงกฎหมายข้างต้นยังส่งผล ให้นโยบายกัญชาของประเทศเข้มงวดยิ่งขึ้นเช่นกัน

สำหรับญี่ปุ่น การบริโภคกัญชานับเป็นความผิดทางอาญา โดยก่อนมีการแก้ไขกฎหมาย การสูดดมกัญชาถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย “ในทางเทคนิค” ขณะที่การครอบครองกัญชามีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ซึ่งช่องโหว่ดังกล่าว ถูกนำมาใช้เพื่อคุ้มครองเกษตรกรไม่ให้ถูกจับ ในข้อหาสูดดมกัญชาที่ปลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทว่าการจับกุมผู้กระทำผิดที่มีความเกี่ยวข้องกับกัญชา ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาว และวัยรุ่น ทำให้ทางการญี่ปุ่นตัดสินใจยกระดับ มาตรการควบคุมการใช้กัญชาของประเทศ ภายใต้กฎหมายฉบับแก้ไข ผู้ที่ถูกจับได้ว่าเสพ หรือครอบครองกัญชา อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี

ทั้งนี้ ข้อมูลสถิติของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น เผยให้เห็นว่า จำนวนการจับกุมที่เกี่ยวข้องกับกัญชา แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5,783 คน เมื่อปี 2564 และจากการสอบสวนของตำรวจในปี 2563 ต่อผู้ต้องหาครอบครองกัญชา 748 คน พบว่า ผู้กระทำความผิดเกือบ 30% ระบุว่า การขาดบทลงโทษต่อการบริโภคกัญชา เป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขากล้าใช้กัญชามากขึ้น

“ขณะที่คนหนุ่มสาวหันมาใช้กัญชาในทางที่ผิดมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเราหวังว่าการแก้ไขกฎหมายนี้ จะช่วยหยุดยั้งแนวโน้มดังกล่าวได้” นายฮิโรคาซุ มัตสึโนะ โฆษกคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าว หลังร่างกฎหมายผ่านรัฐสภา

สถาบันผู้ทรงอิทธิพลแห่งแวดวงอุตสาหกรรมการออกแบบ เลือกสีส้มอ่อนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยน เป็นสีประจำปี 2024

8 ธันวาคม 2566: แพนโทนคัลเลอร์ อินสทิทิวต์ สถาบันที่ปรึกษาผู้ทรงอิทธิพลและสร้างมาตรฐานแห่งการใช้สีสำหรับอุตสาหกรรมหลายวงการที่เกี่ยวเนื่องกับการออกแบบ ได้ประกาศให้สี “Peach Fuzz” เป็นสีประจำปี 2024

แพนโทนบรรยายเฉดสีส้มอ่อนในรหัส 13-1023 ว่าเป็นสีส้มอมชมพูที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน ละเอียดอ่อน อบอุ่นหัวใจและสบายๆ เป็นตัวแทนของ “ความปรารถนาของพวกเราที่ต้องการทะนุถนอมตัวเองและคนอื่นๆ”

Peach Fuzz ยังถือว่าเป็นสีที่ทันสมัย แต่ขณะเดียวกันก็สะท้อนภาพแห่งอดีตที่งดงามไว้ด้วย

เลอาทริซ ไอส์แมน ผู้อำนวยการบริหารของแพนโทน กล่าวในแถลงการณ์ว่า สี Peach Fuzz คือสีสันที่สะท้อนความอบอุ่นและความโก้เก๋ในยุคใหม่ เปรียบดังสะพานเชื่อมระหว่างความเยาว์วัยและความอมตะที่ไร้กาลเวลา

ในการพิจารณาเลือกสีประจำปีซึ่งจะต้องทำกันล่วงหน้านั้น สถาบันแพนโทนจะต้องรวบรวมและศึกษาเทรนการใช้สีในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ตั้งแต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์, เพลง, แฟชั่น, วงการออกแบบทุกประเภท, สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ, ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ, เงื่อนไขของสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ รวมถึงอิทธิพลด้านอื่นๆ

สถาบันระบุว่า ในส่วนของอิทธิพลจากหลากหลายด้านนั้น รวมถึงเทคโนโลยีใหม่, วัสดุใหม่, สิ่งทอ, อิทธิพลของสีสันที่โดดเด่นออกมา, ความเกี่ยวข้องของสีกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ, การแข่งขันกีฬาระดับโลกและเหตุการณ์สำคัญที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก

“สีแห่งปี” จากการประกาศของแพนโทนมีความสำคัญในแง่ที่ว่า สีนั้นๆ จะกลายเป็นตัวกำหนดเทรนการใช้สีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์, การออกแบบแฟชั่นและการตัดสินใจของผู้บริโภคสินค้าแฟชั่น, อุตสาหกรรมออกแบบตกแต่งภายใน, การออกแบบแพ็กเกจจิงผลิตภัณฑ์และการออกแบบในวงการอุตสาหกรรมอื่น ๆ

ก่อนหน้านี้ สถาบันแพนโทนเลือกให้ สีแดงสด “Viva Magenta” เป็นสีแห่งปี 2023

ที่มา : npr.org

เครดิตภาพ : Pantone Color Institute