ข่าว
ปาร์ตี้วิวาห์สยอง ต้นยูคาลิปตัสโค่นทับคนกลางงาน ถึงขั้นตาย-เจ็บ

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. เกิดเหตุสลดกลางงานปาร์ตี้วิวาห์ของชาวอเมริกัน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อจู่ๆ ต้นยูคาลิปตัสในสวนเพนน์ ปาร์ก เมืองวิตเทียร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โค่นลงมาทับผู้คนที่ร่วมงาน จนมีหญิงรายหนึ่งเสียชีวิต และอีก 5 คนบาดเจ็บ ในจำนวนนี้มีเด็กหญิง 4 ขวบอาการสาหัส เนื่องจากถูกต้นไม้กระแทกที่ศีรษะ ตำรวจลอสแองเจลิสเปิดเผยว่า เหตุเกิดในจังหวะที่ผู้ร่วมงานกำลังถ่ายภาพหมู่ จู่ๆ ต้นไม้ก็โค่นลงมาทับคน ส่วนพยานเผยว่าได้ยินเสียงปริแตกดังมาก และจากนั้นก็เห็นคนวิ่งหนีออกมา วิดีโอจากจุดเกิดเหตุเผยให้เห็นนาทีเจ้าหน้าที่ใช้เลื่อยเร่งตัดกิ่งก้านต้นไม้ เพื่อช่วยผู้เคราะห์ร้าย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ต้นไม้โค่นลงมาหลังเผชิญสภาพอากาศแล้งจัดในแคลิฟอร์เนีย จากนั้นเพิ่งมีฝนตกหนักไม่กี่วันมานี้ จนทำให้ต้นไม้อุ้มน้ำจนแบกรับน้ำหนักไม่ไหว

4 นศ.ชูป้าย พับนก ค้านพ.ร.บ.คอมพ์หน้าหอศิลป์

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 18 ธันวาคม บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มีประชาชนผู้ไม่เห็นด้วย และกลุ่มฟรีอินเตอร์เน็ตโซไซตี้ ออฟ ไทยแลนด์ (Free lnternet Society of Thailand(FlST)โดย น.ส.อ้อมทิพย์ เกิดผลานนท์ อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมเพื่อนร่วม 4 คน ถือป้ายคัดค้านกรณีสภานิติบัญญัติ ออกเสียงเห็นชอบ ผ่านร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ก่อนทำกิจกรรมได้นำนกที่พับเป็นแผ่นกระดาษสีขาวซึ่งบางตัวมีข้อความเขียนไว้ เช่นเสียงพวกเราไม่มีค่าเลยหรือ สวัสดีเกาหลีเหนือ 2 และประชาธิปไตย? มาโปรยวางไว้ โดย น.ส.อ้อมทิพย์ กล่าวว่าต้องการออกมาแสดงออกในโลกออนไลน์อินเตอร์เน็ตเพราะโดนคุกคามทางเสรีภาพจึงต้องออกมาทำอะไร โดยต่อไปจะคุยในกลุ่มเพื่อเคลื่อนไหวแต่ทั้งนี้ต้องดูสถานการณ์ก่อน หากถ้ายังไม่จบ เหตุที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้นเพราะอนาคตอาจถูกใช้ไปในทางการเมือง จึงอยากให้ฟังเสียงประชาชนบ้าง พร้อมเรียกร้องให้ผู้เห็นด้วยออกมาร่วมแรงร่วมใจเพื่อประเทศชาติและประชาชนในโลกอินเตอร์เน็ต จากนั้นตัวแทนกลุ่มได้อ่านแถลงการณ์ โดยเนื้อหาระบุว่า เรียนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา สนช.ได้ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ.คอมฯด้วยคะแนนเสียง 168 เสียงในสภา ทั้งที่ สนช.เองก็ทราบว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ 1.คลุมเครือ ให้อำนาจรัฐควบคุมอินเตอร์เน็ตอย่างไร้ขีดจำกัด 2.ใช้ปิดกั้นข้อมูลข่าวสารได้ อาจเป็นการแช่แข็งสังคมให้หยุดชะงัก 3.ให้อำนาจรัฐปิดกั้นการสื่อสาร เปิดโอกาสเจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การแสดงออก และทำให้ธุรกรรมทางการเงินไม่ปลอดภัย และ 4.ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน


ประหารชีวิตหมอนิ่ม-ทนายอี๊ด คดีฆ่า ‘เอ็กซ์ จักรกฤษณ์’

ศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ เวลา 09.30 น. วันที่ 19 ธ.ค.59 ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.383/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง ถูกกล่าวหาเป็นมือปืน นางสุรางค์ ดวงจินดา อายุ 74 ปี มารดาของ พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 40 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว อดีตภรรยาของนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย นายสันติ หรืออี๊ด ทองเสม อายุ 30 ปี อาชีพทนายความ และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง ผู้ขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนก่อเหตุ เป็นจำเลยที่ 1 – 5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทั้งนี้ โจทก์บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างเดือน ส.ค. - วันที่ 19 ต.ค.56 จำเลยที่ 2 - 4 ได้ร่วมกันจ้างวานใช้ นายจิรศักดิ์ จำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ระหว่างหลบหนี ให้ฆ่านายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ซึ่งต่อมาจำเลยที่ 1 กับพวกได้ใช้อาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตกาเรฟ ขนาด 7.62 มม. ยิงนายจักรกฤษณ์หลายนัด ถูกที่หน้าอก หัวใจ ปอด จนถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของพวกจำเลย ก่อนหลบหนีไป ในวันนี้ นางสุรางค์ มารดาของหมอนิ่ม กับ พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม และนายสันติ ทนายความ จำเลยที่ 2 - 4 มาศาลตามนัด ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต นายจิรศักดิ์ มือปืน จำเลยที่ 1 ส่วนนางสุรางค์ มารดาของหมอนิ่ม จำเลยที่ 2 ยกฟ้อง พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม จำเลยที่ 3 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว นายธวัชชัย ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ จำเลยที่ 5 ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนนายสันติ หรือทนายอี๊ด จำเลยที่ 4 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว


ศาลอุทธรณ์อนุญาตปล่อยตัว “หมอนิ่ม” ประกันล้านบาท

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความของ พญ.นิธิวดี หรือ หมอนิ่ม ภู่เจริญยศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยื่นประกันตัวคดีที่ศาลจังหวัดมีนบุรีมีคำพิพากษาประหารชีวิต ฐานใช้ผู้อื่นฆ่านายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม สามีอดีตนักยิงปืนทีมชาติว่า ได้เดินทางมาฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์แล้ว ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว พญ.นิธิวดี จำเลย โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ โดยขณะนี้ศาลจังหวัดมีนบุรี กำลังออกหมายปล่อยตัวจำเลย ซึ่งจะส่งไปยังทัณฑสถานหญิงกลางในวันนี้ทันที ส่วนจะปล่อยตัวเวลาใด ยังไม่ทราบ การฟังคำสั่งปล่อยชั่วคราวของศาลอุทธรณ์นี้ น้องสาวของ พญ.นิธิวดี ก็ได้เดินทางมาฟังคำสั่ง ศาลเห็นว่าจำเลยมีหน้าที่การงานมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อีกทั้งจำเลยไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนีในชั้นพิจารณาคดี ในชั้นนี้จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขจำเลยห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล


ชูวิทย์ ดีใจ ลูกสาวรับปริญญาพ่วงเกียรตินิยม

วันนี้ (21 ธ.ค.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระหว่างการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อรับปริญญาลูกสาว โดยระบุว่า แสดงความยินดีกับ “ต๊ะ” ลูกสาวสุดที่รักของพ่อ โชคดีที่ผมออกมาจากคุกได้ทันเวลาพอดิบพอดี! อะไรจะดีไปกว่าการกลับออกมาสู่อิสรภาพ พร้อมความสำเร็จที่ลูกสาวได้รับปริญญา แถมพ่วงด้วย Honors Student (เกียรตินิยม) จาก University of San Francisco ให้พ่อได้ชื่นใจ ใครจะรู้? อนาคตข้างหน้าอาจได้เป็น “นักการเมืองสาว ไฟแรง ต่อต้านคอร์รัปชั่น” แทนพ่อ คนรุ่นใหม่ไม่โกง นำประเทศไทยไปสู่อนาคตที่สดใส หมดเวลานักการเมืองรุ่นเก่า ที่เอาแต่ด่ากันได้ทุกเรื่อง ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นนักการเมืองฝีปากกล้า อดีตเป็นเจ้าพ่อธุรกิจอาบอบนวด ถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกคดีรื้อบาร์เบียร์ ย่านสุขุมวิท ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษ เเละเพิ่งออกจากเรือนจำเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

จับชัวร์ตัวจริง 'หมอสุพัฒน์' ขนเงินติดตัวเพียบ

วันที่ 21 ธ.ค. หลังมีกระแสข่าวการจับกุม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ อดีตผู้ต้องหาและจำเลยคดีฆ่าแล้วฝังแรงงานเมียนมา ที่หลบหนีคำพิพากษาประหารชีวิตของศาล ถูกจับเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 ธ.ค. 59 โดยทางการเมียนมาได้เข้าควบคุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้แล้ว พร้อมยึดเงินสดทั้งธนบัตรไทยและธนบัตรเมียนมาใส่กระเป๋าไว้จำนวนมาก หลังหลบหนีคำพิพากษาประหารชีวิตของศาลจังหวัดเพชรบุรี ในข้อหาฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันฝัง ปิดบังซ่อนเร้นศพฯ ก่อนมีการชันสูตรพลิกศพเพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดที่ไร่ในพื้นที่หมู่บ้านท่ามะริด ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2555 ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ของไทยได้ประสานให้ตำรวจเมียนมาเข้าจับกุมตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักหลังหนึ่งในเมียนมา หลังจากชุดสืบสวนจังหวัดเพชรบุรี โดย พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สืบทราบว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ หรือ หมอสุพัฒน์ ได้หลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งใกล้แนวตะเข็บชายแดนอำเภอแม่สอด จ.ตาก ขณะนี้อยู่ระหว่างคุมตัวมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย โดยที่ผบ.ตร.อาจเดินทางไปรับด้วยตัวเอง


‘หมอสมาน’ เอาผิดร้านเหล้า ‘โปรดื่ม ไม่อั้น’

ตามที่มีการแชร์ภาพและข้อความในโซเชียลฯ เกี่ยวกับโปรโมชั่นบุฟเฟต์แอลกอฮอล์ของร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถดื่มได้ไม่อั้นในราคารายละ 190 บาท ซึ่งโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อมูลเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันทางเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อส่งต่อสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อดำเนินการเอาผิดแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค(คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ได้รับข้อมูลจากเครือข่ายแล้ว และทางสำนักงานฯก็มีการลงพื้นที่ตรวจสอบเช่นกัน โดยพบว่าเริ่มมีการทำการตลาดลักษณะนี้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้สิ้นปีต่อเนื่องปีใหม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่ จ.เชียงรายนั้น ต้องแยกเป็น 2 เรื่อง คือ 1.การขายลักษณะนี้ เข้าข่ายผิดมาตรา 30 พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 กรณีลด แลก แจก แถม ซึ่งกรณีนี้ไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐาน ณ ที่ขาย 2.การโฆษณา สามารถเอาผิดได้ เห็นได้จากการสื่อสารผ่านโซเชียลฯ ในการโพสต์รูปขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มียี่ห้อ ชื่อ เด่นชัด นพ.สมาน กล่าวอีกว่า กรณีที่ 2 ถือว่าผิดฐานโฆษณา เพราะเป็นการโพสต์ข้อความ ภาพ ซึ่งจะผิด 2 ลักษณะ คือ เอาผิดร้านค้า หรือธุรกิจ เพราะถือว่ามีเจตนาเพิ่มยอดขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 5 หมื่นบาทจนกว่าจะเลิกกระทำการดังกล่าว แต่ที่น่ากังวลคือ ประชาชนทั่วไปที่มีการแชร์ข้อความลักษณะนี้ต่อก็อาจเข้าข่ายด้วย จึงขอให้งดเสีย เพราะสุดท้ายหากมีคนฟ้องเป็นคดี จะต้องเสียเวลาในการมาขึ้นศาลเพื่อชี้แจงว่า ไม่มีเจตนา

ตำนานเซเลบฮอลลีวูดแต่งงาน 9 ครั้ง ชาชา กาบอร์ ลาโลกวัย 99

วันที่ 19 ธ.ค. นางเอกระดับตำนานฮอลลีวู้ด ชาชา กาบอร์ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 99 ปี ท่ามกลางเพื่อนฝูงและสมาชิกในครอบครัวที่มาดูใจ “ทุกคนอยู่ด้วย เธอไม่ได้ตายตามลำพัง” เฟรเดอริก วอน อันฮอลต์ สามี วัย 73 ปี กล่าว กาบอร์เกิดในฮังการี มีชื่อเดิมว่า ซารี กาบอร์ และอพยพมาอยู่อเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนแรกหญิงสาวอยากจะเป็นสัตวแพทย์ แต่แม่เห็นว่าลูกสาวสวยมาก น่าจะไปได้ดีในวงการบันเทิง กาบอร์จึงหันเหตามและแจ้งเกิดในวงการฮอลลีวูด เมื่อปีค.ศ.1952 จากนั้นแสดงภาพยนตร์มากกว่า 70 เรื่อง รวมถึง Moulin Rouge, Lili และ Arriverderci Baby ขณะที่ชีวิตรักส่วนตัวกลายเป็นเรื่องโด่งดังยิ่งกว่าผลงาน เนื่องจากดาราหญิงแต่งงานถึง 9 ครั้ง นับจากแต่งครั้งแรกตอนอายุ 20 ปี จนกระทั่งครั้งสุดท้ายแต่งตอนอายุ 70 ปี เป็นครั้งที่ใช้ชีวิตสมรสยาวนานที่สุด ส่วนทายาทมีเพียงลูกสาว 1 คนชื่อ คอนสแตน ฟรานเชสกา ฮิลตัน ซึ่งมีกับเจ้าของโรงแรมดัง คอนราด ฮิลตัน สามีคนที่สอง เป็นลูกสาวที่เดินตามรอยแม่เข้าวงการบันเทิง และเสียชีวิตไปก่อนเมื่อปีที่แล้ว