ข่าว
พายุ “เตี้ยนหมู่”ถล่มตอนกลางของเวียดนาม ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่น

24 ก.ย. 2564 : เวียดนามอ่วมเจออิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่พัดขึ้นฝั่ง ก่อนอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชั่นเคลื่อนตัวบริเวณ สปป.ลาว กรมอุตุฯไทยเตือนฝนตกหนักตอนกลางถึงตอนบนของประเทศ

เว็บไซต์ vnexpress รายงานว่า ประเทศเวียดนามต้องเผชิญกับพายุอิทธิพลของพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ พัดเข้าถล่มทางตอนกลางของประเทศ ตั้งแต่จังหวัดเถื่อเทียน-เว้ (Thua Thien Hue) ถึง กว๋างหงาย (Quang Ngai) ส่งผลให้มีฝนตกลมพัดแรง หลังคาบ้านเรือนของประชาชนปลิวว่อน และสามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ มากถึง 350 มิลลิเมตร

ซึ่งหลังจากที่พายุพัดขึ้นฝั่งเวียดนามในช่วงเช้าของวันนี้ (24 ก.ย. 64) พายุได้ลดกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น และเคลื่อนตัวอยู่บริเวณชายแดนของสปป.ลาว โดยมีความเร็วลม 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนี้มีทิศทางเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วลม 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งพายุเตี้ยนหมู่ นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่ก่อตัวเคลื่อนที่ในทะเลตะวันออกในปีนี้

ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยาของไทย ได้ออกประกาศคาดการณ์ว่าพายุเตี้ยนหมู่ จะอ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่นเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณจังหวัด มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ในวันนี้ (24 ก.ย 64) ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และะน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุดีเปรสชั่น” ฉบับที่ 1 ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ส่วนอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ ระวังฝนตกสะสม

วันที่ 23 ก.ย. 64 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย เมื่อเวลา 10.00 น. เรื่อง “พายุดีเปรสชั่น” ฉบับที่ 1 โดยระบุว่า พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางที่ทวีกำลังแรงจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังงแรงเมื่อเวลา 07.00 น. โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 14.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.0 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ย. 64) และจะอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง เคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางงในช่วงวันที่ 24-25 ก.ย. 64 ตามลำดับ ส่งผลทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และะน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: VN, กรมอุตุนิยมวิทยา

ระทึก! มือปืนกราดยิงในซูเปอร์มาร์เก็ตสหรัฐฯ เสียชีวิต1ศพ-บาดเจ็บ 12 คน

24 ก.ย. 64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุมือปืนบุกกราดยิงในร้านขายของชำ โครเกอร์ เมืองคอลลิเออร์วิลล์ ใกล้กับเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ มีผู้บาดเจ็บ 12 ราย ในขณะที่คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นการยิงตัวเองเสียชีวิต

ผู้บัญชาการตำรวจคอลเลียร์วิลล์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้านโครเกอร์ในคอลเลียร์วิลล์ และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่กองกำลังร่วม ซึ่งรวมถึงทีมสวาท ได้เข้าให้ความช่วยเหลืออพยพลูกจ้างและลูกค้าออกจากอาคารที่เกิดเหตุ และว่า สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ และหน่วยงานอื่นๆ กำลังสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว

หลังก่อเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญชาวอเมริกัน มือปืนวัย 21 ปี ได้ยอมมอบตัวกับตำรวจ ต่อมามีการสืบสวนพบความเชื่อมโยงกับ แนวคิดรุนแรงต่อต้าน “การเหยียดชาวมุสลิม” และพบว่าอาจจะไม่มีแรงจูงใจทางการเมือง

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ตำรวจสหรัฐฯ เปิดเผยว่า นายอาห์หมัด อัล อัลลีวี อลิซซา วัย 21 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายซีเรีย เป็นผู้ก่อเหตุกราดยิงที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต “คิง ซูเปอร์ส” ในเมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด เมื่อบ่ายวันจันทร์ 22 มี.ค. ตามเวลาในสหรัฐฯ ล่าสุดเขาโดนตั้งข้อหา 10 ข้อหา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยมีการวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่า โดยเบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าเขาลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง และยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้

ลำดับเหตุการณ์นองเลือด

เมื่อเวลา 14.40 นาฬิกา นายอลิซซา ใช้อาวุธปืนพก “Ruger AR-556" ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. หรือประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนก่อเหตุ เขาเดินไปกราดยิงผู้คนที่ลานจอดรถ “คิง ซูเปอร์ส” เสียชีวิต 2 ศพ ก่อนที่จะบุกเข้าไปข้างในซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีคนพลุกพล่าน แล้วลงมือกราดยิงอีกรอบ คราวนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่หน่วยสวาทจะนำกำลังบุกเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้เขาต้องยอมมอบตัว เขาบอกว่าจะขอคุยกับแม่ จากนั้นได้ถอดเสื้อออกและวางปืนลงกับพื้น

โดยตำรวจพบผู้เสียชีวิตนอนเกลื่อนกับพื้น เป็นจำนวน 8 ศพ อายุระหว่าง 20-65 ปี หนึ่งในนั้นคือนายเอริค ทัลลีย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปยิงต่อสู้กับมือปืนจนเสียชีวิต

ทั้งนี้ เหตุกราดยิงและความรุนแรงจากปืนเป็นปัญหาใหญ่ในสหรัฐฯ เนื่องจากการแพร่หลายของอาวุธปืนขนาดเล็กและกฎหมายควบคุมปืนที่ไม่เข้มงวด

หัวหน้าสำนักงานตำรวจเมืองคอลลิเออร์วิลล์ เปิดเผยว่า แม้จะเกิดเหตุกราดยิงบ่อยในสหรัฐฯ แต่จากประสบการณ์ทำงานกว่า 30 ปีของเขา ครั้งนี้เป็นการก่อเหตุสะเทือนขวัญที่สุด โดยหน่วยสวาทถูกส่งไปควบคุมสถานการณ์ก่อนที่คนร้ายจะยิงตัวตาย และได้เข้าไปเคลียร์สถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยไปพบลูกค้าและพนักงานร้านพากันหนีตายเข้าไปล็อกตัวเองไว้ในสำนักงาน บางคนเข้าไปซ่อนตัวในตู้แช่เย็น และบางคนปีนหนีขึ้นบนหลังคา

ขณะที่รถพยาบาลนับสิบคันและเฮลิคอปเตอร์ได้ไปรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง และจนถึง ตอนนี้ตำรวจกำลังสืบสวนหาแรงจูงใจในการก่อเหตุของคนร้าย

ที่มา BBC

5 นักปีนเขาดับบนยอดเขาเอลบรุสในรัสเซีย หลังเจอพายุหิมะถล่ม

เมื่อวันที่ 24 กันยายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยว่า พบนักปีนเขาเสียชีวิต 5 ราย หลังจากที่คนทั้ง 5 และนักปีนเขาคนอื่นๆ ติดอยู่ที่ความสูง 5,000 เมตร เนื่องจากเกิดพายุหิมะถล่มบนยอดเขาเอลบรุส เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา นับเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดของยอดเขาที่สูงสุดในยุโรปในช่วงไม่กี่ปีนี้

ทางกระทรวงระบุว่า นักปีนเขาที่เหลืออีก 14 คน ถูกนำตัวลงไปที่หุบเขา อาซอ (Azau ) ที่อยู่ด้านล่างได้ปลอดภัย โดยใช้เวลาในการช่วยเหลือลงมาเกือบ 5 ชั่วโมง เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากที่สุด เพราะมีทั้งลมแรง ทัศนวิสัยลดลง และอุณหภูมิลดต่ำกว่าศูนย์

เอลบรุสไกด์ บริษัทที่จัดการเดินทางเชิงพาณิชย์ ระบุว่า มีไกด์ผู้เชี่ยวชาญ 4 คนไปกับกลุ่มนักปีนเขาดังกล่าว

ทางบริษัทเปิดเผยผ่านอินสตราแกรมว่า ในวันนั้นระหว่างกำลังปีนขึ้น นักปีนเขาคนหนึ่งรู้สึกไม่สบายและกลับไปพร้อมกับไกด์คนหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็เสียชีวิตในอ้อมแขนของตน ไกด์คนดังกล่าวรอนักปีนเขาคนอื่นๆ อยู่หลายชั่วโมง แต่ต่อมาตัดสินใจกลับมาที่เบสแคมป์และเรียกทีมกู้ภัย

ส่วนนักปีนเขาในกลุ่มที่เหลือยังคงขึ้นไปบนยอดเขา แต่พายุหิมะที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างทางลง ต่อมานักปีนเขาคนหนึ่งขาหักและทำให้คนทั้งกลุ่มช้าลง นอกจากนี้ มีนักปีนเขาสองคนหนาวตัวแข็งจนเสียชีวิต และอีกสองคนหมดสติก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาขณะนำตัวลงมา ไกด์และนักปีนเขาบางคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคหิมะกัด

ทั้งนี้ ยอดเขาเอลบรุสซึ่งอยู่ในเทือกเขาคอเคซัส เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรปด้วยความสูง 5,642 เมตร


ท่องเที่ยวอวกาศไม่ไกลเกินฝัน

วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ เมื่อคนธรรมดาๆ (ที่รวยมาก) ก็สามารถตีตั๋วบินไปเที่ยวอวกาศได้แล้ว โดยเมื่อวันที่ 15 กันยายน เวลา 20.03 น.ตามเวลาท้องถิ่น จรวดฟอลคอล 9 ของสเปซเอ็กซ์ถูกส่งขึ้นจากฐานปล่อย 39เอ ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเล็กน้อยที่ศูนย์อวกาศเคนเนดีขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ในเมืองเคปคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา นี่เป็นครั้งแรกที่ส่งจรวดที่มีแต่คนธรรมดาโดยสารขึ้นไปสู่วงโคจรโลก

การขึ้นไปอวกาศในครั้งนี้เป็นภารกิจที่ชื่อว่า Inspiration4 โดยมีผู้โดยสาร 4 คน นายจาเรด ไอแซกแมน มหาเศรษฐีชาวอเมริกันวัย 38 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ Shift4 Payment โดยเขาเป็นผู้ออกค่าตั๋วเดินทางทั้งหมดมูลค่าราว 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 7,000 ล้านบาท) อ้างอิงจากข้อมูลในนิตยสารไทม์ ส่วนผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ถูกเลือก ได้แก่ เฮย์ลีย์ อาร์เซโนซ์ หญิงชาวอเมริกันวัย 29 ปี เซียน พรอคเตอร์ ศาสตราจารย์ด้านธรณีวิทยาวัย 51 ปีและคริส เซมโบรสกี วิศวกรข้อมูลวัย 42 ปี

พวกเขาทั้ง 4 คนก้าวเข้าไปในห้องโดยสารที่มีแรงดันของแคปซูลจรวดสเปซเอ็กซ์ครูวดรากอนสีขาวแวววาวซึ่งมีชื่อว่า Resilience ขณะสวมชุดนักบินพร้อมหมวกสีขาวดำ ต่อมาแคปซูลพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่มืดมิดและใช้เวลาในการไปถึงวงโคจรเกือบ 10 นาที

ตัวบูสเตอร์ส่วนแรกของจรวดบินกลับมายังโลกและลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยบนแท่นลงจอดที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกบนเรือโดรนชื่อ Just Read the instructions หลังจากแยกออกจากครึ่งบนของยานอวกาศ

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องในศูนย์ควบคุมภารกิจของ SpaceX ขณะที่จรวดขึ้นไปเหนือพื้นโลกเกือบ 200 กม. นายไอแซคแมนอ่านคำแถลงขอบคุณผู้ที่ทำให้เกิดการเดินทางนี้

ด้วยเวลาเพียง 3 ชั่วโมง แคปซูลได้ไปถึงระดับความสูงสุดท้ายของวงโคจร ซึ่งสูงกว่าสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) หรือกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล 585 กม. ด้วยความสูงนี้ยานครูวดรากอนวนรอบโลก 1 รอบทุก 90 นาที ด้วยความเร็ว 27,360 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือเร็วกว่าความเร็วแสง 22 เท่า

เที่ยวบินดังกล่าวเป็นครั้งแรกที่โคจรรอบโลกโดยไม่มีนักบินอวกาศอาชีพเลย โดยเที่ยวบินนี้คาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทาง 3 วันนับจากการปล่อยขึ้นสู่อวกาศไปจนถึงการกลับสู่โลกด้วยการลงจอดบนมหาสมุทรแอตแลนติก

นอกจากนี้เที่ยวบินนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจการท่องเที่ยวอวกาศของสเปซเอ็กซ์อีกด้วย


สหรัฐฯ อนุมัติฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 เฉพาะคนอายุ 65 ปีขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยง

FDA สหรัฐฯ อนุมัติให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้น หรือเข็ม 3 เฉพาะกลุ่มบุคคลที่อายุ 65 ปีขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยง ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วอย่างน้อย 6 เดือน

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 64 ตามเวลาท้องถิ่น สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ออกแถลงการณ์ ว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ ได้มีการแก้ไขการอนุมัติในกรณีฉุกเฉิน ในการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ร่วมกับไบโอเอ็นเทค เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น แบบเข็มเดียว ฉีดให้แก่บุคคลที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงบุคคลกลุ่มเสี่ยง ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิดครบโดสแล้วมาเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน

สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ ระบุว่า กลุ่มบุคคลที่สามารถได้รับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ หรือวัคซีนเข็มกระตุ้นของไฟเซอร์ ได้แก่

- บุคคลอายุ 65 ปีขึ้นไปและผู้สูงอายุ

- บุคคลอายุ 18-64 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่จะป่วยรุนแรงจากโรคโควิด-19

- บุคคลอายุ 18-64 ปี ที่มีหน้าที่การงานมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อโควิด-19

“วันนี้ จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลที่สามารถหาได้ในปัจจุบัน ที่เป็นไกด์ไลน์ ชี้นำการตัดสินใจ ของสำนักงานอาหารและยาในเรื่องวัคซีนโควิด-19 ในระหว่างเกิดการระบาด หลังจากได้มีการพิจารณาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่สามารถหาได้ และการได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อิสระจากภายนอกให้อนุญาตใช้วัคซีนกระตุ้น หรือวัคซีนเข็ม 3 แก่กลุ่มบุคคลที่เฉพาะเจาะจง ได้แก่บุคลากรการแพทย์ ครู และเจ้าหน้าที่ดูแล” เจเน็ต วูดค็อค รักษาการคณะกรรมาธิการ FDA ออกแถลงการณ์

พร้อมทั้งระบุว่า การระบาดในครั้งนี้เป็นพลวัตรและวิวัฒนาการของข้อมูลใหม่เกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนที่สามารถหาได้ในขณะนี้ พวกเราเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 รวมทั้งการใช้วัคซีนเข็มกระตุ้น พวกเราจะยังคงประเมินวิทยาศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และจะแจ้งต่อสาธารณชนให้รับทราบโดยตลอด

ในขณะที่วอชิงตันโพสต์ระบุว่าการตัดสินใจของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ ถือเป็นการเปิดทางให้มีการกระจายฉีดวัคซีนไฟเซอร์เป็นวัคซีนเข็ม 3 ในสัปดาห์นี้ ให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้วอย่างน้อย 6 เดือน

ชี้ “น้องสาวคิม” เผยโสมแดงยินดีคุยกับเกาหลีใต้ หวังสหรัฐฯ ผ่อนคลายคว่ำาบาตร

วันที่ 24 ก.ย. เอพี รายงานว่า จากการที่น.ส.คิม โยจอง น้องสาวของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เผยท่าทีที่เปลี่ยนไปว่า เกาหลีเหนือเต็มใจที่จะกลับมาเจรจากับเกาหลีใต้อย่างสร้างสรรค์อีกครั้ง จึงเป็นที่คาดเดาว่าอาจต้องการให้รัฐบาลเกาหลีใต้เกลี้ยกล่อมให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เพื่อเปิดทางให้เกาหลีเหนือได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

หลังเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือสะเทือนหนักจากภัยธรรมชาติและผลกระทบโควิด-19 นอกประเทศ น.ส.คิม กล่าวถึงข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ ที่กล่าวในสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่ประกาศยุติสงครามสองเกาหลีและปรารถนาสันติภาพ ว่าการหารือถึงการปรับปรุงและฟื้นฟูความสัมพันธ์เป็นไปได้ แต่มีเงื่อนไขว่าเกาหลีใต้หยุดยั่วยุเกาหลีเหนือด้วยนโยบายไม่เป็นมิตร

“การยิ้มแบบยื้มฝืน คำประกาศการยุติสงคราม และการถ่ายภาพ อาจจำเป็นกับใครบางคน แต่ฉันคิดว่า พวกเขาจะไม่มีน้ำยาและจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย เนื่องจากความเหลื่อมล้ำ ความขัดแย้งรุนแรง และการสู้รบที่มีอยู่” น.ส.คิม กล่าวไม่กี่วันหลังเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เผยว่า กำลังทบทวนคำแถลงของน.ส.คิม และว่าเกาหลีใต้ยังพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือต่อไป