ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มอบแจกันดอกไม้ให้กำลังใจ "ดำรงค์ พิเดช" รักษาทรัพยากรชาติ เตรียมลุยรีสอร์ทหรูรุกอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภูเก็ต 13 – 16 ส.ค.นี้ สั่งการ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่ทั่วประเทศร่วมรับผิดชอบ พร้อมทำหนังสือถึงศาลปกครอง ให้ยุติการก่อสร้างประสานดีเอสไอร่วมตรวจสอบ...
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2555 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดให้นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิลอฟไลฟ์ฯ เป็นผู้แทนพระองค์นำแจกันดอกไม้มอบให้กับนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ในการรักษาทรัพยากรของชาติ โดยนายดำรงค์ กล่าวว่า ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวง ตนจะตั้งใจทำงานรับใช้บ้านเมืองและปกป้องทรัพยากรของชาติจนวันสุดท้ายของชีวิตราชการ และแม้จะเกษียณไปแล้วก็ตาม หากมีโอกาสอยากจะทำงานในการปกป้องรักษาป่าต่อไปเพราะทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า เหลือน้อยลงเต็มที
จากนั้น นายดำรงค์ได้เรียกประชุมศูนย์อำนวยการตรวจสอบเอกสารสิทธิและปราบปราม การบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดิน ในเขตอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต ที่มีนายเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เป็นประธาน และ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่ทั้ง 16 แห่งเป็นกรรมการรวมทั้งชุดปฏิบัติการทั้ง 10 ชุด เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจแนวทางการปฏิบัติงานในการเข้าตรวจสอบโรงแรม รีสอร์ทหรูจำนวน 10 แห่ง มูลค่ารวมกันนับ 2-3 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะในเรื่องการตรวจสอบเอกสารสิทธิการถือครองที่ดินโดยแต่ละชุดต้องเข้าตรวจสอบพิกัดเปรียบเทียบแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ และการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิในที่ดินว่าออกโดยชอบหรือไม่ หากตรวจสอบพบความผิดก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อไป โดยนายดำรงค์ ระบุว่าจะลงพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเปิดศูนย์อำนวยการฯ และส่งชุดปฏิบัติงานเข้าตรวจสอบพื้นที่ในระหว่างวันที่ 13 -16 ส.ค.นี้ และจากนั้นทุกชุดต้องดำเนินการตรวจสอบและหากพบความผิดต้องแจ้งความดำเนินคดีให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.ย. หรือ 30 วันนับแต่วันที่เปิดศูนย์อำนวยการฯ
นอกจากนี้ กรมอุทยานฯ จะทำหนังสือถึงศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอให้ชะลอการดำเนินการก่อสร้างรีสอร์ท โรงแรมทั้ง 10 แห่งที่กรมอุทยานฯ จะเข้าไปตรวจสอบ เพราะหากมีการแจ้งความดำเนินคดี กว่าคดีจะสิ้นสุด จะเกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติฯมาก อีกทั้งหากคดีสิ้นสุดและพบว่ามีความผิดชัดเจนแล้วต้องมารื้อถอนทุบทิ้งในภายหลัง จะเป็นเรื่องยากลำบากเหมือนกรณีที่ผ่านมา และยังได้มอบหมายให้นายเริงชัย มีหนังสือประสานไปยังคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอให้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบโรงแรม รีสอร์ท ทั้ง 10 แห่งนี้พร้อมกับกรมอุทยานฯ ด้วยเพื่อความโปร่งใส
สำหรับข้อมูลที่กรมอุทยานฯ มีอยู่ในขณะนี้ โรงแรมรีสอร์ท ทั้ง 10 แห่งไม่น่าจะออกเอกสารสิทธิได้ เพราะเมื่อปี 2507 ก่อนประกาศพื้นที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติเขารวก-เขาแพง ได้มีการประกาศให้ราษฎรในพื้นที่นำ สค. 1 หรือเอกสารการถือครองที่ดินมาแสดงกับทางรัฐเพื่อจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนหมด แล้วการอ้าง สค.1 หรือเอกสารสิทธิใดๆ มาออกเป็นโฉนดจึงไม่สามารถทำได้ และเป็นโมฆะหมดเพราะราษฎรต้องออกจากพื้นที่ตั้งแต่ปี 2507 เพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสงวนฯ และตามด้วยการประกาศเขตอุทยานฯ สิรินาถ เมื่อปี 2524 โดยขณะนี้กำลังรอรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่าจริงๆ แล้วเหลือพื้นที่ที่เป็นอุทยานฯ สิรินาถที่ไม่ได้ถูกนำไปเปลี่ยนเป็นโฉนดอยู่ เท่าไร เพราะอยู่ดีๆ พื้นที่ป่าก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงแรม รีสอร์ท แถมยังอ้างว่ามีโฉนด และเริ่มมีการก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ทอย่างหนักเมื่อปี 2553-2554.
เฮกันทั้งประเทศ"แก้ว พงษ์ประยูร"ฮีโร่กำปั้นชาวไทยผ่านเข้าไปชิงเหรียญทอง มวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิกเกมส์ 2012 รุ่นไลท์ฟลายเวท 49 กก.ชายได้สำเร็จ หลังเอาชนะ "เดวิด อายราเปตยัน" จากรัสเซีย ไปแบบหืดจับ 13-12 เข้าไปชนกับ ชู ซิหมิง แชมป์เก่าจากจีน เต็ง 1 ของรายการ...
วันที่ 10 ส.ค. การแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิกเกมส์ 2012 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา รอบรองชนะเลิศ หรือรอบ 4 คนสุดท้าย รุ่นไลท์ฟลายเวท 49 กก.ชาย หนึ่งเดียวของไทย "แก้ว พงษ์ประยูร" ขึ้นสังเวียนพบกับ "เดวิด อายราเปตยัน" จากรัสเซีย ซึ่งผู้ชนะรอบนี้ จะได้เข้าไปลุ้นเหรียญทอง โดยเหรียญเงิน การันตีแน่นอน
โดยในรอบที่ผ่านมา รอบแรก แก้ว ชนะโมฮัมเหม็ด ฟลิสซี จากแอลจีเรีย 19-11, รอบสอง ชนะ คาร์ลอส กีโป ปิลาเทซี จากเอกวาดอร์ 10-6 และมาเอาชนะ อเล็กซานเดอร์ อเล็กซานดอฟ จากบัลแกเรีย ไป 16-10 ส่วน อายราเปตยัน สามารถเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้ด้วยการเอาชนะ เปห์ลิวาน เฟอร์ฮัต จากตุรกี ไป 19-11
เปิดยกแรกทั้งสองดูเชิงเดินบุกเข้าใส่กันเสมอกันอยู่ 3-3 ในยกที่สองไทยเปิดฉากเข้าใส่แรกหมัดกับรัสเซียจนแต้มออกมาสูสี แก้วนำ 6-5 ในยกสุดท้าย แก้ว ชกระวังมากขึ้นดักจังหวะชกสวน อายราเปตยัน ที่เดินรุกเข้ามาอย่างหนักน่วงก่อนที่จะเสมอกันไป 4-4 ผลปราการว่า แก้ว พงษ์ประยูร ฮีโร่ชวาไทยเฉือนเอาชนะ เดวิด อายราเปตยัน ไปแบบอย่างเฉียดฉิว 13-12 เข้าไปชิงเหรียญทองเรียบร้อย
สำหรับรอบชิงชนะเลิศ แก้ว จะพบกับ ชู ซิหมิง แชมป์เก่าจากจีน เต็ง 1 ของรายการ ที่เอาชนะคะแนนดิบ แพดดี บาร์นส จากไอร์แลนด์ไปหลังเสมอกัน 15-15 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11 ส.ค.นี้ เวลา 02.30 น. (ตามเวลาในบ้านเรา) ต่อไป
หลังจบการแข่งขัน กำปั้นชาวไทยก็ได้โทรหา แม่มะลิ พงษ์ประยูร ที่ตั้งกองเชียร์อยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้บอกรักแม่ และฝากขอบคุณชาวไทยทุกคน รวมไปถึงชาวกำแพงเพชร ที่ส่งแรงใจจนสามารถเอาชนะรัสเซียได้ พร้อมให้สัญญาว่าจะเอาเหรียญทองไปฝากชาวไทยทุกคน .
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่แจ้งวัฒนะฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2555 รอบตัดสิน เพื่อเฟ้นหาสาวงามที่เพียบพร้อมในทุกด้านดำรงตำแหน่งนางสาวไทย คนที่ 47 ภายใต้แนวคิด พฤกษาดุจชีวา ธาราดุจฤทัย เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยมี บดินทร์ โกศลพิศิษฐ์ และสุจิรา อรุณพิพัฒน์ ทำหน้าที่พิธีกร
งานเริ่มต้นด้วยการแสดงของฮั่น เดอะสตาร์ โดยสาวงามทั้ง 18 คนออกมาเปิดตัวในชุดราตรีสั้น ก่อนจะเป็นชุดราตรียาวในโทนสีเขียวน้ำเงิน จากนั้นเข้าสู่การประกาศรางวัลนางงามขวัญใจสื่อมวลชน ได้แก่ น้องใบเตย น.ส.ปุณณิศา ศิริสังข์ หมายเลข 13 นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และรางวัลนางงามขวัญใจประชาชน น้องอิง น.ส.อาจศิรินทร์ ชูนาม หมายเลข 18 นักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งคว้ารางวัลขวัญใจชาวน่านมาก่อนหน้านี้
จากนั้นเป็นการประกาศผู้เข้ารอบ10 คนสุดท้าย และนำเข้าสู่ช่วงวีทีอาร์การทำกิจกรรมเก็บตัวของสาวงามที่จ.สงขลาและจ.น่าน ต่อด้วยการให้สาวงามทั้ง 10 คนออกมาอวดโฉมในชุดราตรียาว ก่อนประกาศผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ได้แก่ น้องใบเตย น.ส.ปุณณิศา ศิริสังข์ หมายเลข 13, น.ส.ณัฐอร โสภณ น้องดาว หมายเลข 17 และน.ส.ปริศนา กัมพูสิริ หรือ น้องโบว์ลิ่ง หมายเลข 12 นักศึกษาปริญญาโท คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์
ภายหลังการตอบคำถามซึ่งใช้คำถามเดียวกัน และน้องกิ๊ฟ น.ส.กฤชภร หอมบุญญาศักดิ์ นางสาวไทย ประจำปี 2553 ขึ้นมาอำลาตำแหน่ง และให้สาวงามทั้ง 3 คนปรากฏตัวบนเวทีอีกครั้ง ผลการตัดสินปรากฏว่านางสาวไทย ประจำปี 2555 ได้แก่ น.ส.ปริศนา กัมพูสิริ น้องโบว์ลิ่ง หมายเลข 12 อายุ 25 ปี นักศึกษาปริญญาโท คณะวารสารศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเป็นพิธีกรทางรายการช่อง 5 และช่อง 11 และผู้ประกาศข่าวทางทีวีเคเบิล ส่วนสูง 170 ซ.ม. น้ำหนัก 51 ก.ก. รับรางวัลเงินสด 1.2 ล้านบาท รถยนต์อีซูซุ มิว-เซเว่น ช้อยส์ มูลค่า 1.2 ล้านบาท เครื่องเพชร จากเพอร์เฟค ไดมอนด์ มูลค่า 1 แสนบาท และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านบาท พร้อมดำรงตำแหน่งทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ก่อนหน้านี้น้องโบว์ลิ่งคว้ามาแล้ว 2 รางวัล คือรางวัลนางงามคิดบวกและรางวัลนางงามมิตรภาพ
น้องโบว์ลิ่งตอบคำถามที่ว่าเนื่องในวันแม่แห่งชาติ12 สิงหาคม ให้บอกนิยามของคำว่าแม่สั้นๆ และอยากบอกนิยามนี้แก่แม่อย่างไรว่า แม่เป็นผู้วิเศษที่สุดในโลก ไม่เพียงแม่คนเดียว รวมถึงแม่หลวง แม่คงคา ไม่ว่าจะเป็นแม่อะไรที่ให้กำเนิดทุกสิ่งบนโลก อยากให้รักแม่มากๆ และอย่าลืมตอบแทนบุญคุณแม่ด้วย
สำหรับรองอันดับที่ 1 ได้แก่ น้องใบเตย น.ส.ปุณณิศา ศิริสังข์ หมายเลข 13 เจ้าของรางวัลขวัญใจสื่อมวลชน และรองอันดับที่ 2 ได้แก่ น.ส.ณัฐอร โสภณ น้องดาว หมายเลข 17 เจ้าของรางวัลนางงามรูปร่างดี
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012