ข่าว
พายุไต้ฝุ่น'โพดุล'พัดขึ้นฝั่งไต้หวัน สั่งอพยพแล้ว5,500คน หยุดเที่ยวบิน-รถไฟความเร็วสูง

13 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันออกแถลงการณ์ ว่า พายุไต้ฝุ่นโพดุล ซึ่งมีความเร็วลมกระโชกแรงถึง 191 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นฝั่งที่เขตไถตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน เมื่อเวลา 13.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยมีการคาดการณ์ว่า พายุไต้ฝุ่นโพดุลจะพาดผ่านพื้นที่ส่วนใหญ่ของไต้หวัน ตลอดทั้งวันนี้ (13 ส.ค.) ซึ่งรวมถึงภาคกลางและภาคใต้ของไต้หวัน ที่ยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากพายุและลมมรสุมที่พาดผ่านหลายระลอก เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ทางเขตเกาสงและผิงตง อาจมีปริมาณน้ำฝนสะสม 400-600 มิลลิเมตร ระหว่างวันอังคารที่ 12 ส.ค. จนถึงวันพฤหัสบดีที่ 14 ส.ค.

ขณะที่หน่วยงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยของไต้หวัน อพพยประชาชนล่วงหน้ามากกว่า 5,500 คน ด้านเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกยกเลิกแล้วราว 250 เส้นทาง เช่นเดียวกับบริการรถไฟความเร็วสูง ที่ส่วนใหญ่เป็นการยกเลิกเส้นทางในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้

ย้อนรอย 'คดีน้องชมพู่' สู่คำพิพากษา 'จำคุกลุงพล' 26 ปี

ย้อนคดีดัง "น้องชมพู่" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกพบเสียชีวิตในป่าภูเหล็กไฟ ใน จ.มุกดาหาร ถือเป็นคดีใหญ่ที่สะเทือนสังคมไทยอยู่ไม่น้อย และกลายเป็นมหากาพย์ครั้งใหญ่ การแกะรอยตามหาคนร้ายที่ทำให้คนทั้งประเทศสนใจอย่างมาก

และที่เป็นปรากฏการณ์ที่ใครๆ ก็ต้องพูดถึงในขณะนั้น นั้นคือ "ลุงพลฟีเวอร์" เพราะเป็นกระแสที่ดังข้ามคืน!! และล่าสุด "ลุงพล" ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษ ให้จำคุกลุงพล 26 ปี คดีน้องชมพู่ ส่วนป้าแต๋น ศาลได้ยกฟ้อง (13 ส.ค.68)

วันนี้ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" จะพาทุกคนย้อนรอยดูเรื่องราวของ "ลุงพล" กับ "คดีน้องชมพู่" พร้อมกับคำถามถึงการทำหน้าที่ของสื่อกับการฉายสปอตไลต์ไปที่ "ผู้ต้องสงสัย" ในคดีความนี้นั้นคือ "ลุงพล"

เช้าวันที่ 11 พ.ค. 63 เด็กหญิงตัวน้อยวัย 3 ขวบ "น้องชมพู่" ได้หายตัวออกจากบ้านไปอย่างเป็นปริศนา วันที่ 14 พ.ค. 68 จนชาวบ้านมาพบศพน้องอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า บนเขาในป่าภูเหล็กไฟ โดยระยะทางห่างจากบ้าน 2 กิโลเมตร มีการชันสูตรพลิกศพ แพทย์ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย และล่วงละเมิดทางเพศ แต่พบบาดแผลตามร่างกาย และอวัยวะเพศ ซื่งตอนนั้น แพทย์ระบุว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้

การเสียชีวิตของน้องชมพู่ที่เป็นปริศนา เพราะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ ทำให้นักสืบโซเชียลเริ่มทำงาน บางส่วนได้พุ่งเป้าไปที่พี่สาวและพ่อแม่ของน้องชมพู่ ว่าอาจจะวางแผนฆาตกรรมลูกของตนเอง และมีบางส่วนก็พุ่งเป้าไปที่ "ลุงพล" หรือ นายไชย์พล วิภา ซึ่งขณะนั้นมีความใกล้ชิดกับน้องชมพู่มากที่สุด ช่วงนั้นใสนกระแสโซเชียลได้มีการเชียร์ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ฝ่าย มีช่องรายการของสื่อยกกองทัพไปที่บ้านกกกอก จากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นตัวละครในรายการ "รายการเรียลลิตี้" ทำให้ผู้ต้องสงสัยมีแฟนคลับเป็นของตัวเองจำนวนมาก

เรื่องรายของผู้ต้องสงสัย "ลุงพล" ยังไม่จบแค่นี้ แม้จะถูกตั้งข้อสงสัยว่าคือฆาตกรตัวจริง แต่ก็ยังมีแฟนคลับบางส่วนไม่ปักใจเชื่อ ยังฉายสปอตไลต์ให้ประชาชนสนใจลุงพลมากขึ้น จนมีกระแสในโลกโซเชียล จนกลายเป็น #Saveลุงพล ในเวลานั้น และกลายเป็นกระแส "ลุงพลฟีเวอร์" ลุงพลมีผู้ติดตามจำนวนมากหรือจะเรียกว่าเป็น "เซเลบ" ก็ได้ เพราะได้ร่วมร้องเพลงกับนักร้องดัง "จินตหรา พูนลาภ" จนโด่งดังเป็นพลุแตก และได้เปิดช่องยูทูปเป้นของตัวเอง "ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่"

ในขณะเดียวกันในส่วนของคดีได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั้งวันที่ 2 ต.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงความคืบหน้าของคดีน้องชมพู่ โดยระบุช่วงเวลาการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่น้องชมพู่จะเดินขึ้นภูเขาได้ด้วยตัวเอง และแจ้ง "ยุติการทำคดีชั่วคราว" จนกว่าจะมีหลักฐานใหม่ ซึ่งคดีนี้มีอายุความ 20 ปี

1 มิ.ย. 64 ผ่านไป 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ "ลุงพล" ใน 3 ข้อหา

1. พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร

2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย

3. กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

อย่างไรก็ตาม "ลุงพล" กลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตทางอ้อม พร้อมกับแจ้งข้อหากับ "ป้าแต๋น"อีกด้วย

วันที่ 20 ธ.ค. 66 ศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำพิพากษา จำคุก "ลุงพล" จำเลยที่ 1 ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (มาตรา 291) และฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร (มาตรา 317 วรรคแรก) ลงโทษจำคุกกระทงละ 10 ปี รวม 20 ปี พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ครอบครัวผู้ตาย ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” จำเลยที่ 2 ศาลพิพากษายกฟ้อง

ล่าสุด วันที่ 13 ส.ค. 68 ศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 4 แก้โทษ จำคุก "ลุงพล" เป็นรวม 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร และอำพรางศพ ส่วน "ป้าแต๋น" พิพากษายืนยกฟ้อง


พุ่งไม่หยุด! หนี้สาธารณะสหรัฐฯทะลุ 37 ล้านล้านดอลล์

14 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ รายงานว่าหนี้สาธารณะทั้งหมดของสหรัฐฯ สูงเกิน 37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 พันล้านล้านบาท) แล้วเมื่อนับถึงวันจันทร์ (11 ส.ค.) ซึ่งการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของหนี้สาธารณะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้สร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก

หนี้สาธารณะทั้งหมดของสหรัฐฯ แบ่งเป็นหนี้ที่ถือโดยสาธารณชน 29.64 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 957 ล้านล้านบาท) และหนี้ที่ยืมระหว่างหน่วยงานรัฐบาล 7.36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 237.73 ล้านล้านบาท) โดยหนี้สาธารณะตอนเริ่มต้นปีงบประมาณ 2024-2025 ซึ่งนับจากวันที่ 1 ต.ค. 2024 อยู่ที่ 35.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.15 พันล้านล้านบาท)

มายา แม็กกิเนียส ประธานคณะกรรมการดูแลงบประมาณกลางของสหรัฐฯ กล่าวว่าการที่หนี้สาธารณะสูงแตะ 37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 พันล้านล้านบาท) ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนถึงสถานะการคลังอันย่ำแย่ของรัฐบาลกลาง โดยรายจ่ายและรายรับไม่สมดุลกันอย่างรุนแรง ซึ่งมากเกือบ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64.6 ล้านล้านบาท) ต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

แม็กกิเนียส แสดงความหวังว่าตัวเลขนี้จะพอทำให้บรรดาผู้กำหนดนโยบายตื่นตัวกับความจริงที่ว่าสหรัฐฯ ต้องจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ สูงเกินหลัก 34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.1 พันล้านล้านบาท) ในเดือนมกราคม 2024 และสูงแตะ 35 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.13 พันล้านล้านบาท) ในเดือนกรกฎาคม ก่อนทะยานแตะ 36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.16 พันล้านล้านบาท) ในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน

ข้อมูลสถิติจากสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ในปี 2024 อยู่ที่เพียง 29.18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 942.53 ล้านล้านบาท)


เรืออพยพล่มนอกเกาะอิตาลี เสียชีวิตแล้ว 20 ราย คาดสูญหายอีกเพียบ

14 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเรือล่มนอกชายฝั่งเกาะลัมเปดูซาทางตอนใต้ของอิตาลี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย และเชื่อว่ามีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมอีกครั้งของผู้อพยพที่พยายามเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อเข้าสู่ยุโรป โดยเชื่อว่ามีผู้รอดชีวิตประมาณ 70 - 80 คน

สำนักข่าว Radio Radicale ของอิตาลีรายงานว่า เรือลำดังกล่าวบรรทุกผู้อพยพมาทั้งหมด 97 คน ก่อนประสบเหตุล่มห่างจากชายฝั่งลัมเปดูซาทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 14 ไมล์ทะเล โดยขณะเกิดเหตุ เครื่องบินลาดตระเวนของตำรวจสามารถมองเห็นเรือที่พลิกคว่ำ

ขณะที่รายงานจากสถานีวิทยุ Rai Radio 1 ระบุว่า มีผู้สูญหายระหว่าง 12 - 17 คน และมีผู้รอดชีวิตอย่างน้อย 60 คนที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ผู้อพยพจากภาคเหนือของแอฟริกาจำนวนมาก ตัดสินใจนั่งเรือที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย และบ่อยครั้งที่มีผู้โดยสารเกินความจุ ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าสู่ยุโรป เพื่อหนีปัญหาความรุนแรงหรือเศรษฐกิจ โดยหนึ่งในจุดหมายหลักคือ เกาะลัมเปดูซาของอิตาลี

กระทรวงมหาดไทยของอิตาลีเปิดเผยว่า นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2565 จนถึงตอนนี้ มีผู้อพยพข้ามทะเลเข้าสู่อิตาลีแล้ว 38,263 คน ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เผยว่า ในปีนี้มีผู้อพยพเสียชีวิตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้วอย่างน้อย 675 ศพ


'ทรัมป์'โม้ระเบิดขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ พาเม็ดเงินมหาศาลหลายล้านล้านดอลลาร์ไหลเข้าคลัง

13 สิงหาคม 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง ทรูธโซเชียลส่วนตัว @realDonaldTrump ระบุข้อความว่า เงินหลายล้านล้านดอลลาร์เก็บจากภาษีนำเข้า ซึ่งถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับประเทศของเรา ตลาดหุ้น ความมั่งคั่งโดยรวม และแทบทุกสิ่งทุกอย่าง ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าแม้ในระยะหลังนี้ ภาษีนำเข้าก็ไม่ได้ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อหรือปัญหาใดๆ ต่ออเมริกานอกจากเงินสดจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้าคลังของเรา

นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นอีกว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ได้จ่ายภาษีนำเข้าเหล่านี้เลย ส่วนใหญ่เป็นบริษัทและรัฐบาล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่รับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่เดวิด โซโลมอน และโกลด์แมน แซคส์ ปฏิเสธที่จะให้เครดิตในส่วนที่ควรได้รับ พวกเขาทำนายผิดพลาดมานานแล้ว ทั้งเกี่ยวกับผลกระทบของตลาดและภาษีนำเข้าเอง และพวกเขาก็คิดผิด เช่นเดียวกับที่พวกเขาคิดผิดในเรื่องอื่นๆ ผมคิดว่าเดวิดควรออกไปหานักเศรษฐศาสตร์คนใหม่ หรือบางทีเขาควรจะมุ่งเน้นไปที่การเป็นดีเจ แทนที่จะไปยุ่งกับการบริหารสถาบันการเงินขนาดใหญ่

'กัมพูชา'เตรียมเปิดใช้'สนามบินนานาชาติเตโช'เดือนหน้า รองรับผู้โดยสาร 13 ล้านคนต่อปี

13 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเมา ฮาวันนัล รัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบกิจการการบินพลเรือนของกัมพูชา กล่าวว่า กัมพูชาเตรียมเปิดใช้ 'สนามบินนานาชาติเตโช' (Techo International Airport – KTI) สนามบินแห่งใหม่ของประเทศ ขณะนี้อยู่ในการตรวจสอบขั้นสุดท้าย โดยสนามบินนานาชาติเตโชจะทำการทดสอบเที่ยวบินสุดท้ายด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320 ในวันศุกร์นี้ และในวันที่ 9 กันยายน เวลา 07.00 น. จะมีการออกเอกสารประกาศอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะเกี่ยวกับการเปิดดำเนินงานของสนามบินแห่งใหม่นี้ และพิธีเปิดสนามบินอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม โดยนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต เป็นประธานในการเปิด

นายเมา ฮาวันนัล ระบุว่า สนามบินนานาชาติเตโชถูกจัดให้เป็นสนามบินระดับ 4F ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในโลก และสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 13 ล้านคนต่อปีในเฟสแรกสนามบินนานาชาติเตโชตั้งอยู่บนพื้นที่ 16,250 ไร่ ในจังหวัดกันดาลและตาแก้ว ห่างจากกรุงพนมเปญไปทางใต้ประมาณ 20 กิโลเมตร

การก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ของพนมเปญเริ่มต้นเมื่อปี 2020 โดยมีบริษัท China State Construction Engineering Corporation (CSCEC) เป็นผู้รับเหมา และลงทุนโดยบริษัท Cambodia Airport Investment ด้วยงบประมาณกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 48,500 ล้านบาท)

นายฑูร สีนาน ประธานสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PATA) สาขากัมพูชา กล่าวว่าสนามบินแห่งใหม่นี้จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของกัมพูชาให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ทันสมัยและเข้าถึงได้สะดวก