ข่าว
เจอรอยแยกสันเขื่อนยาว4.8กม. ป่าสักฯร้าว!

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการพบเห็นรอยร้าวบน สันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี มีความยาวประมาณ 4,800 เมตร จากเขต ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม ถึงเขต ต.คำพราน อ.วังม่วง จ.สระบุรี นายบุญชอบ หอมเกษร ผู้อำนวยการ ส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัด ลพบุรี เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบถนน บนสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ว่า ช่วงหลักกิโลเมตร ที่ 400-500 มีผิวการจราจรซึ่งลาดยางมะตอย ได้เกิดรอยร้าวขึ้นเป็นช่วงๆ เป็นทางยาวหลายเมตร มีความกว้างอยู่ที่ 5-10 ซม.และมีความลึกอยู่ที่ 3-15 ซม. แต่ไม่เป็นอันตราย เพราะถือว่าเป็นรอยแตกของผิวการจราจรเท่านั้น ส่วนโครงสร้างของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็มีการสร้างขึ้นอย่างแข็งแรง รอยร้าวดังกล่าว จึงไม่มีผลกระทบต่อตัวโครงสร้างของเขื่อน เพราะตัวเขื่อนอัดจากดินเหนียวที่แข็งแรงทนทานจึงมีความปลอดภัยสูงมาก

รมว.อุตสาหกรรม-บีโอไอ แถลงย้ำ"ฮอนด้า"ไม่ได้ย้ายฐานผลิต

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แถลงเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ข่าวร่วมกับนางอัญชลี ชาลีจันทร์ ผู้จัดการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ฮอนด้า (ประเทศไทย) จำกัด ชี้แจงกรณีข่าวการย้ายฐานการผลิตของฮอนด้าจากไทยไปอินโดนีเซีย วงเงิน 330 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ได้หารือกับผู้บริหารฮอนด้าพบว่าข่าวการลงทุนของบริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ที่ดูแลการลงทุนในภูมิภาค มีแผนลงทุนในประเทศอินโดนีเซียอยู่แล้ว ผลิตรถยนต์รุ่นบริโอ้ขายในประเทศ โดยเป็นการขยายการลงทุนไม่ใช่การย้ายฐานการผลิตจากเมืองไทยไปอินโดนีเซียแน่นอน โดยการขยายการลงทุนดังกล่าวเนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่ประชากรมากกว่าไทย4เท่า ความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กเพิ่มขึ้น

"ฮอนด้ายืนยันว่าจะยังรักษาการลงทุนในไทยต่อไปจากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมปีละ 2.4 แสนคัน ผลิตรวม 4 รุ่น คือ บริโอ้ แจ๊ส ซีอาร์วี และแอคคอร์ด พร้อมกันนี้วันที่ 31 มีนาคม ยังเตรียมทำพิธีกลับมาผลิตอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ มีนายกรัฐมนตรี ผม และผู้บริหารฮอนด้าจากญี่ปุ่นร่วมงาน หลังจากประสบกับปัญหาน้ำท่วมจึงหยุดฟื้นฟูนาน6เดือน "ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์กล่าว


โอ้โฮ! ยอดเงินบริจาคพท.กระฉูด126ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทยมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเพื่อพิจารณาการดำเนินกิจการของพรรคต่อที่ประชุมใหญ่ให้เป็นไปตามที่กฎหมายและข้อบังคับพรรค มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรคทำหน้าที่ประธานแทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งติดภารกิจ ครม.สัญจร ที่จ.ภูเก็ต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงบรายรับค่าใช้จ่ายรวมของพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดปีเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2554 แยกเป็นรายรับจากเงินบริจาค 126,630,000 บาท รายรับจากการบริจาคที่ไม่ใช่เงิน 12,436,932 บาท รายรับจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 410,640 บาท รายรับจากเงินบริจาคภาษีแก่พรรคการเมือง 4,549,700 บาท รายรับอื่น 2,788,791 บาท รวมรายรับ 146,816,063 บาท

ส่วนค่าใช้จ่าย แยกเป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินการ 52,270,955 บาท ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง 93,846,296 บาท ค่าใช้จ่ายตามโครงการและแผนงาน 409,040 บาท รวมค่าใช้จ่าย 146,526,292 บาท มีรายรับสูงกว่าค่าใช้จ่าย 289,771 บาท


"โคทม" เผยประเทศจะปรองดองได้ต้องสร้างพลังที่ 3

จากการเสวนาโครงการ "เวทีสันติประชาธิปไตย" รศ.ดร.โคทม อารียา สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ความตึงเครียดทางการเมืองในปัจจุบัน เป็นผลมาจากความขัดแย้งที่ยืดเยื้อและสับสนในสังคมไทย เพราะแต่ละคนมีความเห็นหรือความเชื่อที่แตกต่างกันในเรื่องของรากเหง้า แม้ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่ยังไม่เห็นพ้องว่าควรปฏิรูปในเรื่องใด ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นการเปิดพื้นที่ ได้มีส่วนในการแลกเปลี่ยนและนำเสนอ เพื่อนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยหรือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความปรองดอง โดยมีแนวคิดที่จะสร้างเวทีหรือโรงเรียนรัฐธรรมนูญเพื่อสันติ ในการสร้างพลังประชาชนหรือพลังที่ 3 ก่อนจะเชิญองค์กรต่างๆ แม้กระทั่งอาสาสมัครมาร่วม

บุญจงเฮ!รอดตายใบแดง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 มีนาคม ที่ศาล ฎีกาแผนกคดีการเลือกตั้ง ได้มีการพิจารณา คดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องกรณี ที่มีการให้ใบแดงแก่ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และอดีต สส.นครราชสีมา ในคดีที่มีการยื่นคำร้องขอให้ ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งเพิกถอนการเป็น สส. และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ในฐานะ ที่มีการกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.และการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2550 มาตรา 53 (1)(3) และ (4) จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมสัมมนาผู้นำชุมชน ในอ.จักราช จ.นครราชสีมา โดยให้นางสายพิรุณ น้อยศิริ เจ้าหน้าที่พัฒนาการ จังหวัดนครราชสีมา นำผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 300 คน เดินทางไปอบรมที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง พร้อมแจกสิ่งของในระหว่างการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 6 จังหวัดนครราชสีมา อันเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง

โดยศาลได้พิเคราะห์ แล้วเห็นว่าการกระทำตามที่ผู้ร้องอ้างนั้นเกิดขึ้นก่อนที่จะมี พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้มีการเลือกตั้ง สส.นครราชสีมา เขตเลือกตั้ง ที่ 6 แทนตำแหน่งที่ว่า พ.ศ. 2553 มีผล บังคับใช้หรือไม่นั้น ศาลเห็นว่า กรณีของ ผู้คัดค้านเป็นกรณีเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ ผู้คัดค้านพ้นสภาพจากการเป็น สส. ดังนั้นระยะเวลาที่บังคับในวิธีการหาเสียงกรณีของ ผู้คัดค้านจึงต้องนับ ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2553 ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ได้มีประกาศให้มีการเลือกตั้งตามบัญญัติไว้ในมาตรา 49 วรรค (2) ที่กำหนดให้มีผลบังคับในวันรุ่งขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกรณีการหาเสียง