สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองคย็องจู ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ว่า นายเคซีย์ เมซ ผู้แทนระดับสูงของสหรัฐประจำการประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) กล่าวถึงกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เดินทางออกจากเกาหลีใต้ ก่อนการประชุมสุดยอดเอเปคที่เมืองคย็องจู เปิดฉากอย่างเป็นทางการ ในวันศุกร์ “เป็นเรื่องของตารางเวลาที่ไม่ได้สอดคล้องกันเสมอไป” โดยในกรณีนี้ “ตารางเวลาของผู้นำสหรัฐไม่ได้ลงตัวอย่างสมบูรณ์” ที่จะทำให้ผู้นำสหรัฐสามารถอยู่ร่วมกิจกรรมทั้งหมดได้...
ทั้งนี้ ทรัมป์เดินทางออกจากเกาหลีใต้ทันที หลังเสร็จสิ้นการพบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่เมืองปูซาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมเอเปคระดับผู้นำ พบหารือระดับทวิภาคีกับผู้นำหลายประเทศ และคาดว่า จะอยู่ร่วมกิจกรรมจนถึงวันเสาร์ที่ 1 พ.ย. ซึ่งเป็นวันปิดการประชุม...
ส่วนทรัมป์ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานปาร์ตี้ฮาโลวีนประจำปีของทำเนียบขาว ร่วมกับนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมื่อเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตัน และมอบหมายให้นายสกอตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลัง เข้าร่วมการประชุมเอเปคในฐานะผู้แทนของสหรัฐ.
เครดิตภาพ : AFP... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5258785/
/
วันปิยมหาราช…สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ร่วมกับวัดไทยแอลเอ จัดพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์จำลองสมเด็จพระปิยมหาราช ที่วัดไทยแอลเอ เมืองนอร์ธ ฮอลลีวูดื เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม2568 โดยมี ต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส เป็นประธานในพิธี มีหน่วยงานราชการ สมาคม ชมรม และองค์กร ต่างๆ ของชุมชนไทยในแอลเอ เข้าร่วมน้อมรำลึกในวันครบรอบ 115 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อย่างพร้อมเพรียง
กฐินวัดสมเด็จฯ…วัดสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เมืองเบเกอร์ฟิลด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย จัดงานบุญทอดกฐินสามัคคี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2568 โดยมี นายแพทย์วิบูล-คมคาย ตั้งประภาพร และครอบครัว เป็นประธานงานกฐิน มีสาธุชนจากเมืองต่างๆ พร้อมใจกันมาร่วมงานบุญใหญ่ประจำปีกันอย่างมากมาย โดยครอบครัวร้าน Sigha Thai,Bakersfield และ ร้าน The Thai, Lancaster ศิษยานุศิษย์ “ท่านเจ้าคุณสุขุม”พระมุนีวิเทศ อดีตเจ้าอาวาสผู้ล่วงลับ ยกทีมไปทำบุญและร่วมออกโรงทานในทุกปี
เฮอริเคนเมลิสซา พัดถล่มจาเมกา และเฮติ คร่าแล้ว 49 ศพ บ้านเรือนของประชาชนพังราบ หน่วยกู้ภัยเข้าถึงยาก ถนนขาด น้ำ-ไฟดับทั่วเกาะ ประชาชนหลายหมื่นคนรอความช่วยเหลือ ขณะที่คิวบาอพยพกว่า 7 แสนคน
วันที่ 30 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจาก พายุเฮอร์ริเคน “เมลิสซา” ( Melissa) เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 49 ศพ ในภูมิภาคแคริบเบียน โดยเฉพาะที่จาเมกาเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 ศพ และใน เฮติมีผู้เสียชีวิตอีก 30 ศพ ขณะที่หลายพื้นที่ยังถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ดานา มอร์ริส ดิกสัน รัฐมนตรีสารสนเทศของจาเมกาเผยว่า มีชุมชนทั้งหมู่บ้านที่ถูกตัดขาด และบางพื้นที่แทบราบเรียบ โดยเฉพาะทางตะวันตกของประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ไฟฟ้าและน้ำประปาใช้ไม่ได้ทั่วเกาะ ประชาชนหลายพันคนต้องช่วยกันกู้ซากบ้านเรือนและทรัพย์สินจากโคลนและน้ำท่วม
แม้สนามบินหลักในกรุงคิงส์ตันกลับมาเปิดใช้งานได้บางส่วน แต่สนามบินภูมิภาคหลายแห่งยังไม่สามารถให้บริการเต็มที่ ถนนหลายสายพังเสียหายจนขนส่งความช่วยเหลือไม่ได้ อาทิ เส้นทางจากเมืองแมนเดวิลถึงแบล็คริเวอร์ ซึ่งปกติใช้เวลา 1 ชั่วโมง ต้องใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง เพราะถนนพังและเต็มไปด้วยต้นไม้หักโค่น
ภาพดาวเทียมเผยให้เห็นว่าหมู่บ้านบางแห่งในจาเมกาแทบถูกพายุถล่มจนไม่เหลือสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากบอกว่าไม่มีคำใดอธิบายความเสียหายได้
โดยที่ เฮติ พายุก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันจากแม่น้ำล้นตลิ่งที่เมือง เปอตีต์-โกฟ มีผู้เสียชีวิต
อย่างน้อย 30 ศพ และประชาชนราว 15,000 คน ต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงกว่า 120 แห่ง ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ
ส่วนใน คิวบา ทางการระบุว่ามีประชาชนกว่า 3 ล้านคน เผชิญสภาวะเสี่ยงชีวิต จากพายุ แต่สามารถอพยพได้แล้วราว 735,000 คน ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีชุมชนกว่า 240 แห่ง ถูกตัดขาดจากน้ำท่วมและดินถล่ม
พายุเมลิสซาขึ้นฝั่งที่จาเมกาเมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา ด้วยความเร็วลมสูงสุดถึง 295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดเป็นพายุระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ก่อนจะเคลื่อนต่อไปถล่มเฮติ คิวบา และมุ่งหน้าสู่เบอร์มิวดา.
วันที่ 31 ต.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า สำนักพระราชวังบักกิงแฮมของอังกฤษแถลงเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่นว่า สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงปลดพระยศ เจ้าชายแอนดรูว์ พระราชอนุชา
รวมถึงมีพระบรมราชโองการให้เสด็จออกจากพระราชวังวินด์เซอร์ และถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่รุนแรงที่สุดต่อสมาชิกราชวงศ์ในประวัติศาสตร์อังกฤษยุคใหม่...
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากแอนดรูว์ซึ่งจะใช้พระนามเดิมคือ แอนดรูว์ เมานต์แบ็ตเทน วินด์เซอร์ ประกาศสละพระอิสริยยศ ดยุกแห่งยอร์ก และสละเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งการ์เทอร์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่มีศักดิ์สูงสุดของสหราชอาณาจักร เมื่อกลางเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ท่ามกลางการกดดันที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากแอนดรูว์มีความสนิทสนมกับ นายเจฟฟรีย์ เอปสตีน เศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน ผู้ต้องโทษล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนและเสียชีวิตในเรือนจำเมื่อปี 2562...
แถลงการณ์สำนักพระราชวังบักกิงแฮมระบุว่า แอนดรูว์ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการให้ยกเลิกสัญญาเช่าคฤหาสน์รอยัลลอดจ์ในพระราชวังวินด์เซอร์แล้วและจะย้ายไปประทับที่ตำหนักซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์ฟอล์ก ทางตะวันออกของอังกฤษ...
“การตำหนิติเตียนเหล่านี้ถือว่ามีความจำเป็น แม้พระองค์ยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ที่มีต่อพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ที่จะแสดงให้ชัดเจนถึงความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งของพระองค์มีต่อเหยื่อและผู้รอดชีวิตจากการล่วงละเมิดทุกรูปแบบ”...
รายงานระบุด้วยว่า น.ส.เวอร์จิเนีย จุฟเฟร หนึ่งในเหยื่อที่ยื่นฟ้องแอนดรูว์ว่าล่วงละเมิดทางเพศเมื่อตอนยังเป็นผู้เยาว์ ตัดสินใจยอมความซึ่งแหล่งข่าววงในรายงานว่ามีการจ่ายเงินราว 12 ล้านปอนด์ หรือกว่า 526 ล้านบาทในขณะนั้น แม้แอนดรูว์จะยืนกรานปฏิเสธคำให้การของน.ส.จุฟเฟรมาโดยตลอด
แต่คดีดังกล่าวกลับมาเป็นที่จับตาอีกครั้งเมื่อหนังสือบันทึกความทรงจำของน.ส.จุฟเฟรถูกตีพิมพ์เมื่อต้นเดือนต.ค. ในหนังสือน.ส.จุฟเฟรกล่าวว่าแอนดรูว์เชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเธอเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของเขา
ขณะที่จดหมายโต้ตอบระหว่างแอนดรูว์และนายเอปสตีนจากปี 2554 ซึ่งตีพิมพ์โดยเดอะเมล์ออนซันเดย์และเดอะซันเปิดเผยว่าแอนดรูว์บอกกับนายเอปสตีนว่าพวกเขาควร “ติดต่อกันอย่างใกล้ชิด” และพวกเขาจะ “เล่นกันบ้างในเร็วๆ นี้”...
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012