เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ต.ค. รายงานข่าวแจ้งว่าบริเวณหน้าห้างฯบิ๊กซี สาขาสุวินทวงศ์ ถนนสุวินทวงศ์ แขวงและเขตมีนบุรี กทม. มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 15–20 ซม. ทำให้การจราจรติดขัด ทั้งขาเข้าและออกถนนดังกล่าว จากการสอบถามนายอุดมศักดิ์ มณีทูล อาชีพขี่รถจยย.รับจ้าง หน้าห้างฯบิ๊กซี เล่าว่าน้ำได้เอ่อท่วมตั้งแต่เมื่อวาน(16 ต.ค.) เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมขังสูงขึ้น ทั้งนี้หากฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อไหร่ ถนนเส้นนี้จะมีน้ำท่วมขังทุกครั้ง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนในการเดินทางเป็นอย่างมาก
ส่วนภายในการเคหะฉลองกรุง ถนนสังฆประชา ซอยการเคหะฉลองกรุง แขวงลาดกระบัง เขตหนองจอก ก็ได้รับผลกระทบจากฝนที่เทกระหน่ำลงมา ซึ่งภายในการเคหะดังกล่าวมีน้ำท่วมขังตั้งแต่ต้นซอย จนถึงกลางซอย โดยตามตรอกซอกซอยพบว่าน้ำท่วมขังสูงกว่าถนนทางเข้าการเคหะ สอบถามน.ส.วรรณา ขุนประยูร เจ้าของร้านน้ำมัน เล่าว่า ภายในเคหะฉลองกรุง มักจะมีน้ำท่วมขังตลอดหากเกิดฝนตกมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามทางเขตหนองจอกได้นำเครื่องสูบน้ำมาสูบเพื่อระบายน้ำลงสู่คลองลำผักชี ทำให้น้ำลดระดับลง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า บริเวณถนนตั้งแต่ปากทางเข้าซอยลาดพร้าว 64 แขวงและเขตวังทองหลาง มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซม. ท่วมเป็นทางยาวกว่า 500 ม. เป็นผลให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้วในช่วงเวลาเร่งด่วน ยิ่งทำให้ติดหนักไปอีก
วันที่ 17 ต.ค. ลูกจ้างหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาจำนวนหลายแสนคน ซึ่งถูกสั่งพักงานในวิกฤติชัตดาวน์ที่เริ่มเมื่อ 1 ตุลาคม ทยอยกลับไปทำงานแล้วในวันพฤหัสบดี ภายหลังสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายผ่าทางตัน ซึ่งจะจ่ายงบประมาณแก่หน่วยงานรัฐจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2014 และขยายเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม 'สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์' หรือเอสแอนด์พี สถานบันจัดอันดับการเงินชื่อดัง แถลงเมื่อ 16 ตุลาคม ว่า ผลกระทบจากวิกฤติชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานรัฐบางส่วน สร้างความเสียหายแก่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.44 แสนล้านบาท) และทำให้องค์กรตัดสินใจลดตัวเลขประมาณการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐฯในไตรมาสที่ 4 ลง 0.6% และลดตัวเลขประมาณการเติบของจีดีพีปี 2013 ของสหรัฐฯ เหลือใกล้เคียง 2% จาก 3%
การเปิดเผยของเอสแอนด์พี สะท้อนให้เห็นความเสียหายต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เกิดจากการต่อสู้กันทางการเมืองระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันล้วนๆ ต่างจากวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2008 ทั้งยังแสดงให้เห็นสถานการณ์เสี่ยงภัยที่สหรัฐฯอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างแท้จริง นอกเหนือไปจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ถูกพักงาน และวอชิงตันดีซี
ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐบาลเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ หลังจากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2014 ได้ทันเส้นตายวันที่ 30 กันยายน จากความขัดแย้งเรื่องการแก้ไขกฎหมายปฏิรูปประกันสุขภาพ หรือ โอบามาแคร์ ขณะเดียวกัน สหรัฐฯยังจำเป็นต้องขยายเพดานหนี้ ก่อนที่จำนวนเงินกู้ยืมของสหรัฐฯ จะชนเพดานในวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งอาจส่งผลให้สหรัฐฯต้องผิดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ อันจะส่งผลร้ายอย่างมากต่อเศรษฐกิจโลก
แต่เมื่อวันพุธที่ 16 ต.ค. วุฒิสภาสหรัฐฯประกาศบรรลุข้อตกลงร่วมระหว่างสองพรรค เรื่องร่างกฎหมายผ่าทางตันการเงินของประเทศ และสภาคองเกรสทั้งสองสภาโหวตผ่านร่างกฎหมาย ก่อนส่งต่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้ ทันก่อนถึงเส้นตายวันที่ 17 ตุลาคม โดยกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งจะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากวิกฤติชัตดาวน์ และหลีกเลี่ยงการผิดชำระหนี้ได้ชั่วคราว เพื่อซื้อเวลาให้สภาครองเกรสหารือร่างกฎหมายงบประมาณระยะยาวต่อไป
อย่างไรก็ตาม เอสแอนด์พีเตือนด้วยว่า ข้อตกลงชั่วคราวอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ตามมา ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความกังวลว่าจุดเกิดภาคต่อของวิกฤติการเงิน "การกลับลำในเวลาสั้นๆของนักการเมืองเพื่อเจรจาข้อตกลงสุดท้าย ดูเหมือนจะเป็นภาระต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเฉพาะในหมู่ข้าราชการที่ถูกพักงาน หากประชาชนหวาดกลัวว่า ความขัดแย้งเรื่องนโยบายของรัฐบาลเกิดขึ้นอีกครั้ง และเสี่ยงทำให้เกิดวิกฤติชัตดาวน์หรือแย่กว่า ก็จะทำให้พวกเขาไม่กล้าควักกระเป๋าใช้จ่าย" เอสแอนด์พีระบุ.
วันที่ 17 .ต.ค. 56 นายสมหวัง อัสราษี รองประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมและจริยธรรมของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะที่ปรึกษาฯ ที่มีการสั่งการ และให้การสนับสนุนกลุ่มมวลชนกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) และเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย จัดชุมนุมทางการเมือง ปิดถนน ยึดสวนสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชน เพื่อมุ่งหวังโค่นล้มรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มีมาจากการเลือกตั้งเสียงส่วนใหญ่ประเทศ
ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ก็มาจากประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น ไม่ว่าการแก้รัฐธรรมนูญปี 50 ก็ตามจะแก้อะไร ก็ไม่เคยเห็นด้วย ชวนมาร่วมคณะสภาปฏิรูป ก็ไม่เอาจะเอาอย่างเดียวคือ จะเอาอำนาจบริหารประเทศเท่านั้น ทั้งที่ประชาชนเขาไม่ได้เลือกให้มาเป็นรัฐบาล เขาเลือก ปชป.ให้มาเป็นฝ่ายค้านเท่านั้น ก็จงทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้ประชาชนเห็นผลงาน
ด้านนายอุทัย ยอดมณี แกนนำ คปท. พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. พร้อมด้วยมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินเท้าจากแยกอุรุพงษ์ไปยัง สน.พญาไท เพื่อยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท ผ่านทาง พ.ต.ท.บรรยง แดนมั่นคง หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อขอใช้เสรีภาพในการชุมนุมเผยแพร่ข้อมูล และตรวจสอบการบริหารประเทศของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยสงบและปราศจากอาวุธ ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ 2550
เมี่อเวลา12.00 น. วันที่ 18 ต.ค. นายกฤษณ์ เกียรติพนชาติ ผู้อำนวยการเขตบางเขน เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ เหตุรถพ่วงบรรทุกหินคลุก ทรุดตกลงกลางถนนที่ยุบตัวจากโพรงการก่อสร้างบ่อพักท่อร้อยสาย บริเวณกลางถนนรามอินทรา ฝั่งขาออกช่วงปากซอยรามอินทรา 21 ว่า เกิดจากการก่อสร้างบ่อพักท่อร้อยสายของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในโครงการโรงไฟฟ้าย่อยลาดปลาเค้า ที่จะต้องก่อสร้างบ่อพักท่อร้อยสาย เป็นบ่อขนาดกว้าง 6.50 เมตร ยาว 7.50 เมตร ลึก 7.50 เมตรบนถนนรามอินทราโดยอยู่ระหว่างก่อสร้าง และจะปิดคืนผิวการจราจรในช่วงเวลากลางวัน โดยปรากฎว่าเหล็กคานที่ใช้รองรับแผ่นคอนกรีตที่ใช้เป็นผิวการจราจรชั่วคราวทรุดตัวทำให้รถพ่วงขนหินคลุกที่วิ่งผ่านด้านบนทรุดตกลงไปในบ่อพักท่อร้อยสายดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงและเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ที่รับผิดชอบในถนนรามอินทราดังกล่าว ได้เร่งแก้ไข โดยอยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายรถพ่วงขึ้นมา และคาดว่าจะเปิดการจราจรได้ภายใน 13.00 น. นี้
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012