ข่าว
เสียชีวิต 2 ราย เหตุกราดยิงในมหาวิทยาลัยสหรัฐฯโดยฝีมือลูกตำรวจ

18 เมษายน 2568 : เหตุกราดยิงที่คาดว่าเป็นฝีมือลูกชายของรองนายอำเภอท้องที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฟลอริดา

ตำรวจกำลังตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุกราดยิงใกล้กับที่ทำการสหภาพนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตท รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 เมษายน (Photo by Miguel J. Rodriguez Carrillo / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 กล่าวว่า เกิดเหตุกราดยิงที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยฝีมือของผู้ก่อเหตุที่คาดว่าเป็นลูกชายของรองนายอำเภอท้องที่

ตำรวจรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 5 คนถูกส่งตัวไปรับการรักษาในโรงพยาบาล

มือปืนซึ่งระบุตัวตนได้ว่าคือ ฟีนิกซ์ อิกเนอร์ ก่อเหตุกราดยิงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตท ก่อนที่เขาจะถูกเจ้าหน้าที่ยิงได้รับบาดเจ็บ

วิทยาเขตถูกปิดทันทีที่เกิดการยิงปืนขึ้นในช่วงพักเที่ยง โดยนักศึกษาถูกสั่งให้หลบภัยในสถานที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยถูกเรียกตัวมายังบริเวณที่เกิดเหตุไม่นานหลังจากนั้น

นายอำเภอวอลต์ แมคนีลแห่งลีออนเคาน์ตี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อิกเนอร์ วัย 20 ปี เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยและเป็นลูกชายของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงคนหนึ่งซึ่งทำงานมาเป็นเวลา 18 ปี

"โชคไม่ดีที่ลูกชายของเธอมีปืนประจำตัวของผู้เป็นแม่อยู่ในมือ และนั่นเป็นหนึ่งในอาวุธที่พบในที่เกิดเหตุ" นายอำเภอกล่าว และเสริมว่าผู้ต้องสงสัยเป็นหนึ่งในสมาชิกโครงการฝึกอบรมของสำนักงานนายอำเภอ ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เขาเข้าถึงอาวุธได้

อิกเนอร์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ยิง และยังไม่มีการรายงานอาการของเขาจากทางแพทย์หรือตำรวจ

พยานเล่าว่าเกิดความโกลาหลเมื่อผู้คนเริ่มวิ่งพล่านทั่วมหาวิทยาลัยที่กว้างใหญ่ ขณะที่เสียงปืนประมาณ 8 ถึง 10 นัดดังขึ้นใกล้กับที่ทำการสหภาพนักศึกษา

พยานบอกว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะถูกยิงที่ช่วงกลางลำตัว ตำรวจระบุว่าผู้เสียชีวิต 2 รายไม่ใช่นักศึกษา แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งแรงจูงใจในการก่อเหตุ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ซึ่งเป็นสถาบันของรัฐที่มีนักศึกษามากกว่า 40,000 คน สั่งยกเลิกชั้นเรียนทั้งหมดและขอให้นักศึกษาที่ไม่ได้อาศัยอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเดินทางกลับไป

ริชาร์ด แมคคัลลอฟ ประธานมหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตทกล่าวว่ามหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีดังกล่า "วันนี้เป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับมหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตท เราเสียใจอย่างยิ่งกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยของเราเมื่อช่วงเช้าของวันนี้" เขากล่าว

การกราดยิงหรือสังหารหมู่เป็นเรื่องที่เกิดบ่อยครั้งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสิทธิในการพกอาวุธตามรัฐธรรมนูญมีมากกว่าความต้องการกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้น รวมถึงการจำกัดการขายแม็กกาซีนที่บรรจุกระสุนได้จำนวนมากและการจำกัดการมีอาวุธอัตโนมัติสำหรับสงคราม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเหตุกราดยิงครั้งนี้เป็นเรื่องน่าละอายและเลวร้าย แต่ยืนกรานว่าชาวอเมริกันควรมีสิทธิ์เข้าถึงอาวุธปืนโดยเสรี

"ผมสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 อย่างมาก ผมสนับสนุนมาตั้งแต่ต้น ผมปกป้องมัน" ทรัมป์กล่าว โดยอ้างถึงส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองอาวุธปืน

การนับเหตุการณ์โดยองค์กรไม่แสวงหากำไร 'Gun Violence Archive' เปิดเผยให้เห็นว่ามีเหตุการณ์กราดยิงอย่างน้อย 81 ครั้งแล้วในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ต้นปี.

“เมืองนางฟ้าวาไรตี้” เชิญสัมผัสบทเพลงทองคำ ในคอนเสิร์ตการกุศลรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส 3 พ.ค.นี้

รุจิลาภา พัฑฒนะ “ผิงผิง” นักธุรกิจเจ้าของกิจการ“ขนมครกแม่ติ๋ง” ที่โด่งดังของแอลเอและเป็นเจ้าของรายการทีวี “เมืองนางฟ้าวาไรตี้” ที่ออกอากาศทางช่อง Lao Thai TV ได้เปิดเผยว่า ทางรายการและทีมงาน กำหนดจะจัดมินิคอนเสิร์ตการกุศล ศิลปินแห่งชาติ รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2025 เริ่มเวลา 6.00pm ที่ Pacoima Senior Center (11300 Glenoaks Blvd. Pacoima, CA 91331) โดยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานในครั้งนี้มอบให้กับ โครงการฝันเป็นจริง ร่วมด้วยช่วยคนพิการทำขาเทียมที่ประเทศไทย ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อการกุศลมายาวนานหลายปีแล้ว

ผิงผิง เชื่อว่าแฟนเพลงชาวแอลเอจะต้องมาร่วมให้การต้อนรับ พี่รุ่ง กันอย่างมากมายอีกครั้งเพราะเพลงของพี่รุ่งแทบทุกเพลง เป็นบทเพลงทองคำที่อมตะล้ำค่าและฮิตติดหูมาเป็นเวลายาวนาน คนจะร้องตามได้เกือบทุกเพลง อย่างเช่นเพลง ”หลานย่าโม“..”เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง“ ..“คนหน้าเดิม”..“โจโจ้ซัง..“พัทยาลาก่อน”…“ช่างเขาเถิดนะหัวใจ” ฯลฯ ทุกเพลงฟังแล้วล้วนสร้างความสุขใจได้อย่างเต็มอิ่ม การจัดครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของรายการเมืองนางฟ้าวาไรตี้ ที่อยากจะมอบความสุขทางด้านเสียงเพลงจากนักร้องคุณภาพในตำนานของเมืองไทยให้กับคนไทยในต่างแดนได้ชมกัน

โดยทีมงานตั้งใจว่าจะมีการจัดครั้งต่อๆ ไปอีกอย่างแน่นอน เพราะเรามีคอนเนคชั่นกับพี่ๆ เพื่อนๆนักร้องดังของเมืองไทยหลายท่านที่อยากจะเดินทางมาสร้างความสุขและได้พบแฟนๆ ในต่างแดน รอติดตามกันนะคะ พร้อมกันนี้ ผิงผิงฝากเชิญชวน FC พี่รุ่งทุกท่านทั้งที่อยู่ในแอลเอและเมืองต่างๆ มาร่วมสัมผัสความสุขจากนักร้องแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ที่นานทีปีหนจะได้มาพบแฟนเพลงที่แอลเอสักครั้ง ขอเชิญทุกท่านมาชมมินิคอนเสิร์ต รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส กันนะคะ“ เจ้าของรายการเมืองนางฟ้าวาไรตี้ กล่าวเชิญชวน

สำหรับมินิคอนเสิร์ตครั้งนี้ นอกจากจะได้พบกับ ศิลปินแห่งชาติ รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส แล้วจะมีอดีตนักร้องดังของเมืองไทยที่มาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนางฟ้า จะมาร่วมขับขานเสียงเพลงให้ทุกคนได้ฟังกันด้วย อาทิ นิตยา นนทบุตร ไฉไล ไชยทา ศวรรณี พัฒนะ รวมทั้งจะมีนักร้องรับเชิญที่ร่วมสนับสนุนการจัดมินิคอนเสิร์ต ครั้งนี้มาร่วมร้องเพลงในช่วงแรกด้วยประมาณสิบท่าน ดนตรีในงานโดย ศักดิ์เบส และทีมงาน วงมรกตสยาม

บัตรเข้าชมราคา VIP $59 ธรรมดา $49 รวมอาหาร น้ำดื่ม แต่ตอนนี้บัตรวีไอพี จำหน่ายหมดแล้ว เหลือแต่บัตรธรรมดาราคา $49 สนใจรีบโทรจองกันได้ที่ ผิงผิง 323-632-2071 ยาใจ 323-217-4133 ปอง 818-205-7601 พนอศรี 626-672-8845 และ นะโม 818-642-5666


ทรัมป์ลั่น “มีอำนาจ” ปลดประธานแบงก์ชาติ ถ้ายังไม่ยอมลดดอกเบี้ย...

งาน สงกรานต์วัดไทย ลอสแองเจลิส วันที่ 12-13 เมษายน ประจำปี 2568 ปีนี้ คิด ฉัตรประภาชัย ประธานจัดงานสงกรานต์, วรรณา โคตรอาษา ประธานผ้าป่าสามัคคี, จีน่า ปรีชา ประธานประกวดเทพีสงกรานต์

ทางวัดได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆเช่น การประกวดเทพีสงกรานต์,ประกวดเทพบุตรและธิดาสงกรานต์,การแสดงของเด็กนักเรียนวัดไทย ลอสแองเจลิส, วัดพระธาตุดอยสุเทพ ชิโนฮิลล์, การแสดงของเยาวชนเมืองแพร่จากประเทศไทย ตลอดจนการตั้งรูป-อัฐิบรรพบุรุษบำเพ็ญกุศลรวมถึงการจำหน่ายอาหารไทย ขนมหวานต่างๆ ได้ปัจจัยจากการจัดงานสงกรานต์ทั้งสิ้น 131,729 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ

ทางวัดไทยฯโดยพระเทพมงคลวิเทศ เจ้าอาวาส ขออนุโมทนาบุญกับญาติโยมที่มาร่วมงานทุกๆท่าน จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ในโอกาสขึ้นปีใหม่ไทย


ทรัมป์ลั่น “มีอำนาจ” ปลดประธานแบงก์ชาติ ถ้ายังไม่ยอมลดดอกเบี้ย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงความขัดแย้งกับนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด ) จากการที่เฟดยังปฏิเสธลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ว่า “พาวเวลล์ต้องออกจากเฟด ถ้าผมสั่ง”...

ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า เขาไม่พอใจกับการทำงานของพาวเวลล์ ซึ่งอีกฝ่ายทราบดี และหากเขาต้องการให้พาวเวลล์พ้นจากตำแหน่ง “ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว”...

ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอยู่ที่ระหว่าง 4.25% ถึง 4.50% โดยเป็นอัตราซึ่งเฟดมีมติให้คงไว้ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว และพาวเวลล์ยืนยันว่า เฟดจะยังไม่การเปลี่ยนแปลงนโยบายในเรื่องใดทั้งสิ้น จนกว่าจะมีความชัดเจนว่า เศรษฐกิจของสหรัฐตอบสนองอย่างไร ต่อนโยบายเศรษฐกิจทั้งหมดของทรัมป์ และย้ำว่า ธนาคารกลางสหรัฐไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมือง...

ทั้งนี้ พาวเวลล์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด เมื่อเดือน พ.ย. 2560 ตรงกับรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก กล่าวว่า จะดำรงตำแหน่งจนครบวาระ พร้อมทั้งยืนยันว่า ประธานาธิบดีสหรัฐ “ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย” ในการปลดหรือกดดันให้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต้องลาออก

สำหรับวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดอยู่ที่ 5 ปี และสามารถต่อวาระได้ 1 ครั้ง ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนก่อนหน้าทรัมป์ แต่งตั้งให้พาวเวลล์ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย หมายความว่า จะครบวาระในช่วงปลายปี 2569.

เครดิตภาพ : AFP...


สหรัฐฯ - ยูเครน ปิดดีลแร่ธาตุ ท่ามกลางแรงกดดันยุติสงคราม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐและยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับแร่ธาตุ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่กรุงเคียฟใช้ผลักดันให้วอชิงตันให้การสนับสนุน ท่ามกลางความพยายามของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการยุติสงครามกับรัสเซียโดยเร็ว แหล่งข่าวสองรายที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เปิดเผยเมื่อวันอังคาร

แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับร่างข้อตกลงระบุว่า ข้อตกลงนี้ไม่ได้ระบุถึงการรับประกันความมั่นคงของสหรัฐฯ หรือการส่งมอบอาวุธเพิ่มเติม แต่ระบุว่าสหรัฐฯ ต้องการให้ยูเครนเป็น "ประเทศที่เสรี อธิปไตย และมั่นคง"

ขณะที่อีกแหล่งข่าวหนึ่งกล่าวว่า การจัดส่งอาวุธให้ยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ระหว่างการหารือ ระหว่างวอชิงตันและเคียฟ

ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี มีกำหนดเดินทางมายังวอชิงตันในวันศุกร์ เพื่อเซ็นสัญญาข้อตกลงสำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองผู้นำมีการปะทะคารมกันอย่างดุเดือดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการ "ตอบแทน" สำหรับความช่วยเหลือมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ยูเครน นอกจากนี้ เขายังเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปยังยูเครนหากสามารถบรรลุข้อตกลงยุติสงครามได้

อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธแนวคิดการส่งกองกำลังนาโต้เข้าไปในยูเครน แม้ว่าประเทศในยุโรปบางประเทศจะยินดีส่งกำลังเข้าร่วมภารกิจดังกล่าวก็ตาม โดยทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียอาจยอมรับกองกำลังรักษาสันติภาพที่ไม่ได้มาจากนาโต้ แต่รัสเซียออกมาปฏิเสธเรื่องนี้เมื่อวันอังคาร

การที่ทรัมป์ต้องการเร่งยุติสงครามและมีท่าทีโน้มเอียงไปทางรัสเซีย สร้างความกังวลว่าอาจนำไปสู่การยอมต่อเงื่อนไขของ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของยูเครนและยุโรป รวมถึงเปลี่ยนโฉมหน้าของภูมิรัฐศาสตร์โลก

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยกล่าวโจมตีเซเลนสกีโดย ระบุว่าเขาเป็น "เผด็จการ" ที่ไม่มีความนิยมจากประชาชน และต้องเร่งทำข้อตกลงสันติภาพ มิฉะนั้นยูเครนจะพ่ายแพ้สงคราม ขณะที่เซเลนสกีตอบโต้ว่า ทรัมป์กำลังตกอยู่ใน "โลกแห่งข้อมูลเท็จ"

รายละเอียดข้อตกลงด้านแร่ธาตุและผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

แหล่งข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องกับร่างข้อตกลงและเสนอให้มีการลงนาม โดยทรัมป์กล่าวว่า ต้องการความมั่นคง และผู้เสียภาษีชาวอเมริกันจะได้รับเงินของพวกเขาคืน พร้อมผลตอบแทน

เดิมทียูเครนเคยปฏิเสธร่างข้อตกลงฉบับก่อนหน้า เนื่องจากสหรัฐฯ เรียกร้องสิทธิ์ในทรัพยากรแร่ธาตุของยูเครนมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กรุงเคียฟแย้งว่า ยูเครนได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ น้อยกว่าจำนวนดังกล่าวมาก และข้อตกลงไม่ได้ให้หลักประกันด้านความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ร่างข้อตกลงปัจจุบัน สหรัฐฯ และยูเครนจะจัดตั้ง กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและการลงทุน (Reconstruction Investment Fund) กองทุนนี้จะรวบรวมและนำรายได้จากทรัพยากรยูเครน เช่น แร่ธาตุ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ กลับมาลงทุนใหม่

ยูเครนจะส่งรายได้ 50% ของผลกำไรสุทธิ เข้ากองทุน จนกว่าจะถึงเป้าหมาย 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะให้คำมั่นสนับสนุนทางการเงินระยะยาวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจยูเครนให้มีเสถียรภาพ

เมื่อถูกถามว่ายูเครนจะได้รับอะไรจากข้อตกลงนี้ ทรัมป์กล่าวว่า ยูเครนได้รับเงินช่วยเหลือ 350,000 ล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ พร้อมอาวุธจำนวนมาก และยังคงมีสิทธิ์ต่อสู้ต่อไป

ยุโรปเร่งหาทางรับมือ

ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ยินว่าเซเลนสกีจะมาวันศุกร์นี้ และแน่นอนว่าไม่ขัดข้องถ้าต้องการมาเซ็นข้อตกลงร่วมกัน

ขณะเดียวกัน ผู้นำยุโรปต่างวิตกกังวลกับท่าทีของทรัมป์ ที่เลือกเจรจากับรัสเซียโดยไม่สนใจจุดยืนของยูเครนและยุโรป นอกจากนี้ รัฐบาลทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า สหรัฐฯ จะไม่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของยุโรปเป็นลำดับแรกอีกต่อไป

ยูเครนมีแหล่งแร่ธาตุสำคัญของโลก

ข้อมูลจากยูเครนระบุว่า ประเทศมีแหล่งแร่ธาตุ 22 จาก 34 ชนิด ที่สหภาพยุโรประบุว่าเป็นทรัพยากรสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ได้แก่ แร่โลหะอุตสาหกรรมและก่อสร้าง โลหะผสมเหล็ก แร่โลหะมีค่า โลหะนอกกลุ่มเหล็ก และแร่หายากบางชนิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยูเครนเป็นแหล่งสำรอง กราไฟต์ (Graphite) กว่า 20% ของโลก ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

ประธานอาเซียนเรียกร้องคณะรัฐประหารเมียนมาเคารพข้อตกลงหยุดยิงหลังเหตุแผ่นดินไหว

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ได้เรียกร้องให้ผู้นำคณะรัฐประหารเมียนมาเคารพข้อตกลงหยุดยิงที่เกิดขึ้นหลังประเทศเผชิญเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จากคณะรัฐประหารถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งมี 10 ประเทศ เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพ นับตั้งแต่กองทัพเมียนมายึดอำนาจจากการรัฐประหารในปี 2564 และก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง

อย่างไรก็ตาม พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะรัฐประหาร เดินทางมายังเมืองหลวงของประเทศไทยเพื่อพบกับอันวาร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนแบบหมุนเวียน และอยู่ระหว่างภารกิจหารือกับเจ้าหน้าที่ไทย

กองทัพเมียนมาประกาศหยุดยิงกับฝ่ายต่อต้านจนถึงวันที่ 22 เมษายน หลังจากประเทศเผชิญแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อปลายเดือนที่แล้วซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 3,700 ราย แต่ผู้สังเกตการณ์ความขัดแย้งระบุว่าการสู้รบยังคงดำเนินต่อไป รวมถึงการโจมตีทางอากาศ

อันวาร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเทพฯ ว่า "ผมบอกผู้นำเมียนมาว่าการหยุดยิงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ความพยายามด้านมนุษยธรรมครอบคลุมทั่วเมียนมา ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนหรือมีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร ซึ่งมิน อ่อง หล่ายตอบรับแนวคิดดังกล่าวแล้ว"

แถลงการณ์ของคณะรัฐประหารเมียนมาเมื่อคืนวันพฤหัสบดีไม่ได้กล่าวถึงแนวทางสันติภาพของอันวาร์ แต่ระบุว่าการเจรจาของสองผู้นำเน้นที่ความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูหลังจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเมียนมา

ตามรายงานของสหประชาชาติ แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมทำให้ประชาชนราว 60,000 คนต้องอยู่แต่ในเต็นท์ และประชาชน 2 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือและการคุ้มครองอย่างเร่งด่วน

เมื่อรัฐบาลทหารประกาศสงบศึกชั่วคราวเพื่อบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย พวกเขาได้เตือนฝ่ายตรงข้ามว่าจะยังคงตอบโต้ปฏิบัติทางการทหารต่อไป โดยอ้างถึงการก่อเหตุโจมตีทั่วประเทศในสัปดาห์นี้ที่คณะรัฐประหารกล่าวหาว่าเป็นฝีมือกลุ่มติดอาวุธ

นอกจากนี้ อันวาร์ยังเรียกร้องให้ผู้นำระดับสูงจากพรรคฝ่ายค้านเมียนมาให้เข้าร่วมการเลือกตั้งที่รัฐบาลทหารได้ประกาศไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้

แต่จุดยืนของฝ่ายค้านคือการเรียกร้องให้ประชาชนและพรรคการเมืองคว่ำบาตรการเลือกตั้งใดๆ ที่จัดชึ้นโดยรัฐบาลทหารที่จับกุมนางอองซาน ซูจี ผู้นำพลเรือนคนสุดท้ายของประเทศ

นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้มีการเลือกตั้งใดๆก็ไม่น่าจะเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงได้ เนื่องจากประเทศนี้แตกแยกออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายทหารกับฝ่ายชาติพันธุ์และกลุ่มต่อต้านรัฐประหารอีกหลายร้อยกลุ่ม

"เราแสดงความกังวลต่อทุกชาติอาเซียน เราไม่ได้ต้องการเร่งรัดเรื่องนี้เร็วเกินไป เพราะเราต้องการฉันทามติของคนทั้งประเทศเพื่อให้แน่ใจว่าการเลือกตั้งของเมียนมาจะยุติธรรมและเสรี" ประธานอาเซียนกล่าว.