ข่าว
‘แทมมี่ ดักเวิร์ธ’ ประกาศสหรัฐฯ เตรียมส่งวัคซีน 1.5 ล้านโดส ให้ไทย ย้ำไร้เงื่อนไข

วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 : แทมมี่ ดักเวิร์ธ ส.ว.สหรัฐอเมริกาเชื้อสายไทย ประกาศเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ตามเวลาในสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ จะส่งวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างน้อย 1.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทย โดยเธอได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องดังกล่าวให้นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ ทราบด้วยตนเองแล้ว

ดักเวิร์ธ ระบุผ่านเว็บไซต์ของเธอว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศเกี่ยวกับการส่งมอบวัคซีนต้านโควิดอย่างน้อย 1.5 ล้านโดส ให้กับประเทศไทยในวันนี้ เพื่อช่วยประชาชนไทยรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์เดลต้าที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงของอเมริกันเหล่านี้เป็นการบริจาคให้โดยปราศจากเงื่อนไข และเป็นไปภายใต้ความตระหนักรู้ว่าไม่มีชาติใดที่จะปลอดภัยจากโควิด-19 อย่างสมบูรณ์จนกว่าทุกประเทศจะปลอดภัย

ผู้นำฝรั่งเศส เปลี่ยนมือถือ-เบอร์โทรศัพท์ หลังมีรายชื่อถูก "สปายแวร์" สอดแนม

วันที่ 23 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือและหมายโทรศัพท์ของตัวเอง พร้อมสั่งยกเครื่องระบบรักษาความปลอดภัย หลังมีรายงานถูกสอดแนมด้วยสปายแวร์ “เพกาซัส” ที่ผลิตโดยบริษัท เอ็นเอสโอ ของอิสราเอล ที่ขายแก่บรรดารัฐบาลเผด็จการ

หนังสือพิมพ์ เลอ มงด์ รายงานเมื่อสัปดาห์นี้ว่า ประธานาธิบดีมาครงพร้อมรัฐมนตรีฝรั่งเศส 14 คน ถูกสอดแนมจากโมร็อกโก ขณะที่ทางการโมร็อกโกโต้ว่า ข้อกล่าวหาไร้มูลและไม่เป็นความจริง

แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่า เพกาซัสติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือของผู้นำฝรั่งเศสหรือไม่ แต่หมายเลขโทรศัพท์ของประธานาธิบดีมาครงอยู่ใน 50,000 หมายเลขที่ลูกค้าของเอ็นเอสโอใช้เพกาซัสสอดแนมตั้งแต่ปี 2559

ทั้งนี้ เพกาซัสจะแฝงตัวในโทรศัพท์มือถือทั้งไอโฟนและแอนดรอยด์ โดยจะให้ผู้ใช้งานสปายแวร์ตัวนี้สามารถดึงข้อความ รูปภาพ และอีเมลได้ สามารถบันทึกการโทรได้ด้วยการแอบเปิดใช้งานไมโครโฟนและกล้องของอุปกรณ์

ส่วนผู้มีรายชื่อถูกสอดแนมมีทั้งผู้นำประเทศต่างๆ นักการเมือง นักข่าว นักเคลื่อนไหว และผู้บริหารธุรกิจ จากหลายสิบประเทศ โดยข้อมูลดังกล่าวรั่วไหลและสื่อทั่วโลกนำมาเผยแพร่

ขณะที่เอ็นเอสโอปฏิเสธข้อกล่าวหา และว่า เพกาซัสมีจุดประสงค์เพื่อให้เฉพาะกองทัพ ตำรวจ และหน่วยข่าวกรองจากประเทศที่มีประวัติสิทธิมนุษยชนดี ใช้ต่อต้านอาชญากรรมและผู้ก่อการร้าย

อย่างไรก็ดี ทางการอิสราเอล ฮังการี และแอลจีเรีย เริ่มเปิดการสอบสวนการใช้งานสปายแวร์ตัวนี้แล้ว ว่ามีการก่ออาชญากรรมหรือไม่

สปายแวร์ : บริษัทอิสราเอลถูกกล่าวหาส่งเสริมรัฐบาลเผด็จการล้วงข้อมูลโทรศัพท์ฝ่ายตรงข้าม

สื่อหลายสำนักรายงานว่า NSO บริษัทเทคโนโลยีสอดแนมของอิสราเอลได้ขายสปายแวร์ที่ชื่อ “เพกาซัส” (Pegasus) ให้รัฐบาลเผด็จการหลายประเทศเพื่อใช้สอดส่องและล้วงข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือของกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้สื่อข่าว และทนายความที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล

ข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยออกมาระบุว่า มีเบอร์โทรศัพท์มากถึง 50,000 หมายเลขที่เชื่อว่าตกเป็นเป้าหมายการสอดแนมของลูกค้าบริษัท NSO

อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่ารายชื่อหมายเลขเหล่านี้ได้มาจากที่ใด และโทรศัพท์ที่อยู่ในรายชื่อนี้ได้ถูกล้วงข้อมูลไปจริงหรือไม่

ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ครั้งแรกโดย “ฟอร์บิดเดน สตอรีส์” (Forbidden Stories) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชนที่ถูกคุกคาม จากนั้นหนังสือพิมพ์ชื่อดัง อาทิ วอชิงตันโพสต์ ของสหรัฐฯ, เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ, เลอมงด์ ของฝรั่งเศส และสำนักข่าวอีก 14 แห่งทั่วโลกได้นำไปรายงานเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน NSO ปฏิเสธข้อกล่าวหาครั้งนี้ โดยระบุว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อใช้สอดส่องอาชญากรและผู้ก่อการร้าย โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานในกองทัพ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยข่าวกรองของประเทศที่มีประวัติด้านสิทธิมนุษยชนที่ดีเท่านั้น

ในแถลงการณ์ของ NGO ระบุว่า การสืบสวนของฟอร์บิดเดน สตอรีส์ และองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่สื่อหลายสำนักนำมารายงานนั้น “เต็มไปด้วยการคาดเดาผิด ๆ และทฤษฎีที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน”

เพกาซัส ทำอะไรบ้าง

รายงานระบุว่า เพกาซัส จะเจาะเข้าโทรศัพท์ไอโฟนและแอนดรอยด์แล้วล้วงข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อความสนทนา รูปภาพ และอีเมล ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และแอบเปิดไมโครโฟนเพื่อดักฟังการสนทนา

การตรวจสอบโทรศัพท์ที่อยู่ในรายชื่อหมายเลขที่ตกเป็นเป้าหมาย พบว่ากว่าครึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ถึงร่องรอยของเพกาซัส

การสืบสวนพบว่า ฮาทีเจอ เจนกิซ คู่หมั้นของ จามาล คาชูจกิ นักข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย ตกเป็นเป้าหมายสอดแนมหลังจากเขาถูกสังหารไปได้ไม่กี่วัน

มีข้อมูลว่า มีผู้สื่อข่าวราว 180 คนที่อยู่ในรายชื่อหมายเลขที่ตกเป็นเป้าหมายของสปายแวร์ชนิดนี้ อาทิ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเอเอฟพี, ซีเอ็นเอ็น, นิวยอร์กไทมส์, อัลจาซีรา และสื่ออื่นอีกหลายสำนัก

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิง 2 คนที่ใกล้ชิดกับนายจามาล คาชูจกิ นักข่าวชาวซาอุดิอาระเบียที่ถูกสังหารในตุรกีเมื่อปี 2018 และผู้สื่อข่าวชาวเม็กซิกันที่ชื่อ เซซิลิโอ ปิเนดา บีร์โต ซึ่งถูกสังหารที่ร้านล้างรถ

รายชื่อดังกล่าวยังรวมถึงประมุขของรัฐ และผู้นำรัฐบาลหลายคน ตลอดจนสมาชิกราชวงศ์อาหรับ และผู้บริหารธุรกิจต่าง ๆ

คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดว่าใครตกเป็นเป้าหมายการสอดแนมนี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ในปี 2019 แอปพลิเคชันวอตส์แอปป์ (WhatsApp) ได้ฟ้องร้อง NSO โดยกล่าวหาว่าบริษัทอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกี่ยวข้องกับเพกาซัสในโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้งานราว 1,400 ราย ในตอนนั้น NSO ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่บริษัทได้ถูกสั่งห้ามการใช้งานวอตส์แอปป์

บทวิเคราะห์โดย โจ ไทดี ผู้สื่อข่าวไซเบอร์

ข้อกล่าวหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ข้อมูลใหม่คือจำนวนของผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นเป้าการสอดแนมครั้งนี้ ซึ่งมีผู้สื่อข่าวอยู่เกือบ 200 คน จาก 21 ประเทศ

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเรื่องที่เรายังไม่ทราบเกี่ยวกับข้อกล่าวหานี้อยู่อีกมาก ซึ่งรวมถึงเรื่องที่ว่ารายชื่อเหล่านี้มาจากไหน และมีเบอร์โทรศัพท์กี่หมายเลขที่กำลังถูกล้วงข้อมูลอยู่

เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท NSO ได้ออก “รายงานความโปร่งใส” ที่ระบุถึงนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและคำมั่นสัญญาต่างๆ ของบริษัท แต่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ชี้ว่านี่เป็นเพียง “โบรชัวร์ส่งเสริมการขาย” เท่านั้น

แม้ข้อกล่าวหาล่าสุดจะสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบริษัท แต่ก็คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบทางด้านรายได้ เพราะปัจจุบันมีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถผลิตสินค้าเทคโนโลยีสอดแนมแบบที่ NSO ทำได้ และชัดเจนว่าตลาดสปายแวร์ที่ไม่มีการควบคุมเหล่านี้กำลังอยู่ในยุคเฟื่องฟู


“WHO” ชี้ชัดไทยกลับมาเผชิญวิกฤตโควิดรุนแรง สาเหตุจากไวรัสกลายพันธุ์

ตัวแทน WHO ชี้ไทยเผชิญวิกฤตโควิดรุนแรงจากสาเหตุไวรัสกลายพันธุ์ ชี้การจะกลับมารับมือกับโรคได้ดีอีกครั้ง ต้องเพิ่มความเข้มข้นมาตรการส่วนบุคคล ขณะที่ “หมอนคร” ชี้การกลายพันธุ์ไม่ใช่ความผิดพลาดของคนทำงาน และหากบอกวัคซีนไม่ประสิทธิภาพก็ไม่เป็นธรรม เพราะวัคซีนเกิดก่อนไวรัสกลายพันธุ์ แต่ในฐานะคนทำงาน พยายามรับผิดชอบและทำงานอย่างเต็มที่

23 ก.ค. 64 นพ.ริชาร์ด บราวน์ ผู้อำนวยการโครงการด้านภัยสุขภาพฉุกเฉิน องค์การอนามัยโลก สำนักงานประจำประเทศไทย กล่าถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ในไทย ว่า การระบาดระลอกแรกของไทยทำได้ดีมากทางองค์การอนามัยโลกได้ประเมินความสำเร็จของไทยในปีที่แล้ว ส่วนสถานการณ์ในขณะนี้ที่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้น เพราะการกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นธรรมชาติของไวรัสที่มีการเปลี่ยนแปลง และประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาแค่ประเทศเดียว

แต่เป็นเหมือนกันทั่วโลก ที่ทุกประเทศกำลังเผชิญ ทั้งเรื่องวัคซีนที่อาจไม่เพียงพอและไวรัสที่กลายพันธุ์แพร่กระจายได้ง่ายขึ้น แต่ยังไม่เปลี่ยนมาตรการส่วนบุคคล ฉะนั้นต้องเพิ่มความเข้มข้นเรื่องมาตรการส่วนบุคคล ทุกคนต้องทำให้เข้มข้น ใช้มาตรการที่ได้ผลดีอยู่แล้ว ให้เข้มข้นขึ้น ใช้มาตรการส่วนบุคคลต่างๆ การสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่าง การล้างมือ ทำให้กราฟการติดเชื้อในผู้ป่วยลดลง

ด้าน พญ.ชุลีพร จิระพงษา นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปีที่แล้วเนื่องจากมีการระบาดไม่ใหญ่ทำให้จัดการได้ดี แต่ขณะนี้มีเรื่องสายพันธุ์ที่ทำให้รุนแรงขึ้น แพร่เร็วขึ้น วัคซีนรับมือได้น้อยลง ยืนยันว่าทุกภาคส่วนยังต้องร่วมมือกัน ประชาชนก็ต้องร่วมกันป้องกันตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะการ์ดตกบ้าง การระบาดระลอกนี้เลยใหญ่มากๆ แต่พื้นที่นอก กทม.ระบบสาธารณสุขยังแข็งแรงพอสมควรที่จะรับมือได้

ส่วน กทม.ค่อนข้างยาก ทั้งเรื่องจำนวนประชากรและระบบสาธารณสุขที่มีหลายภาคส่วนทำให้รับมือได้ช้า แต่คิดว่าอีกสักระยะน่าจะจัดการได้ ขณะนี้อยากให้เน้นฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุเกิน 60 ปี 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และหญิงตั้งครรภ์ ให้ได้เยอะที่สุด ซึ่งเราหวังว่าจะถึงขาลงของเคิร์ฟได้ใน 2-3 เดือนนี้

ขณะที่ นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า อดีตที่รับมือกับโรคได้ดีเพราะความร่วมมือของทุกคน ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเป็นอย่างดีการระบาดในรอบแรกเป็นไวรัสปกติ แต่เมื่อเกิดการกลายพันธุ์จากอัลฟาและเดลตา ในช่วงแรกสมุทรสาครก็ผ่านมาด้วยดีเพราะมาตรการที่ทุกคนร่วมมือ

ย้ำไวรัสสลายพันธุ์ไม่ใช่ความผิดพลาดของคนทำงาน ไวรัสกลายพันธุ์เป็นธรรมชาติของไวรัส การกลายพันธุ์

ก็ไม่ใช่เพราะว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้ผลเพราะวัคซีนเกิดก่อนที่จะมีไวรัสกลายพันธุ์ ฉะนั้นก็อาจจะไม่ยุติธรรมกับวัคซีน

ขณะนี้ผู้ผลิตวัคซีนกำลังพัฒนาวัคซีนที่มีการตอบสนองต่อไวรัสกลายพันธุ์ ตัววัคซีนก็ต้องไล่ตามไวรัสเสมอและใช้เวลาในการพัฒนา วัคซีนซิโนแวค ใช้เวลา 6 สัปดาห์ แอสตราฯ ใช้เวลา 8-10 สัปดาห์ ในการสร้างภูมิคุ้มกัน การมีวัคซีนมากๆ แล้วไปฉีดดักหน้าไวรัส ตอนนี้ทั่วโลกก็ไม่มีประเทศไหนมีวัคซีนเพียงพอ ที่จะฉีดดักหน้าไวรัสกลายพันธุ์ ส่วนจีนใช้มาตรการควบคุมเฉพาะบุคคลอย่างเข้มข้น

“การจัดหาวัคซีนไม่ทันเป็นเรื่องจริง คนทำงานก็รับผิดชอบและพยายามทำงานอย่างเต็มที่และเป็นเหมือนกันทั่วโลก ตอนนี้ทุกคนพยายามทำงานอย่างเต็มที่ วัคซีนที่มีอยู่ 2 ตัว ยังช่วยลดการเจ็บป่วยรุนแรงแม้ไวรัสกลายพันธุ์ตอนนี้เป้าหมายการฉีดวัคซีนต้องพุ่งเป้าให้ตรงจุด ฉีดให้ได้มากในกลุ่มคนสูงอายุ คนป่วย 7 โรคเรื้อรัง และคนอ้วน หญิงตั้งครรภ์ เพื่อลดกรณีป่วยอาการหนัก วัคซีนต้องฉีดคนไม่ป่วย เพื่อป้องกันไว้” นพ.นคร กล่าว


สหรัฐฯ วิจัยพบ “ดื่มกาแฟ-กินผัก” อาจช่วยป้องกันโรคโควิด-19

23 กรกฎาคม 2564 : สำนักข่าวซินหัวรายงาน งานวิจัยจากนอร์ธเวสเทิร์น เมดิซิน (Northwestern Medicine) สถาบันดูแลสุขภาพในนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ พบการดื่มกาแฟและการบริโภคผักปริมาณมากอาจช่วยป้องกันการป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้

คณะนักวิจัยใช้ข้อมูลจากยูเค ไบโอแบงก์ (UK Biobank) ฐานข้อมูลชีวการแพทย์และทรัพยากรการวิจัยของสหราชอาณาจักร ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ถูกบันทึกในปี 2006-2010 กับการป่วยโรคโควิด-19 ช่วงเดือนมีนาคม-ธันวาคม 2020 ซึ่งยังไม่มีวัคซีนป้องกัน โดยให้ความสนใจกับองค์ประกอบในอาหาร รวมถึงการรับประทานกาแฟ ชา ผัก ผลไม้ ปลาที่มีไขมัน เนื้อสัตว์แปรรูป และเนื้อแดง

การวิจัยพบว่าร้อยละ 17 ของผู้รับการตรวจโรคโควิด-19 จำนวน 37,988 คน ซึ่งเข้าร่วมการศึกษาครั้งนี้ มีผลตรวจโรคเป็นบวก

คณะนักวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟมากกว่า 1 แก้วต่อวัน สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสฯ ลดลงราวร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับการดื่มกาแฟน้อยกว่า 1 แก้วต่อวัน ส่วนการบริโภคผักปรุงสุกหรือผักดิบอย่างน้อย 0.67 หน่วยบริโภคต่อวัน (ยกเว้นมันฝรั่ง) สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อลดลง ขณะที่การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปเพียง 0.43 หน่วยบริโภคต่อวัน สัมพันธ์กับความเสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้น นอกจากนั้นการได้รับน้ำนมแม่ตั้งแต่เด็กลดความมเสี่ยงติดเชื้อลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยได้รับน้ำนมแม่

อย่างไรก็ดี คณะนักวิจัยยังไม่ทราบแน่ชัดถึงกลไกเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบในอาหารและโรคโควิด-19

“กาแฟเป็นแหล่งคาเฟอีน แต่อาจมีสารประกอบอื่นอีกหลายสิบชนิดที่อาจเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ดังกล่าวที่เราพบ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเนื้อแปรรูปที่ไม่ใช่เนื้อแดงกับความเสี่ยงติดเชื้อที่สูงขึ้นบ่งชี้ปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องเนื้อสัตว์” มาริลิน คอร์เนลีส ผู้เขียนอาวุโส และผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันจากสถาบันยาฟีนเบิร์ก มหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น กล่าว

การวิจัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่ปัจจัยส่วนบุคคลที่ได้รับการประเมินหลังมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก

อนึ่ง นอร์ธเวสเทิร์น เมดิซิน เป็นความร่วมมือระหว่างนอร์ธเวสเทิร์น เมโมเรียล เฮลธ์แคร์ (Northwestern Memorial HealthCare) และภาควิชาแพทยศาสตร์ฟีนเบิร์ก มหาวิทยาลัยฯ ซึ่งทำหน้าที่วิจัย ฝึกสอน และดูแลผู้ป่วย ขณะที่งานวิจัยฉบับนี้ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยฯ เมื่อวันจันทร์ (19 ก.ค.) และวารสารนูเทรียนส์ (Nutrients)


สตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ นำทัพนักกีฬาอเมริกันร่วมโอลิมปิกโตเกียว

วันศุกร์ ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564: โตเกียว (รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์/เอ็นเอชเค)- จิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ นำคณะตัวแทนประเทศมาร่วมการแข่งขันโอลิมปิกโตเกียว 2020 แล้ว เป็นการแสดงความสนับสนุนพันธมิตรสำคัญอย่างญี่ปุ่น ท่ามกลางความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ขณะที่เกิดเรื่องช็อกซ้ำ คณะผู้จัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกปลดผู้อำนวยการจัดพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิกออกจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่า หลังจากถูกเปิดโปงเรื่องเคยล้อเลียนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

จิล ไบเดน และคณะ เดินทางมาถึงฐานทัพอากาศโยโกตะในเมืองฟุสสะ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียวเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น มีรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ฐานทัพอากาศอเมริกันและญี่ปุ่นมาต้อนรับ ก่อนที่ในช่วงเย็นเธอมีกำหนดรับประทานมื้อค่ำกับนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่น และะภริยา ที่พระตำหนักอากาซากะ ทำเนียบรับรองอาคันตุกะระดับสูงของรัฐบาล ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ วัย 70 ปี เดินทางเยือนต่างประเทศโดยไม่มีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ร่วมเดินทางมาด้วย เธอจะเข้าร่วมพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อนโตเกียว ในวันที่ 23 ก.ค. และจะพบปะให้กำลังใจคณะนักกีฬาอเมริกันและเจ้าหน้าที่อเมริกันที่ทำงานในญี่ปุ่น รวมทั้งจะเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะด้วย โดยมีกำหนดเยือนญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 วัน

คนสนิทประธานาธิบดีไบเดนเผยว่า ผู้นำสหรัฐฯ มองว่า โอลิมปิกโตเกียว 2020 ที่ถูกเลื่อนมาจากปีก่อนเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะใช้แสดงความสนับสนุนญี่ปุ่นที่เป็นทั้งพันธมิตรยาวนานและคู่ค้าสำคัญ เพราะหวังว่าญี่ปุ่นจะสนับสนุนความพยายามของสหรัฐฯ ในการคานอิทธิพลจีน แม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ญี่ปุ่นจะเผชิญเสียงต่อต้านอย่างหนักในการเดินหน้าเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่อย่างรุนแรงของโควิด-19 ซึ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นหวั่นวิตกว่า จะเกิดการระบาดแบบกลุ่มก้อนในประเทศครั้งใหม่ จากการเดินทางมาร่วมการแข่งขันโอลิมปิกของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากทั่วโลกมากกว่า 12,000 คน

ด้านคณะผู้จัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก ประกาศปลดนายเคนทาโรโคบายาชิ ผู้อำนวยการจัดพิธีเปิดโตเกียวโอลิมปิก ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเขาเคยล้อเลียนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงตลกในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 และเพิ่งถูกสื่อญี่ปุ่นขุดคุ้ยมาเปิดเผย นางเซอิโกะ ฮาชิโมโตะ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก 2020 กล่าวว่า เธอขอโทษอย่างสุดซึ้งที่ทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกวุ่นวายและไม่สบายใจ รวมถึงชาวกรุงโตเกียวและชาวญี่ปุ่นในช่วงใกล้พิธีเปิดการแข่งขัน ขณะที่นายโคบายาชิได้ระบุในแถลงการณ์ว่า เขาขอโทษที่เคยล้อเลียนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในอดีต

การประกาศดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่คณะผู้จัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกต้องเผชิญกับเรื่องน่าอับอายหลายเรื่องที่จุดชนวนความไม่พอใจ และเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากนักดนตรีที่มีชื่อเสียงถูกกดดันให้พ้นตำแหน่งนักแต่งเพลงของพิธีเปิด หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับประวัติการข่มเหงรังแกและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเขา ขณะเดียวกัน บรรษัทกระจายเสียงญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ผู้ผลักดันการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ตัดสินใจไม่เข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิก หลังรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิดในกรุงโตเกียว


อินเดียจมบาดาล ! เหตุฝนเทไม่หยุด ก่อดินถล่ม ดับแล้วกว่า 36 ศพ

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองทัพเรือและกองทัพอากาศอินเดียสมทบกำลังกันเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยในรัฐมหาราษฏระ ทางตะวันตกของประเทศ หลังจากฝนในฤดูมรสุลมตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนติดอยู่ในพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมหนักและดินทรุดดถล่ม ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตเหตุดินถล่มในเขตไรกาดของรัฐมหาราษฏระแล้วอย่างน้อย 36 ราย และยังมีผู้ติดอยู่ใต้ดินทรุดถล่มอีกหลายสิบคน

“ยังคงมีคนติดอยู่อย่างน้อย 35-40 ราย เรากำลังพยายามช่วยเหลืออยู่” เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกล่าว

ทั้งนี้หลายพื้นที่ในเมืองชิปลัน ซึ่งอยู่ห่างจากนครมุมไบ เมืองเอกของรัฐมหาราษฏระไปราว 250 กม. มีระดับน้ำสูงถึง 3.5 เมตร หลังจากมีฝนตกลงมาไม่ขาดสาย จนเป็นเหตุให้น้ำในแม่น้ำ Vashishti เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนหนทางและบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก

จีนเตือนภัยไต้ฝุ่นยีนฟ้า หวั่นซ้ำเติมอุทกภัยเหอหนาน

23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564; ทางการจีนยังคงเร่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัยในมณฑลเหอหนาน ขณะยอดสังเวยชีวิตเกินครึ่งร้อยแล้วในวันศุกร์ หวั่นพายุไต้ฝุ่นยีนฟ้าทำให้ฝนตกหนักเพิ่มขึ้นช่วงสุดสัปดาห์นี้ สำนักอุตุนิยมวิทยายกระดับเตือนภัยถึงขั้นรองสูงสุดแล้ว

คลื่นสูงซัดฝั่งที่เมืองเหวินหลิง มณฑลเจ้อเจียง จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นยีนฟ้า ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ของปีนี้ที่คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เจ้อเจียงและฝูเจี้ยนระหว่างคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันอาทิตย์ (Chen Zhongqiu/VCG via Getty Images)

เอเอฟพีรายงานอ้างคำแถลงของเจ้าหน้าที่ทางการจีนเมื่อวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2564 ว่าอุทกภัยครั้งรุนแรงในมณฑลเหอหนานภาคกลางของประเทศทำให้มีคนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 51 คนแล้ว ประชาชนหลายล้านคนติดอยู่กลางน้ำท่วม โดยขาดแคลนอาหารสดใหม่หรือน้ำดื่ม กระแสน้ำพัดถนนหลายสายขาด หลายพื้นที่จม่โคลนสูงถึงข้อเท้า

ที่เมืองเจิ้งโจว ซึ่งฝนตกหนักตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้วและวัดปริมาณน้ำฝนใน 3 วันได้เท่ากับปริมาณน้ำฝนตลอดทั้งปี เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ถึงช่วงเที่ยงวันศุกร์ มีประชาชนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ประสบภัยแล้ววมากกว่า 395,000 คน และประเมินด้วยว่า อุทกภัยครั้งนี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 65,000 ล้านหยวน (330,423 ล้านบาท)

ในวันศุกร์ พนักงานดับเพลิงยังคงต้องสูบน้ำขุ่นโคลนออกจากอุโมงค์หลายแห่ง รวมถึงในสถานีใต้ดิน

แห่งหนึ่งของเมืองนี้ ซึ่งน้ำท่วมฉับพลันทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมจนมีผู้โดยสารในรถไฟจมน้ำเสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

รถตักดินถูกใช้เป็นพาหนะขนถ่ายประชาชนข้ามถนนที่ยังมีน้ำท่วมขัง ส่วนในพื้นที่อื่นๆ ของเมืองนี้ที่น้ำลดท่วมแล้วก็ยังมีดินโคลนหนาปกคลุมถนน

ฝนตกหนักชั่วข้ามคืนทำให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอีกทางตอนเหนือถึงเมืองซินเซียงและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งงพื้นที่เกษตรกว้างใหญ่จมอยู่ใต้น้ำ และเมืองนี้ถูกตัดขาดเพราะแม่น้ำเว่ยเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมเมือง

ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้สะพานชั่วคราวในการอพยพชาวบ้านหลายร้อยคนออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมสุดลูกหูลูกตาไกลหลายกิโลเมตรไปยังสถานที่ปลอดภัยเมื่อวันศุกร์ รายงานของซีซีทีวีกล่าวว่า มีประชาชนเกือบ 9,000 คน ได้รับการ “เคลื่อนย้ายอย่างปลอดภัย” และว่าเจ้าหน้าที่กำลังอพยพประชาชนอีก 19,000 คน

มีวิดีโอหลายชิ้นที่เผยแพร่ทางสื่อโซเชียลเผยให้เห็นอำนาจการทำลายล้างของอุทกภัยครั้งนี้ รถยนต์หลายคันโดนกระแสน้ำพัดมากองรวมกัน และคนเดินเท้าหลายคนโดนน้ำดูดไปยังท่อระบายน้ำฝน แพลตฟอร์มเว่เว่ยป๋อพากันแชร์ภาพน่ากลัวที่ผู้โดยสารหลายคนติดอยู่ภายในรถไฟใต้ดินช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เมื่อน้ำเพิ่มระดับจากกตาตุ่มขึ้นไปถึงคอ พร้อมกับคำถามว่า ทำไมเครือข่ายรถไฟใต้ดินของเจิ้งโจวยังคงเปิดให้บริการระหว่างพายุรุนแรงแบบไม่เคยพบเจอมาก่อน

ขณะที่อุทกภัยครั้งนี้ยังไม่คลี่คลาย จีนต้องเตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่นยีนฟ้าที่จะคาดว่าจะทำให้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของมณฑลเหอหนานอีกในช่วงไม่กี่วันข้างหน้านี้ พายุลูกนี้ทำให้เกิดฝนตกหนักที่ไต้หวันและเมืองชายฝั่งตะวันออกของจีนแล้ว และนักอุตุนิยมวิทยากำลังเฝ้าจับตาการเคลื่อนที่ของพายุอย่างกังวล โดยคาดว่าจะขึ้นฝั่งตะวันออกของจีนที่มีประชากรอาศัยอยู่หลายสิบล้านคนในวันอาทิตย์นี้

รายงานของสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนกล่าวด้วยว่า ช่วงเช้าวันศุกร์ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน (เอ็มเอ็มซี) ออกประกาศเตือนภัยพายุระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับรองสูงสุดจาก 4 ระดับ

“หลังจากขึ้นฝั่ง ยีนฟ้าอาจเคลื่อนตัวอยู่ในภูมิภาคจีนตะวันออก ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักมากเป็นเวลายาวนาน” เอ็นเอ็มซีกล่าว และว่า ในช่วงคลื่นลมแรง พื้นที่ชายฝั่งควรป้องกันผลกระทบจากทั้งลม ฝน และกระแสน้ำรวมกัน ประชาชนควรเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ครั้งใหญ่จากสภาพอากาศ