ข่าว
สหรัฐถอดวัคซีนโควิด-19ออกจาก'CDC' ไม่แนะนำฉีดให้'เด็ก-สตรีมีครรภ์'

28 พฤษภาคม 2568 หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หน่วยงานจะจำกัดการอนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และเยาวชนที่มีโรคประจำตัว เจ้าหน้าที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กำหนดกรอบการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้สหรัฐดำเนินการสอดคล้องกับประเทศต่างๆ มากขึ้น ซึ่งแนะนำการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องเท่านั้น แต่การเปลี่ยนแปลงข้างต้นเกิดขึ้น

ขณะที่ 'โรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี จูเนียร์' ผลักดันให้มีการปฏิรูปนโยบายสาธารณสุขของรัฐบาลกลางโดยเขาได้โพสต์ข้อความผ่านทางแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) @SecKennedy ระบุว่า "ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศว่า ในวันนี้วัคซีนโควิดสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ที่มีสุขภาพแข็งแรง ถูกถอดออกจากตารางการฉีดวัคซีนที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แนะนำแล้ว"

การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดกลับเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยนายอเมช อาดัลจา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ กล่าวว่า แม้แนวทางใหม่จะสอดคล้องกับแนวทางของประเทศอื่นๆ แต่เขาคิดว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มแรก ควรเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กตามปกติ

ด้านนายพอล ออฟฟิต ผู้ชำนาญด้านวัคซีนชั้นนำจากโรงพยาบาลเด็กฟิลาเดลเฟีย เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจเป็นการจำกัดการเข้าถึงสำหรับผู้ที่ยังคงต้องการวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ระบบการดูแลสุขภาพแบบเอกชนในสหรัฐฯ

‘ชัชวาล’ ชี้จัดงบฯ69 เมิน ‘เกษตรกร-คนตัวเล็ก’ หวั่นใช้งบกลาง 6.3 แสนล้านไม่โปร่งใส

วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 18.50 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน3.78ล้านล้านบาท วาระแรก โดยนายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) กล่าวอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ว่า ขอตั้งข้อสังเกตการจัดสรรงบฯของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับความเดือดร้อนของประชาชนฐานราก โดยเฉพาะเกษตรกรและกลุ่มคนตัวเล็ก แม้งบฯปีนี้จะมีวงเงินสูงถึงกว่า 3.78 ล้านล้านบาท แต่ยังเป็นงบขาดดุล และให้น้ำหนักกับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากส่วนบนของพีระมิดมากกว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากฐานล่างที่ยั่งยืนกว่า เพราะจัดงบฯแบบภาวะปกติ ทั้งที่ไทยยังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก เช่น ภาระหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น การส่งออกชะลอตัว ผลกระทบจากสงครามการค้าโลก และมาตรการทางภาษีของทรัมป์ แต่การใช้งบสะท้อนแนวคิดแบบ “แบ่งกันกิน” มากกว่าการจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วนของปัญหา โดยเฉพาะงบฯในกระทรวงหลักที่ไม่ก่อให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงเกษตรฯที่จะได้รับงบกว่า 1.3 แสนล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอในแก้ปัญหาเรื้อรัง อาทิ หนี้สินเกษตรกร, ราคาผลผลิตตกต่ำ หรือน้ำท่วม, ภัยแล้ง ที่ได้รับงบประมาณเพียง 3,000-4,000ล้านบาทเท่านั้น ซ้ำเป็นมาตรการชั่วคราว จึงไม่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคเกษตรที่แท้จริง

นายชัชวาล กล่าวต่อว่า ขณะที่งบกลางจำนวน 6.3 แสนล้านบาทในอำนาจใช้จ่ายของนายกฯก็ขาดรายละเอียดการใช้จ่ายอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ เหตุใดรัฐบาลไม่กระจายงบก้อนนี้ให้กับกระทรวง หรือหน่วยงานที่มีภารกิจชัดเจน เพื่อสามารถติดตามผลได้ดีกว่าชี้ถึงความล้มเหลวในการทำนโยบายที่รัฐบาลเคยให้สัญญาไว้ เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ,เงินอุดหนุนเด็กแบบถ้วนหน้าที่ทำไม่ได้จริงอย่างที่พูด การบริหารแบบรวมศูนย์ทำให้งบประมาณไม่ตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของแต่ละพื้นที่ จึงเสนอให้กระจายอำนาจ กระจายงบฯสู่ท้องถิ่น เช่น งบพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาที่มีมูลค่าถึง3.5 แสนล้านบาท ควรมุ่งยกระดับคุณภาพการศึกษาในพื้นที่ห่างไกลให้เท่าเทียม ไม่ใช่ปล่อยปัญหาขาดแคลนครูในพื้นที่ห่างไกลมากถึง 50,000 อัตรา

“ผมกังวลต่อการโยกงบประมาณเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น งบโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมูลค่า 1.57 แสนล้านที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป้าหมายการใช้เงินอย่างเร่งรีบ ขาดแผนงานชัดเจน อาจเป็นช่องทางให้เกิด “โกงแบบ Fast Track” จึงขอเสนอ 7 แนวทางที่รัฐบาลต้องเร่งทำ คือ 1.)หยุดคอร์รัปชันเชิงนโยบาย 2.)ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก 3.)เพิ่มงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 4.)ฟื้นฟูภาคเกษตร 5.)กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 6.)ปฏิรูปการศึกษา และ7.)สร้างระบบสวัสดิการถ้วนหน้าอย่างแท้จริง” นายชัชวาล กล่าว


ไวรัลทั่วโลก! 'มาครง'ใช้เพลง'ค้างคาวกินกล้วย'ในคลิปเยือนเวียดนาม

คลิปวิดีโอการเดินทางเยือนประเทศเวียดนามอย่างเป็นทางการของ นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ได้สร้างความฮือฮาและกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว หลังจากได้โพสต์คลิปดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Emmanuel Macron โดยที่เพลงประกอบคลิปนั้นคือเพลงไทยอมตะอย่าง "ค้างคาวกินกล้วย"

โดยคลิปวิดีโอแสดงภาพบรรยากาศการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีมาครง ทั้งการพบปะผู้นำ การเข้าร่วมพิธีการต่างๆ โดยชาวเน็ตต่างแชร์คลิปดังกล่าวกันอย่างรวดเร็ว พร้อมตั้งคำถามว่าทีมงานของประธานาธิบดีฝรั่งเศสตั้งใจใช้เพลงนี้ หรืออาจเป็นความเข้าใจผิดด้านลิขสิทธิ์และภาษา ขณะที่บางคนกลับมองว่าเป็นสีสันทางวัฒนธรรมที่ทำให้คลิปนี้น่าจดจำมากขึ้น

ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนพูดถึงการเยือนเวียดนามของผู้นำฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เพลง ค้างคาวกินกล้วย กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง


ยังไม่สำเร็จ! ยาน SpaceX หมุนเคว้งกลางอากาศระหว่างทดสอบ

27 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัท SpaceX ปล่อยจรวด Starship รุ่นต้นแบบจากฐานยิง Starbase รัฐเท็กซัส ในภารกิจทดสอบไร้ลูกเรือครั้งที่ 9 ซึ่งสามารถบินได้ไกลกว่าสองครั้งก่อนที่ระเบิดกลางอากาศ แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมการลงจอดได้ตามแผน

Starship ซึ่งเป็นยานสองขั้น ประกอบด้วยยาน Starship ด้านบน และจรวด Super Heavy Booster ด้านล่าง ถูกยิงขึ้นจากชายฝั่งใกล้เมืองบราวน์สวิลล์ เวลา 18.36 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยใช้เครื่องยนต์ Raptor แบบรวมกลุ่มกว่า 30 หัว พร้อมเสียงคำรามและกลุ่มควันมหาศาล

ภารกิจนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ SpaceX ใช้จรวด Super Heavy ที่ผ่านการบินมาแล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบความสามารถในการนำกลับมาใช้ซ้ำ (reusability)

หลังจากทะยานขึ้นเพียงไม่กี่นาที ยาน Starship ได้แยกตัวออกจาก booster ตามแผน และเดินทางต่อไปยังวงโคจรย่อยในอวกาศ ขณะที่ booster หายไปจากการควบคุมระหว่างการกลับสู่โลก และน่าจะตกลงทะเล แทนที่จะลงจอดอย่างมีการควบคุมตามแผนที่วางไว้

แม้ยาน Starship จะสามารถขึ้นสู่วงโคจรย่อยได้ตามแผน แต่เกิดปัญหาด้านเทคนิคเมื่อประตูปล่อยดาวเทียมจำลองไม่สามารถเปิดได้ และในเวลาราวครึ่งชั่วโมงหลังจากปล่อยจรวด ทีมควบคุมของ SpaceX รายงานว่ายานสูญเสียการควบคุมทิศทาง ทำให้ยานหมุนเคว้งก่อนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศอีกครั้ง

ผู้บรรยายของ SpaceX กล่าวในระหว่างถ่ายทอดสดว่า “เราไม่สามารถควบคุมการจัดแนวเพื่อเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้ตามแผน โอกาสที่ยานจะลงจอดได้สำเร็จค่อนข้างต่ำ”

หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ หรือ FAA อนุมัติการปล่อยจรวดครั้งนี้เพียง 4 วันก่อนหน้าหลังจากสอบสวนเหตุขัดข้องที่ทำให้ภารกิจต้องหยุดชะงักเกือบ 2 เดือน โดยการทดสอบในเดือนมกราคมและมีนาคมที่ผ่านมา สิ้นสุดลงด้วยการระเบิดกลางอากาศในไม่กี่นาทีหลังจากปล่อยตัว ส่งเศษชิ้นส่วนตกลงในทะเลแคริบเบียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบินพาณิชย์หลายเที่ยวบิน

แม้จะยังไม่สามารถควบคุมยานให้กลับลงมาได้อย่างปลอดภัย แต่ SpaceX ยังคงเดินหน้าทดสอบ Starship ต่อไป โดยมีเป้าหมายใหญ่คือการใช้จรวดรุ่นนี้พามนุษย์ไปถึงดวงจันทร์ และดาวอังคารในอนาคตอันใกล้

ชาวกาซานับพันแห่แย่งอาหารจากศูนย์ช่วยเหลือ ทหารต้องยิงปืนเตือน

28 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ประชาชนชาวปาเลสไตน์นับพันบุกเข้าไปยังศูนย์แจกจ่ายความช่วยเหลือในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ซึ่งจัดตั้งโดยมูลนิธิ Gaza Humanitarian Foundation (GHF) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และอิสราเอล หลังเพิ่งเริ่มดำเนินงานได้เพียงวันเดียว

วิดีโอที่เผยแพร่แสดงให้เห็นฝูงชนจำนวนมากบุกผ่านรั้วและคันดินของพื้นที่ศูนย์แจกจ่าย จนเจ้าหน้าที่ของ GHF ต้องถอนกำลังชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง ทหารอิสราเอลที่อยู่ใกล้เคียงยิงปืนเตือนเพื่อควบคุมสถานการณ์

GHF ซึ่งใช้บริษัทรักษาความปลอดภัยจากสหรัฐฯ และมีเป้าหมายที่จะกระจายความช่วยเหลือนอกเหนือจากระบบของสหประชาชาติ เปิดเผยว่าได้แจกจ่ายอาหารไปแล้วกว่า 8,000 กล่อง หรือเทียบเท่ามื้ออาหาร 462,000 มื้อ อย่างไรก็ตาม ทาง UN และหน่วยงานช่วยเหลือหลายแห่งปฏิเสธที่จะร่วมมือ โดยมองว่าแนวทางของ GHF ขัดต่อหลักมนุษยธรรม และอาจทำให้ความช่วยเหลือกลายเป็นเครื่องมือทางการเมือง

เหตุการณ์ล่าสุดมีรายงานว่าฝูงชนบุกจุดแจกจ่ายในเขต Tal al-Sultan และ Morag Corridor จนเกิดความวุ่นวาย มีเสียงปืนดังขึ้น และผู้คนจำนวนมากแย่งชิงอาหารในสภาพสิ้นหวัง ชาวเมืองรายหนึ่งกล่าวว่า “พวกเขาให้เข้าแค่ครั้งละ 50 คน แต่สุดท้ายก็เกิดความโกลาหล ผู้คนปีนรั้ว แย่งของ และไม่มีใครคุมสถานการณ์ได้”

สำนักงานสื่อของรัฐบาลฮามาสระบุว่าความพยายามของอิสราเอลในการแจกจ่ายความช่วยเหลือนั้น "ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง" และปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าฮามาสขัดขวางการเข้าถึงของประชาชน

ในขณะที่สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษก UN กล่าวแถลงข่าวจากนิวยอร์กว่า “ภาพที่เห็นจากศูนย์ของ GHF นั้นสร้างความหดหู่ใจอย่างมาก เราและพันธมิตรมียุทธศาสตร์ชัดเจนในการขยายการส่งความช่วยเหลืออย่างมีหลักการ และเรายืนยันว่าการเร่งส่งความช่วยเหลืออย่างจริงจังคือสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันภาวะอดอยากที่กำลังคุกคาม”

อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กลับตอบโต้คำวิจารณ์ของ UN ว่าเป็นการแสดงออกถึงความหน้าซื่อใจคดอย่างที่สุด โดยระบุว่าประเด็นสำคัญควรอยู่ที่การให้อาหารแก่ประชาชน ไม่ใช่วิจารณ์ว่าใครเป็นผู้ดำเนินการ

GHF วางแผนจะจัดตั้งศูนย์แจกจ่าย 4 แห่งในฉนวนกาซาทางตอนใต้และตอนกลาง โดยหวังว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน 1 ล้านคนภายในสิ้นสัปดาห์นี้ จุดแจกจ่ายมีการรักษาความปลอดภัยโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยสหรัฐฯ และมีทหารอิสราเอลลาดตระเวนรอบนอก โดยประชาชนต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและความเกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาสก่อนเข้ารับความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตาม UN และองค์กรมนุษยธรรมยืนยันว่าจะไม่ร่วมมือกับระบบใด ๆ ที่ละเมิดหลักการมนุษยธรรมพื้นฐาน อาทิ ความเป็นกลาง ความไม่ลำเอียง และการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

ขณะเดียวกัน เจค วูด ผู้อำนวยการ GHF ได้ลาออกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าระบบของ GHF ไม่สามารถตอบสนองหลักการเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง

อิสราเอลได้ปิดกั้นความช่วยเหลือทั้งหมดเข้าสู่กาซาตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม และกลับมาเปิดปฏิบัติการทางทหารในอีกสองสัปดาห์ต่อมา โดยหวังบีบให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 58 รายที่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่

ตั้งแต่การผ่อนคลายการปิดล้อมเมื่อไม่นานมานี้ อิสราเอลระบุว่าได้นำส่งความช่วยเหลือกว่า 665 คันรถเข้าสู่กาซาแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีมากกว่า 400 คันรถที่ยังไม่ได้แจกจ่ายเนื่องจากความไม่มั่นคง ความเสี่ยงในการถูกปล้น และปัญหาการประสานงานกับทหารอิสราเอล

โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติเตือนเมื่อวันอาทิตย์ว่า ความช่วยเหลือที่มีในปัจจุบันยัง “น้อยมากเมื่อเทียบกับความต้องการจริง” โดยมีประชาชนกว่า 500,000 คนเสี่ยงต่อการอดตายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

วิกฤตการณ์นี้เป็นผลพวงจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลที่เริ่มต้นหลังเหตุการณ์โจมตีโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 ราย และถูกจับเป็นตัวประกันอีก 251 ราย

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขของฮามาสระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วอย่างน้อย 54,056 ราย รวมถึง 3,901 รายในช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา