สำนักข่าวเอพีและเอเอฟพี รายงานว่า เกิดเหตุมือปืนกราดยิงผู้คนในวิทยาลัยซีแอตเติล แปซิฟิก นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ทำให้มีผู้ถูกยิง 4 คน โดยเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 3 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน ก่อนที่มือปืนจะถูกนักศึกษาที่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้ายามอาคารอยู่จัดการด้วยสเปรย์พริกไทย และจับกุมตัวมือปืนเอาไว้ได้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง
ข่าวระบุว่า ผู้ที่เสียชีวิตเป็นชายวัย 20 ปี เสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นสตรีอายุราว 20 ปี ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดแล้ว ขณะที่ตำรวจเปิดเผยว่า มือปืนเป็นชายผิวขาววัย 26 ปี มีอาวุธทั้งปืนสั้นและมีดอยู่ในตัว ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายมีแผนที่จะฆ่าคนมากกว่านี้ เพราะมีลูกกระสุนอีกหลายนัดเตรียมเอาไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นและสอบปากคำผู้ก่อเหตุ
ก่อนหน้านี้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ เพิ่งจะเกิดเหตุชายวัย 22 ปี ก่อเหตุยิงผู้คนในวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่เมืองซานตา บาร์บารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ก่อนที่จะยิงตัวตายในเวลาต่อมา
ขณะที่มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจแคนาดาสามารถจับกุมตัวนายจัสติน บูร์เก วัย 24 ปี ผู้ก่อเหตุยิงตำรวจเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บอีก 2 นาย ที่เมืองมอนค์ตัน รัฐนิวบรันสวิก ประเทศแคนาดา ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งฉบับที่ 49 /2557 เรียกตัวบุคคลจำนวน 18 ราย เข้ารายงานตัวในวันที่ 9 มิ.ย. ที่จะถึงนี้
หากไล่เรียงรายชื่อบุคคลที่ปรากฎอยู่ในคำสั่งฉบับนี้ จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีคดีหมิ่นสถาบันฯ ติดตัวและหลบหนีออกไปอยู่ต่างประเทศหมดแล้ว
ในช่วงเช้าวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายมนูญ (เอนก) ชัยชนะ หรือเอนก เสื้อแดงซานฟรานฯ ซึ่งพักอาศัยอยู่ใน`ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา มายาวนานหลายสิบปี ซึ่งปรากฎรายชื่ออยู่ในคำสั่งเรียกตัวฉบับนี้ ของ คสช.ด้วย เพื่อสอบถามความชัดเจนในเรื่องนี้
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ที่ผมจะกลับไปรายงานตัวต่อ คสช.”
นายเอนก กล่าวยืนยันชัดเจน ก่อนจะขยายความให้ฟังว่า ”ผมไม่ใช่คนไทยนานแล้ว ทำไมผมต้องไปรายงานตัว พวกเขามีสิทธิอะไร กับผมซึ่งเป็นพลเมืองประเทศอื่น เขากำลังจะเอากฎหมายของเขามาใช้กับคนชาติอื่นอย่างนั้นหรือ”
“ที่สำคัญผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปรายงานตัวกับใคร ทั้งนั้น ผมเป็น NGO ของ CICC ศาล ICC และยังเป็น NGO ขององค์กรสิทธิมนุษยชน ที่มีที่ทำการที่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศอเมริกาอีกด้วย และมีตำแหน่งเป็นถึง Chairman”
อนึ่ง สำหรับภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ Thai Alliance For Human Rights จัดตั้งขึ้นเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2555 ที่มีสำนักอยู่ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อประสานกับพี่น้องไทยทั่วโลกพร้อมกับสร้างสัมพันธไมตรีกับองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติ มีนายเพียงดิน รักไทย ประธานบริหารภาคีฯ นายเอนก ชัยชนะ เป็นประธานบอร์ดอำนวยการ
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ คสช. มีคำสั่งฉบับนี้ออกมา นายเอนก ตอบว่า “พวกเขามองคนอย่างพวกเราไม่ละเอียดพอ เราทำหน้าที่ ตามหลักนักสิทธิมนุษยชนที่มีหน้าที่ในการสื่อและชี้แจง ความจริงเรื่องสิทธิมนุษยชน”
เมื่อถามว่า รายชื่อบุคคลในประกาศส่วนใหญ่ดูเหมือนจะมีปัญหาหมิ่นสถาบันฯ และหลบหนีออกไปอยู่ต่างประเทศ นายเอนก ตอบว่า “พวกเขาคงไม่ต้องการให้มีการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันอะไรอีก โดยเฉพาะคนในชาติไทย”
นายเอนก ยังยืนยันชัดเจนว่า “ผมยืนยันว่าไม่มีใครกลับไปรายงานตัวหรอก ทุกคนเลย และพวกเราก็กินดีอยู่ดีมีสถานะเป็นคนชาติอื่นไปแล้ว มีกฎหมายของเราคุ้มครองเรา ทำไมเราต้องไปแคร์อะไรกับกฎหมายเมืองไทย”
เมื่อถามว่า หลังจากคำสั่ง คสช. ฉบับนี้ ออกมา การเคลื่อนไหวในต่างประเทศจะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายเอนก ตอบว่า “เราทำหนังสือถึง ยูเอนแน่นอน และจะฟ้องพฤติกรรมพวกเขา ที่พยายามรังแก NGO นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างพวกเรา”
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยหรือติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมแพ้แล้วจริงหรือ
นายเอนก ตอบว่า “ไม่ได้คุยกันนานแล้ว เราต่อสู้กันคนละทาง ท่าน (พ.ต.ท.ทักษิณ) ต่อสู้ทางการเมือง ผมต่อสู้แนวทางเพื่อปกป้องหลักสิทธิมนุษยชน ให้คนไทยที่ถูกรังแก ครับ”
เมื่อถามย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกมองว่า กำลังเดินเกมอยู่ในต่างประเทศ นายเอนก “การต่อสู้ทางการเมือง และเรียกร้องความเป็นธรรม ทั้ง เรียกร้องสิทธิมนุษยชน ให้คนไทย ยังคงต่อสู้ต่อไปจนกว่าเราจะชนะ”
“เกมต่างประเทศเป็นเรื่อง สากล เราต้องการให้ประเทศในโลกนี้เป็นแกะขาว ให้หมด ไม่ใช่ เป็นแบบประเทศไทยในเวลานี้ ที่มีการปกครองต่างกัน จะมีปัญหากับต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ”
ทั้งหมดนี่คือ “ปฎิกริยา” ล่าสุด ที่ถูกส่งตรงมาจากตัวแทนกลุ่มคนที่ต่อต้านการยึดอำนาจ และเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ หลังจากที่ คสช. ออกคำสั่งเรียกมารายงานตัว
โดยขีดเส้นตาย ในช่วงเที่ยงตรง ของวันที่ 9 มิ.ย. นี้ ตามเวลาในประเทศไทย!
โลกออนไลน์แชร์ภาพ “ยิ่งลักษณ์” ปรากฏตัวที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ห้างหรูย่านเพลินจิต หน้าตาแจ่มใส ไร้อาการเจ็บขา ก่อนหน้านี้พบที่เดอะวอล์ก ราชพฤกษ์ หลังถูก คสช. ยึดอำนาจ เรียกรายงานตัว ก่อนปล่อยตัว
(6 มิ.ย.) มีการเผยแพร่ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคนสนิท เดินที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถนนเพลินจิต ผ่านทางโซเชียลมีเดีย พร้อมบรรยายบรรยากาศภายในห้างว่า เป็นไปด้วยความปกติ ไม่มีประชาชนแสดงการต่อต้าน ทั้งยังมีประชาชนเข้ามาขอถ่ายรูป ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีสีหน้าที่แจ่มใส และเดินโดยไม่ได้แสดงอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าให้เห็น โดยเดินได้คล่องแคล่ว สวมใส่รองเท้าไม่มีส้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่ามีคนเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้า เดอะ วอล์ก ราชพฤกษ์ เขตตลิ่งชัน ถือเป็นการปรากฏตัวในที่สาธารณะหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจ และถูกเรียกรายงานตัว ก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัว
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012