ข่าว
เปิดโผ ครม.ล่าสุด เศรษฐาควบคลัง สุทินจากกลาโหมไปศึกษาธิการ

โผ ครม.ล่าสุด เศรษฐาควบคลัง ดึงปลัดคลังนั่ง รมช. สุทินขยับจากกลาโหม ไปเป็นศึกษาธิการ อนุทินจ่อได้ มท.1

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การจัดทำบัญชีคณะรัฐมนตรีเศรษฐา 1 ว่าขณะนี้กระทรวงเกรดเอหลายกระทรวงที่ยังไม่ลงตัว ยังมีการต่อรองระหว่างพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ

โดยพรรคเพื่อไทยพยายามยืนหลักว่า รัฐมนตรีขั้วรัฐบาลเก่าต้องไม่นั่งในกระทรวงเดิม จึงต้องมีการต่อรองกันอย่างหนักว่าพรรคเพื่อไทยจะหากระทรวงอะไรที่เหมาะสมมาแลก

แต่โผที่ค่อนข้างนิ่งแล้ว พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนายกฤษฏา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังที่จะเกษียณอายุราชการเดือนหน้านี้ได้รับการวางตัวเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นรองนายกรัฐมนตรี คุมทีมเศรษฐกิจและการต่างประเทศ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนางมนพร เจริญศรี เป็น รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็น รมช.คมนาคม

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ลูกสาวนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจการท่องเที่ยวภูเก็ต และพังงา ในวันที่ 25-26 สิงหาคม พร้อมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีด้วย

ขณะที่ชื่อของนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่คุมโซน กทม. ขณะนี้ตำแหน่งยังไม่นิ่ง อยู่ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

เช่นเดียวกับนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ล่าสุดถูกขยับมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ส่วนโควตาพรรคพลังประชารัฐ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รองนายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

พรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอีกกระทรวงที่ได้คือตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

พรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

กระทรวงที่ยังไม่นิ่ง อยู่ระหว่างการพูดคุย ต่อรอง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่พรรคภูมิใจไทยยื่นเงื่อนไขกับพรรคเพื่อไทย ให้ตัดสินใจว่าจะให้กระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคม ตกผลึกแล้วว่านายสุริยะได้ตำแหน่ง รมว.คมนาคม

ดังนั้น ทำให้เก้าอี้ มท.1 จะตกมาเป็นของพรรคภูมิใจไทย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องการนั่งเก้าอี้ตัวนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามโผล่าสุดมีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

สำหรับตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ หรือที่เรียกว่านายกฯ น้อยนั้น มีการวางตัว นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นเลขาธิการนายกฯ

รัสเซียยิงสกัดโดรนยูเครน 42 ลำ โจมตีไครเมีย

รัสเซียประสบความสำเร็จในการสกัดโดรนจากยูเครน 42 ลำ ใกล้กับคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งนับเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดที่มีเป้าหมายที่คาบสมุทรไครเมีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุวันนี้ (25 ส.ค.) ว่า รัสเซียยิงถล่มโดรนของยูเครน 42 ลำใกล้คาบสมุทรไครเมีย ถือเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดบนคาบสมุทร และหนึ่งวันหลังจากที่ยูเครนอ้างว่ากองกำลังพิเศษบุกโจมตีดินแดนดังกล่าว

ไครเมียซึ่งถูกรัสเซียยึดครองในปี 2557 ตกเป็นเป้าหมายของยูเครนตลอดช่วงการรุกรานยูเครนของรัสเซีย แต่กลับตกอยู่ภายใต้การโจมตีที่รุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวในเทเลแกรมว่า โดรน 9 ลำ “ถูกทำลายเหนืออาณาเขตของสาธารณรัฐไครเมีย” ส่วนอีก 33 ลำ ถูกรบกวนด้วยระบบการรบทางอิเล็กทรอนิกส์ และทำให้โดรนตกไปก่อนที่จะบินไปถึงเป้าหมาย โดยไม่ได้ระบุว่ามีความเสียหายหรือมีผู้เสียชีวิตหรือไม่

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่แต่งตั้งโดยรัสเซีย ระบุว่า มีโดรนหลายลำถูกทำลายเหนือทะเล นอกชายฝั่งแหลมเคอร์โซเนส ของคาบสมุทรไครเมีย แหลมดังกล่าวตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทร ใกล้กับเมืองเซวาสโทพอล ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองเรือทะเลดำของรัสเซีย

นายมิคาอิล ราซโวซาเยฟ ผู้ว่าการเมืองเซวาสโทพอล ระบุบนเทเลแกรมว่า หน่วยบริการฉุกเฉินรายงานว่า ไม่พบความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน ที่เกิดจากโดรนดังกล่าว แต่ยังไม่แน่ชัดว่า โดรนดังกล่าวรวมอยู่ในกลุ่ม 42 ลำที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานหรือไม่

รัฐบาลยูเครนเน้นย้ำมาโดยตลอดว่า มีแผนจะยึดคาบสมุทรไครเมียกลับคืนมา ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ ผ่านมา มีการกำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซียบนคาบสมุทรไครเมีย ด้วยการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนมากถึง 28 ลำ

นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า การป้องกันทางอากาศของรัสเซียสามารถสกัดการโจมตีด้วยขีปนาวุธของยูเครนในภูมิภาคคาลูกา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก โดยไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้เสียชีวิต

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์ว่า ขีปนาวุธที่ยูเครนยิงมา ถูกตรวจพบและทำลายโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศเหนืออาณาเขตของภูมิภาคคาลูกา ตามการระบุของทางการรัสเซีย เมื่อเร็วๆ นี้ ภูมิภาคคาลูกาซึ่งอยู่ติดกับภูมิภาคมอสโก ตกเป็นเป้าการโจมตีด้วยโดรนเกือบทุกวัน

ทั้งนี้ ยูเครนแทบไม่เคยออกมากล่าวอ้างแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตีภายในรัสเซีย หรือบนดินแดนที่รัสเซียควบคุมในยูเครน แต่มีการระบุในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่า การทำลายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของรัสเซีย ทำให้ยูเครนสามารถโจมตีตอบโต้ได้

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า จะเริ่มฝึกกองทหารยูเครนให้บินเครื่องบินรบ เอฟ-16 ที่ฐานทัพกองกำลังพิทักษ์ชาติในรัฐแอริโซนาในเดือนตุลาคมนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีการเปิดเผยว่า สหรัฐฯ อนุญาตให้ประเทศอื่นๆ จัดหาเครื่องบินไอพ่นที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ให้กับยูเครน แม้ว่าในตอนแรกจะลังเลที่จะจัดหาเครื่องบินเหล่านี้ เนื่องจากกลัวว่าอาจทำให้ความตึงเครียดกับรัสเซียเพิ่มสูงขึ้น ยูเครนยืนยันว่า ต้องการเครื่องบินไอพ่นเหล่านี้ ที่จะช่วยให้มีความสามารถในการสู้รบทางอากาศที่เหนือกว่ารัสเซีย

ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign


รัสเซียปัดอยู่เบื้องหลัง เหตุเครื่องบินตกปลิดชีพหัวหน้าวากเนอร์

รัฐบาลมอสโกปฏิเสธ การมีความเกี่ยวข้องไม่ว่าในทางใดก็ตาม กับเหตุเครื่องบินตก ซึ่งคร่าชีวิตนายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกองกำลังทหารรับจ้าง “วากเนอร์”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าจากเหตุการณ์เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เอ็มบราเออร์-135 ประสบเหตุตก กลางทุ่งหญ้าในเขตทางเหนือของกรุงมอสโก ระหว่างเดินทางจากกรุงมอสโก ไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย รวมถึงนายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์ และนายดมิทรี อุตคิน หนึ่งในแกนนำคนสำคัญของวากเนอร์

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า หลายฝ่ายตั้งคำถามและข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชะตากรรมของผู้โดยสารบนเที่ยวบิน โดยเฉพาะการสันนิษฐานของฝ่ายตะวันตก “ซึ่งมาจากเพียงมุมเดียว” และ “เป็นเรื่องที่ไม่มีความจริงอย่างสิ้นเชิง”

ทั้งนี้ เปสคอฟยืนยันว่า การสืบสวนสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเป็นไปด้วยความละเอียด รอบคอบ และโปร่งใส โดยจะมีการเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบด้วย

เมื่อมีการซักถามว่า แล้วประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะไปร่วมพิธีศพของพริโกซินหรือไม่ โฆษทำเนียบเครมลินกล่าวว่า ต้องให้การสืบสวนสอบสวนทั้งหมดเสร็จก่อน และที่สำคัญ “ตอนนี้ผู้นำรัสเซียมีภารกิจรัดตัวมาก” ส่วนคำถามเกี่ยวกับอนาคตของวากเนอร์ “ยังตอบไม่ได้”

อย่างไรก็ตาม การที่โศกนาฏกรรมเครื่องบินตกครั้งนี้เกิดขึ้น 2 เดือนพอดี หลังพริโกซินนำนักรบวากเนอร์จำนวนมาก เคลื่อนพลกลับจากยูเครนมายังรัสเซีย เพื่อ “ก่อกบฏทางอาวุธ” ก่อให้เกิดคำถามมากมายจากฝ่ายตะวันตก

ขณะที่ปูตินกล่าวถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา “แสดงความเสียใจอย่างสูงสุดไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน” ต่อ “โศกนาฏกรรมครั้งนี้” ผู้นำรัสเซียกล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวรู้จักกับพริโกซินมานานแล้ว เป็นคนมีพรสวรรค์ “แต่ซับซ้อนและทำผิดพลาดร้ายแรงมาแล้วหลายครั้ง” กระนั้น พริโกซิน “สามารถบรรลุเป้าหมายได้ตลอด”

ทำเนียบเครมลินโต้ เปล่าสั่งฆ่า ‘พริโกซิน’ ฟาดโกหกสิ้นเชิง: สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ทำเนียบเครมลินของรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งฆ่านายพริโกซิน โดยบอกว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวของชาติตะวันตกเป็นเรื่องโกหกโดยสิ้นเชิง พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะยืนยันการเสียชีวิตของนายพริโกซิน โดยอ้างถึงความจำเป็นในการรอผลการตรวจสอบต่างๆ

ภายหลังจากที่เครื่องบินส่วนตัวของนายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำกลุ่มวากเนอร์ ประสบเหตุตกที่ภาคตะวันตกของประเทศรัสเซีย ระหว่างเดินทางจากกรุงมอสโกไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา นักการเมืองและนักวิเคราะห์ของชาติตะวันตกให้ความเห็นว่าปูตินเป็นผู้สั่งฆ่านายพริโกซินเพื่อเป็นการลงโทษจากความพยายามที่จะก่อกบฏเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดต่อรัฐบาลรัสเซียภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีปูตินนับตั้งแต่ขึ้นมามีอำนาจในปี 1999

ทำให้นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมากล่าวปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าเป็นเรื่องเท็จ โดยเปสคอฟกล่าวว่า “ขณะนี้มีการคาดการณ์กันมากมายเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินตกและการเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าของผู้โดยสารบนเครื่องบิน รวมถึงนายเยฟเกนี พริโกซิน แน่นอนว่าในประเทศตะวันตก การคาดการณ์เหล่านี้ถูกนำเสนอจากแง่มุมที่เราทราบกันดี ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องโกหกโดยสิ้นเชิง”

โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวอีกว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะรอผลการตรวจสอบต่างๆ รวมถึงผลการสอบสวนถึงสาเหตุการตกของเครื่องบิน ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด และบอกอีกว่าประธานาธิบดีปูตินไม่ได้พบกับนายพริโกซินเมื่อเร็วๆ นี้ และยังตอบไม่ได้ว่าปูตินจะไปร่วมงานศพของนายพริโกซินหรือไม่ เนื่องจากตารางงานที่แน่น นายเปสคอฟยังได้ปฏิเสธที่จะตอบถึงอนาคตของกลุ่มวากเนอร์ที่ขณะนี้ยังไร้ผู้นำคนใหม่

เครดิตภาพ : AFP และ Line@matichon


อนามัยโลกเผย พบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ BA.2.86 ในปท.ใหม่เพิ่ม

เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมว่า พบ “BA.2.86” ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่มีการกลายพันธุ์สูง ในประเทศใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์และแอฟริกาใต้ นอกเหนือจากที่พบในอิสราเอล เดนมาร์ก สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมาแล้ว

ทั้งนี้เชื้อโควิดกลายพันธุ์ใหม่ BA.2.86 นี้ ที่ดับเบิลยูเอชโอ จัดให้เป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยที่ต้องจับตามอง ได้มีการกลายพันธุ์มากถึงกว่า 35 จุดเมื่อเทียบกับ XBB.1.5 ที่เป็นสายพันธุ์ย่อยซึ่งมีการระบาดอย่างแพร่หลายในปี 2023 นี้

โดยสายพันธุ์ย่อย BA.2.86 พบครั้งแรกในประเทศเดนมาร์กเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังมีการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสในผู้ป่วยติดเชื้อรายหนึ่งที่มีความเสี่ยงป่วยหนัก นับแต่นั้นได้มีการตรวจพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ใหม่นี้ในผู้ป่วยที่แสดงอาการรายอื่นๆ ในการคัดกรองที่สนามบินและในตัวอย่างน้ำเสียใน บางประเทศ

นักวิทยาศาสตร์หลายรายกล่าวว่า ในขณะที่การเฝ้าระวังเชื้อกลายพันธุ์ BA.2.86 นี้จะสำคัญ แต่ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดคลื่นการระบาดและการเสียชีวิตที่ร้ายแรงได้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่มีการสร้างขึ้นทั่วโลกทั้งจากวัคซีนและการติดเชื้อโควิดกันก่อนหน้านี้

มาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของดับเบิลยูโอ กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ BA.2.86 ยังคงมีน้อย และว่า กรณีติดเชื้อที่รับรู้นั้นไม่มีความเชื่อมโยงกัน ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังมีการระบาดในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการลดการเฝ้าระวังทั่วโลก

ด้านดอกเตอร์นีราฟ ชาห์ รองผู้อำนวยการใหญ่ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ กล่าวว่า ซีดีซีและหน่วยงานอื่นๆ ที่พบเชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อยใหม่นี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประชุมหารือกับนักวิทยาศาสตร์ในช่วงสุดสัปดาห์และได้ออกรายงานประเมินความเสี่ยงในกลางสัปดาห์ระบุว่า มีการพบผู้ติดเชื้อดังกล่าวถึงวันที่ 23 สิงหาคม จำนวน 9 ราย และยังพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อยนี้ในน้ำเสียในสวิตเซอร์แลนด์ด้วย

รายงานยังระบุว่าดูเหมือนว่าวิธีทดสอบและยารักษาในปัจจุบันยังคงมีประสิทธิภาพในการรับมือกับ BA.2.86 ได้ แม้การกลายพันธุ์อาจทำให้เชื้อไวรัสดังกล่าวมีความสามารถมากขึ้นที่จะทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วและผู้ที่ติดเชื้อโควิดมาแล้ว ติดเชื้อนี้ได้ และขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดอาการป่วยรุนแรงขึ้น


ได้แล้ว ! เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ถึงเวลาพิสูจน์ฝีมือ เศรษฐกิจ” หมดเวลาแต่งตัว

25 สิงหาคม 2566 : สยามรัฐออนไลน์: และแล้ววันนี้ก็มาถึง ! วันที่อดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้งในรอบกว่า 17 ปี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีความผิดต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา และการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาลงมติเลือก “นายกรัฐมนตรี” เป็นการประชุมเลือกนายกฯ รอบที่สาม โดยพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย

ซึ่งในช่วงการโหวตสามารถผ่านด่านส.ว. และ พรรคร่วมรัฐบาล ที่เทคะแนนเสียงให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อย !!!

หลังจากนี้อีกไม่นานเกินรอจะได้เห็นหน้าตาคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา1” ว่าเป็นอย่างไร ???

โดยเฉพาะ “รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ” จะมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจหรือไม่ เปิดรายชื่อมาแล้ว ไม่ร้องยี้ เรียกความเชื่อมั่นจากภาคเอกชน นักลงทุน และภาคประชาชนได้

แต่ที่แน่ๆ หลังจากที่ประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรี กระแสการตอบรับของการลงทุนโดยเฉพาะตลาดหุ้นที่ดีดขึ้นมาอย่างแรงทะลุกว่า 20 จุด หลังจากในช่วงก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นไทยแทบจะหงอยเหงา ไม่มีนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ กล้าที่จะลงทุน เพราะไม่มีความชัดเจนในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจประเทศ

โดยในมุมมองของภาคเอกชน กับการที่ประเทศไทยได้ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี นั้น

“นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต” รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เป็นทางเลือกที่ดีในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากประเทศไทย เลือกตั้งเสร็จมา 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้นายกรัฐมนตรี ทั้งที่สถานการณ์เศรษฐกิจของไทย มีปัญหารุมเร้าต้องแก้ไขเป็นจำนวนมาก ทั้งปัญหาส่งออก ที่ติดลบต่อเนื่อง หนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงขึ้น ปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ค่าไฟ น้ำมัน ปัญหาภัยแล้งที่อาจจเกิดขึ้น

“นายชัยชาญ เจริญสุข” ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) มีความเห็นว่า ภาคเอกชน รอดู 3 เรื่องหลังจากนี้ คือ 1.การเร่งจัดตั้งรัฐบาล อย่ารอนานกว่านี้ 2.ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงอีกแล้ว และ 3.อยากให้เร่งทำงานโดยเร็ว เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้ามาก ทั้งภาคการส่งออกปีนี้ที่ลดลงมาก ภัยแล้งเริ่มรุนแรงขึ้น ต้นทุนผลิตอยู่ในระดับสูง ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งปัญหาสำคัญเหล่านี้ รอรัฐบาลอยู่ ขอให้เร่งรีบการแก้ไข โดยนายกฯคนใหม่ และครม.ชุดใหม่ จะสร้างความเชื่อมั่นได้มากน้อยเพียงใด ก็ต้องขึ้นอยู่กับการทำงาน และนโยบายต่างๆ ที่จะออกมา แต่อยากให้เห็นแก่ประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ หากการทำงานของรัฐบาลใหม่ ตอบโจทย์ 3 ข้อนี้ได้ ก็น่าจะนำพาประเทศชาติไปได้

เช่นเดียวกับ “นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช” ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีนั้น

ขอย้ำว่ารัฐมนตรีที่อยากได้ โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ ขอให้เป็นคนที่มีความทันสมัย มีประสบการณ์

มีความรู้ความสามารถ เข้ามาช่วยกำหนดทิศทางของประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ แข่งขันกับต่างชาติได้ อยากเห็นรัฐบาลและรัฐมนตรีสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน รวมถึงเกษตรกร รับฟังและนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ไปปรับในมาตรการของรัฐบาล ตอบโจทย์ความต้องการหรือปัญหาของผู้ประกอบการจริงๆ

“ขอเป็นคนทันสมัย ทำงานรวดเร็ว ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าภาคราชการ ภาคเอกชน ได้เป็นอย่างดี ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก และผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม”

ขณะที่ “นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา” รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ภาพรวมดีขึ้น ต้องการให้จัดตั้งเร็วที่สุด ส่วนเรื่องนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือช่วยลดภาระประชาชนที่พรรคเพื่อไทยทยอยปล่อยออกมานั้นยังต้องดูรายละเอียดว่าตรงกับผู้ได้รับความเดือดร้อนมากน้อยเท่าใด ต้องหาวิธีให้รายที่มีโอกาสน้อยสามารถได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือมากขึ้น รวมถึงที่มาของเงิน ไม่ควรมีผลกระทบกับภาคธุรกิจที่กำลังพยายามฟื้นตัวในขณะนี้ ประเมินว่านโยบายที่ออกมา แม้บอกว่าทำทันทีแต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน ผลจะเกิดในปี 2567 มากกว่า ทำให้ปี 2566 ช่วงเดือนที่เหลือนี้เราต้องรักษาฐานการส่งออก สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะจะเข้าช่วงฤดูการท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่นแล้ว ส่วนที่เหลือภาคเอกชนพร้อมช่วยผลักดันอย่างเต็มที่

ส่วน “นายสนั่น อังอุบลกุล” ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่วันนี้การเลือกนายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการสำเร็จจนเป็นที่เรียบร้อย เป็นไปตามความต้องการของหลายฝ่ายที่ต้องการให้ประเทศไทยมีรัฐบาลชุดใหม่เร็วที่สุด เพื่อเข้าสู่โหมดการเดินหน้าเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยหลังจากนี้คงเป็นไปตามกระบวนการทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญที่จะต้องมีการฟอร์ม ครม.ชุดใหม่ ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีบุคคลใดมาประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี โดยภาคเอกชนหวังว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีและตำแหน่งต่างๆ จะมีการพิจารณาบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นผู้เชี่ยวชาญและเหมาะสมในแต่ละด้านอย่างแท้จริง

สำหรับประเด็นข้อเร่งด่วนที่หอการค้าฯ ต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลใหม่เพื่อให้เร่งดำเนินการทันทีในช่วง 100 วันแรก ของการรับตำแหน่ง ได้แก่ 1. การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และลดต้นทุนภาคเอกชนทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า ที่ยังอยู่ในระดับสูงและปัญหาที่กระทบต่อการแข่งขันและการส่งออกของไทย รวมทั้งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ 2. เร่งเสริมความโดดเด่นภาคการท่องเที่ยวที่เป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายและถือเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว

โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกเรื่องการทำวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนให้รวดเร็ว และการเพิ่มเที่ยวบินรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น และ 3. เร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังค้างท่ออยู่ และจัดทำงบประมาณรายจ่าย 2567 ให้เกิดความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ ทั่วประเทศ ตลอดจนเร่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่ๆ จากต่างชาติ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจ้างงาน และเป็นผลดีต่อตัวเลขการส่งออกในอนาคต

นายกรัฐมนตรี “นายเศรษฐา ทวีสิน” หลังจากนี้หมดเวลาแต่งตัว ! มีงานอีกมากให้รอพิสูจน์ฝีมือ !!!

ทรัมป์อวดรูปถ่าย ที่ใช้ทำประวัติอาชญากรรมของตัวเอง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อวดภาพถ่ายหน้าเต็มของตัวเองในเอ็กซ์ สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นภาพถ่ายรูปเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ถ่ายไว้เพื่อทำประวัติอาชญากรรมจากข้อหาแทรกแซงการเลือกตั้ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางไปที่เรือนจำในรัฐจอร์เจียเมื่อวานนี้ ตามหมายจับข้อหาฉ้อโกงและสมคบคิดในคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่เมืองแอตแลนตา โดยเขาถูกถ่ายรูปทำประวัติอาชญากรรมตามขั้นตอน เหมือนจำเลยคนอื่นๆ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีหรืออดีตประธานาธิบดีต้องถ่ายรูปดังกล่าว ก่อนจะได้รับการประกันตัวด้วยวงเงินประกัน 200,000 ดอลลาร์ ใช้เวลารวมไม่ถึง 30 นาทีภายในเรือนจำฟูลตัน เคาน์ตี้ ในเมืองแอตแลนตาของรัฐจอร์เจีย

โดยหลังจากนั้นนายทรัมป์ยังนำภาพถ่ายดังกล่าวไปโพสต์ใน x แพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเอง โดยระบุข้อความว่า แทรกแซงการเลือกตั้ง ไม่เคยยอมแพ้ และลงชื่อว่า โดนัลด์เจทรัมป์ดอทคอม และยังมีการโพสต์รูปดังกล่าวใน “ทรูธ” แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขา โดยเขียนบรรยายใต้ภาพว่า “แทรกแซงการเลือกตั้ง” อีกด้วย

25 ส.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางไปมอบตัวที่เรือนจำเขตฟัลตัน เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ทางตะวันออกของสหรัฐแล้ว ในคดีพยายามล้มล้างผลเลือกตั้งประธานาธิบดีของรัฐจอร์เจียเมื่อปี 2563 ประวัตินักโทษของเรือนจำดังกล่าวยังเผยตัวเลขนักโทษของนายทรัมป์ด้วย คือ หมายเลข P01135809

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐนายทรัมป์อยู่ที่เรือนจำดังกล่าวประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ก่อนถูกปล่อยตัวออกมา โดยวางหลักทรัพย์ประกันตัว 200,000 ดอลลาร์ (7 ล้านบาท) พร้อมเงื่อนไขห้ามใช้โซเชียลมีเดียข่มขู่จำเลยคนอื่นหรือพยานในคดี

ทั้งนี้ สำนวนฟ้องเรียกทรัมป์และจำเลยอีก 18 คน รวมกันว่า “เป็นองค์กรอาชญากรรม” ซึ่งร่วมกันจัดทำเอกสารเท็จ ให้การเท็จ สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สมคบคิดเพื่อฉ้อโกง และสำคัญที่สุดคือ การละเมิดกฎหมายปราบปรามผู้ทรงอิทธิพลและองค์กรทุจริต ซึ่งหากศาลพิพากษาว่ากระทำความผิดส่วนนี้จริง จำเลยอาจต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลานานสูดสุด 20 ปี เฉพาะจากข้อหานี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่รัฐจอร์เจีย เกิดขึ้นประมาณ 1 เดือน หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องร้องอดีตผู้นำสหรัฐ พยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 ข้อหาทั้งหมดประกอบด้วย การสมคบคิดเพื่อฉ้อโกงต่อรัฐบาลสหรัฐ การสมคบคิดเพื่อขัดขวางกลไกการดำเนินงานของรัฐ การขัดขวางและพยายามขัดขวางการดำเนินงานของรัฐ และการสมคบคิดเพื่อละเมิดสิทธิ