ข่าว
“แม่ประนอม” ร้อง ถูกลูกสาวและลูกเขย ฮุบกิจการ “น้ำพริกเผา” ไล่ออกจากบ้าน

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอม ในนามบริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยระบุว่า ถูกบุตรสาวคนโตฮุบกิจการ ซึ่งที่ผ่านมาบุตรสาวคนโตเป็นที่ไว้วางใจคนในครอบครัว จึงได้ให้ดูแลและบริหารงานต่างๆแทนครอบครัวคนเดียวมาโดยตลอด จนต่อมาปี 2558 บุตรสาวคนโตได้ฮุบกิจการโดยปลอมหนังสือมอบอำนาจจากนายศิริชัย แดงสุภา สามีซึ่งถึงแก่กรรมเมื่อปี 2556 โอนที่ดินกองมรดกมาเป็นของตัวเอง ต่อมาจึงทราบว่าบุตรสาวคนโตและบุตรเขยฮุบกิจการน้ำพริกเผาแม่ประนอมไปเป็นของตัวเอง โดยการได้เปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ทั้งหมด โดยตัดนายศิริชัย ตน และบุตรคนอื่นๆออกจากรายชื่อผู้ถือหุ้น แล้วใส่ชื่อของตัวเองและบุตรเขยเข้าไปแทน จนต่อมาทั้ง 2 คนก็ได้ขับไล่ตนออกจากบ้าน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้พยายามต่อสู้ทางคดีความ แต่ก็ยังไม่เป็นผล

“เรื่องของดิฉันเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่ถ้าปล่อยให้บุตรสาวและบุตรเขยของดิฉันใช้ช่องว่างของกฎหมาย ฮุบกิจการและทรัพย์สินของครอบครัวไปเป็นของตนเองโดยง่าย จะเกิดผลเสียหายแก่ของบรรทัดฐานด้านจริยธรรมและศิลธรรมของสังคมอย่างยิ่ง ดิฉันจึงใคร่ขอความกรุณาจากท่านเพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับดิฉันและครอบครัวต่อไป” นางประนอม กล่าว

'บิ๊กตู่' ฉุนพวกวิจารณ์ร่างฯ ขู่ดำเนินการตามกฎหมาย

"ประยุทธ์" เสียงอ่อย "รถไฟเร็วสูง" หดแค่ กทม.-โคราช อ้างสารพัดเหตุ จีนไม่ร่วมลงทุน แต่ยังสร้างแบบจีทูจี จีนหนุนเทคโนโลยี-วิศวกร ขอสร้างเป็นการภายในก่อน ฉุนพวกวิจารณ์ร่างฯ เตือนระวังตัวไว้ เช็กบ้างวันนี้ใครเป็นใคร ชี้เป้าพวกปากเปราะ-คนไล่ให้ลาออก

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.59 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า ในฐานะตัวแทนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ขอประณามการก่อการร้ายครั้งนี้ รวมทั้งจะร่วมกันต่อต้านการกระทำดังกล่าวร่วมกับประเทศอื่นๆ ในโลกใบนี้ด้วย สำหรับในประเทศ รัฐบาลได้กำชับทุกส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วน ให้ใช้ความระมัดระวังในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยสถานที่และบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สำคัญที่มีชาวต่างประเทศและชาวไทยเป็นจำนวนมาก โดยขอให้ประชาชนทุกท่านได้ร่วมมือกันเฝ้าระวัง สังเกตหากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือพบบุคคลที่ต้องสงสัย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการดำเนินนโยบายสำคัญของรัฐบาลด้วยว่า ในส่วนของโครงการบ้านประชารัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชนได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยของรัฐบาล คสช. 10 ปี (พ.ศ.2559-2568) ซึ่งตั้งเป้าหมายให้ผู้มีรายได้น้อยกว่า 2.7 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ จาก 4.6 ล้านครัวเรือนตามยอดในปัจจุบันที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยได้มีที่อยู่อาศัย ร่วมกับโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยของหน่วยงานอื่นด้วย ขณะที่มาตรการกระตุ้นราคายางพาราในประเทศให้สูงขึ้น ปัจจุบันมีความก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจในฐานะรัฐบาล แต่กลุ่มเกษตรกรอาจจะยังไม่พอใจมากนัก เพราะต้องการราคาที่สูงมากกว่านี้ จึงต้องขอเวลาอีกสักหน่อยเพื่อให้มาตรการต่างๆ เป็นไปอย่างยั่งยืน ซึ่งในการไปเยือนประเทศจีนครั้งนี้ ทางการจีนได้รับปากว่า จะเร่งดำเนินการในเรื่องของการซื้อยางและข้าวจากไทยให้ได้โดยเร็วด้วยในส่วนของการร่างรัฐธรรมนูญ

นายกฯ กล่าวต่อว่า นักการเมือง อะไรก็แล้วแต่ พูดแต่เรื่อง เลือกตั้งๆ ไม่เห็นมีใครพูดถึงอย่างอื่นเลยว่า จะทำการศึกษากันยังไง จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจยังไง ก็ดีแต่ติติงในส่วนที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำ ไปคิดใหม่ ทำใหม่ ยังมีโอกาสให้ท่านปรับปรุงตัว ตนไม่อยากใช้คำว่า ตนเก่งกว่าท่านหรือท่านเก่งกว่า แต่ถ้าไม่ได้มากล่าวอ้างให้ตนเสียหาย ก็ไม่เคยไปอยากตอบโต้อยู่แล้ว เสียเวลาการทำงาน

"หลายคนปากไม่ค่อยดี ก็คงลืมไปว่าวันนี้ผมอยู่ในตำแหน่งไหน ก็ระมัดระวังด้วยกฎหมาย เตือนไว้ก่อน มีบางคนบอกว่าผมต้องรับผิดชอบให้ผมลาออก ถ้าพูดอย่างนี้อันตราย ระวังตัวไว้ ด้วยคนพูดอย่างนี้ บอกถ้าไม่เรียบร้อยไม่ผ่านผมจะต้องลาออก มันเรื่องอะไรของคุณ เดี๋ยวผมจะดำเนินการกับคุณทางกฎหมาย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


องค์กรพิทักษ์พระพุทธฯ ประกาศขับ 'พุทธะอิสระ'

องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา ภาคใต้ มีมติ ทำพิธี "ประกาศอุกเขปนียกรรม" ขับ "พุทธะอิสระ" ออกจากคณะสงฆ์ เตรียมยื่นหนังสือแจ้งรัฐบาล ขอความอุปถัมภ์ในการทำพิธีเร็วๆ นี้...

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 59 พระปลัดนรุตม์ชัย อภินนฺโท วัดเกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ในฐานะเลขาธิการองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา ภาคใต้ กล่าวว่า ตามที่ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงท่านพุทธะอิสระ เพื่อชี้แจงกรณีที่ท่านได้เขียนบทความเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก เบี่ยงเบนจากข้อเท็จจริง ว่า พระเถระภาคใต้ 2 รูป เป็นพระสายวัดพระธรรมกาย เป็นลิ่วล้อการเมืองนั้น เป็นการชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด ในฐานะที่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงแทนท่านทั้ง 2 รูป ดังนี้

รูปที่หนึ่ง พระอธิการฉัตรชัย อธิจิตโต เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ท่านเป็นพระวิปัสสนาจารย์ แต่รักในความถูกต้อง ไม่เข้าพวกกับการเมือง รูปที่สอง พระครูวิรัติธรรมโชติ เจ้าคณะอำเภอเมือง จ.สงขลา ท่านเป็นพระนักปกครองที่ทุ่มเททำงานเพื่อพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ใน จ.สงขลา และเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 18 เป็นที่พึ่ง เป็นกำลังใจให้กับพระในปกครอง แม้ในยามพระสงฆ์และชาวพุทธบาดเจ็บ ล้มตาย จากเหตุการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านไม่เคยทิ้งพระเณร ไม่เคยทิ้งชาวพุทธในพื้นที่ การที่ท่านพุทธะอิสระออกมาพูดให้ร้ายพระสงฆ์ภาคใต้ทั้ง 2 รูป เสมือนหนึ่งว่า บัดนี้ ท่านได้ประกาศตัดขาดจากพระสงฆ์ภาคใต้แล้ว

พระปลัดนรุตม์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในนามเลขาธิการองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนา ภาคใต้ เห็นว่า พุทธะอิสระ เป็นภิกษุพาล เที่ยวรุกรานภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ให้ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว ไม่เว้นแม้พระนวกะ มัชฌิมะ (พระเถระผู้เฒ่า) จึงเห็นสมควรตัดขาดภิกษุเช่นนี้จากคณะสงฆ์ ขอให้พระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑล จงร่วมกันลงทัณฑกรรมตามแนวพุทธวิธีที่ทรงอนุญาต ประกาศอุกเขปนียกรรม ขับไล่ทุมมังกุภิกษุผู้ไร้ยางอายนี้ ออกจากหมู่สงฆ์ ลงโทษให้สมกับที่ได้สร้างความเสียหายให้แก่พระพุทธศาสนา โดยองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาภาคใต้ กำหนดจะเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ เพื่อแจ้งให้รัฐบาลถวายความอุปถัมภ์ การที่คณะสงฆ์จะดำเนินการทางพระธรรมวินัย ลงอุกเขปนียกรรมขับพุทธะอิสระออกจากหมู่สงฆ์ เพื่อนำความเรียบร้อยดีงามคืนสู่พระพุทธศาสนาต่อไป

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้เข้าหารือกับพระพรหมมุนี และพระพรหมบัณฑิต ในนามตัวแทนมหาเถรสมาคม (มส.) นายชยพล พงษ์สีดา รอง ผอ.พศ. นายสมเกียรติ ธงศรี ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เจ้าหน้าที่ส่วนงานมหาเถรสมาคม และกองพุทธศาสนศึกษา ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยคาดว่า มีการหารือเกี่ยวกับที่จะมีพระสงฆ์ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับ ผู้ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ โดยระบุเพียงว่าเป็นการหารือเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม และแนวทางในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาเท่านั้น


‘ยูเอ็น’แนะปรับร่างรธน.11ข้อ ย้ำผู้แทนต้องมาจากการเลือกตั้ง

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) ออกแถลงการณ์ แนะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ของไทยปรับปรุง 11 ข้อ

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออกแถลงการณ์ทางวิชาการลงวันที่ 23 มีนาคม เสนอแนะข้อปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญของไทยรวม 11 ข้อ มีใจความโดยสรุปดังนี้

1.ความแตกต่างระหว่างพลเมืองและผู้ที่ไม่ใช่พลเมือง ในหัวข้อ สิทธิและเสรีภาพของประชาชนไทย ควรปรับให้มีการรับประกันการปกป้องสิทธิทั้งของพลเมืองไทยและที่ไม่ใช่พลเมืองไทยโดยเท่าเทียมกัน

2.สิทธิความเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ มาตรา 27 ของร่างฉบับปัจจุบัน ควรเพิ่มการไม่เลือกปฏิบัติให้ครอบคลุมทั้งเชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา รสนิยมทางเพศ ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง สัญชาติ ชาติพันธุ์ ภูมิหลังทางสังคม ทรัพย์สิน ลักษณะทางกายภาพหรือภาวะทางสุขภาพ อายุ สถานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ภาวะทุพพลภาพ สถานภาพสมรส ชาติกำเนิด หรือสถานะอื่นๆ

3.สิทธิที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมทางอาญา ร่างมาตรา 28 และร่างมาตรา 29 ควรปรับปรุงให้ครอบคลุมสิทธิต่างๆ ตามข้อ 9 และข้อ 14 ของกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ไอซีซีพีอาร์)

4.สิทธิความเป็นส่วนตัว ร่างมาตรา 32 ควรได้รับการปรับปรุงให้รวมบทบัญญัติที่รับประกันการคุ้มครองจากการเข้าแทรกแซงความเป็นส่วนตัวโดยพลการ

5.สิทธิในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างเสรี ร่างมาตรา 34 ควรรวมบทบัญญัติที่รับประกันให้มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นโดยไม่ถูกแทรกแซง และรวมถึงการรับประกันสิทธิในการเสาะหาและรับข้อมูลสำคัญตามที่ระบุไว้ในข้อ 19 ของกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

6.สิทธิในการชุมนุมโดยสงบและสิทธิในการรวมกลุ่ม ร่างมาตรา 42 วรรค 2 และมาตรา 44 วรรค 2 ควรปรับให้การจำกัดสิทธิในเรื่องดังกล่าวไม่เพียงต้อง “เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติ” เท่านั้น แต่ต้องกระทำ “เท่าที่จำเป็น” ตามข้อ 21 และ 22 ของกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

7.สิทธิที่จะได้รับการเยียวยา ควรคงไว้ซึ่งมาตรา 32 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550

8.สิทธิในการมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะ อาทิ สิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง สิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้แทนของพลเมืองต้องมาจากการเลือกอย่างเสรีของประชาชนผ่านการเลือกตั้งที่แท้จริงและจัดขึ้นตามวาระ สมาชิกของทั้งสองสภาต้องมาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งต้องปกป้องสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง และสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง

9.สิทธิชุมชน ควรคงไว้ซึ่งมาตรา 12 ของรัฐธรรมนูญปี 2550

10.บทบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนผ่าน ควรตัดทิ้งร่างมาตรา 257 เพื่อไม่ให้อำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวยังคงมีอยู่ต่อไปหลังการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

11.กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและรัฐบาลควรดำเนินการให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ครอบคลุมและเปิดกว้างให้มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ประชาชนชาวไทย ควรมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก สิทธิในการชุมนุมอย่างสงบและการรวมกลุ่ม การจำกัดสิทธิประการใดที่ไม่สอดคล้องกับกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ควรยกเลิกโดยทันที


'ช้างศึก' บุกเจ๊า 'อิรัก' 2-2 ผงาดแชมป์กลุ่มเอฟบอลโลก

"ทัพช้างศึก" ทีมชาติไทย บุกมายันเสมอกับ ทีมชาติอิรัก 2-2 แต่ก็เพียงพอต่อการเป็นแชมป์กลุ่มเอฟ พร้อมคว้าตั๋วเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชียด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเอฟสำเร็จ...

ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชียประจำวันที่ 24 มี.ค. เป็นการแข่งขันในกลุ่ม เอฟ คู่ระหว่าง ทีมชาติอิรัก พบกับ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย โดยเกมนี้แข่งที่สนามกลาง ซาฮิด ดาสต์เกอร์ตี สเตเดียม ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ซึ่งทีมชาติไทยขอแค่ผลเสมอจะทำให้ผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายอย่างเป็นทางการทันที

เกมนี้เจ้าถิ่นไม่มีอะไรจะเสียต้อง 3 แต้มเท่านั้น เพื่อโอกาสในการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายต่อไปโดยเกมรุกนำทัพโดย อาลี อัดนาน ปีกตัวเก่งที่ค้าแข้งอยู่ในลีกกัลโชเซเรียอากับ อูดิเนเซ กับ ยูนิส มาห์มูด หัวหอกกัปตันทีมเป็นตัวทีเด็ด ส่วน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทยจัดระบบ 4-3-3 โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา เป็นตัวความหวังทำประตู

เปิดฉากมาแค่ 5 นาที ช้างศึกรอดพ้นการเสียประตูหวุดหวิด หลัง อับดุลลาฮีม คาร์รา กองหน้าของอิรักส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย แต่ไลน์แมนกลับยกธงล้ำหน้าหวุดหวิด

นาทีที่ 11 ไทยได้โอกาสลุ้นครั้งแรกจากลูกโต้กลับ ปกเกล้า อนันต์ กระชากมาเองก่อนตัดสินใจยิงบอลข้ามคานอีก 6 นาทีให้หลัง อิรักบุกต่อและเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากลูกทุ่มไกลบอลมาถึง อับดุลลาฮีม คาร์รา ชาร์จจ่อๆ บอลข้ามคานหวุดหวิด

นาทีที่ 22 ไทยรอดเสียประตูอีกครั้ง จากลูกยิงเต็มข้อของ อับดุล คาร์รา แต่กวินทร์ ยังบินได้ ปัดออกหลังอย่างหวุดหวิด

มาถึงนาทีที่ 28 ไทยตอบโต้ก่อนจบด้วยการยิงประตู จากลูกยิงของ เมสซีเจ แต่บอลเข้าซองนายด่านอิรักรับไม่มีพลาด

เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 40 กองเชียร์ชาวไทยเฮลั่นเมื่อมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกเตะมุม ธีราธร บุญมาทัน เปิดโค้งมาให้กับ มงคล ทศไกร เทคตัวโขกเสียบเสาสองเข้าไปเลย

นาทีที่ 44 อิรักลุยหนัก ดูว์กอม อิสมาเอล เติมมายิงด้วยซ้ายบอลยังหลุดกรอบออกไป

เกมครึ่งแรกจบลงเป็น ทีมชาติไทย บุกไปขึ้นนำ อิรัก 1-0 จากลูกยิงของ มงคล ทศไกร นาทีที่ 40

ทีมชาติไทย ทำสำเร็จผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกโซนเอเชียต่อไป

เข้าสู่ครึ่งหลัง อิรัก ลุยแหลกนาทีที่ 50 เกือบได้ประตูตีเสมอ ไฟซอล ยิงจากนอกกรอบเขตโทษบอลเข้าซอง กวินทร์ รับไว้ได้

นาทีที่ 67 อิรักตามตีเสมอจนได้ 1-1 จากสองตัวสำรอง อาห์เม็ด อับดุลลาห์ ซัดด้วยซ้าย บอลติดเซฟ กวินทร์ แต่บอลมาเข้าทาง คามิล ชิลทาจ์ ตามซ้ำเข้าไป

อีก 2 นาทีต่อมาช้างศึกกำลังรวน โดนอิรักบี้หนักและเกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำ อาลี อัดนาน เปิดฟรีคิกให้กับ ซาลัม ซาคีร์ โขกเหน่งๆ แต่ กวินทร์ บินปัดออกหลังหวุดหวิด

นาทีที่ 82 ไทยเกือบขึ้นนำอีกรอบ จากลูกโต้กลับ ธีรศิลป์ แดงดา ได้ยิงแถวสองบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

จนกระทั่งนาทีที่ 86 ไทย ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกรอบ 2-1 จากลูกฟรีคิก ธีราธร บุญมาทัน เปิดโค้งไปเสาสองบอลมาถึง อดิศักดิ์ ไกรษร ชาร์จเผาขนเข้าไป

แต่ทว่าช่วงทดเจ็บ อิรัก มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากลูกยิงของ อาลี อัดนาน บอลมาโดน กรวิทย์ สกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง อย่างไรก็ตาม จบเกมการแข่งขัน ทีมชาติไทย บุกมายันเสมอ ทีมชาติอิรัก 2-2 เพียงพอต่อการการันตีเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นจ่าฝูงกลุ่ม เอฟ สำเร็จ พร้อมคว้าตั๋ว เอเชี่ยนคัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม

อิรัก : นอร์ ซาร์บี (GK),ไฟซอล ยาสซิม,อาลี เรเฮมา,ซาลัม ซาคีร์,ดูว์กอม อิสมาเอล,มาห์ดี คาเมล,ซาอัด อับดุล อาเมียร์,อาลี อัดนาน,ฮัมมาดี อาหมัด,ยูนิส มาห์มูด,โมฮาหมัด อับดุลลาฮีม คาร์รา

ไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK),ทริสตอง โด,ธนบูรณ์ เกษารัตน์,กรวิทย์ นามวิเศษ,ธีราทร บุญมาทัน,สารัช อยู่เย็น,ปกเกล้า อนันต์,ชนาธิป สรงกระสินธ์,มงคล ทศไกร,เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์,ธีรศิลป์ แดงดา

แห่ดูต้นขนุนอายุ 20 ปี ที่ลพบุรี ชาวบ้านฮือฮาออกลูกเป็นชมพู่

เมื่อเวันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายธนพล คลังทรัพย์ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ว่าที่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 4 ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางสมพงษ์ วงษ์เวช อายุ 68 ปี มีเรื่องแปลกประหลาดคือมีต้นขนุนอายุ 20 ปี ออกผลเป็นชมพู่ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไปถึงบ้านดังกล่าว พบนายธนพล และลูกบ้านอีกหลายราย และน.ส.วสิภา วงษ์เวช อายุ 16 ปี หลานสาวเจ้าของบ้าน รอให้การค้อนรับและพาเดินดูรอบๆ บริเวณบ้านพบว่ามีการปลูกพืช ผัก ผลไม้นานาชนิดรอบบ้าน มีทั้งมะม่วง น้อยหน่า ส้มโอ ชมพู่ และขนุนจำนวน 2 ต้น ภายในบ้าน ซึ่งขนุนกำลังติดดอกออกลูกเต็มต้น แต่ขนุนอีกต้นที่ปลูกไว้ติดกับตัวบ้านนั้นมีลูกชมพู่ที่ติดลูกอยู่ปลายกิ่งขนุน จำนวน 3 ผล ขนาดประมาณ 3 เซนติเมตร และใบรอบผลของชมพู่ ก็เป็นใบของขนุนอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร มองเห็นผลของชมพู่ได้อย่างชัดเจน โดยผลของชมพู่นั้นได้เจริญเติบโตขึ้นทุกวัน

น.ส.วสิภา เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา นางเพ็ญโสภา วงษ์เวช อายุ 48 ปี มารดาของตนสังเกตเห็นความแปลกประหลาด ที่ต้นขนุนว่าเหมือนมีใครเอาผลของชมพู่มาผูกติดไว้กับกิ่งขนุน จึงตามตน พ่อ และย่ามาดูพบว่า เป็นชมพู่ที่ออกผลบนกิ่งของขนุนจริงๆ จำนวน 3 ผล ซึ่งชาวบ้านทราบข่าวได้เดินทางมาดู ต่างก็กล่าวขานถึงความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ทั้งที่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวนั้นมีต้นชมพู่อยู่ใกล้ก็จริงแต่ยังไม่ได้ออกดอก ออกผล แต่ประการใด

ชาวบ้านหลายคน เล่าว่า นางสมพงษ์เจ้าของบ้านนั้น เป็นแม่ครัวอยู่ที่วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อจรัญที่อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อมานาน ก่อนที่หลวงพ่อจรัญจะมรณภาพได้มอบวัวเพศผู้จำนวน 2 ตัว ที่มีผู้ที่ไถ่ชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์ให้นำมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน จากที่เห็นเป็นคนที่มีเมตตาต่อสัตว์ โดยวัวจำนวน 2 ตัว ที่นำมาเลี้ยงนั้น ชอบที่จะมาพักอยู่ใต้ต้นขนุนต้นนี้ เป็นประจำ

ซึ่งหลังจากหลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน มรณภาพลง หลวงพ่อทองแดง วัดเขาช่องลม ซึ่งอยู่ใกล้บ้านอาสานำวัว 2 ตัวนี้ไปเลี้ยง เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่วงฤดูแล้งหาอาหารให้กับวัวลำบาก แต่ที่วัดยังมีหญ้ามากพอที่จะให้วัวกินได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ครอบครัวของตนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โชคดีอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ซึ่งครอบครัวมีความเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะอภินิหารของหลวงพ่อจรัญ ที่ดลบันดาลให้กับผู้ที่มีความเมตตา กรุณา ปราณี กับคนที่ชอบสร้างกุศลที่จะได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ ในชีวิต อย่างที่หลวงพ่อท่านสอนให้กับพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศและต่างประเทศ