29 ต.ค. 2564– เอ็นเอชเค รายงานว่า หลังการสมรสที่เรียบง่ายแต่เป็นข่าวดังไปทั่วโลกของ เจ้าหญิงมาโกะ ธิดามกุฎราชกุมารอากิชิโนะ และนายเค โคมูโระ ทนายหนุ่มผู้ถูกชาวญี่ปุ่นส่วนหนึ่งดูแคลนว่าไม่คู่ควรกับเจ้าหญิง เมื่อวันที่ 26 ต.ค.
ล่าสุด คู่สมรสใหม่ย้ายไปอยู่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวแล้ว จากนั้นทั้งสองยังเดินทางไปยังสำนักงานการขนส่งเพื่อสอบใบขับขี่ พร้อมมีรายงานข่าวว่า ทั้งสองเริ่มเตรียมเอกสารและขั้นตอนต่างๆที่จะย้ายไปอยู่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งโคมูโระทำงานอยู่สำนักงานทนายที่นั่น คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้
เตรียมตัวไปสหรัฐฯ สำหรับคุณผู้หญิงโคมูโระต้องทำหนังสือเดินทางเป็นครั้งแรกเพื่อเดินทางไปสหรัฐฯ เพราะเดิมที่เป็นสมาชิกราชวงศ์ไม่ต้องใช้หนังสือเดินทาง แต่เมื่อสมรสเป็นสามัญชนแล้วจึงต้องเพิ่มขั้นตอนนี้ด้วย อีกทั้งคาดว่าฝ่ายหญิงต้องการทำงานที่นิวยอร์กด้วยเช่นกัน
นิวยอร์กโพสต์ สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่า อพาร์ตเมนต์ที่ คู่รักโคมูโระ จะย้ายไปพำนักที่นิวยอร์ก เป็นอพาร์ตเมนต์ห้องนอนเดี่ยว ซึ่งราคาห้องเช่าอพาร์ตเมนต์แถวเวสต์ วิลเลจ ย่านแมนฮัตตัน มีราคาสูงตั้งแต่ 3,000-11,000 ดอลลาร์ หรือราว 99,000-363,000 บาทต่อเดือน
สุภาพบุรุษโคมุโระ ด้าน เดลีเมล์ รายงานว่า ในวันมงคลสมรสเป็นวันที่มีข่าวดีว่าเนติบัณฑิตยสภาแห่งนิวยอร์กประกาศให้โคมูโระเป็นผู้ชนะรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันการเขียนประจำปี ในหัวข้อ “ปัญหาการเข้าถึงเว็บไซต์และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของผู้ประกอบการ”
ทนายหนุ่มได้รับรางวัลเป็นเงิน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 64,000 บาท ซึ่งห่างไกลจากเงินขวัญถุง 150 ล้านเยนหรือราว 45 ล้านบาทที่ปกติวังจะมอบให้กับสมาชิกราชวงศ์ฝ่ายหญิงที่สมรสออกไปเป็นสามัญชน แต่เจ้าหญิงมาโกะทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์พระองค์แรกที่ทรงปฏิเสธเงินก้อนนี้ เพื่อตัดข้อครหาที่โคมูโระถูกขุดคุ้ยว่า แม่มีปัญหาทางการเงิน
ในการแถลงข่าวเมื่อวันแต่งงาน เจ้าหญิงตรัสว่า การแต่งงานเป็นทางเลือกที่จำเป็น เพราะโคมูโระเป็นคนที่ไม่มีใครมาแทนได้ ส่วนโคมูโระกล่าวอย่างชัดเจนว่า รักเจ้าหญิง นับจากทั้งสองคบหากันตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย
โคมูโระที่เพื่อนๆ รู้จักเป็นคนร่าเริงสดใส อบอุ่น เจ้าหญิงมาโกะเปรียบเปรยว่า รอยยิ้มของคนรักเหมือนพระอาทิตย์
ก่อนสมรส โคมูโระไม่ได้กลับญี่ปุ่นเลยเป็นเวลา 3 ปี หลังจากประกาศการหมั้นกับเจ้าหญิงและต้องเลื่อนการแต่งงาน ระหว่างนั้นชายหนุ่มศึกษาต่อด้านนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฟอร์ดแฮม ก่อนที่จะทำงานกับบริษัทโลเวนสไตน์ แซนด์เลอร์ รับปรึกษาด้านการลงทุน จัดหางินทุน การควบคุมกิจการและการเข้าซื้อกิจการ
แม้จะถูกโจมตีต่างๆ นานา แม้กระทั่งทรงผมที่มัดหางม้าตอนกลับมายังญี่ปุ่น แต่หนังสือพิมพ์เจแปน ไทมส์ รายงานยกย่องว่าโคมูโระเป็นสุภาพบุรุษและมีความซื่อสัตย์สุจริต
สัญญาณเตือนวังญี่ปุ่น
เจแปนไทมส์ ยังรายงานนำเสนอ ความเห็นของนักวิชาการว่า การแต่งงานเพื่อออกจากราชวงศ์ของเจ้าหญิงมาโกะ เป็นสัญญาณเตือนถึงระบบของพระราชวังอิมพีเรียล ว่าอาจเผชิญวิกฤตในอนาคต
เคนเนธ รูออฟ อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคใหม่ มหาวิทยาลัยพอร์ตแลนด์ สเตต สหรัฐฯ กล่าวว่า การแต่งงานของเจ้าหญิงมาโกะอาจทำให้สมาชิกราชวงศ์พระองค์อื่นๆ มีทางเลือกที่จะออกจากวังด้วยเช่นกัน
“แม้ว่าเงินจากภาษีของประเทศจะครอบคลุมการใช้จ่ายของวัง แต่อิสรภาพของสมาชิกราชวงศ์ถูกจำกัดทั้งด้านชีวิตส่วนตัวและการงาน เมื่อเทียบกับชีวิตสามัญชนทั่วไป เมื่อชั่งน้ำหนักกันแล้ว การเป็นสมาชิกกราชวงศ์อาจเป็นภาระด้วยซ้ำ ยกเว้นพระองค์ที่ทรงต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเทศ” รูออฟกล่าว
นักวิชาการสหรัฐฯ ยังบอกว่า กิจกรรมหลายๆ ด้านเช่น การไปท่องเที่ยวต่างแดนเดิมเปิดกว้างเฉพาะกลุ่มอีลิตหรือชนชั้นสูง ซึ่งรวมถึงสมาชิกราชวงศ์ แต่ทุกวันนี้เปิดกว้างสู่ประชาชนมากขึ้น ดังนั้นปัจจัยต่างๆ จึงไปลดประโยชน์ของการเป็นสมาชิกราชวงศ์ลง ด้านเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังคนหนึ่ง เห็นคล้ายกันว่า ไม่ค่อยมีคนเข้าใจนักหรอกว่า ชีวิตของคนที่เป็นสมาชิกราชวงศ์ ทำให้อิสรภาพและสิทธิมนุษยชนถูกกดทับ
ผศ.ฮิเดยะ คาวะนิชิ มหาวิทยาลัยแกรดูเอต สคูล ออฟ ฮิวแมนิตีส์ กล่าวว่า ในสายตาของประชาชน ครอบครัวของพระราชวงศ์เป็นสัญลักษณ์ของ คุณธรรมจริยธรรม ซึ่งสิ่งนี้กระทบต่อความเป็นส่วนตัวและอิสรภาพของราชวงศ์
“นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมประชาชนจำนวนมากรู้สึกว่า เจ้าหญิงมาโกะทำร้ายจิตใจพวกเขา เมื่อทรงเลือกแต่งงาน ประชาชนเห็นความปรารถนาส่วนพระองค์อย่างมุ่งมั่น ผิดจากที่คาดหวังไว้ว่าพระองค์จะปฏิบัติกรณียกิจให้สังคม” คาวะนิชิ กล่าว
เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวงศ์อีกคน กล่าวว่า อาการประชวนทางจิตใจของเจ้าหญิงมาจากเหล่านิตยสารที่แสดงความวิตกถึงการแต่งงานของพระองค์ ไปจนถึงคอมเมนต์ทางออนไลน์ที่วิจารณ์พระองค์และคนรัก ไปจนถึงครอบครัวของสองฝ่าย ความเห็นบางส่วนพุ่งตรงไปยังระบบของสำนักพระราชวัง
“สมาชิกพระราชวงศ์ รวมถึงเจ้าหญิงมาโกะไม่อยู่ในสถานะที่จะตอบโต้การหมิ่นประมาทได้ง่ายๆ ด้วยตนเอง การแต่งงานของเจ้าหญิงมาโกะเป็นประเด็นสำคัญมากเกี่ยวกับวัง ความปรารถนาและทางเลือกส่วนพระองค์ที่เราคิดไม่ถึงมาก่อน เป็นความจริงที่ว่าประเด็นนี้มาแจ่มชัดในกรณีของเจ้าหญิงมาโกะที่บอกว่า เรา จำเป็นต้องคิดอย่างจริงจังถึงระบบของราชวงศ์ญี่ปุ่น” คาวะนิชิกล่าว
โควิด: เอเอฟพี รายงานว่า กรุงปักกิ่งเร่งเพิ่มมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมโอลิมปิกฤดูหนาว โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 29 ต.ค. ยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว ต่อเนื่องจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ต.ค. ที่สั่งหยุดรถไฟความเร็วสูง 2 ขบวนเพื่อส่งผู้โดยสารกว่า 450 คนไปตรวจหาเชื้อหลังพบว่าพนักงานการรถไฟมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
แม้ว่าจีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบวันเพียง 48 คน ทำให้ยอดรวมของสัปดาห์น้อยกว่า 250 คน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้สถานการณ์บานปลายจนเกิดคลัสเตอร์ไปกระทบการเตรียมโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่จะจัดเดือนกุมภาพันธ์ 2565
ทางการจีนยังล็อกดาวน์เมืองเฮ่ยเหอ มณฑลเฮย์หลงเจียง ประชากร 1.6 ล้านคน เป็นเมืองที่สาม เมื่อวันที่ 28 ต.ค. หลังล็อกดาวน์เมืองเอ๋อจีน่า ประชากรเกือบ 36,000 คน ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อใหม่พบมากที่สุด 19 คน ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน, 12 คน ในมณฑลกานซู, 9 คน ในมณฑลเฮย์หลงเจียง, 3 คน ในมณฑลชิงไห่, 2 คน ในกรุงปักกิ่ง, 2 คน ในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย และอีกคนหนึ่งในมณฑลยูนนาน ส่วนยอดสะสมรวมผู้ป่วยโควิด-19 ของจีนอยู่ที่ 97,002 คน เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 4,636 ราย
เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อ 29 ต.ค. ศาลพิเศษของคณะรัฐบาลทหารเมียนมา ตัดสินจำคุก อู วิน เต่น ผู้ช่วยคนสนิทและที่ปรึกษาของนาง ออง ซาน ซู จี นานถึง 20 ปี ในข้อหาก่อกบฏ เป็นการส่งสัญญาณแข็งกร้าวอีกครั้งจากคณะรัฐประหารที่ถูกประชาคมโลกกดดันและต่อต้าน ไม่เว้นแม้แต่ภูมิภาคอาเซียน
นายวิน เต่น อายุ 80 ปี เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทน และนักโทษทางการเมืองมายาวนาน จากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยร่วมกับนางซู จี จนได้ชื่อว่าเป็น มือขวาของนางซู จี ทำให้เข้าๆ ออกๆ เรือนจำมาตลอดเวลาภายใต้การปกครองของทหาร
นักการเมืองอาวุโสท่านนี้ยังได้รับการติดต่อจากสื่อต่างประเทศและสื่อในประเทศ เพื่อขอความเห็นในเหตุการณ์บ้านเมืองของเมียนมา รวมถึงความเคลื่อนไหวของรัฐบาลทหารอยู่เสมอ
หลังจากเหตุรัฐประหาร 1 ก.พ. 2564 นายวิน เต่น ให้ความเห็นถึงการกระทำของกองทัพว่า “ไม่ฉลาดเลย” และว่า ผู้นำกองทัพนำประเทศไปในทิศทางที่ผิด หลังจากให้ความเห็นนี้เพียง 3 วัน นายวิน เต่น ก็ถูกจับกุมดำเนินคดี
สำหรับ นางซู จี ผู้นำประชาธิปไตยเมียนมา ถูกคุมขังดำเนินคดีหลายข้อหาจนเริ่มกระทบต่อสุขภาพ เป็นที่กังวลของผู้คนจำนวนมาก แต่เมียนมากลับไม่ยอมให้ผู้แทนอาเซียนเข้าพบ อ้างว่าเป็นบุคคลที่ต้องคดีอาญา ส่วนสื่อมวลชนถูกกันไม่ให้เข้าไปทำข่าวการดำเนินคดีนางซู จี ที่ศาล อีกทั้งห้ามทนายและบุคคลอื่นๆ ให้ข่าวเกี่ยวกับนางซู จี
ท่าทีดังกล่าวของทหารเมียนมาทำให้อาเซียนระงับคำเชิญ นายพลมิน อ่อง ไหล่ ผู้นำรัฐบาลทหารเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและชาติพันธมิตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จากนี้ไป การประชุมอาเซียนหลังจากนี้ก็จะไม่เชิญพล.อ.อาวุโสมิน อ่อง ไหล่ โดยเฉพาะในการประชุมที่มีชาติตะวันตก เช่น การประชุมอาเซียน-สหภาพยุโรป แต่ที่ต้องจับตามากที่สุดคือการประชุมอาเซียน-จีน เดือนพ.ย. ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะเข้าร่วมด้วย ว่าผู้นำทหารพม่าจะได้เข้าร่วมหรือไม่
29 ตุลาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ผลสำรวจจากมูลนิธิไคเซอร์ แฟมิลี (KFF) ของสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.) ระบุว่ามีผู้ปกครองในสหรัฐฯ เพียงร้อยละ 27 ที่จะให้ลูกหลานอายุ 5-11 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) “ทันที” ที่มีการอนุมัติ
การสำรวจข้างต้นจัดทำช่วงวันที่ 14-24 ต.ค. เก็บข้อมูลจากผู้ใหญ่ 1,519 คน ผ่านการสุ่มหมายเลขโทรศัพท์ โดย 1 ใน 3 ของผู้ปกครองจะ “รอดูก่อน” ว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพกับเด็กช่วงวัย 5-11 ปีหรือไม่ ขณะร้อยละ 30 จะไม่ให้ลูกหลานฉีดวัคซีน “โดยเด็ดขาด”
ความกังวลหลักของเหล่าผู้ปกครองคือโอกาสเกิดผลข้างเคียงระยะยาวหรือผลข้างเคียงร้ายแรงที่ยังไม่รู้แน่ชัด โดย 2 ใน 3 กังวลว่าวัคซีนจะส่งผลต่อการสืบพันธุ์ของเด็กในอนาคต
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (26 ต.ค.) คณะที่ปรึกษาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) มีมติอนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทคให้เด็กอายุ 5-11 ปี เนื่องจากเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่าภัยเสี่ยง
ผลการทดลองทางคลินิกระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทคนั้นปลอดภัย และช่วยป้องกันอาการป่วยจากโรคโควิด-19 ในเด็กช่วยวัย 5-11 ปีได้ร้อยละ 90.7
ทั้งนี้ สำนักงานฯ จะพิจารณาอนุมัติวัคซีนตามคำแนะนำของคณะที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งจะทำให้วัคซีนของไฟเซอร์ฯ เป็นวัคซีนตัวแรกที่สามารถฉีดให้เด็กอายุน้อยได้
29 ตุลาคม 2564: องค์การอนามัยโลกเผยว่า ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการอนามัยโลกคนปัจจุบัน เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียวสำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การโดยได้รับการเสนอชื่อจาก 28 ประเทศ ทำให้เขาเตรียมทำหน้าที่ต่อเป็นสมัยที่ 2 อีก 5 ปีเมื่อครบวาระในปีหน้า
อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข และต่างประเทศของเอธิโอเปีย วัย 56 ปี ผู้นี้ได้รับเลือกเป็นผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 เขาจะครบวาระ 5 ปีในเดือนสิงหาคมปีหน้า ดับเบิลยูเอชโอเปิดให้ประเทศต่างๆ เสนอชื่อผู้ที่จะรับตำแหน่งนี้ได้ถึงวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา โดยปิดผนึกจดหมายไว้จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม
รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม 2564 กล่าวว่า ดับเบิลยูเอชโอประกาศที่นครเจนีวาในวันเดียวกันนี้ว่า ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส คือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว โดยเขาได้รับการสนับสนุนจาก 28 ประเทศ ซึ่งรวมถึง 17 ประเทศจากสหภาพยุโรป แต่อังกฤษ, จีน, รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา ไม่ได้เสนอชื่อเขาหรือใคร
เยอรมนีและสเปน กล่าวในการเสนอชื่อว่า การเสริมสร้างความเข้มแข็งของดับเบิลยูเอชโอหลังเกิดโรคระบาดต้องดำเนินต่อไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่และไม่มีการแบ่งแยก องค์กรแห่งนี้ต้องการผู้นำที่เข้มแข็ง ปฏิบัติได้ และมีวิสัยทัศน์
โดยทั่วไปแล้วผู้สมัครจะได้รับการเสนอชื่อโดยประเทศนั้นๆ แต่ปีนี้เอธิโอเปียมีความขัดแย้งกับเขาหลังจากทีโดรสประณามรัฐบาลกรณีความขัดแย้งที่ภูมิภาคทิเกรย์
ทีโดรสได้รับความนิยมจากบทบาทผู้นำของเขาในการนำพาโลกฝ่าฟันวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ จากการโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งเริ่มพบครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปี 2562
เขาเคยโดนรัฐบาลสหรัฐฯ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาว่า เขาถือจีนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเขาปฏิเสธ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสหรัฐฯ ดีขึ้นในสมัยของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่เขากลับทำให้จีนขุ่นเคือง เมื่อเรียกร้องเมื่อเดือนกรกฎาคมให้จีนแบ่งปันผลการตรวจสอบแล็บอู่ฮั่นและส่งมอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วงแรกๆ