ทักษิณเยือนแอล.เอ. คนเสื้อแดงจัดต้อนรับมโหฬาร แต่โดนเสื้อเหลืองต้านจนต้องล้มเลิกความตั้งใจ ไม่เข้าไปในงานแต่ใช้ Phone in แทน ขอโทษชาวไทยที่ตัดสินใจไม่เข้าไปในงาน เหตุเพราะเกรงว่าจะมีเรื่องวุ่นวายให้เสื่อมเสียถึงประเทศไทย การใช้คุยกันทางโทรศัพท์ปลอดภัยกว่า
สวัสดีครับ พี่น้องชาวเสื้อแดงที่เคารพครับ
ผมก่อนอื่นก็ต้องขออภัยอย่างมากที่ไม่ได้ไป พี่น้องก็คงเห็นนะครับรถ 3 คันที่เข้าไป ถูกขวดน้ำฟาดคัน แล้วก็ถูกทุบ รถเบนส์คนนึกก็บุบไป ทางตำรวจก็เลยนะนำว่าไม่อยากให้ผมเข้าไป ก็บังเอิญว่าวันนี้เป็นวันสำคัญด้วย เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เราก็ไม่อยากให้เห็นภาพคนไทยขัดแย้งกันสะท้อนออกไปทำให้เสียหายในวันสิริมงคล แล้วทางตำรวจก็แนะนำว่าไม่อยากให้ผมไป ผมเลยต้องกราบขออภัยอย่างมากจริงๆ แต่ก็อยู่แถวๆ นี้แหละ พี่น้องครับ มันก็...มีการใช้พฤติกรรมเหมือนในสภาละครับ เพราะพ่อพันธุ์ไม่ดี ลูกพันธุ์ก็ไม่ดีตาม ความจริงพวกเราต้องการพูดคุยกันแบบพี่ๆ น้องๆ แล้วก็จะทำยังไง เพื่อให้ประเทศไทยที่เป็นที่รักของเราเนี่ยได้กลับมาอยู่ในสภาพที่มีความสามัคคีกันอีกครั้งหนึ่ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็กลายเป็นว่าพวกหลายคนเข้าไปเป็นลูกมือให้คนที่เสาะแสวงหาอำนาจทางการเมืองโดยไม่เคารพกติกา ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน พี่น้องครับ พี่น้องเป็นคนซึ่งอยู่ในอเมริกา ได้เห็นประชาธิปไตยของอเมริกา เค้าเคารพกฎกติกา แม้กระทั่งตอนที่สู้กันเอาเป็นเอาตายระหว่าง จอร์จ บุช กับเอากอร์ ในที่สุดเมื่อตัดสินแล้วว่าบุช ชนะ เค้าก็เคารพกติกา เค้าก็อยู่กันมาไม่ปัญหาอะไรเลย แต่ของเราเนี่ยมันมีพรรคการเมืองเก่าแก่ที่อยากจะมีอำนาจ แต่ไม่มีการเคารพกติกาประชาธิปไตย เค้าให้ไปเลือกตั้งก็บอยคอร์ด พอเลือกตั้งแพ้ก็หาเรื่องนะครับ เพราะฉะนั้นพี่น้องครับวันนี้ผมอยากจะขอร้องพี่น้องคนเสื้อเหลือง หรือเสื้อแดงก็แล้วแต่เนี่ย อยากให้ดูตัวอย่างประชาธิปไตยที่เค้าเคารพกติกา แล้วกติกาเป็นกลางเป็นธรรม จะทำให้บ้านเมืองสงบขึ้นเยอะ แล้วพี่น้องคนที่อยู่ที่นี่เราก็เป็นประชาชนที่มาเป็นซิติเซ่น มีใบเขียวบ้าง แต่อย่างน้อยๆ จิตวิญญาณเรายังเป็นคนไทย เราพยายามนำสิ่งที่ไปสู่ประเทศไทย อย่าไปเอาสิ่งไม่ดีของประเทศไทยมาใช้ในเมืองนอกเลย สิ่งที่ไม่ดีที่เราเห็นอยู่เนี่ย แล้วเอามาใช้ตรงนี้เนี่ย ผมดูแล้ว ผมรู้สึกเวทนาคนเสื้อเหลืองที่นี่โดยเฉพาะ เค้าไม่เข้าใจ แล้ววันนี้เค้าก็ไปฟังอะไรก็ไม่รู้แล้วก็เชื่อ
พี่น้องเชื่อไหมครับ ผมไม่ใช่คนมาคุยโม้ ตั้งแต่ปี 1991 ผมเนี่ยมาแอล.เอ.มีความสุขมาก ตอนนั้นผมมาดูหนัง มาซื้อหนังไปฉายใน IBC ผมก็พักอยู่แถว Beverly Wilshire Radio Drive เนี่ย ตั้งแต่ปี 1991 แล้วก็ไปเดินกินก๋วยต๋งก๋วยเตี๋ยวอยู่ย่านไทยอย่างมีความสุข วันนี้ผมกลับมาผมก็มีความรู้สึกคิดถึงคนไทยอยากไปหา แต่มีคนส่วนหนึ่งถูกล้างสมอง โดยไม่เข้าใจเรื่องราวที่แท้จริงแล้วก็หลงเชื่อ น่าเสียดายครับ พี่น้องครับ ถ้าอยากจะให้คนเสื้อเหลืองได้เข้าใจอะไรมากกว่านี้ ช่วยไปอ่านหนังสือนิทานดวงดาว พวกนี้เค้าโกรธผมเพราะเข้าใจว่าผมมารวยเพราะเป็นนักการเมือง ความจริงแล้วผมรวยแล้วจึงมาเล่นการเมือง ลูกพี่เค้าต่างหากละ พวกเค้าต่างหากละที่ไขว่คว้าทางการเมืองมาหากินกับการเมือง
ผมวันที่เข้าการเมือง ในปี 1994 เดือนพฤศจิกายน Forbes Magazine พบว่า ผมมีเน็ตเวิร์ค 2.2 billion ตั้งแต่วันนั้น และรายงานทรัพย์สินในวันนั้นผมก็มีอยู่แล้ว 6 หมื่นล้าน แต่วันนี้สิครับมาปล้นเงินผมไป แล้วขอหาเนี่ยเป็นข้อหาเท็จทุกมุม พี่น้องครับทำไมทุกประเทศออกวีซ่าให้ผม ? ก็เพราะว่า...เค้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องการเมืองทั้งนั้น มันเป็นเรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง เค้ารู้ชัดเจนครับ ผมไปคุยกับผู้นำหลายคน เค้าก็พูดกับผมชัดเจนว่า วันนี้ทั่วโลกเค้ารู้หมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่ประเทศไทย พี่น้องครับผมไม่อยากจะฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่อยากจะเรียนให้ทราบว่าพี่น้องคนเสื้อแดงไม่มีผิดหวังแน่นอนเพราะผมไม่เลวอย่างที่คนเสื้อเหลืองเค้ากล่าวหา
ผมได้ลุกขึ้นทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยความรักประชาชน รักบ้านเมือง ด้วยความที่มีความพร้อมของตัวเองที่มีอยู่แล้วจึงอยากทำให้บ้านเมืองดีขึ้น พี่น้องครับ พี่น้องคนเสื้อเหลืองด้วย ขอถามทีเถอะ วันที่ผมเป็นนายก เราคนไทยได้ยืดอกกับต่างประเทศไหม ว่าประเทศเรามันก้าวหน้า ทัดเทียม กล้าแสดงความคิดเห็นต่างๆ ให้เทียบเท่ากับประเทศใหญ่ๆ
แต่วันที่ผ่านการยุบสภาไปแล้วเนี่ย ถามว่าท่านยังยืดอกได้อยู่หรือเปล่า บ้านเมืองทะเลาะกันถูกรัฐประหาร แล้วก็มีการปล้นอำนาจประชาชนเอามาให้อภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ซึ่งอภิสิทธิ์ ก็ยังเป็นอภิสิทธิ์ตลอดเวลา เป็นทหารยังหนีทหาร ไม่รับราชการทหาร ทำทุกอย่างเพื่อได้มาซึ่งอภิสิทธิ์ จะเป็นนายกก็เป็นนายกซึ่งมีอภิสิทธิ์
พี่น้องครับ ถ้าบ้านเมืองเราไม่มีกติกา แล้วคนรักษากติกาไม่เป็นธรรม บ้านเมืองไปไม่ได้หรอกครับ ที่มันไม่มีกติกาทั้งๆ ที่มันมีกติกามาก่อนเพราะอะไรรู้ไหมครับ ก็เพราะการพัฒนาประชาธิปไตยที่เกิดขึ้น มันมีการพัฒนาที่ก้าวหน้าขึ้นไปเยอะ แล้วความก้าวหน้านั้นเนี่ยสงผลให้โอกาสกับประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรากหญ้า คนหาเช้ากินค่ำ คนเหล่านี้จึงมีความรู้สึกว่าประชาธิปไตยนั้นทำให้เขาได้ประโยชน์ ทำให้ประเทศมีความก้าวหน้า
แต่พอมีคนกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่สบายๆ กับการเมืองที่อ่อนแอ กับประชาธิปไตยที่ไม่ก้าวหน้า พอประชาธิปไตยก้าวหน้าก็เริ่มกลัวว่าสถานะตัวเองจะแย่ลง เป็นการวิตกจริตกับปัญหาที่ความจริงไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น จึงมีการยุยงทำให้เกิดการปฏิวัติเป็นการชักคะเย้อทางประชาธิปไตยนั่นเอง กลุ่มหนึ่งต้องการเห็นประชาธิปไตยถดถอย อีกกลุ่มหนึ่งต้องการประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า
แต่บังเอิญว่ากลุ่มที่อยากเห็นประชาธิปไตยถดถอยเนี่ย อาจจะเป็นคนที่เป็นอภิสิทธิ์ชนในสังคมไทย ส่วนคนที่อยากเห็นประชาธิปไตยก้าวหน้าคือกลุ่มคนซึ่งต้องการทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวให้ตัวเองทั้งนั้น ก็เลยทำให้มันมีความวุ่นวายขึ้น พี่น้องครับเราคงต้องให้เวลา พวกกลุ่มคงเสื้อเหลืองก็ดี กลุ่มที่คิดไม่ออกก็ดี กลุ่มที่ยังมองว่าประชาธิปไตยเป็นอุปสรรคในชีวิตตัวเองก็ตาม ได้เข้าใจอะไรในชีวิตมากกว่านี้ แล้วในที่สุดเราจะเห็นชัดเจนครับว่าบ้านเมืองต้องพัฒนาต่อไปครับ
พี่น้องครับผมต้องขอขอบคุณคุณเชาว์ และทีมงาน และต้องขออภัยอีกครั้งหนึ่งที่ไม่สามารถไปได้ แต่ผมสัญญาครับพี่น้องครับ ผมจะมาอยู่ใกล้ชิดพี่น้องในวันหนึ่งที่ทุกอย่างมันดีกว่านี้ จัดการได้ดีกว่านี้แล้วเราจะไปอยู่ใกล้ๆ กัน วันนี้ต้องขออภัยและขอขอบคุณพี่น้องที่เสียเวลา เสียสละทรัพย์มาเพื่อจัดงานในวันนี้ จริงๆ แล้วเนี่ยผมก็บอกคุณเชาว์ว่า ผมขออนุญาตได้ไหมไม่อยากรบกวนท่าน ท่านทั้งหลายเดือดร้อนมานานแล้วส่งเงินไปช่วยคนเสื้อแดงที่ต่อสู้อยู่ในประเทศไทย แล้วก็ต้องสละเวลา สละเงินทองอีก ผมขออนุญาตได้ไหม คุณเชาว์ไม่ยอม คุณเชาว์บอกว่า 1 เซนต์ก็รับไม่ได้เพราะว่าต้องการทำให้จริงๆ ตั้งใจจริงๆ ซึ่งผมก็ขอบคุณในน้ำใจในครั้งนี้ด้วย แล้วก็พี่น้องครับผมเป็นคนกตัญญูรู้คุณคน ผมจะไม่มีทางลืมพวกท่าน ถึงแม้ว่าจะมียุทธศาสตร์แต่ละอย่างแต่ละขั้น ซึ่งอาจจะต้องเดินโดยไม่ได้บอกท่าน แต่ขอให้รู้ว่าเป้าหมายสุดท้าย อยากเห็นประเทศไทยกลับมาเป็นประเทศที่พวกเรามีความภาคภูมิใจเหมือนเดิม
ผมไม่อยากเห็นคนไทยทะเลาะกัน ผมพยายามลดละความขัดแย้งในทุกๆ ด้านเพื่อให้คนไทยนั้นเนี่ยมีความรักสามัคคีกัน ผมให้อภัยคนที่ไม่เข้าผมในวันนี้ ผมจะกลับมาเยี่ยมเยียนพี่น้องอีกครั้งหนึ่งวันนี้ก็ต้องขออภัยอีกครั้งหนึ่งนะครับ แล้วขอให้เข้าใจว่าสิ่งที่เค้ากล่าวหาผมนั้นเนี่ยไม่จริงแน่นอน ไม่ว่าการที่ไม่จงรักภักดีนั้นเนี่ย พี่น้องครับคนอย่างไหนจะจงรักภักดีกว่าผม พี่น้องครับไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ไม่มีแน่นอน
เรื่องที่สองครับ เรื่องที่สองครับพี่น้องครับ ผมมีฐานะก่อนมาเป็นนักการเมือง ผมไม่ได้มาแสวงหาทางการเมือง ข้อกล่าวหาทั้งหลายเท็จทั้งนั้น ข้อกล่าวหาในการห่เรื่องยึดเงินผมเป็นการเมืองทั้งนั้น
อีกเรื่องครับพี่น้องครับ ทำไมรัฐบาลสหรัฐอเมริกาไม่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนบ้าง ออกวีซ่าให้ไม่ถูกต้องบ้าง สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน เป็นสนธิสัญญาที่ทุกฉบับจะเขียนไว้ว่า จะไม่นับผู้ต้องหาทางการเมือง เพราะถือว่าการเมืองมันใช้กลั่นแกล้งกันได้ เพราะฉะนั้นเค้าถึงไม่เอาเรื่องการเมืองมายุ่ง เพราะฉะนั้นในตรงนี้มันเรื่องการเมืองทุกเรื่องครับ เรื่องที่เค้ากล่าวหาผม เรื่องที่ดำเนินคดีกับผมเป็นการเมืองทั้งสิ้น แม้กระทั้งเรื่องกล่าวหาเรื่องก่อการร้าย แม้กระทั่งเลขาตำรวจสากล ก็ยังประกาศทันทีเลยว่าเรื่องนี้เป็นการเมือง
เห็นไหมครับทั่วโลกเค้ารู้หมดเค้าจึงออกวีซ่าให้ผมได้ทุกที่ แต่ว่าคนไทยเราด้วยกันเนี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ผมเคยเลี้ยงดูมันมานาน อย่างกษิตเนี่ยก็ยังหาว่าทำไมไม่ทำตามสนธิสัญญา พี่น้องครับเค้าไม่ทำหรอกมันเป็นการเมืองแล้วก็ผมไม่เคยมีหมาย Interflow เลยนะครับ ไม่เคยมีแม้แต่อันเดียว เพราะฉะนั้นเนี่ยเรื่องที่โกหกต่างๆ เนี่ย ทำให้คนเสื้อเหลืองหลายๆ คนไปหลงเชื่อ ถ้ารู้จริงๆ แล้วจะโกรธคนที่มันโกหกเถอะครับ พวกนี้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเอง
พวกเราเป็นคนพุทธส่วนใหญ่ พระพุทธเจ้าท่านให้พรหมวิหาร 4 ปรากฎว่าบ้านเรานั้นใช้แต่พรหมวิหาร 2 อีก 2 พรหมไม่ทำ พรหมวิหารแรก เมตตาเราก็ใช้กันจริง กรุณาเราใช้กันจริง แต่พอมุทิตากับอุเบกขาเรามีปัญหา เพราะพ่อท่านให้เรามุทิตาซึ่งแปลว่าดีใจที่เห็นคนอื่นได้ดี แต่เราไม่ใช่อย่างนั้น แล้วก็คำว่าอุเบกขาวางใจเป็นกลางเนี่ยก็ไม่ค่อยเป็นกัน ถ้าหากว่าเรามีพรหมวิหาร 4 จริง บ้านเมืองก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอกครับ
พี่น้องครับขอเรียนว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจุดยืนชัดเจนครับ พัฒนาประชาธิปไตยต่อไป มุ่งหน้าสร้างความปรองดองต่อไป แล้วถามว่าไอ้ที่โหวตวาระ 3 ว่ายังไง ก็ขอตอบว่าคำพิพากษาเป็นลายลักษณ์อักษรของศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว ซึ่งผมว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจอธิปไตย ซึ่งเค้าแบ่งชัดเจนว่า อำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ แบ่งกันอย่างไร แต่ปรากฎว่า บางทีตุลาการเขียนกฎหมายขึ้นเองซึ่งมันไม่ถูกต้อง แม้แต่คำพิพากษาส่วนตน กับคำพิพากษากลางก็ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็จะสอบถามให้ชัดเจนว่าจะตัวเองจะเอายังไง เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างอำนาจตุลาการ อำนาจบริการ หรืออำนาจนิติบัญญัติ ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง
แค่ขัดแย้งระหว่างสีเนี่ยก็เสียหายไปเยอะแล้ว แต่ถ้าขัดแย้งระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ ตุลาการ แล้วก็บริการเนี่ย อันนี้จะทำให้ประเทศช้ำไปอีก เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ไม่ต้องเพิ่มความชอกช้ำให้กับประเทศ ต้องการเพียงอย่างเดียวว่าจะทำให้เกิดความสมานฉันท์กันอย่างไร จะให้ประเทศมีความมั่นคงก้าวหน้าไปอย่างไร เพราะฉะนั้นเรื่องโหวตวาระ 3 นั้นก็คาเอาไว้ก่อน แล้วค่อยพูดกันจากการคุยกันทุกฝ่ายเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง เราจะพัฒนาประชาธิปไตยอย่างมุ่งมั่น แต่ว่าจะทำในระดับที่ไม่ซ้ำเติมความบอบช้ำให้กับประเทศ
เรื่องที่สองครับ เรื่องของกฎหมายปรองดองนั้นก็ยังจะคาไว้อยู่ในสภาเพื่อให้คนที่หนักอกหนักใจ กับนักประท้วงทั้งหลายได้ฟัง เค้าจะได้นั่งนอนรอประท้วงไปเรื่อยๆ ประท้วงดีๆ ละกันหลบเมื่อไหร่ก็ผ่านไปเลย เพระฉะนั้นเรื่องนี้จริงๆ แล้วก็ขอเรียนไว้อย่างนี้ครับว่าอันนี้ผมพูดทีเล่นทีจริง สรุปแล้วก็คือว่าเราต้องสมานฉันท์ ต้องทำให้เกิดความปรองดองจริงจัง โดยเริ่มต้นด้วยขบวนการเยียวยานะครับ แล้วก็หลังจากนั้นก็ว่ากันไป ส่วนคดีต่างๆ มีปัญหาเยอะไม่ว่าคดีที่ฆ่าคนตาย 98 ศพจะว่าอย่างไง ก็คงอีกไม่กี่วันก็คงจะเรียบร้อยครับ เพราะเนื่องจากว่าเราเป็นพวกไม่มีเส้น คดีต้องทำให้ชัด ต้อง Observe Rule of Law ให้ดี เพราะ Rule of Law เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องหลักของประเทศเราจะไม่ยอมทำแบบสุกเอาเผากินเราไม่ทำแน่ ยอมช้านิดนึงแต่ให้ออกมาดี
มีอีกเรื่องหนึ่งคือการรับอำนาจศาลเกี่ยวกับศาลโลกกำลังพิจารณากันอยู่ครับ เพราะฉะนั้นก็มั่นใจเถอะครับว่าคนที่ทำร้ายประชาชนก็ต้องรับโทษ ทั้งนี้ก็พี่น้องไม่ต้องหนักใจครับว่าพวกผมไม่ทำอะไรยังไง แต่เราต้องทำให้สุขุมรอบคอบเรียบร้อยถูกต้อง เพราะฉะนั้นคดีต่างๆ ก็ยังต้องดำเนินต่อไปตราบใดที่ความปรองดองยังไม่เกิดขึ้นคดีก็ต้องดำเนินต่อไป ไม่ว่าคดีใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก็ขอเรียนว่าด้วยความเคารพครับ บางครั้งเราไม่สามารถพูดรายละเอียดใดๆ ได้ บางครั้งไม่สามารถบอกยุทธศาสาตร์ได้ ก็อาจจะทำให้พี่น้องคนเสื้อแดงผิดหวังบ้าง หงุดหงิดบ้าง แต่ขอให้รู้ว่าทุกอย่างเดินหน้าเพื่อความผาสุขของคนไทยและความก้าวหน้าของประเทศนะครับ เราจะไม่เห็นแก่ตัวเด็ดขาด
บางครั้งเนี่ยผมต้องกลืนเลือด ไม่ใช่กลืนหยดเดียวนะ กลืนเป็นปี๊บก็ต้องกลืน กลืนมา 5-6 ปีแล้ว ผมเฉยๆ แล้ววันนี้พี่น้องมาอยู่อเมริกา บางคนมาอยู่เป็น 20-30 ปี ยังอยู่ได้ ผม 6 ปี อยู่ไม่รู้กี่ประเทศก็อยู่ได้เหมือนกันครับ ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ว่าห่วงคนไทย ห่วงประเทศไทยมากกว่านะครับ ก็อนาคตประเทศไทยนั้นเนี่ยถ้าเมื่อไหร่ประเทศไทยกลับมาเป็นหนึ่งเดียว เรื่องที่จะแข่งขันกับประเทศอื่นๆ นั้นภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย หมูมากครับ ง่ายมากครับไม่หนักใจเลย เรามีอะไรดีเยอะข้อเสียคือชอบทะเลาะกันเองเนี่ย
วันนี้ถ้าประเทศไหนอยากเจริญช้า เรามีสินค้าตัวหนึ่งที่จะ Export มาให้ครับ คือพรรคประชาธิปัตย์ไงครับ ถ้าส่งไปเป็นฝ่ายค้านที่ไหน ประเทศนั้นเจริญยาก เพราะมันไม่มีหลักการ มันค้านตะบี้ตะบัน ค้านนอกกฏิกาก็ใช้ ทำทุกอย่าง ก็ถ้ามันเคารพกติกาเหมือนประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย ประเทศจะเจริญได้เยอะครับ ครับพี่น้องครับขอกราบอภัยอีกครั้งหนึ่งนะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่อยากให้วันเป็นมงคลของเราต้องมีเรื่องที่ดูไม่ดีเกิดขึ้นนะครับ นี่ก็ทุบรถเพื่อนผมบุบไปแล้ว แล้วก็ขวดน้ำก็ขว้างใส่รถทั้ง 3 คันเข้าไป ก็เห็นครับว่ายังถ่อยเหมือนเดิม ก็ขอขอบคุณอีกครั้งนะครับในความเสียสละของทุกๆ ท่านขอขอบคุณ และขออภัยคุณเชาว์ และกรรมการจัดงานด้วยนะครับ ขอให้ท่านเดินทางกลับบ้านด้วยสวัสดิภาพทุกคนนะครับ แล้วถ้าผมว่างๆ ก็จะได้มาเยี่ยมใหม่ครับ ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ
ศาลฎีกาพิพากษากลับจำคุก หม่อมลูกปลา ฆ่าท่านกบ 7 ปี พยานหลักฐานโจทก์มัดแน่นเจ้าตัวถึงกับร่ำไห้ตลอดเวลา ศาลปรานีลดโทษ 1 ใน 3 เหลือติด 4 ปี 8 เดือน ส่วนสุทัศน์ เงินหมื่น นายประกันเตรียมยื่นขออภัยโทษ 5 ธันวา
วันที่ 17 ส.ค.55 ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.00 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีความผิดต่อชีวิตคดีดำ 6680/2540 คดีแดง 485/2545 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางชลาศัย ยุคล หรือ หม่อมลูกปลา อายุ 40 ปีเป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
กรณีเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2538 นางชลาศัย จำเลยได้บังอาจฆ่า หม่อมเจ้าฐิติพันธ์ ยุคล หรือท่านกบ ด้วยการผสมยาพิษ ซึ่งเป็นยาแมลงกลุ่มคาร์บอเมท ในถ้วยกาแฟให้ดื่ม จนสิ้นชีพิตักษัยสมดังเจตนาของจำเลย เหตุเกิดที่แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต เขตพญาไท กทม.เกี่ยวเนื่องกัน
คดีนี้ศาลชั้นต้น เห็นว่า จำเลยกระทำผิด พิพากษาจำคุก 9 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี
จำเลยยื่นอุทธรณ์ ต่อสู้คดีขอให้ ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง อย่างไรก็ตามศาลอุทธรณ์พิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า โจทก์ไม่มีประจักษ์พยาน ชี้ให้เห็นได้ว่า จำเลย เป็นผู้ใส่ยาพิษ ในถ้วยกาแฟ ของผู้ตาย ประกอบกับ พยานบุคคลของฝ่ายโจทก์ที่เข้าเบิกความ ล้วนแต่มีพิรุธ น่าสงสัยมีน้ำหนักน้อย ส่วนคำรับสารภาพของ จำเลยในชั้นสอบสวน เป็นคำรับสารภาพที่ให้การโดยไม่สมัครใจ รวมทั้งภาพบันทึกทำแผนที่ประกอบคำรับสารภาพ พนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการตามความสมัครใจของจำเลย ล้วนแต่เป็นการเสกสรรปั้นแต่งขึ้น ทั้งพยานทั้งหมด ล้วนเป็นคนใกล้ชิดของผู้ตาย มีส่วนได้เสีย กับทรัพย์สินในกองมรดก อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับ ยกฟ้อง
อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ศาลฎีกา พิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันโดยละเอียดเห็นว่า พยานโจทก์มีทั้งผู้เชี่ยวชาญเครื่องจับเท็จมาเบิกความยืนยันถึงการตั้งคำถามตรวจสอบพบว่า ผลจากเครื่องจับเท็จพบว่า ครั้งแรกจำเลยให้การเท็จ แต่ภายหลังก็ให้การรับสารภาพว่าใส่สารกำจัดแมลง ยี่ห้อไบกอน ซึ่งเป็นสารพิษกลุ่มคาร์บอเมท ซึ่งจำเลยหวังให้ผู้ตายทรงประชวรเข้าโรงพยาบาลต่อหน้าบุคคลอื่นที่ได้เป็นพยานในการขอยา เพื่อที่จำเลยจะไม่ต้องถูกทำร้ายเมื่อขอหย่า ซึ่งคำเบิกความของพยานโจทก์ยังสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งเป็นชุดคณะสืบสวนสอบสวน นอกจากนี้โจทก์ยังมีพยานที่เป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่จำเลยไปกราบขอโทษและยอมรับสารภาพผิด
ศาลเห็นว่าพยานเหล่านี้ที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่จะให้การปรักปรำจำเลย รวมทั้งวิดีทัศน์ที่จำเลยนำชี้ที่เกิดเหตุวังอัศวินว่าจำเลยไม่เคยถูกบังคับ เป็นการรับสารภาพโดยสมัครใจ จึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ใส่สารพิษลงในถ้วยกาแฟ แต่ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าให้ถึงแก่ความตาย
พิพากษากลับให้จำคุกฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 290 ประมวลกฎหมายอาญา จำคุก 7 ปี คำรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 4 ปี 8 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างศาลอ่านคำพิพากษาฎีกา นางชลาศัย ได้ร้องไห้เช็ดน้ำตา ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จ นางชลาศัยก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม พร้อมกอดบุตรชายทั้งสอง และถอดสร้อยคอทองคำ 1 เส้น ให้กับบุตรชายเก็บไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ หญิงนำตัวไปควบคุมไว้ใต้ถุนศาลตัวโดยมีบุตรชาย 2 คน และนายทวีชัย น้อยประเสริฐ อายุ 39 ปี สามีใหม่เฝ้าอยู่หน้าห้องควบคุม
ด้านนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนายประกัน กล่าวว่า เตรียมจะยื่นฎีกาขอพระทานอภัยโทษให้จำเลย ให้ทันช่วงวันที่ 5 ธันวาคม แต่หากไม่ทันก็จะยื่นอภัยโทษตามหลักปกติทั่วไปของกรมราชทัณฑ์