2 มิ.ย. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วานนี้ (1 มิ.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันภายในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (UCLA) ลอสแองเจลิส สหรัฐฯ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในอาคารวิศวกรรมของมหาวิทยาลัย และคาดว่าหนึ่งในนั้นเป็นมือปืนผู้ก่อเหตุ
ชาร์ลี เบ็ค ผู้บัญชาการตำรวจลอสแองเจลิส เผยว่า เบื้องต้นคาดว่าเหตุดังกล่าวเป็นการฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย ซึ่งตอนนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้ ทำให้มีการแจ้งเตือนทางเทคนิคไปทั่วเมืองลอสแองเจลิส เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจัดการกับเหตุร้ายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่มหาวิทยาลัยได้ประกาศปิดทางเข้าออก และมีอีเมล์ถึงนักศึกษาทุกคนแจ้งว่า มือปืนอยู่ภายในอาคารวิศวกรรม
วันนี้ (31 พ.ค.) เฟซบุ๊ก วัน อยู่บำรุง ของ นายวัน หรือ วันเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายคนรองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "แก๊งวันพอยท์ชักจะใหญ่โตกันใหญ่แล้วนะอยากรู้จังว่าโตทันวันเหลิมกันมั้ย!!!ปล.ไอ้เด็กที่มาหาเรื่องลูกผมมันบอกว่าอยู่แก๊งค์นี้ไผ่ ลิกค์ กำแพงเพชร"
ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้เฟซบุ๊กนายวัน ได้โพสต์ภาพจากเฟซบุ๊กเด็กวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่เข้ามาด่าทอบุตรชายของตน โดยระบุว่า "ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงทำตัวเป็นนักเลงกันจังเลย...ไอ้หนูเอ๊ย...ระวังพ่อแม่จะเดือดร้อนนะลูก ลูกผมไม่ใช่นักเลงแต่ถ้าใครมารังแกลูกผม #ผมไม่ยอม!!!"
สำหรับบุตรชายของนายวัน อยู่บำรุงนั้นคือ "กาโม่" อาชวิน อยู่บำรุง ซึ่งปัจจุบันศึกษาอยู่คณะศิลปะศาสตร์บัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ) ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่วนไผ่ วันพอยท์ นั้นเป็นชื่อในวงการของ นายไผ่ ลิกค์ บุตรชายนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีและบ้านเลขที่ 111 พรรคไทยรักไทย ปี 2554 นายไผ่ ลิกค์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกำแพงเพชร เขต 1 สังกัดพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในวงสังคมว่าเป็นแฟนหนุ่มของ ดาราสาว "ดิว" อริสรา ทองบริสุทธิ์
ทั้งนี้หลังจากโพสต์ข้อความดังกล่าวก็มีคนรู้จักนายวันเข้ามาสอบถามถึงเรื่องราว โดยนายวันซึ่งเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้ยืนยันว่า ตนตรวจสอบพบว่าคนที่มาหาเรื่องลูกตนยืนยันว่าเป็นคนของแก๊งวันพอยท์แน่นอน ทั้งนี้ตนเป็นคนชัดเจน และเรื่องลูกไม่ยอมใครแน่
'โปรเม' เอรียา จุฑานุกาล ระเบิดฟอร์มเยี่ยม หลังจบการแข่งขันกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ แอลพีจีเอ วอลวิค แชมเปี้ยนชิพ ที่รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา รอบสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทำให้ 'โปรเม' คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ นับเป็นการคว้าแชมป์ แอลพีจีเอ ทัวร์ 3 รายการติดต่อกัน ทำให้ 'โปรเม' ผงาดขึ้นอันดับ 10 ของโลกทันที โดยเกมวันสุดท้าย'โปรเม'สามารถเก็บเพิ่มได้อีก 5 อันเดอร์พาร์ ไม่เสียแม้แต่โบกี้เดียว รวมสกอร์4วันจบที่ 15 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์วอลวิค แชมเปี้ยนชิพ ทันที ชัยชนะครั้งนี้ทำให้'โปรเม'เป็นโปรสาวคนแรกที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 3 รายการแบบติดต่อกัน นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งแอลพีจีเอ ทัวร์ครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1950 ซึ่งเหมือนกับ 'น้องเม' รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวไทย มือ1ของโลกที่สามารถคว้า 3 แชมป์ได้ในรอบปี หลังจบการแข่งขัน 'น้องเม' รัชนก อินทนนท์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเพื่อแสดงความดีใจกับ 'โปรเม' เอรียา จุฑานุกาล โดยระบุว่า “ยินดีด้วยนะเมย์ สามแชมป์ติด... นักกีฬาหญิงไทยต้องไม่แพ้ชาติใดในโลก น้องเมย์ กับ โปรเมย์” นอกจากชื่อที่เหมือนกันและเกิดในปีเดียวกันแล้ว โดย 'โปรเม'เกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2538 ส่วน 'น้องเม'เกิดวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2538 ทั้งนี้ 'โปรเม'และ'น้องเม' ยังสร้างความสุขให้คนไทยในการคว้าแชมป์ 3รายการติดต่อกันได้อีกด้วย โดยในปีนี้ทั้งคู่ยังมีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น
เจ้าหน้าที่จับกุม น.ส.แพรพิชชา สมัตถ์สรบุตร พลเมืองนครอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุลักลอบเอากระเป๋าแบรนด์หรู เช่น กุชชี เบอร์เบอร์รี และเฟนดี จากห้างสรรพสินค้า ด้วยการคืนสินค้าเพื่อรับเงินคืน
กรมสอบสวนความมั่นคงภายในของสหรัฐ (Homeland Security Investigations) ระบุว่าเอกสารที่ยื่นต่อศาลว่า น.ส.แพรพิชชา จะสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์หรู โดยราคาแต่ละใบไม่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (71,000 บาท) จากเว็บไซต์ของห้างสรรพสินค้าชั้นนำแห่งหนึ่ง แล้วจะนำกระเป๋าถือ "เลียนแบบ" ที่สั่งซื้อมาจากจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง ไปคืนเพื่อรับเงินสดคืนจากห้างสรรพสินค้าดังกล่าวในรัฐต่างๆ ทั่วประเทศอย่างน้อย 12 รัฐ ต่อมา น.ส.แพรพิชชา จะขายกระเป๋าถือแบรนด์หรูของแท้ผ่านเว็บไซต์ อีเบย์ หรือบัญชี อินสตาแกรม โดยลูกค้าที่เข้ามาสั่งซื้อไม่ทราบถึงที่มาที่ไป
เมื่อเดือน ก.ย.2557 น.ส.แพรพิชชาส่งอีเมล์ ถึงผู้ผลิตกระเป๋าถือเลียนแบบรายหนึ่งว่า เป็นกระเป๋าปลอมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และขอให้ส่งมาให้อีก โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา น.ส.แพรพิชชา ได้รับเงินสดคืนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 35 ล้านบาท) จากห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ยังไม่นับรายได้จากการขายกระเป๋าถือของแท้ในเว็บไซต์อีก
การจับกุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายตรวจสอบทุจริตของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว กรมตำรวจนครอาร์ลิงตัน และกรมสอบสวนความมั่นคงภายใน ซึ่งปลอมตัวเป็นลูกค้าสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์หรูจาก น.ส.แพรพิชชา โดยเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านพักของเธอในมลรัฐอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ตรวจพบกระเป๋าถือของปลอม 572 ใบ
น.ส.แพรพิชชา ถูกจับกุมข้อหาทุจริตทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีโทษจำคุกถึง 20 ปี โดยจะดำเนินการฟ้องร้องในศาลเมืองอเล็กซานเดรีย รัฐเวอร์จิเนีย วันที่ 1 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ น.ส.แพรพิชชา มีภูมิลำเนาในไทย แต่ยังไม่ทราบถึงข้อมูลสถานพลเมืองหรือการย้ายถิ่นฐานมาสหรัฐ
เว็บไซต์บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ระบุ สวิตเซอร์แลนด์เตรียมเปิดอุโมงค์สำหรับรถไฟความเร็วสูงที่ยาวและลึกที่สุดในโลก หลังใช้เวลาก่อสร้างกว่า 20 ปี
อุโมงค์ก็อตธาร์ด เป็นอุโมงค์รถไฟลอดใต้เทือกเขาสวิสแอลป์ ความยาว 57 กิโลเมตร เชื่อมพื้นที่ยุโรปเหนือและยุโรปใต้เข้าด้วยกัน ทางการสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า อุโมงค์ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติการขนส่งสินค้าของภูมิภาคยุโรป จะช่วยให้สินค้าที่ปัจจุบันต้องขนด้วยรถบรรทุกราว 1 ล้านคันต่อปีสามารถขนส่งผ่านเส้นทางรถไฟได้ทั้งหมด
อุโมงค์ก็อตธาร์ด ทำลายสถิติที่อุโมงค์รถไฟของญี่ปุ่นที่ทำไว้ที่ 53.9 กิโลเมตร ขณะที่อุโมงค์เชื่อมอังกฤษและฝรั่งเศส ที่มีความยาว 50.5 กิโลเมตรตกไปอยู่อันดับ 3
รายงานระบุว่า อุโมงค์ก็อตธาร์ด ซึ่งใช้งบประมาณในการสร้าง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 428,000 ล้านบาท งบประมาณซึ่งได้มาจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมัน ค่าผ่านทางพาหนะขนาดใหญ่ รวมถึงเงินกู้ของรัฐที่จะจ่ายคืนได้ภายใน 10 ปี ได้รับการสนับสนุนจากการทำประชามติเมื่อปี 2535 ต่อมาอีก 2 ปี ผู้ลงคะแนนเสียงก็สนับสนุนข้อเสนอของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เสนอให้ย้ายการขนส่งสินค้าทั้งหมดในสวิตเซอร์แลนด์ไปใช้การขนส่งทางรางแทน
ขณะที่อุโมงค์ดังกล่าวจะสามารถใช้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเมืองเจนัว ในประเทศอิตาลี ได้ โดยสามารถลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กับเมืองมิลาน ของอิตาลี ลงได้ 1 ชั่วโมง ถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที รถไฟขนส่งจำนวน 260 ขบวน และรถไฟโดยสาร 65 ขบวนจะผ่านอุโมงค์ดังกล่าวโดยใช้เวลาเพียง 17 นาทีเท่านั้น
ทั้งนี้ อุโมงค์ดังกล่าวลึกจากหน้าดินของภูเขาด้านบนมากที่สุด 2.3 กิโลเมตร มีอุณหภูมิใต้ดินสูงถึง 46 องศาเซลเซียส ขณะที่วิศวกรต้องระเบิดผ่านชั้นหินทั้งหมด 73 ชนิด ทั้งชนิดที่แข็งแบบหินแกรนิต และที่อ่อนนุ่มแบบน้ำตาล โดยมีหินจำนวน 28 ล้านตันถูกขนออกมา ขณะที่มีคนงานเสียชีวิตระหว่างก่อสร้าง 9 ราย
วันนี้ (31 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของศิษยานุศิษย์ของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายที่ขยายวงกว้างในวัดต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศว่า ก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ มีการขยายความกันไปเรื่อย ความจริงเป็นเรื่องคดีความของคนไม่กี่คนแล้วก็ขยายไปยังศิษยานุศิษย์ ไปทั้งในและต่างประเทศ จัดทีวีถ่ายทอดสดไปทั่วโลกเดินไปไหนมาไหนก็ถ่ายทอดทั้งหมด ก็สมควรแล้วจะให้ผมทำอย่างไร แล้วถ้าดีเอสไอนำกำลังตำรวจ ทหารเข้าไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นคิดดูกันบ้าง ปี 2553 มันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีใครสักคนเอาอาวุธปืนมายิงใส่กันแต่ละข้างจะเกิดอะไรขึ้น เอาทหาร ตำรวจเข้าไป แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนยิงเข้ามา ทางนี้ก็ต้องป้องกันตัวมันก็จะไปโดนคนที่สวดมนต์อยู่หรือเปล่า อยากให้เป็นอย่างนั้นกันหรือ ถ้าอยากก็เร่งกันเข้ามาเรื่อยๆ กดดันเจ้าหน้าที่กันต่อไป กล่าวหาว่าไม่ไปทำหน้าที่เสียที หาว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
เมื่อถามว่า ที่บอกว่าจับวันนี้ไม่ได้ วันหน้าก็จับได้ มั่นใจคิดว่าจะจับตัวได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เอาเป็นว่าชาตินี้จับได้แน่นอน” ก่อนจะกล่าวเชิงล้อเล่นว่า เดี๋ยวให้สื่อเข้าไปก่อนใส่เสื้อเกราะกันให้ดี เมื่อถามว่า แต่ปัญหาขณะนี้คือฝ่ายที่ถูกกล่าวหายังมีพละกำลังในการต่อสู้ และมีกระบวนการต่างๆ ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สื่อก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดก็ช่วยสร้างการรับรู้ให้ประชาชน ถ้าคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่ถูกก็ต้องช่วยกัน ไม่ใช่ไปเขียนเข้าข้างทั้งสองฝ่าย
เมื่อถามว่า การดำเนินการจะสามารถทำได้ภายในกำหนดเวลาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “สื่อถามกันไม่เลิก เอาเป็นว่าในชีวิตของพวกเธอยังอยู่ ฉันจะทำให้” เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ายังไม่สามารถบอกระยะเวลาได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ไม่สามารถ มีความสามารถตลอดเวลา แต่ยังไม่ทำตอนนี้ ด้วยเหตุผลและความจำเป็น ด้วยหลักการไม่อยากให้ประชาชนเกิดการบาดเจ็บล้มตาย แค่นี้เหตุผลยังไม่พอหรือ จะเอาอะไรอีก หรือต้องการให้มีคนตาย แล้วจับได้อย่างที่พอใจหรือไม่ ไปลงประชามติมา
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนว่า เกิดเหตุนักศึกษาเกาหลีใต้วัย 25 ปี กระโดดลงจากชั้นที่ 20 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ที่เมืองกวางจู ของเกาหลีใต้ เพื่อพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่ปรากฏว่า ร่างของนักศึกษาชายได้หล่นลงมาทับชายที่กำลังเดินมากับครอบครัวและเดินผ่านมาตรงจุดเกิดเหตุพอดี ส่งผลให้นักศึกษาและชายผู้โชคร้ายเสียชีวิต
โดยสำนักข่าวยอนฮัป รายงานว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ขณะที่ชายผู้โชคร้ายรายนี้เป็นข้าราชการของรัฐบาลท้องถิ่น วัย 38 ปี อยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านพร้อมกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน และลูกชาย แต่จู่ๆ ร่างของนักศึกษาชายก็ร่วงลงมาทับตัวชายผู้โชคร้ายรายนี้ หลังเกิดเหตุชายทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครรอดชีวิต
ยอนฮัปรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีแผนที่จะตั้งข้อหาฆาตกรรมแก่นักศึกษาชายที่ฆ่าตัวตาย เพื่อให้ครอบครัวของชายที่ถูกทับเสียชีวิตสามารถนำไปเบิกเงินประกันชีวิตได้
เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายนิติบัญญัติของคณะกรรมการสาธารณสุขรัฐสภาเดนมาร์ก มีมติจะประกาศถอดการเป็น”คนข้ามเพศ”ออกจากการเป็นความเจ็บป่วยทางจิต ในบทบัญญัติแนวปฎิบัติทางคลินิกว่าด้วยด้วยความเจ็บป่วยของกระทรวงสาธารณสุข โดยจะเริ่มประกาศให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม ปีพ.ศ. 2560
“มันเป็นเรื่องไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นความเจ็บป่วย ” เฟลมมิ่ง มอลเลอร์ มอร์เทนเซ่น รองประธานคณะกรรมการสาธารณสุขรัฐสภาเดนมาร์ก กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี ทั้งยังว่า ” กลุ่มคนข้ามเพศในเดนมาร์ก มีความปรารถนามานานแล้ว ที่อยากให้ลบสิ่งนี้ออกจากแนวปฏิบัติทางคลินิกว่าด้วยด้วยความเจ็บป่วยของกระทรวงสาธารณสุข ”
รายงานข่าวระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงนี้ ยังมีวัตถุประสงค์ต้องการกดดันองค์การอนามัยโลก หรือ ฮู ( (WHO) ซึ่งยังไม่มีการถอดภาวะข้ามเพศ(Transsexualism ) หรือภาวะของคนที่ไม่ยอมรับเพศที่แท้จริงโดยกำเนิดของตนเองและมีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ต้องการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงเพศ ออกจากรายการความเจ็บป่วยทางจิต
ทั้งนี้ มอร์เทนเซ่น ยังกล่าวด้วยว่า “เดนมาร์ก จะไม่อดทนต่อองค์การอนามัยโลกอีกต่อไป ซึ่ง จะมีการหารือกันในประเด็นดังกล่าวภายในปีนี้ ”
องค์การนิรโทษกรรมสากล ได้ออกมายกย่องการตัดสินใจของเดนมาร์ก โดยว่าจะทำให้เดนมาร์ก เป็น แบบอย่างที่ดีต่อเรื่องสิทธิของคนข้ามเพศ
ด้านกลุ่ม LGBT Denmark หรือกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในเดนมาร์ก ได้ออกมาแสดงความยินดีต่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดย ลินดา ธอร์ เพดเดอร์เซ่น โฆษกกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในเดนมาร์ก กล่าวว่า “การถอดคนข้ามเพศออกจากหมวดของความเจ็บป่วยทางจิต เท่ากับเป็นการลบตราบาปให้แก่คนข้ามเพศ”
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012