ข่าว
นายกฯส่งสารยินดีโอบาม่า บอกชนะสมัย2ทำให้สัมพันธ์ไทย-มะกันต่อเนื่อง

วันที่ 7 พ.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปเกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม Bali Democracy Forum (BDF) ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย. ว่า ตนได้ส่งสารไปแสดงความยินดีกับนายบารัค โอบามา ที่ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่2 พร้อมส่งสารแสดงความยินดีกับ น.ส.ลัดดา หรือแทมมี่ ดักเวิร์ธ คนไทยคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งเป็นส.ส.เขต8รัฐอิลลินอลส์ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การท่ี่นายโอบามาชนะการเลือกตั้งถือว่าเป็นผลดีในการดำเนินนโยบายระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้งานต่างๆที่ได้หารือทวิภาคีกันมาสามารถทำได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ไทยและสหรัฐฯถือว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีเหมือนเดิม เพราะโดยหลักนโยบายก็ยังคงเดิม


สตม.จับพ่อดาราสาวเซ็กซี่ "ออย ศรุตา" ทำพาสปอร์ตปลอม

พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม. นำกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าจับกุม นายธีระศักดิ์ เรืองวิริยะ อายุ 56 ปี ชาวสมุทรปราการ พ่อของดาราสาว ออย ศรุตา เรืองวิริยะ ได้ในบ้านพักเลขที่ 1099/33 ม.3 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

โดยจากการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก สตม. ได้ทำการตรวจค้นโรงงานย่าน จ.สมุทรปราการ พบมีการใช้ตราวีซ่าปลอม จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนเข้าจับกุมพ่อดาราสาว ที่ร่วมขบวนการได้ โดยคาดว่าแก๊งทำวีซ่าปลอมรายนี้ น่าจะทำเป็นขบวนการใหญ่ โดยทำมาเป็นพันเล่มแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามจับหัวหน้าแก๊ง ชื่อ นายตุ้ย หรือ ประมุข ฝอฝน คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้

"ก่อแก้ว" ชี้ "ก.ล.ต." พิพากษา "สรยุทธ" ก่อนศาลตัดสิน

(5 พฤศจิกายน) นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่ นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน ให้ระวังการทำธุรกิจกับ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และบริษัทไร่ส้ม เนื่องจากมีการกระทำที่สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดจรรยาบรรณ และมีพฤติกรรมเข้าข่ายคอร์รัปชั่น ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

โดย นายก่อแก้ว ระบุว่า การแจ้งหนังสือดังกล่าวนั้น เป็นการพิพากษา นายสรยุทธ ล่วงหน้า ทั้ง ๆ ที่ศาลยังไม่ตัดสิน อีกทั้งอัยการก็ยังไม่สั่งฟ้อง และตามรัฐธรรมนูญ ถึงแม้ศาลจะยกฟ้องแล้วก็ต้องสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีการตัดสินถึงที่สุด ซึ่งตนอยากจะถาม ก.ล.ต. ว่า ใช้มาตรฐานอะไรตัดสิน เนื่องจากกรณีของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ศาลตัดสินคดีฉ้อโกง 85 ปี แต่ให้เหลือโทษจำคุก 20 ปี ไม่เห็น ก.ล.ต. จะออกจดหมายเวียนให้ลงโทษบริษัทในเครือของนายสนธิเลย ตรงนี้ตนถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่เข้าใจว่า ก.ล.ต. จะซ้ำนายสรยุทธ เพื่ออะไร หรือมีอะไรแอบแฝงของกลุ่มคนบางกลุ่มที่ต้องการจำกัดนายสรยุทธออกจากสื่อ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจสื่อ เพราะนายสรยุทธได้โฆษณาเยอะเป็นรายการลำดับหนึ่ง

นอก จากนี้ นายก่อแก้ว ยังกล่าวว่า ตนกันนายสรยุทธไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แม้บางครั้งเขาจะทำอะไรให้พวกตนรับไม่ได้ แต่ตนรับไม่ได้กับความไม่เป็นธรรม และรังแกคนมากกว่า ตนอยากให้ ก.ล.ต. มีความเสมอภาค หรือจะลงโทษก็ขอให้ลงโทษให้กรณีอื่น ๆ ให้เหมือนกับ นายสรยุทธ และหากจะดำเนินการใด ๆ ก็ควรจะต้องมีคำพิพากษาของศาลก่อน ส่วนรายการของนายสรยุทธนั้นตนต้องยอมรับว่า เป็นรายการที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะเป็นช่องทางในการช่วยเหลือน้ำท่วม ซึ่งอาจจะทำให้ฝ่ายการเมืองบางกลุ่มเขม่น เพราะทำเกินหน้ารัฐบาล จนมีรัฐมนตรีบางคนโทรไปด่า


กทม.เริ่มจ่ายเบี้ยคนแก่มาก-น้อยตามอายุ

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้อนุมัติและให้ความเห็นชอบแนวทางปฏิบัติและเบิกจ่ายเงินเบี้ยยังชีพรายเดือนผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้รับงบเงินอุดหนุนประเภทเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โดยให้สำนักงานเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเบิกจ่ายในรูปแบบดังกล่าว ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 เป็นต้นไปหรือเริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค. 2555 เป็นต้นไป ซึ่งในปีงบประมาณ 2556 กทม.ได้รับงบอุดหนุนดังกล่าวจากรัฐบาลผ่านทางกระทรวงมหาดไทย (มท.) เพื่อดำเนินการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพรายเดือนผู้สูงอายุ เป็นเงินทั้งสิ้น 4,085,432,400 บาท ทั้งนี้สำหรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ จะแตกต่างจากการจ่ายเบี้ยยังชีพในรูปแบบเดิมที่จะมีการจ่ายให้ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไปทุกราย จำนวน 500 บาท แต่การจ่ายในรูปแบบใหม่นั้น จะมีการจ่ายแตกต่างกันในระดับอายุที่สูงขึ้น คือ จำนวนผู้ที่มี่อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท ผู้มีอายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท ผู้มีอายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท และผู้ที่มีอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท ทั้งนี้การจ่ายเบี้ยยังชีพจะดำเนินการจ่ายให้ประชาชนภายในวันที่ 10 ของทุกเดือน.

กลุ่มสตรีโวยละครดัง‘แรงเงา’ แหกบทพาดพิงสาวดอกคำใต้-พะเยา

วันที่ 8 พ.ย. นางอินทิรา มุงเมือง คณะทำงานแม่ญิงดอกคำใต้ กล่าวว่า กรณีละครโทรทัศน์เรื่อง แรงเงา ที่มีบางตอนออกอากาศช่วงที่ผ่านมา ตอนที่ตัวละครมุตตาท้องแล้วกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ในบทละครดังกล่าวให้ตัวละครที่แสดงและกล่าวถึงมุตตาตอนกลับบ้านมีการพาดพิงถึงดอกคำใต้และพะเยา ตนในฐานะเป็นชาวดอกคำใต้โดยกำเนิด และได้เคยติดตามบทประพันธ์ต้นฉบับของเรื่องดังกล่าว จะพบว่าในบทประพันธ์ที่เป็นหนังสือไม่มีการกล่าวพาดพิงถึงพื้นที่ที่สาม โดยเฉพาะไม่กล่าวถึงดอกคำใต้และจังหวัดพะเยา เรื่องนี้หากผู้จัดละครในขณะนี้คิดว่าเป็นการเขียนบทขึ้นมาเพราะไม่รู้จะไปลงจังหวัดใดหรือพื้นที่ใดก็ควรจะหลีกเลี่ยง เพราะโดยนัยยะของการกล่าวถึงตัวละครมุตตา เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอ รู้ไม่เท่าทันเหลี่ยมผู้อื่น สุดท้ายต้องจบชีวิตด้วยความตาย “ยอมรับว่าเป็นละครที่มีเรตติ้งเสูงรื่องหนึ่งในขณะนี้ แต่สิ่งที่ผู้ผลิตควรระลึกและตระหนักอยู่เสมอว่า นอกจากจะสร้างผลกำไรทางธุรกิจแล้ว ควรตระหนักถึงผลกระทบต่อสังคมและผู้อื่น ไม่ใช่การทำบทละครเพื่อเอามันหรือสะใจเท่านั้น คำพูดเพียงบางคำหรือบางประโยค มันเสมือนน้ำผึ้งหยดเดียว ถ้ามีการลุกฮือต่อต้านด้วยความไม่พอใจเหมือนในอดีตที่ชาวดอกคำใต้เคยประท้วงละครเรื่องหนึ่งไปแล้วนั้น จะกลายเป็นเหตุบานปลาย ตรงนี้ถือเป็นข้อเตือนใจสำหรับผู้เขียนบทโทรทัศน์ ผู้จัดละคร และเจ้าของสถานี ที่จะต้องคัดกรองบทละครไม่ควรให้มีผลกระทบต่อจิตใจเพราะการไปพาดพิงที่ไม่ควรเกิดขึ้น