นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ท้านายกรัฐมนตรี หากเห็นว่าพรรคพลังชลทำงานดีกว่า ก็ปรับ ครม. เอากระทรวงการท่องเที่ยวฯ คืน ประเคนไปให้ได้เลย หนุนชะลอดัน พ.ร.บ.ปรองดอง ทำสานเสวนาก่อน…
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ออกมาระบุว่ารัฐบาลอาจจะมีอายุไม่ถึงสิ้นปีนี้ ว่า เป็นสิทธิส่วนตัวที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะในความเป็นจริงไม่มีใครรู้เรื่องของอนาคต โดยเฉพาะในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคพลังชล หากต้องการที่จะดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แทนพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี โดยตนเองไม่ได้รู้สึกติดใจ หากคิดว่าทางพรรคพลังชลทำงานดีกว่า และส่วนตัวก็ไม่ทราบกระแสข่าว ที่มีการระบุว่าจะมีการขอแลกตัว รมว.เกษตรและสหกรณ์ ด้วย
ส่วนกรณีที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เสนอให้เลื่อนวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ออกไปนั้น เป็นเพียงการแนะนำในฐานะประธานรัฐสภาเท่านั้น เพราะไม่มีสิทธิที่จะถอนร่างออก เพราะสิทธิเป็นของผู้ที่เสนอญัตติ และส่วนตัวเชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ และเห็นด้วยที่จะให้มีการเปิดเวทีสานเสวนา ตามที่สถาบันพระปกเกล้าเสนอ อย่างไรก็ตาม เห็นว่า พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เชื่อว่าผู้ที่เสนอร่างก็จะใช้ดุลยพินิจของตนเอง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ส่วนเรื่องการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในประเด็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลได้นัดให้มีการชี้แจงในวันที่ 9 ก.ค.นั้น นายชุมพล กล่าวว่า ในวันที่ทางพรรคชาติไทยพัฒนา จะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางในการชี้แจงร่วมกันของพรรค โดยจะมีนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง เข้าชี้แจง ในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย.
"โอ๊ค" เดินหน้าเหน็บปชป. กรณีทำนาซาล้มเลิกโครงการสำรวจภูมิอากาศ ชี้ทำเสียโอกาสแก้ปัญหาภัยพิบัติ พร้อมระบุ "ชวนนท์" เกิดหลังวันตายของเด็กชายปลาบู่แค่ 3 เดือนเศษ ตั้งข้อสงสัยกลับชาติมาเกิดหรือเปล่า ส่วน "มาร์ค" เปรียบเหมือนลุงทองใบ ออกมากระจายข่าวลือ จนทำคนแตกตื่น
วันที่ 29 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เผยแพร่บทความผ่านทางเฟซบุ๊ก "Oak Panthongtae Shinawatra" โดยเทียบกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านให้สหรัฐฯใช้อู่ตะเภา เพราะเกรงว่าจะเป็นการจารกรรมสอดแนม จนกระทั่งทำให้โครงการสำรวจภูมิอากาศต้องล้มเลิกไปในที่สุด ซึ่งไม่ต่างจากกรณีเด็กชายปลาบู่ ทำนายว่าเขื่อนจะแตก สร้างความตื่นตระหนกให้ผู้คน
รายละเอียดของบทความมีดังนี้
"ฟังหูไว้หู"เป็นสุภาษิตที่เหมาะกับคนไทยในยุคไซเบอร์ครับ
ตัวอย่างแรกคือ เหตุการณ์ "คำทำนายของเด็กชาย ปลาบู่" ใครที่จำไม่ได้ก็ตามลิ๊งค์นี้เลยครับ
http://news.mthai.com/headline-news/144420.html
ข่าวลือที่เกิดขึ้นในโลกไซเบอร์ก็คือ ลุงทองใบ คำสี ผู้เป็นพ่อของเด็กชายปลาบู่ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกโดยจ่าหน้าถึง "ผู้ที่รักผืนแผ่นดินไทย ทุกท่าน" และได้ระบุว่า "เด็กชายปลาบู่ได้พูดไว้เมื่อวันที่ 23 - 25 มิ.ย. 2517" ก่อนเสียชีวิต 15 วัน ถึงหลายๆเหตุการณ์ แต่ที่เป็นประเด็นได้แก่เรื่องที่ทำนายว่า ปลาบู่จะชนเขื่อน เอ๊ย... เขื่อนจะแตก ในวันปีใหม่ปี 2555 จนตื่นตระหนกกันทั้งประเทศโดยเฉพาะจังหวัดตาก แจ้งว่ารายได้ช่วงปีใหม่หายไปร่วม 4 - 500 ล้านบาทเลยนะครับ
ตัวอย่างที่ 2 นั้น ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเป็นอย่างยิ่งที่ 38 ปีผ่านมา ในช่วงที่คาบเกี่ยวกัน(ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าพอดีเป๊ะเลยได้หรือเปล่า) คือในช่วงวันที่เดียวกันคือ 23 - 25 มิ.ย.2555 ก็เกิดเหตุการณ์ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายที่ประเมินเป็นมูลค่ามิได้ ก็คือมีการให้ข่าวว่าโครงการสำรวจภูมิอากาศขององค์การนาซ่านั้น อาจมีการจารกรรมสอดแนมของกองทัพสหรัฐฯ จนกระทั่งเป็น "ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์" ไปทั่วประเทศ ทำให้การอนุมัติโครงการฯนี้ต้องล่าช้าไปจนทำให้ ในที่สุด องค์การนาซ่าต้องยกเลิกโครงการไปเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2555
แน่นอนครับว่าในครั้งนี้ย่อมไม่ใช่ "เด็กชายปลาบู่" ที่ออกมาทำนาย แต่บังเอิญว่าชื่อและสมญานามพ้องกัน และผู้ที่ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวนี้ ก็ไม่ใช่ลุงทองใบ คำสี ที่เขียนถึง "ผู้ที่รักผืนแผ่นดินไทย ทุกท่าน" แต่เป็นหัวหน้าพรรค ปชป.ที่ให้เหตุผลคล้ายกับ ลุงทองใบ ในการคัดค้านตอบโต้ รมว.กห.ว่า "รักประเทศต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก" ส่วนความเสียหายนั้น ก็ไม่ใช่ 4 - 500ล้าน เหมือนที่จ.ตากนะครับ ถ้าหากการสำรวจครั้งนี้สามารถ "แก้ปัญหา" หรือ "ผ่อนหนักเป็นเบา" หรือแม้แต่เพียง "แจ้งเตือนได้อย่างแม่นยำ" ในเรื่องของภัยพิบัติที่เกิดในบ้านเราถี่ขึ้นทุกวันๆได้จริง ผมว่า "โอกาสที่เราเสียไปนั้นประเมินเป็นมูลค่ามิได้ครับ"
กำลังทำข้อมูลเรื่องนี้อยู่ดีๆ ทีมงานเฟสบุ๊คผมนี่ก็ช่าง ขุดคุ้ย สืบค้น กันเหลือเกินครับ โดยทีมงานได้เอาข้อความในจดหมายของลุงทองใบ ตอนหนึ่งที่ระบุว่า "เขียนถึงตรงนี้เด็ก(ชายปลาบู่) อายุเพียง 5 ขวบ 8 เดือน 15วัน บ่นว่า เขื่อนที่สร้างเสร็จแล้วยังไม่สมบูรณ์...ฯลฯ" มาคำนวณกับวันที่เด็กชายปลาบู่พูด คือวันที่ 23 - 25 มิ.ย. 17 หรือว่า 38 ปีที่แล้ว เมื่อหักลบ 8 เดือน 15วัน จะพบว่าใกล้เคียงกับวันที่ 10 ต.ค. ซึ่งก็ไปหามาอีกว่า ใกล้เคียงวันเกิดของโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของสมญานาม "ปลาบู่ชนเขื่อน" ซึ่งเกิดหลังจากที่ ด.ช.ปลาบู่เสียชีวิตไปเพียง 3เดือนเศษเท่านั้น อะไรมันจะช่างบังเอิญขนาดนั้นครับ ทั้งวันที่พูด, เหตุการณ์, ปี พ.ศ. ฯลฯ ทำให้วันนี้ทั้งวันในออฟฟิตไม่เป็นอันทำอะไรมัวแต่ถกเถียงกันอยู่นั่นแหละว่า "เด็กชายปลาบู่กลับชาติมาเกิดหรือไม่" อะไรมันจะเชื่อกันไปขนาดนั้น !!!!
มีบทความจาก สำนักข่าวพระพยอมพูดได้อย่างน่าฟังครับ ท่านบอกว่าคำทำนายของ "เด็กชายปลาบู่" ฟังได้แต่ต้องพิจารณา ความเชื่อเรื่อง"ปลาบู่กลับชาติมาเกิด" รวมถึงเรื่อง "นาซ่ามาไทยเพื่อสอดแนม" นี่ก็ "ฟังได้แต่ต้องพิจารณา" เช่นเดียวกันครับ ผมถึงว่าไว้ไงครับว่า ต้องฟังหูไว้หูครับ สมัยนี้ต้องฟังหูไว้" นายพานทองแท้ ระบุ
นอกจากนี้ยังได้ใส่รูปบทความจากหนังสือพิมพ์ ชื่อบทความว่า "ปลาบู่ ตายเพราะปาก" เพื่อเป็นภาพประกอบด้วย
กลุ่มคนเสื้อแดงปทุมธานีฮือตะโกนไล่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน ไม่พอใจเรื่องการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 จนกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย เกิดปะทะถึงขั้นปาขวดน้ำแต่ไม่ลุกลามรุนแรง
วันนี้ (29 มิ.ย.) เวลา 19.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดงาน “ราตรีสีฟ้า พรรคประชาธิปัตย์พบประชาชน คนปทุมธานี” ที่โรงเรียนชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคม ริมคลองเทศบาลนครรังสิต โดยระหว่างที่แกนนำพรรคขึ้นปราศรัย ปรากฏว่ามีคนเสื้อแดงทยอยมารวมตัวกัน ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียน ซึ่งเป็นจุดที่รถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้น้ำฝ่ายค้าน จอดไว้ภายในงาน
จนกระทั่งเวลา 19.30 น. ได้มีรถกระบะติดป้าย“แดงปทุม” พร้อมเครื่องขยายเสียงวิ่งมาจอดบริเวณด้านหน้าโรงเรียน พร้อมหันลำโพงไปทางเวทีพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยโจมตีขับไล่นายอภิสิทธิ์ เนื่องจากแสดงความไม่พอใจเรื่องการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 พร้อมกับขอให้ออกจากพื้นที่ไประหว่างที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยบนเวทีกับผู้ให้การสนับสนุนเช่นกัน จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดประตูทางเข้าโรงเรียนเพื่อป้องกันเหตุวุ่นวาย ขณะที่แขกเหรื่อที่มาร่วมรับประทานโต๊ะจีนพากันลุกขึ้นเดินออกมาตะโกนตอบโต้กับคนเสื้อแดง จนเหตุการณ์เริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อมีการขว้างปาขวดน้ำและสาดน้ำใส่กัน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปขอร้องให้ทุกคนกลับเข้ามาในงาน และระหว่างนั้นเอง นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยตอบโต้ว่า “คนที่มาเรียกร้องหาฆาตกร ขอให้ไปหาที่อื่น เพราะเขากำลังทำเรื่องล้างผิดกันอยู่” แต่คนเสื้อแดงยังคงพยายามตะโกนขับไล่ จนเวลา 20.40 น. นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยเสร็จสิ้นและเปลี่ยนไปขึ้นรถป้ายทะเบียนปทุมธานีออกไปทางประตูหลังของโรงเรียนเพื่อเดินทางกลับไป ขณะที่คนเสื้อแดงทราบว่า นายอภิสิทธิ์ เดินทางกลับแล้วต่างทยอยเดินทางกลับเช่นเดียวกัน โดยไม่เหตุการณ์รุนแรงบานปลายแต่อย่างใด.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012