ข่าว
ปาบึ้มผู้คุมเรือนจำสงขลาโชคดีระเบิดด้าน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 พฤษภาคม ร.ต.ท.ลัทธวิชย์ แคยิหวา ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งพบระเบิด 2 สองลูกที่หน้าบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ตั้งอยู่กลางซอยไชยมิตร เขตเทศบาลเมืองเขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของ ตชด.43 เข้าไปเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธ์วัฒนชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.ต.ธเนศ พงษ์รอด สว.สส.

เบื้องต้นทราบว่าบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านพักของ นายสาคร สุจิตพันธุ์ อายุ54 ปี เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงานเรือนจำกลางสงขลา พบระเบิดสองลูกตกอยู่บริเวณกองทรายหน้าบ้านเจ้าหน้าที่ จึงทำการเก็บกู้ พบว่าเป็นระเบิดขว้างชนิด เอ็ม 67 และเอ็ม 19 ซึ่งสลักหลุดออกจากขั้วทั้งสองลูก แต่ระเบิดไม่ทำงานเจ้าหน้าที่จึงใช้ผ้าเทปพันระเบิดทั้งสองลูกเพื่อความปลอดภัยและนำไปตรวจสอบเลขรหัสของระเบิด รวมทั้งลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของหน่วยงานราชการหรือไม่

จากการสอบสวนนายสาคร เจ้าของบ้านทราบว่า ระเบิดทั้งสองลูกคนงานก่อสร้างได้ไปพบในเวลาประมาณเที่ยงขณะที่กำลังเข้าไปทำการก่อสร้างบ้านและได้แจ้งให้ตนทราบ จึงประสานให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการเก็บกู้ แต่สาเหตุนั้นตนไม่ทราบว่ามาจากเรื่องใด เนื่องจากไม่มีปัญหาส่วนตัวขัดแย้งกับใคร ส่วนจะเกี่ยวกับเรื่องงานในฐานะผู้คุมหรือไม่ ยังพูดไม่ได้เช่นกัน

ด้านพ.ต.อ.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ซึ่งเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางสงขลา ที่ต้องการข่มขู่เจ้าหน้าที่เรือนจำ โดยเฉพาะนายสาคร ซึ่งเป็นผู้คุมที่ทำงานตรงไปตรงมาและเคยตรวจยึดยาเสพติด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือที่พยายามลักลอบนำเข้าไปในเรือนจำได้หลายครั้ง กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจึงต้องการข่มขู่โดยนำระเบิดมาขว้างใส่บ้าน โดยเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าว และสอบสวนพยานแวดล้อมบริเวณรอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย


งามไส้! รวบทันควันผู้คุมเรือนจำกลางบางขวาง ขณะรับยาไอซ์ไปให้นักโทษ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 พ.ค. พ.ต.อ.ธนิตย์ ไทยวัชรามาศ ผกก.สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.ท.เฉลิมศักดิ์ เขียนทองศรี สว.สส.สภ.ศรีราชา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ศรีราชา เดินทางมาประสาน พ.ต.อ.ชาญศิริ สุขรวย ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อขอกำลังเข้าจับกุมตัวนายธงชัย ไพบูลย์ อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ชำนาญการ เรือนจำกลางบางขวางจังหวัดนนทบุรี พร้อมยาไอซ์บรรจุอยู่ในกล่องนม น้ำหนัก 1.30 กรัม และสมุดบัญชีธนาคารต่างๆจำนวน 3 เล่มที่ซุกอยู่ในเบาะรถจักรยานยนต์

“มาร์ค”จี้รัฐไขปม“อากง”ตายในคุก

วันที่ 9 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของนายอำพล ตั้งนพคุณ หรืออากง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลต้องไปพิสูจน์เกี่ยวกับการเสียชีวิต เพราะเป็นการเสียชีวิตภายใต้การควบคุมของเจ้าพนักงาน เราจึงต้องให้ความเป็นธรรม เรื่องนี้รัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจงทั้งหมดว่าอะไรเกิดขึ้น เพราะกระบวนการยุติธรรมทั้งหมดอยู่ในความดูแลของรัฐบาล ส่วนกรณีที่ทางกรมราชทัณฑ์ระบุดูแลนายอำพล ตามระเบียบนั้น ตนคิดว่าก็ต้องพิสูจน์กัน ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ไม่อยากให้คนหยิบเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์ทางการเมือง เพราะมีคนพยายามนำเรื่องของนายอำพล มาเป็นเรื่องการเมือง แม้กระทั่งเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ ก็มีคนไปบอกตั้งแต่แรกว่าไม่ให้ขอ ทำให้ทุกอย่างล่าช้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะมีการนำการเสียชีวิตของนายอำพล มาเป็นข้ออ้างในการขอแก้ไขมาตรา 112 อีกรอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลต้องชี้แจง เพราะเป็นผู้รักษากฎหมาย และต้องดูแลการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนกรณีที่กลุ่มนิติราษฎร์เตรียมที่จะเคลื่อนไหวเดินหน้าแก้ไขมาตรา 112 อีกครั้งจะนำมาผนวกกันได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขามีสิทธิ์ที่จะเคลื่อนไหว รัฐบาลต้องทำให้เกิดความมั่นใจเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย

เพราะคนในรัฐบาลด้านหนึ่งยังเคลื่อนไหวอยากให้แก้กฎหมาย แต่ผู้รับผิดชอบในรัฐบาลยืนยันว่าจะไม่แก้ ตรงนี้จึงต้องทำให้เกิดความมั่นใจ ในเมื่อรัฐบาลประกาศเป็นนโยบายว่าจะไม่สนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตรา 112 แล้ว.


"อานนท์ นำภา" แจงยื่นประกัน "อากงSMS" 8 ครั้ง

กรณีมีข่าวระบุว่า นายอำพล หรือ “อากง เอสเอ็มเอส” จำเลยคดีอาญามาตรา 112 ไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว เพราะจำเลยถอนการอุทธรณ์เพื่อใช้สิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษ ทำให้คดีถึงที่สุดไม่สามารถให้ประกันตัวได้นั้น นายอานนท์ นำภา ทนายความผู้ติดตามคดี นายอำพล หรือ “อากง เอสเอ็มเอส” ซึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ กล่าวว่า การถอนอุทธรณ์นั้นเกิดขึ้นจริง แต่ขอชี้แจงว่า เกิดขึ้นภายหลังจากได้ขอยื่นประกันตัวจำเลยไปแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง ไม่ใช่การถอนอุทธรณ์โดยที่ไม่เคยยื่นขอประกันตัวแม้แต่ครั้งเดียว โดยที่ผ่านมาเป็นการยื่นประกันตัว 6 ครั้งในขั้นศาลชั้นต้น และ 2 ครั้งสุดท้าย เป็นการยื่นต่อศาลอุทธรณ์ และยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวโดยยื่นไปยังศาลฎีกา แต่เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งเหมือนศาลอุทธรณ์ คือไม่อนุญาตให้ประกันตัว เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ทีมทนายความ จึงได้ปรึกษาหารือกันว่า กว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษา คงใช้เวลานาน จึงตัดสินใจถอนอุทธรณ์หลัง วันที่ 13 มีนาคม เพื่อให้คดีถึงที่สุด และเตรียมขอพระราชทานอภัยโทษ

สำหรับเหตุผล ที่ไม่ได้รับการประกันตัว ในการยื่นทั้งหมด 8 ครั้ง นายอานนท์ เผยว่า ได้รับเหตุผลว่า คดีมีอัตราโทษสูง 20 ปี เป็นเหตุร้ายแรง และการที่จำเลยอ้างอาการป่วยนั้น อาการป่วยก็ไม่ถึงแก่ชีวิต อีกทั้งเรือนจำ มีโรงพยาบาลจะรักษา

“ วิเชียร” นั่งปลัดพม.
”พนิตา” ที่ปรึกษานายกฯ

วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเษกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญพ้นจากตําแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูงจำนวน 2 ราย ดังนี้ 1.นางพนิตา กําภู ณ อยุธยา พ้นจากตําแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (นักบริหารระดับสูง) สํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี 2.นายวิเชียร ชวลิต พ้นจากตําแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจํา (นักบริหารระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง ปลัดกระทรวง(นักบริหารระดับสูง) สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2555 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้นายวิเชียรจะเดินทางเข้าสักกการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถนนราชวิถีในวันที่ 9 พ.ค.นี้เวลา 09.00 น.

กูเกิ้ล (Google) เว็บเสิร์ชเอนจิ้นชื่อดังของโลก ได้เปลี่ยนดูเดิ้ล (ภาพที่วาดลงบนโลโก้ของกูเกิ้ลบนหน้าหลัก) เป็นรูปหมวกทหารมหาดเล็ก และพระโค เพื่อร่วมฉลองวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และวันเกษตรกรไทย