7 ธ.ค.61 หลังจากที่มีกระแสข่าวของหญิงสาวรายหนึ่งที่ออกมาโพสต์รูปของตัวเองกับชายหนุ่ม 4 คน ผ่านเฟซบุ๊ก โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า " เมีย 4 ทำโช กูผัว 4 ยังไม่โชเรย กูสวย " งานนี้ก็ทำเอาชาวเน็ตเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก บางความเห็นขอแสดงความยินดี บางรายก็ตำหนิในเชิงลบ
ล่าสุด หญิงสาวรายนี้ ได้ออกมาระบุข้อความว่า " คนอย่างกูนิ มันทำดีไม่ขึ้นจิง จะเป็นคนดีไม่ได้จิง จะทำดี ตั้งใจทำงานเผื่อกูจะดีกะเขาบ้าง พอมาเจอข่าว ผัว 4 ล่าสุด โดนไล่ออกจากงานจ้า "
นอกจากนี้เธอยังระบุตอบกลับผู้ที่เข้ามาสอบถามเธอถึงสาเหตุ โดยเธอได้ระบุตอบกลับว่า เขาบอกเสียชื่อบริษัทเขา อย่างไรก็ตาม มีคนเข้ามาระบุเกี่ยวกับเรื่องของเธอว่า ทำไมไม่สืบให้ดีๆก่อน ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องเล่น และถ้ามีผัว 4 จริงๆ ทำงานไม่ได้เหรอ งง มันก็สิทธิ์ของเราป่ะ ถ้าจะมีผัว 4 จริงๆ มันก็ไม่ได้เกี่ยวไรกับงาน
โฆษกรัฐบาลเผยคสช.คอนเฟิร์มพรรคการเมือง เลือกตั้ง24ก.พ.62 จ่อปลดล็อกเร็วๆนี้ ระบุไม่ต้องทำหนังสือแจ้งผลหารือพรรคใหญ่ เหตุคงติดตามกันได้
7 ธ.ค.61 ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และพรรคการเมือง ว่า มีการพูดคุยเรื่องขั้นตอนต่างๆ หลังจากนี้ ทั้งการที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค.รวมถึงกรอบเวลาจนถึงได้รัฐบาลชุดใหม่ ที่จะอยู่ประมาณเดือน พ.ค. - มิ.ย.62
นอกจากนี้ กกต.ยังได้ชี้แจงบางขั้นตอนที่พรรคการเมืองจะนำไปปฏิบัติ โดยช่วงท้ายยังเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองซักถาม ซึ่งมีข้อสังเกตหลายอย่างจากพรรคการเมือง อาทิ กังวลเรื่องเวลาการสังกัดพรรคการเมืองเพื่อให้คุณสมบัติครบที่จะลงรับสมัคร ส.ส.ได้ หรือค่าสมาชิกพรรค ซึ่งหัวหน้า คสช.และประธาน กกต.จะรับข้อสังเกตเหล่านี้ไปพิจารณาและดำเนินการต่อไปเท่าที่ทำได้ ส่วนวันเลือกตั้งมีการยืนยันในที่หารือว่ายังเป็นวันที่ 24 ก.พ.62
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของวันปลดล็อกที่จะให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ โดยอยู่ภายในเดือน ธ.ค.นี้แน่นอน ซึ่งจะมีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุม คสช.เร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม การหารือครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดถึงกรณีพรรคการเมืองใหญ่ไม่มาร่วม มีแต่หัวหน้า คสช.ได้ขอบคุณทุกพรรคการเมืองที่มาแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่างๆ ซึ่งจะนำไปปรับปรุงให้การเลือกตั้งเรียบร้อยต่อไป ส่วนพรรคการเมืองที่ไม่ได้มาคิดว่าคงได้ข้อมูล แนวทาง และกรอบเวลาที่จะปฏิบัติในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งจริงๆ วันนี้ทุกอย่างแทบจะชัดเจน เพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงกรอบเวลาต่างๆ ได้ชัดเจนมาก ว่าทุกอย่างเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย และรัฐบาลไม่ต้องทำหนังสือแจ้งพรรคการเมืองใหญ่ที่ไม่ได้มาร่วมหารือ เพราะเชื่อว่าคงได้ติดตามอยู่
7 ธ.ค.61 นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ Oak Panthongtae ระบุว่า “จริงครับอา Sunset อาต้องชู CTX~เรียงหิน~เรือเหาะ~รถเกราะล้อยาง~GT200~นาฬิกายืมเพื่อน~สนามฟุตซอล~ขายยางดาวอังคาร~พืชผลตกต่ำ~คนรวยเหลื่อมล้ำ~เรือดำน้ำปักเลน~อมเงินคนพิการ~ตั้งบริษัทค่ายทหาร~อุทยานราชภักดิ์ ฯลฯ และปิดท้ายด้วย “รัฐธรรมนูญนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกอา” จึงจะครบสูตรครับ”
สำหรับโพสต์ดังกล่าวของนายพานทองแท้ สืบเนื่องจากกรณีข่าวที่ว่า ‘สุริยะ’ เชื่อ เลือกตั้งครั้งนี้ แข่งที่นโยบายเป็นหลัก รับชู ‘บิ๊กตู่’ อย่างเดียวแพ้แน่ โดยเป็นคำกล่าวของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการจัดสัมมนาแนวการรับสมัครสมาชิกภาคกลาง ระบุว่า การเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เชื่อว่าการแข่งขันของพรรคการเมืองจะขึ้นอยู่กับนโยบายของพรรคเป็นหลัก หากจะชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ชนะคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีทุจริตซีทีเอ็กซ์ ผู้ที่ตกเป็นจำเลยนอกจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แล้ว ยังมีนายทักษิณ บิดานายพานทองแท้ด้วย โดย ป.ป.ช.ลงมติไม่ส่งฟ้องเมื่อวันที่ 28 ส.ค.55
6 ธ.ค.61 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลระบุพรรคที่ไม่ร่วมประชุมกับแม่น้ำ 5 สายในวันที่ 7 ธ.ค.ถือว่าไม่ยอมรับกติกาและประสงค์ที่จะตีรวน โดยระบุว่า ตนจะโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ส่วนตัวในวันนี้ ขอให้ไปติดตามจากในนั้นแล้วกัน ซึ่งจะตอบครบทุกประเด็นนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘หญิงหน่อย’จิกบิ๊กตู่หลงคิดตัวเองเป็นกก. ปลุกปชช.พิพากษาคนเอาเปรียบ)
ล่าสุด คุณหญิงสุดารัตน์ โพสต์เฟซบุ๊ก “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan” ระบุว่า
สืบเนื่องจากกรณีที่ คสช.กำหนดให้พรรคการเมือง ไปประชุมที่สโมสรทหารบก โดยให้ กกต.เป็นเพียงคนเชิญ แทนที่จะให้ กกต.เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการประชุม พรรคเพื่อไทยมีความเห็นดังนี้
การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย เหมือนการแข่งขันทั่วไปที่ต้องมี กฎ กติกา มารยาท ที่เป็นธรรม คนที่จะเสนอตัวเป็นคนกลางในการกำหนดกติกา ไม่ควรเป็นหนึ่งในผู้ที่จะลงแข่งขันด้วย
ในเมื่อรัฐธรรมนูญ ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าให้ กกต. มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ก็ควรปล่อยให้ กกต.มีอิสระในการดำเนินการ คสช.และรัฐบาล ไม่ควรพยายามใช้อำนาจในการครอบงำ
พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนี้ นอกจากมีสถานะเป็นประธาน คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว ยังเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ เปรียบการเลือกตั้งเหมือนการชกมวย ที่นักมวยต้องมาฟังกติกา ถ้าอย่างนั้นตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง ย่อมเปรียบได้กับเจ้าของค่ายมวย ที่กำลังจะส่งตัวเองลงแข่งเสียเอง
ถ้าอยากจะนั่งหัวโต๊ะประชุมเอง ในบทบาทของคนเป็นกรรมการกลาง ช่วยประกาศให้ชัดเจนก่อนดีไหมคะ ว่าจะไม่เซ็นชื่อ เพื่อตอบรับเป็นตัวเลือกนายกฯ ตามที่พรรคพลังประชารัฐเสนอ
ถ้าไม่ประกาศให้ชัดเจน พล.อ.ประยุทธ์ฯ ก็ควรมานั่งฟังกติกาข้างๆ กันในฐานะ “นักมวย” คนหนึ่ง แล้วปล่อยให้ประธาน กกต.ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างอิสระและเป็นธรรม จะดีกว่าไหมคะ?
สำหรับเวทีนี้ พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเราไม่ขอเข้าร่วม และเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร. ไม่มีคุณสมบัติเป็นกลางเพียงพอ ที่จะเรียกพรรคการเมืองไปฟังกติกาค่ะ
น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และน้องสาว นายทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ผ่านทวิตเตอร์@Yingluck Shinawatra ระบุว่า
"วันนี้อากาศหนาว จามเป็นพิเศษ เหมือนมีคนถามถึง ปูคนนี้ยังสบายดีและอยู่ทุกแห่งค่ะ"
โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ ก่อนมีช่วงหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สอบถามประชาชนที่มาต้อนรับว่า มาจากพื้นที่ใดบ้าง โดยประชาชน ตอบว่ามาจากบางปู พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวกระเซ้าทันทีว่า “มาจากบางปูแล้ววันนี้ยังมีปูอยู่หรือเปล่า พื้นที่นี้เคยไป ”
6 ธ.ค.61 ที่ สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา นายภัทร ขอสงวนนามสกุลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) บริษัทรักษาความปลอดภัยขื่อดังแห่งหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แปลงยาว เพื่อให้ดำเนินคดีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมพวกใน 5 ข้อหา ประกอบด้วย
1.ข่มขืนใจผู้อื่นให้เกิดความกลัว โดยมีอาวุธ และเป็นอั้งยี่หรือซ่องโจร ซึ่งมีโทษจำคุก 1 ถึง 7 ปี
2.ข้อหาร่วมกันบุกรุก ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี
3.คดีร่วมกันครอบครอง และพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาติ
4.คดีทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว
5.คดีหมิ่นประมาท และดูหมิ่นซึ่งหน้า
ทั้งนี้ทีม รปภ.ของบริษัทดังกล่าวยืนยันว่า พวกตนถูกคุกคาม และข่มขู่จริง และพร้อมที่ดำเนินคดีกับายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมพวก จนถึงที่สุด
สำหรับการเข้าแจ้งความดังกล่าวของ รปภ.สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้คลิปที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ด่าทอ ข่มขู่ อย่างรุนแรงกับทีม รปภ.ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ในโรงงานแห่งหนึ่ง
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012